เช็กสิทธิประกันสังคม ของตัวเองผ่าน 2 วิธีง่าย ๆ ที่ผู้ประกันตนควรรู้
- ผู้ประกันตน มาตรา 33 คือ พนักงาน มนุษย์เงินเดือน หรือลูกจ้างเอกชนที่ยังทำงานกับนายจ้างอยู่ในสถานประกอบการ ซึ่งทั้งนายจ้างและลูกจ้างจะส่งเงินสมทบเดือนละ 5% ของค่าจ้าง สูงสุดไม่เกิน 750 บาท
- ผู้ประกันตน มาตรา 39 คือ พนักงาน-ลูกจ้างเอกชนที่เคยเป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 โดยจ่ายเงินสมทบมาไม่น้อยกว่า 12 เดือน แต่ปัจจุบันได้ลาออกจากงาน ไม่ได้ทำงานประจำแล้ว และสมัครใจเป็นผู้ประกันตน มาตรา 39 เพื่อรักษาสิทธิประกันสังคม ภายใน 6 เดือน หลังลาออก
- ผู้ประกันตน มาตรา 40 คือ บุคคลทั่วไปที่ทำอาชีพอิสระ หรือเป็นแรงงานนอกระบบ เช่น พ่อค้า แม่ค้า เกษตรกร ช่างก่อสร้าง ฟรีแลนซ์ ขายของออนไลน์ และอื่น ๆ ที่ไม่ได้เป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 หรือ 39 แต่สมัครใจสมัครเป็นผู้ประกันตนประกันสังคมเพื่อรับสิทธิต่าง ๆ
1. รักษาโควิดฟรี
รู้จักสิทธิ UCEP Plus ป่วยโควิดแบบไหน รักษาฟรีได้ทุกโรงพยาบาล
2. ฉีดวัคซีนโควิด
3. เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีป่วยโควิด
เมื่อผู้ประกันตน มาตรา 33 ป่วยโควิด และใช้สิทธิลาป่วยกับนายจ้างเกิน 30 วันต่อปี แต่ยังต้องหยุดพักรักษาตัวจากโรคโควิดเกินวันลาป่วยที่มีอยู่ ตรงนี้สามารถยื่นขอรับเงินทดแทนการขาดรายได้จากประกันสังคมได้นับตั้งแต่วันที่ 31 ของการลาป่วย
จะได้รับเงินเท่าไร : กรณีเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง ประกันสังคมจะจ่ายเงินทดแทนฯ ให้ในอัตรา 50% ของค่าจ้าง หรือสูงสุดวันละ 250 บาท (คิดจากฐานอัตราเงินเดือนสูงสุด 15,000 บาท) โดยได้รับครั้งละไม่เกิน 90 วัน ปีละไม่เกิน 180 วัน ยกเว้นเป็นโรคเรื้อรัง จะได้รับเงินทดแทนฯ ไม่เกิน 365 วัน แต่ต้องมีหนังสือรับรองจากนายจ้างว่าได้รับค่าจ้างในวันลาป่วยครบ 30 วันทำงานใน 1 ปีปฏิทินแล้ว ส่วนที่ลาป่วยเกิน 30 วัน จึงสามารถยื่นขอรับเงินทดแทนฯ จากประกันสังคมได้
ใครมีสิทธิ : ต้องส่งเงินสมทบครบ 3 เดือน ภายใน 15 เดือน ก่อนวันที่เข้ารับการรักษาพยาบาล โดยแพทย์มีคำสั่งให้หยุดพักรักษาตัว
4. ว่างงานด้วยเหตุสุดวิสัย
ลูกจ้างที่ทำงานในสถานที่ที่รัฐมีคำสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวเพื่อป้องกันการระบาดของโรคติดต่ออันตราย ทำให้ไม่สามารถประกอบกิจการได้ตามปกติ จะสามารถยื่นขอรับเงินกรณีว่างงานด้วยเหตุสุดวิสัยได้ตามเงื่อนไขนี้
ใครมีสิทธิ :
- ต้องเป็นผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคมไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายใน 15 เดือน ก่อนการว่างงานหรือถูกรัฐสั่งให้กักตัว หากส่งเงินสมทบไม่ครบ 6 เดือน จะไม่สามารถรับเงินชดเชยได้
- ลูกจ้างจะต้องไม่ได้รับค่าจ้างใด ๆ จากนายจ้างตลอดระยะเวลาที่กักตัว หรือปิดกิจการชั่วคราว หากนายจ้างจ่ายค่าจ้างให้บางส่วน หรือทั้งหมดตามปกติ จะไม่สามารถขอรับเงินชดเชยจากประกันสังคมได้
รับเงินชดเชยเท่าไร : ได้รับเงิน 50% ของค่าจ้างรายวัน โดยให้ได้รับตลอดระยะเวลาที่มีการกักตัว หรือเฝ้าระวังการระบาดของโรค หรือมีคำสั่งปิดสถานที่ แล้วแต่กรณี แต่รวมกันไม่เกิน 90 วัน ดังนั้น จะได้รับเงินสูงสุดไม่เกินเดือนละ 7,500 บาท (คิดจากฐานเงินเดือนสูงสุด 15,000 บาท)
ทั้งนี้ ลูกจ้างต้องกรอกแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส.2-01/7) (ดาวน์โหลด) และให้นายจ้างเป็นผู้รวบรวมและบันทึกข้อมูลผ่านระบบ e-service ที่ www.sso.go.th
- ลูกจ้างถูกปรับลดเงินเดือน
- ลูกจ้างยินยอมลางานโดยไม่รับค่าจ้าง (Leave without Pay)
- สถานประกอบการหยุดชั่วคราว ลูกจ้างไม่ต้องมาทำงาน แต่นายจ้างยังคงจ่ายเงินให้ลูกจ้างอยู่ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเท่าไรก็ตาม
- นายจ้างหยุดชั่วคราวเนื่องจากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และไม่ให้ลูกจ้างทำงาน (กรณีนี้ นายจ้างต้องจ่ายเงินให้ลูกจ้าง 75% ของค่าจ้างตามกฎหมายแรงงาน)
5. กรณีลาออกเอง / สิ้นสุดสัญญาจ้าง
สำหรับลูกจ้างที่ลาออกเอง หรือลาออกเพราะสิ้นสุดสัญญาจ้างจะได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงาน ดังนี้
- ลาออกวันที่ 1 มีนาคม 2563 - 28 กุมภาพันธ์ 2565 (ในช่วงสถานการณ์โควิด 19) : ได้รับเงิน 45% ของค่าจ้างรายวัน แต่ไม่เกิน 90 วัน ดังนั้น จะได้รับเงินสูงสุดไม่เกินเดือนละ 6,750 บาท (ฐานเงินเดือนสูงสุด 15,000 บาท)
- ลาออกตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป : ได้รับเงินชดเชยในอัตราเดิม คือ 30% ของค่าจ้างรายวัน แต่ไม่เกิน 90 วัน ดังนั้น จะได้รับเงินสูงสุดไม่เกินเดือนละ 4,500 บาท (ฐานเงินเดือนสูงสุด 15,000 บาท)
ใครมีสิทธิ : ต้องเป็นผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคมไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายใน 15 เดือน ก่อนการว่างงาน และอายุยังไม่เกิน 55 ปี
6. กรณีถูกเลิกจ้าง
ส่วนผู้ประกันตนที่ตกงานเพราะถูกเลิกจ้างมีสิทธิรับเงินชดเชยกรณีว่างงาน ดังนี้
- ถูกเลิกจ้างวันที่ 1 มีนาคม 2563 - 28 กุมภาพันธ์ 2565 (ในช่วงสถานการณ์โควิด 19) : ได้รับเงิน 70% ของค่าจ้างรายวัน แต่ไม่เกิน 200 วัน เท่ากับว่าจะได้รับเงินสูงสุดไม่เกินเดือนละ 10,500 บาท (ฐานเงินเดือนสูงสุด 15,000 บาท)
- ถูกเลิกจ้างตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป : ได้รับเงินชดเชยในอัตราเดิม คือ 50% ของค่าจ้างรายวัน แต่ไม่เกิน 180 วัน ดังนั้น จะได้รับเงินสูงสุดไม่เกินเดือนละ 7,500 บาท (ฐานเงินเดือนสูงสุด 15,000 บาท)
ใครมีสิทธิ :
- ต้องเป็นผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคมไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายใน 15 เดือน ก่อนการว่างงาน
- อายุไม่เกิน 55 ปี
- ไม่กระทำผิดจนถูกให้พ้นสภาพจากการเป็นพนักงาน เช่น ทุจริตต่อหน้าที่, ทำผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง, จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย, ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 7 วันทำงานติดต่อกัน โดยไม่มีเหตุอันควร เป็นต้น
- ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์กรมการจัดหางาน โดยใช้เลขบัตรประชาชนในการเข้าสู่ระบบ กรอกข้อมูลจากบัตรประชาชน พร้อมกรอกเลขหลังบัตรประชาชน (laser Code) จะได้รหัสผ่านเพื่อใช้งานระบบ
- เมื่อลงทะเบียนเข้าสู่ระบบเสร็จสิ้นแล้ว ให้ยื่นคำขอ "รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส.2-01/7) e-form" บนเว็บไซต์
- รายงานตัวเดือนละครั้ง ผ่านเว็บไซต์กรมการจัดหางาน
7. ลดส่งเงินสมทบประกันสังคม
1. รักษาโควิดฟรี
2. เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีป่วยโควิด
ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้อันเนื่องมาจากการเจ็บป่วยและต้องหยุดงาน ตามคำสั่งของแพทย์ในอัตรา 50% ของค่าจ้าง หรือวันละ 80 บาท (คิดจากฐานเงินเดือน 4,800 บาท) โดยได้รับครั้งละไม่เกิน 90 วัน ปีละไม่เกิน 180 วัน ยกเว้นเป็นโรคเรื้อรัง จะได้รับไม่เกิน 365 วัน
ใครมีสิทธิ : ต้องส่งเงินสมทบครบ 3 เดือน ภายใน 15 เดือน ก่อนวันที่เข้ารับการรักษาพยาบาล โดยแพทย์มีคำสั่งให้หยุดพักรักษาตัว
สำหรับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน ถูกเลิกจ้าง ลาออก ผู้ประกันตน มาตรา 39 จะไม่ได้รับส่วนนี้ด้วย เพราะมาตรา 39 ไม่ได้คุ้มครองกรณีดังกล่าว
3. ลดส่งเงินสมทบประกันสังคม
1. เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีป่วยโควิด
สำหรับผู้ประกันตน มาตรา 40 หรือประกันตนเอง หากป่วยโควิดจะต้องใช้สิทธิบัตรทอง ไม่สามารถใช้สิทธิประกันสังคมได้ เพราะตามมาตรา 40 ไม่ได้ครอบคลุมเรื่องการรักษาพยาบาล แต่ยังสามารถยื่นขอรับเงินทดแทนการขาดรายได้ ตามเงื่อนไขคือ
ใครมีสิทธิ : ต้องส่งเงินสมทบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 4 เดือนก่อนเดือนที่เจ็บป่วย
- กรณีนอนโรงพยาบาลได้เงินชดเชยวันละ 300 บาท
- กรณีไม่นอนโรงพยาบาล แต่แพทย์ให้หยุด 3 วันขึ้นไป ได้เงินชดเชยวันละ 200 บาท
- กรณีไม่นอนโรงพยาบาล และแพทย์ให้หยุดไม่เกิน 2 วัน ได้เงินชดเชยครั้งละ 50 บาท (เฉพาะผู้ประกันตน มาตรา 40 ทางเลือกที่ 1 และทางเลือกที่ 2)
2. ลดส่งเงินสมทบประกันสังคม
ในปี 2565 ผู้ประกันตน มาตรา 40 ได้ปรับลดการส่งเงินสมทบประกันสังคมเป็นเวลา 6 เดือน ต่อเนื่องจากปี 2564 เท่ากับว่า ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564-กรกฎาคม 2565 จะเหลือจ่ายเงินสมทบ ดังนี้
- ทางเลือกที่ 1 : จากเดิมจ่าย 70 บาท ลดเหลือ 42 บาทต่อเดือน
- ทางเลือกที่ 2 : จากเดิมจ่าย 100 บาท ลดเหลือ 60 บาทต่อเดือน
- ทางเลือกที่ 3 : จากเดิมจ่าย 300 บาท ลดเหลือ 180 บาทต่อเดือน
ช่วยคนกลางคืน - นักดนตรี
สำหรับผู้ประกันตน ม.33 ม.39 และ ม.40 ที่เป็นผู้ประกอบการหรือลูกจ้างที่ทำงานในสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการชั่วคราว จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท ตามเงื่อนไขดังนี้
- เป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือคนบันเทิงกลางคืน เช่น นักแสดง ศิลปินกลางคืน ศิลปินกลางแจ้ง ลิเก หมอลำ
- ต้องให้สมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงที่จดทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทย หรือกรมพัฒาธุรกิจการค้า รับรองภายในวันที่ 28 มกราคม 2565
- ต้องสมัครเป็นผู้ประกันตนพร้อมชำระเงินสมทบภายในวันที่ 14 มกราคม 2565
บทความที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประกันสังคม
- เช็กสิทธิประกันสังคม ของตัวเองผ่าน 2 วิธีง่าย ๆ ที่ผู้ประกันตนควรรู้
- เช็กสิทธิประกันสังคม มาตรา 33 ที่คนทำงานต้องรู้
- ประกันสังคม มาตรา 39 คืออะไร สิทธิประกันสังคม มีอะไรบ้าง
- ประกันสังคม มาตรา 40 จ่ายเบี้ยเท่าไร ได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง
- เปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม 2565 ง่าย ๆ 3 วิธี เช็กให้ชัวร์ ที่ไหนว่าง ที่ไหนเต็ม !
- ประกันสังคม ช่วยได้ ถึงจะว่างงาน ก็ยังได้รับเงินเดือน !
- คู่มือมนุษย์เงินเดือน ! ลาออกจากงาน...ต้องทำยังไงกับประกันสังคม
- ขอคืนเงินประกันสังคม บำเหน็จ บำนาญชราภาพ ก่อนอายุ 55 ปี ได้ไหม ถ้าตกงาน หรือลาออก ?
- ประกันสังคม ม.33 ม.39 ม.40 ให้สิทธิอะไรบ้างในช่วงโควิด ปี 2564
* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 23 มีนาคม 2565
ขอบคุณภาพจาก : สำนักงานประกันสังคม (1), (2), (3)
ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานประกันสังคม (1), (2), (3), (4)