สิทธิประกันสังคมควรรู้ มนุษย์เงินเดือน ลาออกจากงาน ได้เงินชดเชยเท่าไร ต้องจัดการเรื่องประกันสังคมยังไง ใครยังไม่รู้...มาเช็กข้อมูลกัน
การลาออก เป็นเรื่องปกติของการทำงาน แต่เชื่อว่าคงมีหนึ่งเรื่องสำคัญที่หลายคนสงสัยว่า หากเราเป็นผู้ประกันตนในส่วนของประกันสังคม มาตรา 33 เมื่อตัดสินใจลาออกจากงานแล้ว เราจะต้องดำเนินการอะไรกับประกันสังคมหรือไม่ แล้วมีสิทธิ์ได้รับค่าชดเชยอะไรไหม หรือสิทธิ์อื่น ๆ ที่เคยได้ เช่น ค่ารักษาพยาบาล จะยังคงได้รับเหมือนเดิมหรือเปล่า
แจ้งประกันสังคม เพื่อรับเงินชดเชยว่างงาน
เมื่อลาออกจากงานแล้ว ในช่วงที่ยังไม่มีงานใหม่ทำ เราสามารถขึ้นทะเบียนและรายงานตัวผู้ประกันตนกรณีว่างงานเพื่อขอรับเงินชดเชย ได้ตามขั้นตอน ดังนี้
1. ขึ้นทะเบียนผู้ว่างงาน
สามารถขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานผ่านอินเทอร์เน็ต ได้ที่เว็บไซต์สำนักงานจัดหางาน empui.doe.go.th ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ลาออก ถ้าเกินกำหนดจะไม่สามารถใช้สิทธิ์ย้อนหลังได้
ภาพจาก : กรมการจัดหางาน
2. ยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส.2-01/7)
จากนั้นให้ยื่นเพื่อขอรับสิทธิ์เงินทดแทนกรณีว่างงาน ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขาทั่วประเทศ (ยกเว้น สำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข) โดยแนบหลักฐาน ดังนี้
• แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส.2-01/7)
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• หนังสือรับรองการออกจากงานหรือสำเนาแบบแจ้งการลาออกจากงานของผู้ประกันตนออกจากงานของผู้ประกันตน (สปส. 6-09) กรณีที่ไม่มีสำเนา สปส.6-09 ก็สามารถไปขึ้นทะเบียนกรณีว่างงานได้
• หนังสือหรือคำสั่งของนายจ้างให้ออกจากงาน (ถ้ามี)
3. รายงานตัวทุกเดือนกับสำนักงานจัดหางาน
ลาออกจากงาน ประกันสังคมจ่ายเงินชดเชยเท่าไร ?
กรณีลาออกจากงานเองโดยสมัครใจ ผู้ประกันตนจะได้รับเงินทดแทนว่างงาน ไม่เกินปีละ 90 วัน ในอัตรา 30% ของค่าจ้างเฉลี่ย (คิดจากฐานเงินสมทบขั้นต่ำ 1,650 บาท/เดือน และฐานเงินสมทบสูงสุด 15,000 บาท/เดือน) เช่น
- เงินเดือน 10,000 บาท จะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน เดือนละ 3,000 บาท เป็นเวลาไม่เกิน 3 เดือน- เงินเดือน 20,000 บาท จะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน เดือนละ 4,500 บาท (คิดจากฐานเงินสมทบสูงสุด 15,000 บาท) เป็นเวลาไม่เกิน 3 เดือน
แต่ถ้าเป็นกรณีถูกเลิกจ้าง ผู้ประกันตนจะได้รับเงินทดแทน ไม่เกินปีละ 180 วัน ในอัตรา 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย เช่น
- เงินเดือน 10,000 บาท จะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน เดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน - เงินเดือน 20,000 บาท จะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน เดือนละ 7,500 บาท (คิดจากฐานเงินสมทบสูงสุด 15,000 บาท) เป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน
ภาพจาก : สำนักงานประกันสังคม
ทั้งนี้ คนที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือจากประกันสังคม ต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้ว 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนการว่างงาน และว่างงานตั้งแต่ 8 วันขึ้นไป ที่สำคัญคือ ต้องไม่ถูกเลิกจ้างด้วยสาเหตุดังต่อไปนี้
- ทุจริตต่อหน้าที่ หรือทำผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง - จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย
- ฝ่าฝืนข้อบังคับ ระเบียบเกี่ยวกับการทำงาน หรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายในกรณีร้ายแรง
- ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 7 วันทำงานติดต่อกัน โดยไม่มีเหตุอันควร
- ประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
- ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษา
- ต้องไม่ใช่ผู้มีสิทธิ์ได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ
อย่างไรก็ตาม หากเป็นการลาออกเองในช่วงสถานการณ์โควิด 19
ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565
จะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงานเพิ่มเป็นร้อยละ 45 ของค่าจ้างเฉลี่ย แต่ไม่เกิน 90 วัน
ลาออกจากงานแล้ว สิทธิประกันสังคมจะเป็นอย่างไร
แม้จะลาออกจากงานประจำและไม่ได้ส่งเงินสมทบแล้ว ผู้ประกันตนจะยังสามารถใช้สิทธิประกันสังคมต่าง ๆ ทั้งกรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ คลอดบุตร และเสียชีวิต ได้เหมือนเดิมต่ออีก 6 เดือน หลังจากลาออก
ทว่าหากพ้น 6 เดือน เรายังไม่ได้เริ่มทำงานกับบริษัทใหม่ หรือได้เปลี่ยนไปทำอาชีพอิสระแล้ว ก็จะทำให้สิทธิการเป็นผู้ประกัน มาตรา 33 หมดลง ทำให้เราต้องตัดสินใจใน 2 ทางเลือก ดังนี้
1. สมัครเป็นผู้ประกันตน มาตรา 39
โดยผู้ประกันตน มาตรา 39 จะต้องส่งเงินเข้ากองทุน 432 บาท/เดือน โดยรัฐบาลจะช่วยสมทบอีก 120 บาท/เดือน ได้รับความคุ้มครอง 6 กรณี คือ กรณีเจ็บป่วย/อุบัติเหตุ ทุพพลภาพ เสียชีวิต คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร และกรณีชราภาพ
อ่านเพิ่มเติม - ประกันสังคม มาตรา 39 คืออะไร สิทธิประกันสังคม มีอะไรบ้าง
ภาพจาก : สำนักงานประกันสังคม
2. ออกจากประกันสังคมไปเลย
ส่วนเงินชราภาพที่มีอยู่ จะได้รับก็ต่อเมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ซึ่งต้องทำเรื่องภายใน 1 ปี หลังเกษียณ ห้ามเกินแม้แต่วันเดียว สำหรับเงินที่ได้จะแบ่งเป็น 2 แบบ ตามระยะเวลาที่ส่งสมทบ คือ
- จ่ายเงินสมทบมากกว่า 15 ปี จะได้รับเงินบำนาญรายเดือน
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตอันใกล้นี้ ผู้ประกันตนจะสามารถใช้สิทธิ "ขอเลือก" ว่าจะรับเป็นบำเหน็จ หรือบำนาญชราภาพ และใช้สิทธิ "ขอคืน" หรือ "ขอกู้" ได้ หลังจาก ครม. มีมติเห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม ซึ่งต้องรอประกาศให้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป
ทั้งหมดนี้ก็เป็นสิทธิประกันสังคมที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนควรรู้ และทำความเข้าใจให้พร้อมก่อนลาออก โดยหากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคม โทร. 1506
* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 13 มิถุนายน 2565