มนุษย์เงินเดือนรู้ไว้ ถูกเลิกจ้างกะทันหัน ตกงานแบบไม่ทันตั้งตัว เรียกร้องสิทธิอะไรได้บ้าง บริษัทต้องจ่ายเงินชดเชยเท่าไหร่

ถูกเลิกจ้างแบบไหน ถึงจะได้เงินชดเชย
เราจะได้รับเงินชดเชยจากการเลิกจ้างจากนายจ้าง เมื่อทำงานครบ 120 วัน เป็นอย่างน้อย และถูกให้ออกจากงานทั้งที่ไม่ได้สมัครใจ ไม่ว่านายจ้างจะแจ้งล่วงหน้าหรือไม่ก็ตาม แต่มีข้อแม้ว่า เราต้องไม่ได้ทำผิด หรือถูกให้ออกจากงาน ด้วยสาเหตุดังต่อไปนี้
- ลาออกเองโดยสมัครใจ
- ทุจริตต่อนายจ้าง หรือทำความผิดอาญา
- จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย
- ประมาทเลินเล่อจนทำให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
- ฝ่าฝืนระเบียบการทำงาน โดยที่นายจ้างได้ออกหนังสือเตือนไปแล้ว
- ละทิ้งการทำงานติดต่อกัน 3 วัน โดยไม่มีเหตุอันควร
- ได้รับโทษจำคุก ตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก
- สัญญาจ้างงานมีกำหนดระยะเวลาไว้แน่นอน
หากถูกเลิกจ้างด้วยสาเหตุดังที่กล่าวมา จะไม่ได้รับเงินชดเชยตามที่กฎหมายระบุไว้

ถูกเลิกจ้างกะทันหัน ได้เงินชดเชยเท่าไหร่ ?
การถูกเลิกจ้างกะทันหัน ตามกฎหมายแล้วจะได้เงินชดเชย 2 อย่างจากนายจ้าง คือ ค่าชดเชยถูกเลิกจ้าง และค่าบอกกล่าวล่วงหน้า โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข ดังนี้
1. ค่าชดเชยถูกเลิกจ้าง
- ทำงานติดต่อกันครบ 120 วัน แต่ไม่ถึง 1 ปี ได้รับเงินชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 30 วัน (1 เดือน)
- ทำงานติดต่อกันครบ 1 ปี แต่ไม่ถึง 3 ปี ได้รับเงินชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 90 วัน (3 เดือน)
- ทำงานติดต่อกันครบ 3 ปี แต่ไม่ถึง 6 ปี ได้รับเงินชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 180 วัน (6 เดือน)
- ทำงานติดต่อกันครบ 6 ปี แต่ไม่ถึง 10 ปี ได้รับเงินชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 240 วัน (8 เดือน)
- ทำงานติดต่อกันครบ 10 ปีขึ้นไป ได้รับเงินชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 300 วัน (10 เดือน)
- ทำงานติดต่อกันครบ 20 ปีขึ้นไป ได้รับเงินชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 400 วัน
ตัวอย่างเช่น นาย A ทำงานมาแล้ว 5 ปี ได้รับเงินเดือนอยู่ที่ 30,000 บาท และโดนบอกเลิกจ้างโดยไม่สมัครใจ ดังนั้น นาย A จะได้รับเงินชดเชย 30,000 x 6 เดือน (180 วัน) เท่ากับ 180,000 บาท

โดนเลิกจ้างโดยไม่ได้สมัครใจ แถมยังมีเซอร์ไพรส์ไม่บอกล่วงหน้าอีกด้วย ถ้าเป็นแบบนี้เราจะได้เงินค่าบอกกล่าวล่วงหน้า หรือที่เรียกกันว่า "ค่าตกใจ" เพิ่มเติมด้วย ตามกรณีดังต่อไปนี้
- กรณีเลิกจ้างทั่วไป
กำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้า 1 งวดของการจ่ายค่าจ้าง หมายความว่า ถ้าเราได้ค่าจ้างเป็นเงินเดือนรอบละ 30 วัน นายจ้างจะต้องแจ้งเลิกจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรให้ทราบอย่างน้อย 30 วัน ไม่เช่นนั้นจะต้องจ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้า 1 เดือน หรือถ้าได้รับค่าจ้างเป็นรายสัปดาห์ ก็ต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน ไม่เช่นนั้นจะต้องจ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้าเท่ากับ 7 วัน ตัวอย่างเช่น บริษัทจ่ายเงินให้ลูกจ้างทุกวันที่ 30 ของเดือน
หากบริษัทบอกเลิกจ้างก่อนวันที่ 30 ตุลาคม ก็จะต้องจ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้าถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน หรือ 30 วัน แต่ถ้าบริษัทบอกเลิกจ้างช้ากว่ารอบการจ่ายเงิน เช่น บอกในวันที่ 6 พฤศจิกายน ก็จะต้องจ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้าถึงงวดวันที่ 30 ธันวาคม
- กรณีเลิกจ้าง เพราะการปรับปรุงหน่วยงาน กระบวนการผลิต การจำหน่าย หรือการบริการ เนื่องจากนำเครื่องจักรมาใช้หรือเปลี่ยนแปลงเครื่องจักร เปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี จนต้องลดจำนวนลูกจ้างลง
ต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 60 วัน หากลูกจ้างไม่ได้รับแจ้ง จะได้เงินชดเชยแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 60 วัน (2 เดือน) เช่น เงินเดือน 30,000 บาท ก็จะได้รับเงินชดเชย 30,000 x 2 เท่ากับ 60,000 บาท
อีกทั้งหากลูกจ้างทำงานติดต่อกันครบ 6 ปีขึ้นไป จะมีสิทธิได้รับเงินชดเชยพิเศษเพิ่มอีก ไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 15 วัน ต่อการทำงานครบ 1 ปี (รวมแล้วต้องไม่เกินค่าจ้างอัตราสุดท้าย 360 วัน)
- กรณีเลิกจ้าง เพราะย้ายสถานประกอบกิจการ
หรือหากมีการบอกล่วงหน้าถูกต้อง แต่ลูกจ้างไม่ต้องการย้ายไปทำงานที่ใหม่ด้วย ก็ยังมีสิทธิได้รับค่าชดเชยไม่น้อยกว่า 50% ของค่าชดเชยถูกเลิกจ้างที่มีสิทธิได้รับ
เงินชดเชยถูกเลิกจ้าง จะได้รับตอนไหน
ปกติแล้วนายจ้างจะต้องจ่ายค่าชดเชยให้ลูกจ้างภายในวันสุดท้ายที่ทำงาน แต่หากถึงตอนนั้นแล้วยังไม่ได้เงินชดเชยดังกล่าว เราสามารถยื่นร้องเรียนต่อพนักงานตรวจแรงงานได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานในแต่ละจังหวัด ส่วนกรุงเทพฯ ยื่นได้ที่กลุ่มงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เนื่องจากถือว่าเป็นการเข้าข่ายการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมนั่นเอง

โดนเลิกจ้างกะทันหัน ประกันสังคมช่วยอะไรบ้าง
สำหรับใครที่มีสิทธิประกันสังคม จะได้รับเงินช่วยเหลือกรณีว่างงานจากประกันสังคมอีกด้วย หากจ่ายเงินสมทบมาแล้ว 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนการว่างงาน โดยจะต้องรีบไปขึ้นทะเบียนหางาน ณ สำนักจัดหางานของรัฐ ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ถูกเลิกจ้าง และยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ที่สำนักงานประกันสังคม
โดยเงินช่วยเหลือที่ได้รับ จะเป็นเงินทดแทนระหว่างว่างงานปีละไม่เกิน 180 วัน ในอัตรา 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย ซึ่งคำนวณจากฐานเงินสมทบขั้นต่ำเดือนละ 1,650 บาท และฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท เช่น เงินเดือน 10,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 5,000 บาท หรือถ้าเรามีเงินเดือนเฉลี่ยสูงกว่า 15,000 บาท ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือที่อัตราสูงสุด คือ 7,500 บาท เป็นเวลา 6 เดือน
ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ > ประกันสังคม ช่วยได้ ถึงจะว่างงาน ก็ยังได้รับเงินเดือน
ถูกเลิกจ้าง-ตกงานเพราะสถานการณ์โควิด 19 จะได้รับความช่วยเหลืออย่างไรบ้าง ?
ในช่วงที่มีการระบาดของโควิด 19 มีลูกจ้างได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้าง หรือหยุดพักงานชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 จำนวนไม่น้อย ประกันสังคมจึงให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกันตน มาตรา 33 ดังนี้
กรณีว่างงานด้วยเหตุสุดวิสัย ประกอบด้วย
- ลูกจ้างไม่ได้ทำงาน หรือนายจ้างไม่ให้ทำงาน เนื่องจากต้องกักตัว หรือเฝ้าระวังการระบาดของโรค
จะได้รับเงินชดเชยดังนี้
- ลูกจ้างไม่ได้ทำงาน
เนื่องจากนายจ้างต้องหยุดประกอบกิจการ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
เนื่องจากราชการมีคำสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวเพื่อป้องกันการระบาดของโรคติดต่ออันตราย
ทำให้ไม่สามารถประกอบกิจการได้ตามปกติ
- สำหรับการว่างงานตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม - 31 สิงหาคม 2563 จะได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงาน 62% ของค่าจ้าง แต่ไม่เกิน 90 วัน
- สำหรับการว่างงานตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป จะได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงาน 50% ของค่าจ้างรายวัน โดยให้ได้รับตลอดระยะเวลาที่มีการกักตัว หรือเฝ้าระวังการระบาดของโรค หรือมีคำสั่งปิดสถานที่ แล้วแต่กรณี แต่รวมกันไม่เกิน 90 วัน
กรณีผู้ประกันตนว่างงานเพราะลาออก หรือถูกเลิกจ้าง ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้จากประกันสังคม ดังนี้
- ว่างงานจากการลาออก รับเงินกรณีว่างงาน 45% ของค่าจ้าง ไม่เกิน 90 วัน
- ว่างงานจากการถูกเลิกจ้าง รับเงินกรณีว่างงาน 70% ของค่าจ้าง ไม่เกิน 200 วัน
*หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2564
ขอบคุณข้อมูลจาก