ประกันสังคม ปี 2569 มนุษย์เงินเดือนต้องจ่ายเพิ่มเท่าไหร่ เช็กเงินสมทบและสิทธิประโยชน์ใหม่ !

           ประกันสังคม ปี 2569 จ่ายเงินสมทบเท่าไหร่ หลังเตรียมปรับเพดานค่าจ้างเพิ่มจาก 15,000 บาท เป็น 17,500 บาท พร้อมเช็กสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับเพิ่มขึ้น
ประกันสังคม 2569

          ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป มนุษย์เงินเดือนหรือผู้ประกันตน ประกันสังคม มาตรา 33 ในระบบประกันสังคม ต้องส่งเงินสมทบเพิ่มขึ้น หลังจาก ครม. อนุมัติให้ปรับเพดานค่าจ้างที่ใช้คำนวณเงินสมทบแบบขั้นบันได ซึ่งเดิมคิดจากค่าจ้างสูงสุดที่ 15,000 บาท ขยับขึ้นเป็น 17,500-23,000 บาท (ตามที่กำหนดในแต่ละปี)

          มาศึกษากันว่า ผู้ประกันตนจะต้องจ่ายเงินสมทบประกันสังคมเท่าไหร่ในปี 2569 และเราจะได้สิทธิประกันสังคมเพิ่มขึ้นหรือไม่

ประกันสังคม ปี 2569 
จ่ายเงินสมทบเท่าไหร่

ประกันสังคมมาตรา 33 จ่ายเงินสมทบเท่าไหร่

          ผู้ประกันตน มาตรา 33 ยังคงจ่ายเงินสมทบในอัตรา 5% ของค่าจ้าง และในปี 2569 เมื่อเพดานค่าจ้างปรับเพิ่มจาก 15,000 บาท เป็นสูงสุด 17,500 บาท ดังนั้น คนที่มีเงินเดือนหรือค่าจ้างไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน จะจ่ายเงินสมทบเท่าเดิม ส่วนคนที่มีเงินเดือน 15,000 บาทขึ้นไป จากเดิมต้องจ่ายเงินสมทบเดือนละ 750 บาท จะต้องจ่ายเพิ่มขึ้น โดยมีเพดานสูงสุดไม่เกิน 875 บาท

ตัวอย่าง

  • เงินเดือน 10,000 บาท จ่ายเงินสมทบเดือนละ 500 บาท เท่าเดิม

  • เงินเดือน 12,000 บาท จ่ายเงินสมทบเดือนละ 600 บาท เท่าเดิม

  • เงินเดือน 15,000 บาท จ่ายเงินสมทบเดือนละ 750 บาท เท่าเดิม

  • เงินเดือน 16,000 บาท จ่ายเงินสมทบเพิ่มเป็นเดือนละ 800 บาท (จากเดิม 750 บาท)

  • เงินเดือน 17,000 บาท จ่ายเงินสมทบเพิ่มเป็นเดือนละ 850 บาท (จากเดิม 750 บาท)

  • เงินเดือนตั้งแต่ 17,500 บาทขึ้นไป จ่ายเงินสมทบเพิ่มเป็นเดือนละ 875 บาท (จากเดิม 750 บาท)

ประกันสังคมมาตรา 39 และมาตรา 40 จ่ายเงินสมทบเท่าไหร่

          สำหรับผู้ประกันตนประกันสังคม มาตรา 39 และมาตรา 40 ยังคงจ่ายเงินสมทบเท่าเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ดังนี้

  • ผู้ประกันตน มาตรา 39 จ่ายเงินสมทบ 432 บาทต่อเดือน

  • ผู้ประกันตน มาตรา 39 ทางเลือกที่ 1 จ่ายเงินสมทบ 70 บาทต่อเดือน

  • ผู้ประกันตน มาตรา 39 ทางเลือกที่ 1 จ่ายเงินสมทบ 100 บาทต่อเดือน

  • ผู้ประกันตน มาตรา 39 ทางเลือกที่ 1 จ่ายเงินสมทบ 300 บาทต่อเดือน

สิทธิประกันสังคมที่ได้รับ
หลังจ่ายเงินสมทบเพิ่มขึ้น

ประกันสังคมเจ็บป่วย

ภาพจาก : sommai damrongpanich / Shutterstock

          เมื่อปรับเพดานค่าจ้างในปี 2569 จะส่งผลให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับฐานค่าจ้างของผู้ประกันตน มาตรา 33 ปรับขึ้นไปด้วย ดังนี้

เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย

          กรณีแพทย์ให้ผู้ประกันตนหยุดพักรักษาตัวสามารถขอรับเงินทดแทนการขาดรายได้ 50% ของค่าจ้าง ทั้งนี้ ต้องไม่เกิน 90 วันต่อครั้ง และไม่เกิน 180 วัน ภายใน 1 ปีปฏิทิน 

          ดังนั้น จากเดิมเคยได้สูงสุด 7,500 บาท/เดือน จะเพิ่มเป็นสูงสุด 8,750 บาท/เดือน รวมสูงสุดไม่เกิน 52,500 บาท/ปี

เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ

  • ผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพไม่รุนแรง ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 30% หรือในส่วนที่ลดลง แต่ไม่เกิน 30% ของค่าจ้าง เท่ากับว่าจากเดิมได้ไม่เกิน 4,500 บาท/เดือน ปรับขึ้นเป็น 5,250 บาท/เดือน โดยได้รับไม่เกิน 180 เดือน

  • ผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพรุนแรง จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย ทุกเดือน ตลอดชีวิต เท่ากับว่าจากเดิมได้ไม่เกิน 7,500 บาท ปรับเพิ่มเป็น 8,750 บาท/เดือน จนตลอดชีวิต

เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต

          นอกจากค่าทำศพ 50,000 บาทแล้ว ทายาทของผู้ประกันตนที่เสียชีวิตยังจะได้รับเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิตซึ่งไม่ได้เกิดจากการทำงาน ดังนี้

  • ถ้าก่อนถึงแก่ความตาย ผู้ประกันตนได้ส่งเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 36 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 120 เดือน ให้จ่ายเงินสงเคราะห์ 50% ของค่าจ้าง เป็นเวลา 4 เดือน หรือจากเดิมจะได้รับ 30,000 บาท ปรับเพิ่มเป็น 35,000 บาท

  • ถ้าก่อนถึงแก่ความตาย ผู้ประกันตนได้ส่งเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 120 เดือนขึ้นไป ให้จ่ายเงินสงเคราะห์ 50% ของค่าจ้าง เป็นเวลา 12 เดือน ดังนั้นจะได้รับ 105,000 บาท จากเดิมได้รับ 90,000 บาท

เงินสงเคราะห์กรณีหยุดงานคลอดบุตร

          ผู้ประกันตนหญิงที่คลอดบุตรจะได้รับเงินสงเคราะห์การหยุดงาน 50% ของค่าจ้าง เป็นระยะเวลา 90 วัน ดังนั้นจากเดิมที่จะได้รับเงินเดือนละ 7,500 บาท รวม 3 เดือน เท่ากับ 22,500 บาท เมื่อมีการปรับเพดานค่าจ้างเป็น 17,500 บาทแล้ว จะได้เงินสงเคราะห์เพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 8,750 บาท รวม 3 เดือน เท่ากับ 26,250 บาท

เงินทดแทนกรณีว่างงาน

  • ถูกเลิกจ้าง : ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 60% ของค่าจ้างรายวัน ครั้งละไม่เกิน 180 วัน (สำหรับคนที่ถูกเลิกจ้างตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป) ดังนั้นจากเดิมได้รับเงินทดแทนเดือนละ 9,000 บาท จะถูกปรับเพิ่มเป็นเดือนละ 10,500 บาท 

  • ลาออกเอง : ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 30% ของค่าจ้างรายวัน ครั้งละไม่เกิน 90 วัน เท่ากับว่าจากเดิมได้รับเดือนละ 4,500 บาท ปรับเพิ่มเป็น 5,250 บาท

เงินบำนาญชราภาพ

          ในส่วนของเงินชราภาพประกันสังคม หรือเงินบำนาญของผู้ประกันตน มาตรา 33 ก็จะได้ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน

  • กรณีส่งเงินสมทบครบ 15 ปี จากเดิมที่ได้รับสูงสุด 3,000 บาท/เดือน จะเพิ่มเป็น 3,500 บาท/เดือน
  • กรณีส่งเงินสมทบครบ 25 ปี จากเดิมได้สูงสุด 5,250 บาท/เดือน เพิ่มเป็น 6,125 บาท/เดือน

          อย่างไก็ตาม ยังต้องอ้างอิงกับสูตรบำนาญแบบ CARE (Career-Average Revalued Earnings) ที่ยังต้องรอแก้ไขกฎหมาย และคาดว่าจะสามารถเริ่มใช้ได้ในปี 2569 

เช็กเพดานค่าจ้างที่จะปรับขึ้นในแต่ละปี

          การปรับขึ้นเพดานค่าจ้างประกันสังคมแบ่งเป็น 3 ช่วงตามขั้นบันได คือ

  1. ปี 2569-2571 ปรับเพดานสูงสุดเป็น 17,500 บาท เท่ากับว่าต้องจ่ายเงินสมทบสูงสุด 875 บาท
  2. ปี 2572-2574 ปรับเพดานสูงสุดเป็น 20,000 บาท เท่ากับว่าต้องจ่ายเงินสมทบสูงสุด 1,000 บาท
  3. ปี 2575 เป็นต้นไป ปรับเพดานสูงสุดเป็น 23,000 บาท เท่ากับว่าต้องจ่ายเงินสมทบสูงสุด 1,150 บาท

          เมื่อเพดานค่าจ้างปรับเพิ่ม ผู้ประกันตนจะต้องจ่ายเงินสมทบมากขึ้น แต่ก็จะได้สิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคมสูงขึ้นตามไปด้วย 

 

บทความที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประกันสังคม

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ประกันสังคม ปี 2569 มนุษย์เงินเดือนต้องจ่ายเพิ่มเท่าไหร่ เช็กเงินสมทบและสิทธิประโยชน์ใหม่ ! อัปเดตล่าสุด 3 ธันวาคม 2568 เวลา 14:15:49 26,939 อ่าน
TOP
x close