
มีความเป็นไปได้ว่า ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป มนุษย์เงินเดือนหรือผู้ประกันตน ประกันสังคม มาตรา 33 ในระบบประกันสังคม อาจจะต้องส่งเงินสมทบเพิ่มขึ้น หลังจากสำนักงานประกันสังคมอนุมัติให้ปรับเพดานค่าจ้างที่ใช้คำนวณเงินสมทบแบบขั้นบันได ซึ่งเดิมคิดจากค่าจ้างสูงสุดที่ 15,000 บาท ขยับขึ้นเป็น 17,500-23,000 บาท (ตามที่กำหนดในแต่ละปี)
แม้ว่าในขณะนี้ (เดือนกันยายน 2568) กฎหมายดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา แต่หลายคนก็เริ่มพูดถึงกันแล้ว เพราะอยากรู้ว่า หากกฎหมายดังกล่าวประกาศใช้ ผู้ประกันตนจะต้องจ่ายเงินสมทบประกันสังคมเท่าไหร่ในปี 2569 และเราจะได้สิทธิประกันสังคมเพิ่มขึ้นหรือไม่ มาเช็กรายละเอียดกันประกันสังคม ปี 2569
จ่ายเงินสมทบเท่าไหร่
ประกันสังคมมาตรา 33 จ่ายเงินสมทบเท่าไหร่
ผู้ประกันตน มาตรา 33 จะยังคงจ่ายเงินสมทบในอัตรา 5% ของค่าจ้าง แต่หากกฎหมายผ่านแล้ว ในปี 2569 เพดานค่าจ้างจะปรับเพิ่มจาก 15,000 บาท เป็นสูงสุด 17,500 บาท ดังนั้น คนที่มีเงินเดือนหรือค่าจ้างไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน จะจ่ายเงินสมทบเท่าเดิม ส่วนคนที่มีเงินเดือน 15,000 บาทขึ้นไป จากเดิมต้องจ่ายเงินสมทบเดือนละ 750 บาท จะต้องจ่ายเพิ่มขึ้น โดยมีเพดานสูงสุดไม่เกิน 875 บาท
ตัวอย่าง
-
เงินเดือน 10,000 บาท จ่ายเงินสมทบเดือนละ 500 บาท เท่าเดิม
-
เงินเดือน 12,000 บาท จ่ายเงินสมทบเดือนละ 600 บาท เท่าเดิม
-
เงินเดือน 15,000 บาท จ่ายเงินสมทบเดือนละ 750 บาท เท่าเดิม
-
เงินเดือน 16,000 บาท จ่ายเงินสมทบเพิ่มเป็นเดือนละ 800 บาท (จากเดิม 750 บาท)
-
เงินเดือน 17,000 บาท จ่ายเงินสมทบเพิ่มเป็นเดือนละ 850 บาท (จากเดิม 750 บาท)
-
เงินเดือนตั้งแต่ 17,500 บาทขึ้นไป จ่ายเงินสมทบเพิ่มเป็นเดือนละ 875 บาท (จากเดิม 750 บาท)
ประกันสังคมมาตรา 39 และมาตรา 40 จ่ายเงินสมทบเท่าไหร่
สำหรับผู้ประกันตนประกันสังคม มาตรา 39 และมาตรา 40 ยังคงจ่ายเงินสมทบเท่าเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ดังนี้
-
ผู้ประกันตน มาตรา 39 จ่ายเงินสมทบ 432 บาทต่อเดือน
-
ผู้ประกันตน มาตรา 39 ทางเลือกที่ 1 จ่ายเงินสมทบ 70 บาทต่อเดือน
-
ผู้ประกันตน มาตรา 39 ทางเลือกที่ 1 จ่ายเงินสมทบ 100 บาทต่อเดือน
-
ผู้ประกันตน มาตรา 39 ทางเลือกที่ 1 จ่ายเงินสมทบ 300 บาทต่อเดือน
สิทธิประกันสังคมที่ได้รับ
หลังจ่ายเงินสมทบเพิ่มขึ้น

ภาพจาก : sommai damrongpanich / Shutterstock
เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย
กรณีแพทย์ให้ผู้ประกันตนหยุดพักรักษาตัวสามารถขอรับเงินทดแทนการขาดรายได้ 50% ของค่าจ้าง ทั้งนี้ ต้องไม่เกิน 90 วันต่อครั้ง และไม่เกิน 180 วัน ภายใน 1 ปีปฏิทิน
ดังนั้น จากเดิมเคยได้สูงสุด 7,500 บาท/เดือน จะเพิ่มเป็นสูงสุด 8,750 บาท/เดือน รวมสูงสุดไม่เกิน 52,500 บาท/ปี
เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ
-
ผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพไม่รุนแรง ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 30% หรือในส่วนที่ลดลง แต่ไม่เกิน 30% ของค่าจ้าง เท่ากับว่าจากเดิมได้ไม่เกิน 4,500 บาท/เดือน ปรับขึ้นเป็น 5,250 บาท/เดือน โดยได้รับไม่เกิน 180 เดือน
-
ผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพรุนแรง จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย ทุกเดือน ตลอดชีวิต เท่ากับว่าจากเดิมได้ไม่เกิน 7,500 บาท ปรับเพิ่มเป็น 8,750 บาท/เดือน จนตลอดชีวิต
เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต
นอกจากค่าทำศพ 50,000 บาทแล้ว ทายาทของผู้ประกันตนที่เสียชีวิตยังจะได้รับเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิตซึ่งไม่ได้เกิดจากการทำงาน ดังนี้
-
ถ้าก่อนถึงแก่ความตาย ผู้ประกันตนได้ส่งเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 36 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 120 เดือน ให้จ่ายเงินสงเคราะห์ 50% ของค่าจ้าง เป็นเวลา 4 เดือน หรือจากเดิมจะได้รับ 30,000 บาท ปรับเพิ่มเป็น 35,000 บาท
-
ถ้าก่อนถึงแก่ความตาย ผู้ประกันตนได้ส่งเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 120 เดือนขึ้นไป ให้จ่ายเงินสงเคราะห์ 50% ของค่าจ้าง เป็นเวลา 12 เดือน ดังนั้นจะได้รับ 105,000 บาท จากเดิมได้รับ 90,000 บาท
เงินสงเคราะห์กรณีหยุดงานคลอดบุตร
เงินทดแทนกรณีว่างงาน
-
ถูกเลิกจ้าง : ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 60% ของค่าจ้างรายวัน ครั้งละไม่เกิน 180 วัน (สำหรับคนที่ถูกเลิกจ้างตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป) ดังนั้นจากเดิมได้รับเงินทดแทนเดือนละ 9,000 บาท จะถูกปรับเพิ่มเป็นเดือนละ 10,500 บาท
- ลาออกเอง : ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 30% ของค่าจ้างรายวัน ครั้งละไม่เกิน 90 วัน เท่ากับว่าจากเดิมได้รับเดือนละ 4,500 บาท ปรับเพิ่มเป็น 5,250 บาท
เงินบำนาญชราภาพ
ในส่วนของเงินชราภาพประกันสังคม หรือเงินบำนาญของผู้ประกันตน มาตรา 33 ก็จะได้ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งยังต้องอ้างอิงกับสูตรบำนาญแบบ CARE (Career-Average Revalued Earnings) ที่ยังต้องรอแก้ไขกฎหมาย และคาดว่าจะสามารถเริ่มใช้ได้ในปี 2569
เช็กเพดานค่าจ้างที่จะปรับขึ้นในแต่ละปี

การปรับขึ้นเพดานค่าจ้างประกันสังคมแบ่งเป็น 3 ช่วงตามขั้นบันได คือ
- ปี 2569-2571 ปรับเพดานสูงสุดเป็น 17,500 บาท เท่ากับว่าต้องจ่ายเงินสมทบสูงสุด 875 บาท
- ปี 2572-2574 ปรับเพดานสูงสุดเป็น 20,000 บาท เท่ากับว่าต้องจ่ายเงินสมทบสูงสุด 1,000 บาท
- ปี 2575 เป็นต้นไป ปรับเพดานสูงสุดเป็น 23,000 บาท เท่ากับว่าต้องจ่ายเงินสมทบสูงสุด 1,150 บาท
บทความที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประกันสังคม
- ประกันสังคม จ่ายเท่าไหร่ คุ้มครองอะไรบ้าง สรุปทุกสิทธิและวิธีเช็กสิทธิประกันสังคม มาตรา 33, 39, 40
- ประกันสังคม มาตรา 33 กับสิทธิประโยชน์ที่มนุษย์เงินเดือน-ลูกจ้างจำเป็นต้องรู้ !
- วิธีคำนวณบำนาญประกันสังคมสูตรใหม่ มาตรา 33 และ มาตรา 39 กรอกเลขก็รู้คร่าว ๆ หลังเกษียณได้เงินเท่าไหร่
- เปิดรายละเอียดเงิน 750 บาทที่ลูกจ้างจ่ายประกันสังคม คุ้มครองอะไรบ้าง ไม่ใช้ก็ไม่ได้คืน
- เงินประกันสังคมได้คืนตอนไหนบ้าง เช็กสิทธิประกันสังคมที่ทุกคนควรรู้