1. กองทุนรวมเพื่อการออม หรือกองทุนรวม SSF ซึ่งมาแทนกองทุนรวม LTF ที่สิ้นสุดไปแล้ว โดยเงื่อนไขสำคัญคือ เมื่อลงทุนแล้วต้องถือครองไว้อย่างน้อย 10 ปี และสามารถซื้อได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
2. กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือกองทุนรวม RMF มีข้อบังคับให้ซื้ออย่างน้อยปีเว้นปี โดยต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปี และจะขายได้เมื่ออายุ 55 ปี เหมาะกับคนที่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อการเกษียณ สามารถซื้อได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่เมื่อรวมกับกองทุนรวม SSF และกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
ทั้งนี้ จะเลือกซื้อกองทุนรวม SSF หรือ RMF ก็ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการออมของเรา ถ้าต้องการออมเงินระยะสั้น 10 ปี ก็ควรเลือก SSF แต่ถ้าหวังผลว่าจะมีเงินเก็บไว้ใช้ในยามเกษียณ กองทุน RMF ย่อมตอบโจทย์กว่า
ส่วนคนที่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อกองทุนรวมกองไหนดี เพราะมีให้เลือกอยู่มากมายหลายกอง วันนี้เราได้ลิสต์ 5 กองทุนรวม SSF และ 5 กองทุนรวม RMF ที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดตั้งแต่ต้นปี 2564 จากการจัดอันดับของ wealthmagik.com ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2564 มาแนะนำให้ทราบเป็นข้อมูลเบื้องต้น
1. ASP-SME-SSF กองทุนเปิด แอสเซทพลัส สมอล แอนด์ มิด แคป อิควิตี้ ชนิดเพื่อการออม
กองทุน SSF ตัวท็อปจาก บลจ.แอสเซท พลัส ที่เน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กพื้นฐานดี ไม่น้อยกว่า 65% ของพอร์ต โดยกองนี้ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในบรรดากองทุน SSF ทั้งหมด นับตั้งแต่ต้นปี 2564
• จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ : 5,000 บาท
• ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน : 26.75%
• ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2564 : 32.56%
• นโยบายการจ่ายเงินปันผล : ไม่จ่ายเงินปันผล
• ระดับความเสี่ยงกองทุน : 6
ข้อมูลเพิ่มเติม assetfund.co.th
2. TISCOMS-SSF กองทุนเปิด ทิสโก้ Mid/Small Cap อิควิตี้ ชนิดหน่วยลงทุนเพื่อการออม
อีกหนึ่งกองทุนรวมที่เน้นลงทุนให้หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยมีสัดส่วนไม่น้อยกว่า 80% ทำให้ผลตอบแทนของ TISCOMS-SSF จาก บลจ.ทิสโก้ ติดชาร์ตกองทุนรวม SSF ผลงานดีอันดับต้น ๆ ของปีนี้
• จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ : 1,000 บาท
• ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน : 42.48%
• ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2564 : 32.14%
• นโยบายการจ่ายเงินปันผล : ไม่จ่ายเงินปันผล
• ระดับความเสี่ยงกองทุน : 6
ข้อมูลเพิ่มเติม tiscoasset.com
3. KKP TECH-H-SSF กองทุนเปิดเคเคพี EXPANDED TECH - HEDGED ชนิดเพื่อการออม
กองนี้เหมาะกับคนอยากลงทุนหุ้นเทคโนโลยีของต่างประเทศ เพราะ KKP TECH-H-SSF จาก บลจ.เกียรตินาคินภัทร ลงทุนใน iShares Expanded Tech Sector ETF ซึ่งกระจายการลงทุนในบริษัทกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสื่อสาร และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ในทวีปอเมริกาเหนือ
• จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ : 1,000 บาท
• ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน : 33.80%
• ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2564 : 26.45%
• นโยบายการจ่ายเงินปันผล : ไม่จ่ายเงินปันผล
• ระดับความเสี่ยงกองทุน : 7
ข้อมูลเพิ่มเติม kkpfg.com
4. TSF-SSF กองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ ชนิดหน่วยลงทุนเพื่อการออม
TSF-SSF เป็นกองทุนรวม SSF ที่เน้นลงทุนในหุ้นทั่วไปไม่น้อยกว่า 80% โดยกระจายในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม, กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์, กลุ่มพลังงาน, กลุ่มปิโตรเคมี เป็นต้น
• จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ : 1,000 บาท
• ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน : 45.75%
• ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2564 : 26.19%
• นโยบายการจ่ายเงินปันผล : ไม่จ่ายเงินปันผล
• ระดับความเสี่ยงกองทุน : 6
ข้อมูลเพิ่มเติม tiscoasset.com
5. SCBS&P500-SSF กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส (ชนิดเพื่อการออม)
สำหรับคนที่ต้องการลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกา SCBS&P500-SSF จากไทยพาณิชย์ก็น่าสนใจ กองนี้เน้นลงทุนในหุ้นที่อยู่ในดัชนี S&P 500 ซึ่งมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี S&P 500
• จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ : 1,000 บาท
• ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน : 33.32%
• ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2564 : 25.79%
• นโยบายการจ่ายเงินปันผล : จ่ายเงินปันผล
• ระดับความเสี่ยงกองทุน : 6
ข้อมูลเพิ่มเติม scbam.com
1. ASP-VIETRMF กองทุนเปิด แอสเซทพลัส เวียดนาม โกรท เพื่อการเลี้ยงชีพ
ตอบรับกระแสตลาดหลักทรัพย์ในประเทศเวียดนามที่กำลังมาแรงและยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกในอนาคต ทำให้กองทุน ASP-VIETRMF ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหุ้นของประเทศเวียดนามไม่น้อยกว่า 80% เป็นกองทุน RMF ที่มีผลงานดีที่สุดในปี 2564 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นการลงทุนในต่างประเทศจึงมีความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนและความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัวในประเทศใดประเทศหนึ่ง
• จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ : 1,000 บาท
• ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน : 14.54%
• ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2564 : 55.03%
• นโยบายการจ่ายเงินปันผล : ไม่จ่ายเงินปันผล
• ระดับความเสี่ยงกองทุน : 6
ข้อมูลเพิ่มเติม assetfund.co.th
2. B-INDIAMRMF กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นอินเดียมิดแคปเพื่อการเลี้ยงชีพ
B-INDIAMRMF ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Kotak Funds - India Midcap Fund (กองทุนหลัก) ชนิดหน่วยลงทุน Class J Acc ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยประเทศอินเดียนับเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการเติบโตของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม
• จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ : 500 บาท
• ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน : 6.89%
• ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2564 : 39.39%
• นโยบายการจ่ายเงินปันผล : ไม่จ่ายเงินปันผล
• ระดับความเสี่ยงกองทุน : 6
ข้อมูลเพิ่มเติม bangkokbank.com
3. TMSRMF-B กองทุนเปิด ทิสโก้ Mid/Small Cap อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ ชนิดหน่วยลงทุน B
เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีพื้นฐานดี มีความมั่นคง และมีแนวโน้มการเจริญเติบโตทางธุรกิจ ทั้งในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ/หรือตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ไม่น้อยกว่า 80%
• จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ : ไม่กำหนด
• ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน : 12.09%
• ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2564 : 32.11%
• นโยบายการจ่ายเงินปันผล : ไม่จ่ายเงินปันผล
• ระดับความเสี่ยงกองทุน : 6
ข้อมูลเพิ่มเติม tiscoasset.com
4. KMSRMF กองทุนเปิดเค Mid Small Cap หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ
อีกหนึ่งกองทุนที่มีนโยบายลงทุนหุ้นไทยขนาดกลางและเล็ก โดยคัดเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ทั้งกลุ่มพาณิชย์, สื่อและสิ่งพิมพ์, ขนส่งและโลจิสติกส์, อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ
• จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ : 500 บาท
• ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน : 10.45%
• ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2564 : 31.70%
• นโยบายการจ่ายเงินปันผล : ไม่จ่ายเงินปันผล
• ระดับความเสี่ยงกองทุน : 6
ข้อมูลเพิ่มเติม kasikornasset.com
5. KKP GNP RMF-UH กองทุนเปิดเคเคพี โกลบอล นิว เพอร์สเปกทีพ เพื่อการเลี้ยงชีพ อันเฮดจ์
ทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศ เพราะ KKP GNP RMF-UH เน้นการลงทุนในหุ้นสามัญทั่วโลก โดยเฉพาะทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป แต่ผู้ลงทุนก็ต้องยอมรับความเสี่ยงจากการผันผวนของปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ เช่น เศรษฐกิจ การเมือง สังคม รวมทั้งความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งกองนี้เป็น Unhedged จึงไม่ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน
• จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ : 1,000 บาท
• ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน : 22.97%
• ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2564 : 28.48%
• นโยบายการจ่ายเงินปันผล : ไม่จ่ายเงินปันผล
• ระดับความเสี่ยงกองทุน : 6
ข้อมูลเพิ่มเติม kkpfg.com
ทั้งนี้ ต้องขอย้ำว่า ผลตอบแทนในอดีตไม่ได้การันตีผลตอบแทนในอนาคต เพราะทุกกองทุนมีโอกาสที่ราคาจะปรับขึ้น-ลงได้ตามปัจจัยต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นควรเลือกลงทุนในระดับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ระดับ 1 (ความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนน้อย) ไปจนถึงระดับ 8 (ความเสี่ยงขาดทุนสูงมาก แต่ก็อาจได้ผลตอบแทนมาก)
นอกจากนี้ต้องศึกษาข้อมูลและปฏิบัติตามเงื่อนไขของกองทุนรวม SSF และ RMF ให้ชัดเจน เพราะหากทำผิดเงื่อนไขขึ้นมาเมื่อไร ไม่ใช่แค่ต้องคืนเงินภาษี แต่ยังต้องเสียค่าปรับอีกต่างหาก
บทความที่เกี่ยวข้องกับกองทุนรวม SSF-RMF
- ทำความเข้าใจ กองทุน SSF ตัวช่วยลดหย่อนภาษีที่มาแทน LTF
- เทคนิคเลือก RMF ลดหย่อนภาษีอย่างไรให้เหมาะกับตัวเรา
- 5 เรื่องน่ารู้ก่อนลงทุน RMF ลดหย่อนภาษี
- ลดหย่อนภาษี 2564 มีอะไรบ้าง รู้ไว้ก่อนยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
- กองทุนรวม คืออะไร ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่
- 3 เทคนิคพิชิตกองทุนรวม แบบคนไม่มีเวลา
- 5 คำถามที่ต้องถามตัวเอง ก่อนตัดสินใจซื้อกองทุนรวม
- อยากซื้อกองทุนรวม ต้องเริ่มอย่างไร
ขอบคุณข้อมูลจาก
wealthmagik.com
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด
ธนาคารกรุงเทพ
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด