ประกันโรคร้ายแรงของบริษัทไหนดี ปี 2566 เปรียบเทียบแบบเจอ จ่าย จบ รับเงินก้อน จ่ายเบี้ยคงที่

          ประกันโรคร้ายแรง เจอ จ่าย จบ เมื่อพบโรคร้าย แบบจ่ายเบี้ยคงที่ แผนไหนดี และต้องพิจารณาอะไรบ้างก่อนทำประกัน
ประกันโรคร้ายแรง

          ไม่มีใครอยากป่วยด้วยโรคร้าย แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะหลีกเลี่ยงได้ ถึงแม้อายุน้อยก็มีโอกาสป่วยเช่นเดียวกัน ด้วยปัจจัยทางพันธุกรรม พฤติกรรม สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ดังนั้นหลายคนจึงเตรียมความพร้อมไว้ด้วยการทำประกันโรคร้ายแรง เพิ่มเติมจากประกันสุขภาพ เพื่อจะได้มีเงินก้อนในการรักษาตัว เพราะอย่างที่ทราบกันว่า โรคร้ายแรงส่วนใหญ่ใช้เวลารักษานานและมีค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อย ๆ อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลก็ปรับเพิ่มสูงขึ้นทุก ๆ ปี

          แล้วจะเลือกประกันโรคร้ายแรงของบริษัทไหนดี เนื่องจากแต่ละแผนก็มีความคุ้มครอง เงื่อนไข และจำนวนโรคที่คุ้มครองแตกต่างกัน วันนี้เรารวบรวมข้อมูลประกันโรคร้ายแรง เบี้ยคงที่ และให้เงินก้อน เจอ จ่าย จบ เมื่อตรวจพบโรคร้าย มาให้พิจารณากัน

ประกันโรคร้ายแรง คืออะไร 
ต่างกับประกันสุขภาพอย่างไร

          ประกันโรคร้ายแรง เป็นแผนประกันเจอ จ่าย จบ ที่บริษัทจะจ่ายเงินก้อนให้เราเมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคร้ายแรงตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ โดยเงินก้อนที่ได้รับนั้นสามารถใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลที่ส่วนใหญ่ต้องรักษาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน อีกทั้งยังต้องใช้เครื่องมือ เทคโนโลยีหรือเทคนิคทางการแพทย์แบบเฉพาะทางที่มีค่าใช้จ่ายสูง รวมทั้งนำไปใช้ซื้อยาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น รถเข็น ไม้เท้า ผ้าอ้อม อาหารเสริมสำหรับผู้ป่วย ฯลฯ เพื่อใช้ในการรักษาตัว

          ในขณะที่ประกันสุขภาพจะให้ความคุ้มครองทั้งโรคทั่วไป โรคร้ายแรง โรคระบาด ฯลฯ มีทั้งแบบผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก โดยบริษัทจะจ่ายเงินค่ารักษาให้กับทางสถานพยาบาลโดยตรง ไม่ได้ให้เงินก้อนกับเราเหมือนประกันโรคร้ายแรง 

          ดังนั้นคนที่กังวลว่าจะเป็นโรคร้ายแรง และกลัวว่าจะต้องควักเงินเก็บออกมาใช้รักษาตัวเองจนหมด ก็อาจจะเลือกทำทั้งประกันสุขภาพ เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าห้อง และทำประกันโรคร้ายแรง เพื่อจะได้รับเงินก้อนมาใช้ดูแลตัวเอง หรืออาจจะนำไปใช้จ่ายในเรื่องอื่น ๆ ตามที่ต้องการได้ เช่น หลังจากป่วยแล้ว ทำงานไม่ไหว สามารถนำเงินก้อนนี้มาใช้ดำรงชีพ จ่ายหนี้สิน เลี้ยงดูครอบครัว ฯลฯ

โรคร้ายแรงในประกันมีอะไรบ้าง

ประกันโรคร้ายแรง

          เวลาค้นหาข้อมูลประกัน เรามักจะเจอข้อความที่ระบุว่า ประกันคุ้มครอง 7 โรคร้ายแรง, 10 โรคร้ายแรง, 40 โรคร้ายแรง แล้วจริง ๆ คำว่า โรคร้ายแรง มีโรคอะไรบ้างนะ ?

          จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ให้คำนิยามโรคร้ายแรงเอาไว้ 50 โรค ได้แก่

  1. โรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease)
  2. โรคโลหิตจางจากไขกระดูกไม่สร้างเม็ดโลหิต (Aplastic Anemia)
  3. โรคเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial meningitis)
  4. เนื้องอกในสมอง ชนิดที่ไม่ใช่มะเร็ง (Benign brain tumor)
  5. ตาบอด (Blindness) 
  6. โรคมะเร็งระยะลุกลาม (Invasive Cancer)
  7. โรคกล้ามเนื้อหัวใจ (Cardiomyopathy) 
  8. ตับวาย (Chronic Liver Disease / End-stage Liver disease / Liver failure) 
  9. โรคหลอดลมปอดอุดกั้นเรื้อรังขั้นรุนแรง / โรคปอดระยะสุดท้าย (Severe Chronic Obstructive Pulmonary Disease / End-stage Lung disease)
  10. ภาวะโคม่า (Coma)
  11. โรคหลอดเลือดหัวใจตีบที่รักษาด้วยการสวนหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Disease requiring Angioplasty)
  12. การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ (Coronary Artery Bypass Surgery)
  13. กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด (Acute Heart Attack)
  14. การผ่าตัดลิ้นหัวใจโดยวิธีการเปิดหัวใจ (Open Heart Surgery for the Heart Valve)
  15. ไตวายเรื้อรัง (Chronic Kidney Failure)
  16. การสูญเสียการได้ยิน (Loss of Hearing)
  17. การสูญเสียการดำรงชีพอย่างอิสระ (Loss of independent living)
  18. การทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง (Total and Permanent Disability - TPD)
  19. การสูญเสียความสามารถในการพูด (Loss of speech)
  20. แผลไหม้ฉกรรจ์ (Major burn)
  21. การบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง (Major Head Trauma) 
  22. การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะหรือปลูกถ่ายไขกระดูก (Major Organs Transplantation or Bone Marrow Transplantation)
  23. โรคของเซลล์ประสาทควบคุมการเคลื่อนไหว (Motor Neuron Disease)
  24. โรคระบบประสาทมัลติเพิล สเคลอโรซิส (Multiple Sclerosis)
  25. โรคกล้ามเนื้อเสื่อม (Muscular Dystrophy)
  26. โรคไวรัสตับอักเสบขั้นรุนแรง (Fulminant Viral Hepatitis)
  27. โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ (Other serious Coronary Artery Diseases)
  28. อัมพาตของกล้ามเนื้อแขนหรือขา (Paralysis)
  29. โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s Disease)
  30. โรคแรงดันในหลอดเลือดแดงปอดสูงแบบปฐมภูมิ (Primary Pulmonary Arterial Hypertension)
  31. ภาวะข้ออักเสบรูมาตอยด์ชนิดรุนแรง (Severe Rheumatoid Arthritis)
  32. โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน (Major Stroke)
  33. การผ่าตัดเส้นเลือดแดงใหญ่เอออร์ตา (Surgery to Aorta)
  34. ไตอักเสบลูปูส จากโรคซิสเต็มมิค ลูปูส อิริเธมาโตซูส (Lupus Nephritis from Systemic Lupus Erythematosus)
  35. สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส (Viral Encephalitis)
  36. ภาวะอะแพลลิก (Apallic Syndrome หรือ Vegetative State)
  37. โรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่ต้องรักษาโดยการผ่าตัด (Cerebral Aneurysm Requiring Brain Surgery) 
  38. โรคหลอดเลือดสมองที่ต้องได้รับการผ่าตัดลอกหลอดเลือดแดงคาโรติด (Stroke Requiring Carotid Endarterectomy Surgery)
  39. การฉีกขาดของรากประสาทต้นแขน (Multiple root avulsions of Brachial Plexus)
  40. โรคโปลิโอ (Poliomyelitis)
  41. การผ่าตัดกระดูกสันหลังคดที่ไม่ทราบสาเหตุ (Surgery for Idiopathic Scoliosis)
  42. ภาวะตับอ่อนอักเสบที่กลับเป็นซ้ำและเรื้อรัง (Chronic Relapsing Pancreatitis)
  43. โรคเท้าช้าง (Elephantiasis)
  44. โรคถุงน้ำในไต (Medullary Cystic Disease)
  45. โรคเนื้อเยื่อพังผืดอักเสบติดเชื้อและเป็นเนื้อตาย (Necrotising Fasciitis and Gangrene)
  46. โรคหนังแข็งชนิดลุกลาม (Progressive Scleroderma or Diffuse systemic sclerosis/scleroderma) 
  47. โรคลำไส้อักเสบเป็นแผลรุนแรง (Severe Ulcerative Colitis or Crohn’s Disease)
  48. โรคมะเร็งระยะไม่ลุกลาม (Non-invasive cancer / Carcinoma in Situ) 
  49. โรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่รักษาโดยใช้ขดลวดผ่านสายสวนทางหลอดเลือด (Cerebral Aneurysm Treatment by Endovascular Coiling)
  50. โรคหลอดเลือดสมองที่ได้รับการรักษาโดยวิธีใส่สายสวนเส้นเลือดแดงบริเวณคอ (Stroke Treatment by Carotid Angioplasty and Stent Placement)

          อย่างไรก็ตาม ประกันโรคร้ายแรงแต่ละบริษัทจะระบุโรคที่ให้ความคุ้มครองแตกต่างกันไป และอาจให้ความคุ้มครองโรคอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ คปภ. ระบุด้วย เช่น โรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา การผ่าตัดไต ผ่าตัดตับ แผลไหม้ ซึ่งต้องดูเงื่อนไขของแต่ละแผนอีกทีว่ามีความครอบคลุมโรคไหนบ้าง และครอบคลุมการป่วยในระยะใด  

          นอกจากนี้บางโรคยังมีข้อกำหนดว่าจะต้องรักษาด้วยวิธีที่ระบุไว้เท่านั้นถึงจะเคลมได้ เช่น การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจต้องผ่าตัดด้วยการเปิดทรวงอก หรือการผ่าตัดลิ้นหัวใจจะต้องใช้วิธีการเปิดหัวใจเท่านั้น (ศึกษารายละเอียดความคุ้มครองของแต่ละโรคได้ที่ สำนักงาน คปภ.)

ประกันโรคร้ายแรงไม่คุ้มครองกรณีไหนบ้าง

          หากป่วยด้วยโรคร้ายแรงสืบเนื่องจากสาเหตุหรือมีลักษณะเหล่านี้ จะไม่สามารถเบิกเคลมประกันได้

  1. ความเจ็บป่วยโรคร้ายแรงที่เกิดจากการพยายามฆ่าตัวตาย การทำร้ายร่างกายตัวเอง
  2. ความเจ็บป่วยที่อาจเกิดจากการสูดดม กิน ฉีด หรือนำสารพิษเข้าสู่ร่างกาย ทั้งขณะที่ยังรู้สึกผิดชอบหรือวิกลจริต
  3. ความเจ็บป่วยอันเกิดจากการก่ออาชญากรรม ขณะถูกจับกุม หรือหลบหนีการจับกุม
  4. ความเจ็บป่วยอันเกิดจากฤทธิ์ยาเสพติด หรือฤทธิ์สุราจนไม่สามารถครองสติได้
  5. โรคร้ายแรงหรือความผิดปกติที่ติดตัวมาแต่กำเนิด ซึ่งผู้เอาประกันภัยทราบอยู่แล้วขณะทำสัญญา
  6. โรคร้ายแรงหรือความผิดปกติ ซึ่งได้รับการยืนยันโดยแพทย์ว่าเกิดก่อนวันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาประกัน หรือก่อนวันเริ่มต่อสัญญา

วิธีเลือกประกันโรคร้ายแรง

ประกันโรคร้ายแรง

          มาดูกันว่าเราต้องพิจารณาเรื่องใดบ้างในการเลือกประกันโรคร้ายแรงสักฉบับ

1. จำนวนโรคที่คุ้มครอง

          ประกันโรคร้ายแรงแต่ละแผนให้ความคุ้มครองจำนวนโรคไม่เท่ากัน หลัก ๆ ก็จะให้การคุ้มครองกลุ่มโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง ที่พบบ่อยในคนไทย ก่อนซื้อควรตรวจสอบว่าแผนที่เราสนใจคุ้มครองกี่โรค ซึ่งจำนวนโรคที่คุ้มครองมากกว่าก็อาจทำให้เราต้องจ่ายเบี้ยประกันแพงกว่าเช่นกัน

2. ระยะของโรคที่เคลมได้

          นอกจากพิจารณาจำนวนโรคแล้วยังต้องศึกษาเงื่อนไขระยะของโรคให้ชัดเจนด้วย เพราะบางแผนอาจให้เคลมได้เฉพาะระยะรุนแรงเท่านั้น หมายความว่า ถ้าอาการป่วยของเรายังอยู่ในระดับต้นหรือระยะกลางจะไม่สามารถเคลมได้ แต่บางแผนก็ให้คุ้มครองทุกระยะอาการป่วย ระดับไหนก็เคลมได้

3. จำนวนเงินที่เบิกเคลมได้ในแต่ละโรค

          เท่าที่เห็นจะมีอยู่ 4 รูปแบบ คือ

  • เคลมได้ 100% เมื่อตรวจพบโรคที่คุ้มครองตามเงื่อนไข
  • เคลมตามระยะของโรค เช่น หากป่วยด้วยโรคร้ายแรงระยะต้นจะเคลมได้ 20-25% ของวงเงินคุ้มครองที่ทำไว้ และถ้าป่วยในระยะรุนแรงจะสามารถเบิกเคลมส่วนที่เหลือได้อีก 80% เช่น ทำประกันโรคร้ายแรงมีวงเงินคุ้มครอง 1 ล้านบาท แล้วป่วยด้วยโรคร้ายแรงระยะแรก ซึ่งมีเงื่อนไขว่าจะจ่ายเงินให้ 20% เท่ากับว่าเราจะได้รับเงินก้อน 2 แสนบาท ต่อมาอีก 2 ปี ป่วยด้วยโรคระยะรุนแรง ครั้งนี้จะเคลมส่วนที่เหลือได้อีก 80% คือ 8 แสนบาท
  • เคลมตามกลุ่มโรค คือ เคลมโรคกลุ่มหนึ่งไปแล้วยังคุ้มครองโรคอื่นต่อ หากป่วยกลุ่มโรคอื่นที่ยังไม่เคลมก็สามารถเคลมได้อีก
  • เคลมซ้ำในโรคเดิม เช่น เคยเคลมโรคมะเร็งระยะลุกลามไปแล้ว 100% และยังกลับมาเป็นซ้ำก็ยังเคลมเพิ่มได้อีก 100%

4. รูปแบบการจ่ายเบี้ยประกัน

          เบี้ยประกันโรคร้ายแรงหลัก ๆ มีการจ่ายเบี้ยอยู่ 2 รูปแบบ คือ

เบี้ยประกันปรับเพิ่มขึ้นตามอายุ 

          เบี้ยประกันจะเพิ่มขึ้นตามอายุ อาจจะทุกปี หรือทุก 5 ปี และต้องจ่ายไปเรื่อย ๆ ตลอดชีพ ข้อดีคือ เบี้ยประกันในช่วงแรกไม่แพง แค่ปีละหลักพัน แต่ได้วงเงินคุ้มครองสูงถึงหลักแสน-ล้านบาท ส่วนข้อเสียคือ เมื่ออายุมากขึ้นจะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากช่วงแรกจ่ายแค่หลักพันอาจกลายเป็นปีละหลักหมื่น เสี่ยงต่อการจ่ายไม่ไหว และเป็นการจ่ายเบี้ยทิ้ง เหมือนกับประกันรถยนต์ที่แม้ไม่มีเคลมก็ไม่ได้รับเงินคืน 

          นอกจากนี้ประกันโรคร้ายแรงส่วนใหญ่ยังเป็นแผนสัญญาเพิ่มเติม คือต้องมีประกันชีวิตเป็นสัญญาหลักก่อน จึงทำประกันโรคร้ายแรงเพิ่มได้ เหมาะกับคนที่มีเงินไม่มาก อยากทยอยจ่ายเบี้ยไปเรื่อย ๆ เพื่อแลกกับวงเงินคุ้มครองที่สูงมาก เช่น ทำวงเงินคุ้มครองไว้ 1 ล้านบาท จ่ายเบี้ยปีละ 5,000 บาท ผ่านไป 4 ปี ตรวจพบโรคร้ายแรงขั้นรุนแรง ก็สามารถเคลมได้ 1 ล้านบาท ทั้งที่จ่ายเบี้ยไปเพียง 20,000 บาท

เบี้ยประกันคงที่

          เป็นแผนประกันที่ให้จ่ายเบี้ยเท่าเดิมทุกปีจนกว่าจะครบสัญญาที่ระบุ เช่น จ่าย 10 ปี 20 ปี หรือตลอดชีพ ข้อดีคือ ยิ่งทำเร็ว เบี้ยจะยิ่งถูก เพราะคิดตามอายุแรกเข้า และเราจะรู้จำนวนเงินที่ต้องจ่ายแน่นอน ไม่ต้องกังวลว่าพออายุมาก ค่าเบี้ยจะสูงจนจ่ายไม่ไหว 

          ที่สำคัญก็คือ มักเป็นแผนที่รวมประกันชีวิตมาด้วยแล้ว และไม่ใช่เป็นเบี้ยจ่ายทิ้ง กล่าวคือ เราจะได้รับเงินคืนเมื่อมีชีวิตอยู่จนครบสัญญา หรือหากเสียชีวิตก่อน ไม่ว่าจะป่วยด้วยโรคอะไรก็ตามหรือประสบอุบัติเหตุ ทายาทก็จะได้รับเงินประกันตามวงเงินที่เราทำไว้

          อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของแผนนี้คือ อัตราค่าเบี้ยต่อปีค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับแผนประกันที่จ่ายเบี้ยทิ้ง เช่น ถ้าต้องการวงเงินคุ้มครอง 1 ล้านบาท จ่ายเบี้ยคงที่ 20 ปี อาจจะต้องจ่ายถึงปีละ 30,000-40,000 บาท สูงกว่าประกันสุขภาพทั่วไปเสียอีก แผนนี้จึงเหมาะกับคนที่สามารถจ่ายเงินหลักหมื่นต่อปีได้ เและต้องการวางแผนการเงินไว้ล่วงหน้า คือจ่ายก้อนใหญ่ให้จบ ไม่อยากมีภาระในระยะยาว

5. จ่ายกี่ปี คุ้มครองกี่ปี

          อาจแบ่งเป็นความคุ้มครองในช่วงระยะหนึ่ง เป็นเวลาสั้น ๆ กับแบบประกันที่คุ้มครองตลอดชีพ

  • แบบคุ้มครองระยะสั้น เช่น จ่ายเบี้ย 5 ปี คุ้มครอง 5 ปี, จ่ายเบี้ย 10 ปี คุ้มครอง 15 ปี เหมาะกับคนที่ต้องการความคุ้มครองสั้น ๆ และต้องการเบี้ยถูก เริ่มต้นแค่หลักพันต้น ๆ ต่อปี แต่เมื่อครบสัญญาแล้วก็ต้องคอยทำเล่มใหม่เรื่อย ๆ ซึ่งค่าเบี้ยจะแพงขึ้น และถ้าตอนนั้นเรามีโรคประจำตัวบางอย่างแล้วก็อาจทำเล่มใหม่ได้ยาก 
  • แบบคุ้มครองตลอดชีพ มักจะจ่ายเบี้ยทุกปีจนครบกำหนด หรือจ่ายเบี้ย 10 ปี 20 ปี แล้วคุ้มครองถึงอายุ 85 ปี หรือ 90 ปี เหมาะกับคนที่ต้องการความคุ้มครองไปนาน ๆ ไม่ต้องคอยต่ออายุเรื่อย ๆ เพราะเราไม่รู้ว่าจะป่วยโรคร้ายแรงขึ้นมาเมื่อไร

6. อายุที่รับประกัน

          ตรวจสอบว่าแผนนั้นให้สมัครได้ตั้งแต่อายุเท่าไร ถึงอายุเท่าไร และสามารถต่ออายุได้จนถึงเท่าไร แนะนำให้เลือกแผนความคุ้มครองที่ให้ต่ออายุได้นาน เพื่อจะได้คุ้มครองตอนอายุมากที่มีโอกาสป่วยด้วยโรคร้ายแรงมากที่สุด

          หรือในกรณีต้องการทำประกันให้ลูก คุณพ่อ คุณแม่ ผู้สูงอายุ ก็ต้องเลือกแผนที่รับประกันตั้งแต่อายุน้อย ๆ หรือแผนที่รับประกันผู้สูงวัย อายุ 60, 70 ปีขึ้นไป ซึ่งจะมีให้เลือกไม่มากนัก

7. จำนวนเงินเอาประกันภัย หรือวงเงินคุ้มครองที่ต้องการ

          พิจารณาว่าเราต้องการวงเงินคุ้มครองเท่าไร โดยอาจคิดคำนวณจากค่ารักษาพยาบาลของโรคนั้น หรือดูว่าตัวเองมีภาระค่าใช้จ่ายหรือหนี้สินอะไรอยู่บ้าง ถ้าป่วยจนทำงานไม่ได้ หรือเสียชีวิตไป จะต้องใช้เงินเท่าไรถึงจะช่วยแบ่งเบาภาระต่าง ๆ ให้ครอบครัวได้ อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่ายิ่งทำวงเงินคุ้มครองสูงก็ยิ่งจ่ายเบี้ยประกันแพงตามไปด้วย จึงต้องพิจารณาความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกันของตัวเอง

8. สิทธิประโยชน์อื่น ๆ

          แต่ละบริษัทอาจมีสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพื่อจูงใจ เช่น สิทธิพิเศษเมื่อทำประกันกับบริษัท ส่วนลดค่าเบี้ยประกัน บัตรกำนัลส่วนลดร้านค้าที่ร่วมรายการ หรือให้หยุดจ่ายเบี้ยได้เมื่อป่วยด้วยโรคร้ายแรงตามเงื่อนไข เป็นต้น

ข้อควรรู้ก่อนทำประกันโรคร้ายแรง

ประกันโรคร้ายแรง

  • ประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรงมีระยะเวลารอคอยของโรค คือ จะไม่คุ้มครองการเจ็บป่วยหรือความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรงตามกรมธรรม์นั้น หากเกิดขึ้นภายใน 60-120 วัน (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท) นับแต่วันทำสัญญาประกันภัย เช่น หลังจากทำประกันไป 1 เดือน ตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็ง กรณีนี้ประกันจะไม่คุ้มครอง

  • ต้องแถลงข้อความจริงในการขอเอาประกันภัย หากปกปิดข้อความจริงหรือแถลงข้อความเป็นเท็จ อาจเป็นเหตุให้บริษัทบอกล้างสัญญาประกันภัยและปฏิเสธไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัย

  • ควรทำความเข้าใจในเงื่อนไขความคุ้มครองและข้อยกเว้นให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจทำประกัน เนื่องจากแต่ละโรคมีรายละเอียดยิบย่อย หากไม่ตรงตามเงื่อนไขอาจเคลมประกันไม่ได้ เช่น

          - โรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ ต้องไม่สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตัวเองอย่างถาวรตั้งแต่ 3 อย่างขึ้นไป

          - เนื้องอกในสมองชนิดที่ไม่ใช่มะเร็ง ต้องเป็นอันตรายถึงชีวิต ทำให้เกิดความดันในกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้น และมีอาการทางระบบประสาท อีกทั้งต้องได้รับการรักษาโดยการผ่าตัดออก

          - ตาบอด ต้องทั้ง 2 ข้าง และสูญเสียอย่างถาวร ไม่สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้ การมองเห็นของลานสายตาต้องน้อยกว่า 3/60 หรือลานสายตาแคบกว่า 10 องศา 

  • สำหรับแผนประกันที่มีมูลค่าเวนคืนกรมธรรม์ หากเวนคืนหรือไถ่ถอนก่อนครบกำหนด อาจจะได้รับเงินคืนเป็นจำนวนน้อยกว่าเบี้ยประกันภัยที่จ่ายไปแล้ว ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เวนคืนหรือไถ่ถอน

  • บริษัทอาจให้ตรวจสุขภาพหรือไม่ตรวจสุขภาพก็ได้ โดยบริษัทที่ไม่ต้องตรวจสุขภาพจะให้เราแถลงข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพในใบคำขอเอาประกันภัย ยกเว้นว่าเรามีประวัติสุขภาพ บริษัทอาจขอให้ตรวจสุขภาพประกอบการพิจารณา

  • เบี้ยประกันสุขภาพของตัวเองสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแล้ว ลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี

ประกันโรคร้ายแรงของบริษัทไหนดี แบบเบี้ยคงที่

          เมื่อเข้าใจหลักการในการเลือกประกันโรคร้ายแรงแล้ว คราวนี้มาดูกันว่าถ้าจะเลือกทำประกันโรคร้ายแรง แบบเจอ จ่าย จบ จ่ายเบี้ยคงที่ มีแผนไหนที่น่าสนใจบ้าง

1. ประกันโรคร้ายแรง สุขภาพ สุขสันต์ จาก กรุงเทพประกันชีวิต

ประกันโรคร้ายแรง

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Bangkoklife - กรุงเทพประกันชีวิต

         ประกันโรคร้ายแรงสุขภาพ สุขสันต์ จ่ายเบี้ยคงที่ 10 ปี คุ้มครอง 15 ปี มีจุดเด่นคือ จ่ายเงินก้อน 100% เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรงตามที่กำหนด โดยแผนนี้ให้ความคุ้มครอง 50 โรคร้ายแรง เช่น โรคที่เกี่ยวกับมะเร็งและเนื้องอก โรคเกี่ยวกับหัวใจ โรคเกี่ยวกับสมอง โรคเกี่ยวกับไต ตับ การติดเชื้ออย่างรุนแรง อุบัติเหตุ ฯลฯ นอกจากนี้ยังคุ้มครองโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งทรวงอก สูงสุด 10% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย แต่ไม่เกิน 2 แสนบาท

         สำหรับวงเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 5 แสนบาท ไปจนถึง 3 ล้านบาท ซึ่งจะมีวงเงินคุ้มครองชีวิตรวมมาด้วยแล้ว 50,000 บาท จึงไม่ต้องทำประกันชีวิตเพิ่ม และไม่ต้องตรวจสุขภาพ ก็สามารถสมัครได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ 

  • อายุที่รับประกันภัย : 20-55 ปี

  • วงเงินคุ้มครอง : มีให้เลือก 4 แผน ได้แก่ 5 แสน / 1 ล้าน / 2 ล้าน / 3 ล้านบาท

  • โรคที่คุ้มครอง : 50 โรคร้ายแรง

  • การประกันชีวิต : ทุกแผนมีความคุ้มครองชีวิต 50,000 บาท 

  • การชำระเบี้ย : ชำระเบี้ยประกันภัย 10 ปี รับความคุ้มครอง 15 ปี

  • ตัวอย่างค่าเบี้ยประกัน : 

          - เพศชาย อายุ 30 ปี เลือกแผน 1 คุ้มครองโรคร้าย 5 แสนบาท เบี้ยประกัน 2,525 บาท/ปี (จ่ายเบี้ยประกัน 10 ปี รวมเบี้ยตลอดสัญญา 25,250 บาท)

          - เพศหญิง อายุ 30 ปี เลือกแผน 1 คุ้มครองโรคร้าย 5 แสนบาท เบี้ยประกัน 2,379 บาท/ปี (จ่ายเบี้ยประกัน 10 ปี รวมเบี้ยตลอดสัญญา 23,790 บาท)

ข้อมูลเพิ่มเติม : กรุงเทพประกันชีวิต

2. ประกันโรคร้ายแรง AIA CI Supercare จาก เอไอเอ

ประกันโรคร้ายแรง

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก AIA

         ประกันโรคร้ายแรงจาก AIA ให้เลือกได้ว่าจะจ่ายเบี้ยคงที่ 10 ปี หรือ 20 ปี แล้วรับความคุ้มครองยาว ๆ ถึงอายุ 99 ปี คุ้มครองโรคร้ายแรงระดับต้นถึงระดับปานกลาง รวม 18 โรค และคุ้มครองโรคร้ายแรงระดับรุนแรง 44 โรค

         สำหรับการจ่ายผลประโยชน์ของแผนนี้จะแบ่งตามระดับของโรค คือ หากป่วยด้วยโรคร้ายแรงระดับต้นถึงระดับปานกลาง บริษัทจะจ่ายเงินก้อนให้ 20% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย (จำกัดโรคเดียวเท่านั้น) และยังให้ความคุ้มครองต่อไป 

         แต่หากตรวจพบโรคร้ายแรงระดับรุนแรง จะได้รับเงินก้อน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ยกเว้นว่าเคยเคลมโรคร้ายแรงระดับต้นหรือปานกลางไปแล้ว 20% ถ้าเป็นโรคระดับรุนแรงขึ้นมาอีกก็จะได้รับเงินก้อนเพียง 80% และสิ้นสุดสัญญากรมธรรม์ทันที

         นอกจากนี้ AIA CI Supercare ยังมีความคุ้มครองชีวิตเท่าจำนวนเงินเอาประกันภัย (ขั้นต่ำ 2 แสนบาท) แต่หากเสียชีวิตก่อน หรือมีชีวิตอยู่จนถึงอายุ 99 ปี และไม่เคยเคลมโรคร้ายแรงใด ๆ เลย จะได้รับเงินผลประโยชน์ตามจำนวนเงินที่ทำประกันไว้

  • อายุที่รับประกันภัย : 15 วัน - 65 ปี คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี

  • วงเงินคุ้มครอง : จำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำ 2 แสนบาท

  • โรคที่คุ้มครอง : 18 โรคร้ายแรงระดับต้น-ปานกลาง และ 44 โรคร้ายแรงระดับรุนแรง รวม 62 โรค

  • การประกันชีวิต : เท่ากับจำนวนเงินเอาประกันภัยที่เลือก  

  • การชำระเบี้ย : จ่ายเบี้ยคงที่ มีให้เลือก 2 แบบ คือ 10/99 (จ่ายเบี้ย 10 ปี คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี) และ 20/99 (จ่ายเบี้ย 20 ปี คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี)

  • ตัวอย่างค่าเบี้ยประกัน : 

          - เพศชาย อายุ 30 ปี เลือกแผนจ่ายเบี้ย 20 ปี ความคุ้มครองโรคร้าย 5 แสนบาท เบี้ยประกัน 18,175 บาท/ปี (จ่ายเบี้ย 20 ปี รวมเบี้ยตลอดสัญญา 363,500 บาท)

          - เพศหญิง อายุ 30 ปี เลือกแผนจ่ายเบี้ย 20 ปี ความคุ้มครองโรคร้าย 5 แสนบาท เบี้ยประกัน 16,705 บาท/ปี (จ่ายเบี้ย 20 ปี รวมเบี้ยตลอดสัญญา 334,100 บาท)

ข้อมูลเพิ่มเติม : เอไอเอ

3. ประกันโรคร้ายแรง โรคร้ายได้เงินชัวร์ จาก ไทยประกันชีวิต

ประกันโรคร้ายแรง

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก ไทยประกันชีวิต

         ฝั่งไทยประกันชีวิตมีประกันโรคร้ายแรงแบบจ่ายเบี้ยคงที่ คือ ประกันโรคร้ายได้เงินชัวร์ โดยเลือกได้ว่าจะจ่ายเบี้ย 10 ปี หรือ 15 ปี และคุ้มครองไปจนถึงอายุ 85 ปี มีให้เลือกวงเงินตั้งแต่ 3 แสนบาท ถึงสูงสุด 1 ล้านบาท หากเสียชีวิตหรือมีชีวิตอยู่จนถึงอายุ 85 ปี และยังไม่เคยเคลมประกัน จะได้รับเงินก้อน 100% ของเงินเอาประกันภัยที่ทำไว้

         ส่วนเรื่องโรคร้ายแรง แผนนี้คุ้มครอง 10 โรค แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ กลุ่มโรคร้ายแรงระยะเริ่มต้น เคลมได้ 20% ของจำนวนเอาประกันภัย และเคลมได้เพียง 1 โรค กับกลุ่มโรคร้ายแรงระยะรุนแรง เคลมได้ 100% ของจำนวนเอาประกันภัย โดยหากเคยเคลมระยะเริ่มต้นไปแล้ว ในระยะรุนแรงก็จะเคลมได้แค่ 80%

  • อายุที่รับประกันภัย : 16-50 ปี คุ้มครองถึงอายุ 85 ปี

  • วงเงินคุ้มครอง : มีให้เลือก 5 แผน ได้แก่ 3 แสน / 5 แสน / 6 แสน / 8 แสน / 1 ล้านบาท

  • โรคที่คุ้มครอง : 10 โรคร้ายแรง

  • การประกันชีวิต : เท่ากับจำนวนเงินเอาประกันภัยที่เลือก  

  • การชำระเบี้ย : จ่ายเบี้ยคงที่ มีให้เลือก 2 แบบ คือ 85/10 (จ่ายเบี้ย 10 ปี คุ้มครองถึงอายุ 85 ปี) หรือ 85/15 (จ่ายเบี้ย 15 ปี คุ้มครองถึงอายุ 85 ปี)

ข้อมูลเพิ่มเติม : ไทยประกันชีวิต

4. ประกันโรคร้ายแรง iShield จากกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต

ประกันโรคร้ายแรง

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Krungthai-AXA Life

          ไอชิลด์ แบบประกันคุ้มครองชีวิตและโรคร้ายแรงตลอดชีพ จากค่ายกรุงไทย-แอกซ่า คุ้มครองถึง 70 โรค (ระยะเริ่มต้น 20 โรค และระยะรุนแรง 50 โรค) และยังสามารถเคลมได้สูงสุดถึง 4 ครั้ง สำหรับโรคร้ายแรงระยะเริ่มต้น โดยไม่มีระยะเวลารอคอยระหว่างโรค

          เช่น หากเป็นโรคร้ายแรงระยะเริ่มต้น จะเคลมได้ 25% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และถ้าตรวจพบโรคร้ายแรงระยะเริ่มต้นในโรคอื่น ๆ อีก ก็ยังจะเคลมได้อีกครั้งละ 25% รวมแล้วไม่เกิน 4 ครั้ง รวมจ่ายผลประโยชน์สูงสุด 100% ส่วนกรณีป่วยโรคระยะรุนแรง จะเคลมได้ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย โดยหักส่วนที่เคลมของโรคระยะเริ่มต้นที่จ่ายไปแล้ว  

          แผนนี้สามารถเลือกวงเงินคุ้มครองขั้นต่ำได้ที่ 1 แสนบาท สูงสุด 5 ล้าน และเลือกระยะเวลาชำระเบี้ยประกันได้ตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี โดยคุ้มครองตลอดชีพถึงอายุ 85 ปี หากเสียชีวิตก่อนหรือมีชีวิตอยู่จนครบสัญญาก็จะได้รับเงินเท่าวงเงินเอาประกันภัย หักส่วนที่เคยเคลมโรคร้ายแรงไปแล้ว

  • อายุที่รับประกันภัย : ตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป คุ้มครองถึงอายุ 85 ปี โดยแบ่งเป็น

          - เลือกชำระเบี้ยประกันภัย 5 ปี : รับประกันตั้งแต่อายุ 1 เดือน - 52 ปี

          - เลือกชำระเบี้ยประกันภัย 10 ปี : รับประกันตั้งแต่อายุ 1 เดือน - 51 ปี

          - เลือกชำระเบี้ยประกันภัย 15 ปี : รับประกันตั้งแต่อายุ 1 เดือน - 56 ปี

          - เลือกชำระเบี้ยประกันภัย 20 ปี : รับประกันตั้งแต่อายุ 1 เดือน - 52 ปี

  • วงเงินคุ้มครอง : จำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำ 1 แสนบาท สูงสุด 5 ล้านบาท

  • โรคที่คุ้มครอง : โรคร้ายแรงระยะเริ่มต้น 20 โรค และโรคร้ายแรงระยะรุนแรง 50 โรค รวม 70 โรค

  • การประกันชีวิต : เท่ากับจำนวนเงินเอาประกันภัยที่เลือก  

  • การชำระเบี้ย : จ่ายเบี้ยคงที่ มีให้เลือก 4 แบบ คือ จ่ายเบี้ย 5 ปี, 10 ปี, 15 ปี หรือ 20 ปี 

  • ตัวอย่างค่าเบี้ยประกัน : 

          - เพศชาย อายุ 30 ปี เลือกแผนจ่ายเบี้ย 20 ปี ความคุ้มครองโรคร้าย 5 แสนบาท เบี้ยประกัน 17,175 บาท/ปี (จ่ายเบี้ย 20 ปี รวมเบี้ยตลอดสัญญา 343,500 บาท)

          - เพศหญิง อายุ 30 ปี เลือกแผนจ่ายเบี้ย 20 ปี ความคุ้มครองโรคร้าย 5 แสนบาท เบี้ยประกัน 15,250 บาท/ปี (จ่ายเบี้ย 20 ปี รวมเบี้ยตลอดสัญญา 305,000 บาท)

ข้อมูลเพิ่มเติม : กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต

5. ประกันโรคร้ายแรง Big 3 จาก FWD ประกันชีวิต

ประกันโรคร้ายแรง

ภาพจาก : FWD ประกันชีวิต

          แบบประกัน Big 3 จาก FWD ให้ความคุ้มครอง 3 กลุ่มโรคร้ายแรงที่พบบ่อยในคนไทย คือ โรคมะเร็ง โรคเกี่ยวกับหัวใจ และโรคเกี่ยวกับสมอง จุดเด่นของแผนนี้คือ รับเงินก้อนทันที 100% เมื่อพบว่าป่วยด้วยโรคใดโรคหนึ่ง โดยไม่ต้องรอการทยอยจ่ายตามระยะของโรคร้ายแรง สามารถเลือกความคุ้มครองได้ตั้งแต่ 5 แสนบาท ถึง 2 ล้านบาท และทุกแผนจะมีความคุ้มครองชีวิตให้อีก 50,000 บาท

          อย่างไรก็ตาม แผนนี้จะคุ้มครองเพียงแค่ 5 ปีเท่านั้น โดยจ่ายเบี้ยคงที่ 5 ปี แต่ก็สามารถต่ออายุประกันได้ทุก ๆ 5 ปี จนถึงอายุ 60 ปี ซึ่งค่าเบี้ยประกันจะเพิ่มขึ้นในทุกรอบการต่ออายุ สมัครได้ผ่านช่องทางออนไลน์

  • อายุที่รับประกันภัย : 20-60 ปี

  • วงเงินคุ้มครอง : มี 3 แผน คือ 5 แสน / 1 ล้าน / 2 ล้าน

  • โรคที่คุ้มครอง : 3 กลุ่มโรคร้ายแรง ได้แก่ กลุ่มโรคมะเร็ง กลุ่มโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด กลุ่มโรคเกี่ยวกับสมองและระบบประสาท รวม 24 โรค

  • การประกันชีวิต : มีความคุ้มครองเมื่อเสียชีวิต 50,000 บาท  

  • การชำระเบี้ย : คุ้มครอง 5 ปี จ่ายเบี้ยประกันคงที่ 5 ปี

  • ตัวอย่างค่าเบี้ยประกัน : 

          - เพศชาย อายุ 30 ปี เลือกแผน 1 ความคุ้มครองโรคร้าย 5 แสนบาท เบี้ยประกัน 2,354 บาท/ปี (จ่ายเบี้ย 5 ปี รวมเบี้ยตลอดสัญญา 11,770 บาท)

          - เพศหญิง อายุ 30 ปี เลือกแผน 1 ความคุ้มครองโรคร้าย 5 แสนบาท เบี้ยประกัน 2,002 บาท/ปี (จ่ายเบี้ย 5 ปี รวมเบี้ยตลอดสัญญา 10,010 บาท)

ข้อมูลเพิ่มเติม : FWD ประกันชีวิต

6. ประกันคุ้มครองโรคร้าย มาย ซีไอ แคร์ A85/20 จาก อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต

ประกันโรคร้ายแรง

ภาพจาก : อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต

          ประกันคุ้มครองโรคร้าย มาย ซีไอ แคร์ หรือประกันโรคร้ายได้คุ้ม ให้ชำระเบี้ยประกันคงที่ 20 ปี คุ้มครองถึงอายุ 85 ปี ในกลุ่มโรคต่าง ๆ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กรณีป่วยเป็นโรคร้ายแรงกลุ่ม 1 (เช่น มะเร็งระยะไม่ลุกลาม, โรคเยื่อหุ้มหัวใจ, การผ่าตัดตับ) จะเคลมได้ 20% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สูงสุดได้ 1 โรคเท่านั้น และหากแพทย์วินิจฉัยว่าป่วยด้วยโรคร้ายแรงกลุ่ม 2 (เช่น มะเร็งระยะลุกลาม, โรคกล้ามเนื้อหัวใจ, ภาวะหมดสติ, ไตวายระยะสุดท้าย) รับเงินก้อน 100% ของจำนวนเอาประกันภัย หรือถ้าเคยเคลมกลุ่ม 1 ไปแล้วก็จะได้ส่วนที่เหลือ คือ 80%

          ความน่าสนใจของแผนนี้คือ หากป่วยเป็นโรคร้ายแรงในกลุ่มที่ 1 หลังจากเคลมแล้วก็ไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันอีกต่อไป แต่ยังคงได้รับความคุ้มครองต่อเนื่องจนอายุครบ 85 ปี หรือจนกว่าจะครบวงเงิน 100% ซึ่งหากเราอยู่จนมีอายุครบ 85 ปี หรือเสียชีวิตก่อน ก็จะได้รับผลประโยชน์คงเหลือที่ยังไม่ได้เคลม

  • อายุที่รับประกันภัย : 16-55 ปี (คุ้มครองถึงอายุ 85 ปี)

  • วงเงินคุ้มครอง : จำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำ 1 แสนบาท สูงสุด 4 ล้านบาท

  • โรคที่คุ้มครอง : โรคร้ายแรงกลุ่ม 1 จำนวน 9 โรค และโรคร้ายแรงกลุ่ม 2 จำนวน 15 โรค

  • การประกันชีวิต : เท่ากับจำนวนเงินเอาประกันภัยที่เลือก

  • การชำระเบี้ย : จ่ายเบี้ยประกันคงที่ 20 ปี คุ้มครองถึงอายุ 85 ปี

ข้อมูลเพิ่มเติม : อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต

7. ประกันโรคร้ายแรง บีแอลเอ อุ่นใจ โรคร้าย จาก กรุงเทพประกันชีวิต

ประกันโรคร้ายแรง

ภาพจาก : กรุงเทพประกันชีวิต

          อีกหนึ่งแผนประกันโรคร้ายแรงจากกรุงเทพประกันชีวิต ที่ให้ความคุ้มครอง 11 โรค นานถึงอายุ 90 ปี จ่ายเบี้ยประกันคงที่ตลอดสัญญา หากเสียชีวิตทุกกรณี หรือมีชีวิตอยู่จนครบอายุ 90 ปี จะได้รับเงินก้อน 50,000 บาท ในขณะที่ความคุ้มครองโรคร้ายแรงสามารถเลือกได้ 7 แผน วงเงินคุ้มครองตั้งแต่ 1 แสน ไปจนถึง 1 ล้านบาท

          สำหรับการเคลมโรคร้ายแรงจะได้รับเงินก้อนสูงสุด 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าป่วยด้วย 11 โรคที่คุ้มครอง ยกเว้นกรณีเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะไม่ลุกลามจะเคลมได้ 20% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และระหว่างการรักษา หากมะเร็งลุกลามถึงจะจ่ายให้อีก 80% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

  • อายุที่รับประกันภัย : 20-75 ปี คุ้มครองจนถึงอายุ 90 ปี 

  • วงเงินคุ้มครอง : มีให้เลือก 7 แผน ได้แก่ 1 แสน / 2 แสน / 3 แสน / 4 แสน / 5 แสน / 7.5 แสน และ 1 ล้านบาท

  • โรคที่คุ้มครอง : 5 กลุ่มโรคร้ายแรง รวม 11 โรค

  • การประกันชีวิต : ทุกแผนมีความคุ้มครองชีวิต 50,000 บาท 

  • การชำระเบี้ย : เบี้ยประกันคงที่ ชำระถึงอายุ 90 ปี

  • ตัวอย่างค่าเบี้ยประกัน : 

           - เพศชาย อายุ 30 ปี เลือกแผน 5 คุ้มครองโรคร้าย 5 แสนบาท เบี้ยประกัน 5,334 บาท/ปี (จ่าย 90 ปี รวมเบี้ยตลอดสัญญา 320,040 บาท)

           - เพศหญิง อายุ 30 ปี เลือกแผน 5 คุ้มครองโรคร้าย 5 แสนบาท เบี้ยประกัน 5,902 บาท/ปี (จ่าย 90 ปี รวมเบี้ยตลอดสัญญา 354,120 บาท)

ข้อมูลเพิ่มเติม : กรุงเทพประกันชีวิต
ประกันโรคร้ายแรง

          บ่อยครั้งที่อาการป่วยร้ายแรงทำให้ผู้ป่วยสูญเสียอวัยวะหรือทำงานบกพร่อง อีกทั้งบางโรคยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ หลายคนจึงไม่สามารถทำงานและใช้ชีวิตได้ตามปกติ นำมาซึ่งปัญหาทางการเงิน ประกันโรคร้ายแรงจึงออกแบบมาเพื่อป้องกันความเสี่ยงในจุดนี้ แต่เนื่องจากมีรายละเอียดที่ซับซ้อนกว่าประกันรูปแบบอื่น ดังนั้นต้องศึกษาเงื่อนไขให้ถี่ถ้วนด้วยความเข้าใจ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในวันที่จำเป็นต้องเคลมประกันจริง ๆ

บทความที่เกี่ยวข้องกับประกันภัย

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ประกันโรคร้ายแรงของบริษัทไหนดี ปี 2566 เปรียบเทียบแบบเจอ จ่าย จบ รับเงินก้อน จ่ายเบี้ยคงที่ อัปเดตล่าสุด 17 มิถุนายน 2566 เวลา 01:50:59 77,560 อ่าน
TOP
x close