x close

เงินเดือนเท่าไหร่ถึงต้องเสียภาษี เช็กเลย...ถ้ามีรายได้เท่านี้ ต้องเสียภาษีกี่บาท

          ก่อนจะยื่นภาษี 2566 ลองมาเช็กเบื้องต้นกันหน่อยว่าเงินเดือนอย่างเราต้องเสียภาษีไหม แล้วจะต้องจ่ายภาษีกี่บาท ถ้าไม่มีค่าลดหย่อนภาษีใด ๆ เลย

         สำหรับคนที่ยังไม่มีเวลาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของตัวเองอย่างละเอียด แต่อยากรู้คร่าว ๆ ว่าเงินเดือนเท่าไหร่ถึงเสียภาษี แล้วถ้ามีเงินเดือน 30,000 หรือ 50,000 จะต้องจ่ายภาษีมาก-น้อยแค่ไหน วันนี้เรารวบรวมข้อมูลอัตราภาษีที่ต้องจ่ายมาบอกให้ทราบกัน เพื่อจะได้ใช้วางแผนลดหย่อนภาษี หรือเตรียมตัวยื่นภาษี 2566 และขอคืนภาษีในช่วงต้นปี 2567

เงินเดือนเท่าไหร่ถึงต้องเสียภาษี

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

          กรณีทำงานประจำ มีรายได้จากเงินเดือนเพียงอย่างเดียว ไม่มีโบนัส ค่าคอมมิชชั่น ค่าโอที เงินปันผล หรือรายได้ส่วนอื่น ๆ หากมีเงินเดือนมากกว่า 25,833 บาท หรือมีรายได้รวมทั้งปีมากกว่า 310,000 บาท อาจเข้าข่ายเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 

          เนื่องจากหากมีรายได้ไม่เกิน 310,000 บาท เมื่อหักค่าใช้จ่าย 100,000 บาท และค่าลดหย่อนส่วนบุคคล 60,000 บาท (ใช้สิทธิ์นี้ได้ทุกคน รวม 160,000 บาท) จะเหลือเงินได้สุทธิไม่เกิน 150,000 บาท (310,000-160,000) 

​​​​​​​          โดยกฎหมายกำหนดไว้ว่า เงินได้สุทธิที่ไม่เกิน 150,000 บาท จะได้รับการยกเว้นภาษี ส่วนเงินได้สุทธิที่เกิน 150,000 บาท ต้องเสียภาษี 5-35% ตามตารางอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต่อไปนี้

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าคนที่มีเงินเดือนน้อยกว่า 25,833 บาท จะไม่ต้องเสียภาษีทุกคน และคนที่มีเงินเดือนมากกว่า 25,833 บาท อาจไม่ต้องเสียภาษีเลยก็ได้ จึงต้องทำความเข้าใจ 2 ประเด็นนี้ด้วย

1. คนมีเงินเดือนไม่ถึง 25,833 บาท อาจต้องเสียภาษีเงินได้ฯ

          เพราะบางคนได้เงินเดือนน้อยก็จริง แต่มีรายได้อื่น ๆ นอกจากเงินเดือนที่ต้องนำมารวมเป็นรายได้ทั้งปีด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่าคอมมิชชั่น, เงินโอที, เบี้ยเลี้ยงพิเศษ, โบนัส, เงินปันผล, รายได้จากการทำฟรีแลนซ์, รายได้จากการขายของออนไลน์, กำไรจากการขายคริปโต ฯลฯ

          เช่น นายเอ มีเงินเดือน 20,000 บาท แต่ได้ค่าคอมมิชชั่นทั้งปี รวม 50,000 บาท ได้โบนัสอีก 10,000 บาท มีรายได้จากการทำฟรีแลนซ์ 60,000 บาท กรณีนี้เมื่อรวมกันแล้ว เท่ากับนายเอมีรายได้ทั้งปี 360,000 บาท เมื่อหักค่าใช้จ่าย-ค่าลดหย่อนส่วนตัว 160,000 บาท จะเหลือรายได้สุทธิ 200,000 บาท หากนายเอไม่มีค่าลดหย่อนภาษีอื่น ๆ มาหักลบออก ก็จะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ฐานภาษี 5%

2. คนที่มีเงินเดือนมากกว่า 25,833 บาท อาจไม่ต้องเสียภาษีก็ได้

          สำหรับคนที่มีเงินเดือนสูง แต่มีค่าลดหย่อนภาษีหลายรายการก็อาจไม่ต้องเสียภาษีเลย

          เช่น นางสาวบี มีเงินเดือน 30,000 บาท แต่มีค่าลดหย่อนบุตร 30,000 บาท ลดหย่อนบิดา-มารดา รวม 60,000 บาท จ่ายประกันสังคม 9,000 บาท จ่ายเบี้ยประกันชีวิต 20,000 บาท ซื้อกองทุนรวม RMF 10,000 บาท เมื่อหักค่าใช้จ่าย-ค่าลดหย่อนส่วนตัว 160,000 บาท จะเหลือรายได้สุทธิ 71,000 บาท จึงไม่ต้องเสียภาษี

ได้เงินเดือนเท่านี้ ต้องเสียภาษีกี่บาท

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

          อีกหนึ่งข้อสงสัยของมนุษย์เงินเดือนก็คือ อยากรู้ว่าถ้าตัวเองมีเงินเดือนเท่านี้ จะต้องเสียภาษีเงินได้ฯ ประมาณเท่าไร ซึ่งเราจะคำนวณให้ทราบกันคร่าว ๆ โดยเป็นกรณีที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขมีรายได้จากเงินเดือนเพียงอย่างเดียว และไม่มีค่าลดหย่อนอื่น ๆ นอกจากหักค่าใช้จ่าย 100,000 บาท และค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท เช่น

เงินเดือน 25,000 เสียภาษีเท่าไหร่

          ถ้าไม่มีรายได้ทางอื่นอีกจะไม่ต้องเสียภาษีเลย เนื่องจากคนที่มีเงินเดือนไม่เกิน 25,833 บาท เมื่อรวมรายได้ทั้งปีจะไม่เกิน 310,000 บาท เมื่อหักค่าใช้จ่าย-ค่าลดหย่อนส่วนบุคคลแล้ว ได้รับการยกเว้นภาษี

เงินเดือน 26,000 เสียภาษีเท่าไหร่

          หลังจากหักค่าใช้จ่าย-ค่าลดหย่อนส่วนตัว 160,000 บาท จะเหลือเงินได้สุทธิ 152,000 บาท เท่ากับเสียภาษี 100 บาท 

เงินเดือน 27,000 เสียภาษีเท่าไหร่

          หลังจากหักค่าใช้จ่าย-ค่าลดหย่อนส่วนตัว 160,000 บาท จะเหลือเงินได้สุทธิ 164,000 บาท เท่ากับเสียภาษี 700 บาท

เงินเดือน 28,000 เสียภาษีเท่าไหร่

          หลังจากหักค่าใช้จ่าย-ค่าลดหย่อนส่วนตัว 160,000 บาท จะเหลือเงินได้สุทธิ 176,000 บาท เท่ากับเสียภาษี 1,300 บาท

เงินเดือน 30,000 เสียภาษีเท่าไหร่

​​​​​​​          หลังจากหักค่าใช้จ่าย-ค่าลดหย่อนส่วนตัว 160,000 บาท จะเหลือเงินได้สุทธิ 200,000 บาท เท่ากับเสียภาษี 2,500 บาท

เงินเดือน 40,000 เสียภาษีเท่าไหร่

​​​​​​​          หลังจากหักค่าใช้จ่าย-ค่าลดหย่อนส่วนตัว 160,000 บาท จะเหลือเงินได้สุทธิ 320,000 บาท เท่ากับเสียภาษี 9,500 บาท

เงินเดือน 45,000 เสียภาษีเท่าไหร่

​​​​​​​          หลังจากหักค่าใช้จ่าย-ค่าลดหย่อนส่วนตัว 160,000 บาท จะเหลือเงินได้สุทธิ 380,000 บาท เท่ากับเสียภาษี 15,500 บาท

เงินเดือน 50,000 เสียภาษีเท่าไหร่

​​​​​​​          หลังจากหักค่าใช้จ่าย-ค่าลดหย่อนส่วนตัว 160,000 บาท จะเหลือเงินได้สุทธิ 440,000 บาท เท่ากับเสียภาษี 21,500 บาท

เงินเดือน 70,000 เสียภาษีเท่าไหร่

          หลังจากหักค่าใช้จ่าย-ค่าลดหย่อนส่วนตัว 160,000 บาท จะเหลือเงินได้สุทธิ 680,000 บาท เท่ากับเสียภาษี 54,500 บาท
 

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

          ส่วนมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ทางอื่นด้วย เช่น ค่าคอมมิชชั่น ค่าโอที เบี้ยเลี้ยงพิเศษ เงินโบนัส ค่าจ้างจากการทำฟรีแลนซ์ ซึ่งถือว่ามีเงินได้ประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 ก็ต้องนำรายได้ทั้งหมดมารวมกันแล้วค่อยคำนวณภาษี งั้นลองมาดูตัวอย่างกรณีมีรายได้ทั้งปีเท่านี้ จะต้องเสียภาษีโดยประมาณเท่าไร
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

          สำหรับตัวเลขทั้ง 2 ตารางเป็นจำนวนเงินภาษีสูงสุดที่อาจจะได้จ่าย โดยยังไม่ได้หักค่าลดหย่อนภาษีอื่น ๆ เช่น เงินสมทบประกันสังคม ซึ่งแต่ละปีอาจจ่ายไม่เท่ากัน ก็สามารถนำเงินสมทบที่จ่ายจริงในปีนั้นไปหักลดหย่อนภาษีได้

          นอกจากนี้ ถ้ามีค่าลดหย่อนภาษีอื่น ๆ เช่น ค่าลดหย่อนบุตร บิดา-มารดา ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ดอกเบี้ยบ้าน กองทุนรวม SSF หรือ RMF เงินบริจาคเพื่อการกุศล ก็สามารถนำมาหักลดหย่อนได้เช่นกัน ซึ่งจะทำให้จ่ายภาษีน้อยลงกว่าตัวเลขในตาราง

ตรวจสอบค่าลดหย่อนภาษี 2566 ทั้งหมดที่นี่

          ส่วนคนที่มีเงินได้ประเภทอื่นนอกจากเงินเดือนด้วย จะมีการหักค่าใช้จ่ายที่ต่างกันไป ซึ่งต้องนำไปคำนวณอีกที ได้แก่

  • เงินได้ประเภทที่ 3 (ค่าลิขสิทธิ์) : หัก 50% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 100,000 บาท หรือ หักเฉพาะค่าสิทธิ
  • เงินได้ประเภทที่ 4 (ดอกเบี้ย, เงินปันผล) : หักค่าใช้จ่ายไม่ได้
  • เงินได้ประเภทที่ 5 (ค่าเช่า) : หักค่าใช้จ่ายได้ 10-30% หรือหักตามจริง
  • เงินได้ประเภทที่ 6 (ค่าวิชาชีพอิสระ) : แพทย์ประกอบโรคศิลปะ หักค่าใช้จ่ายได้ 60% หรือตามจริง ส่วนอาชีพนักกฎหมาย, วิศวกร, สถาปนิก, นักบัญชี และช่างประณีตศิลป์ หักค่าใช้จ่ายได้ 30% หรือหักตามจริง  
  • เงินได้ประเภทที่ 7 (ค่ารับเหมาทั้งค่าแรงและค่าของ) : หักค่าใช้จ่ายได้ 60% หรือหักตามจริง
  • เงินได้ประเภทที่ 8 (อื่น ๆ) : หักค่าใช้จ่ายได้ 60% (เฉพาะกิจการ 43 ประเภท) หรือหักตามจริง
          นี่ก็เป็นเพียงตัวอย่างการคำนวณภาษีที่ต้องจ่ายคร่าว ๆ เท่านั้น ซึ่งมนุษย์เงินเดือนแต่ละคนมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งที่มาของรายได้ สถานภาพครอบครัว จำนวนค่าลดหย่อนภาษีต่าง ๆ ดังนั้น ควรคำนวณภาษีของตัวเองให้ละเอียดก่อนยื่นภาษี หรือลองอ่านวิธีคำนวณภาษีได้ที่นี่

          * วิธีคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา   
          หากทราบจำนวนภาษีที่ต้องจ่ายในแต่ละปีไว้ล่วงหน้าก็จะช่วยให้เราวางแผนภาษีได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะการมองหาตัวช่วยลดหย่อนภาษีที่เหมาะสมกับรายได้ของตัวเอง เพื่อเตรียมตัวยื่นภาษี หรือขอคืนภาษีต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้องกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมสรรพากร 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เงินเดือนเท่าไหร่ถึงต้องเสียภาษี เช็กเลย...ถ้ามีรายได้เท่านี้ ต้องเสียภาษีกี่บาท อัปเดตล่าสุด 22 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09:32:58 314,452 อ่าน
TOP