แฟรนไชส์น่าลงทุน ปี 2566 มีอะไรบ้าง ใครอยากลงทุนทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ของกินเล่น หรืออื่น ๆ ลองมาดูไว้เป็นไอเดียกันได้เลย
ในยุคที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีแบบนี้ ใครที่อยากจะเริ่มทำธุรกิจเปิดกิจการใหม่ก็คงต้องคิดหนักกันหน่อย หรืออาจคิดไม่ตกว่าจะลงทุนกับอะไรดี ซึ่งการซื้อแฟรนไชส์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายคนสนใจ ไม่ว่าจะเป็นแฟรนไชส์อาหาร แฟรนไชส์ของกินเล่น หรือสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่ลงทุนน้อย แต่ทำกำไรได้พอสมควร วันนี้เราจึงได้คัดเอา 10 แฟรนไชส์น่าลงทุน ในปี 2566 มาให้เพื่อน ๆ ดูไว้เป็นไอเดีย ถ้าหากใครสนใจแฟรนไชส์ไหน แนะนำให้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนลงทุนกันด้วยนะ
จะซื้อแฟรนไชส์ ต้องดูอะไรบ้าง
เนื่องจากแฟรนไชส์มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแฟรนไชส์อาหาร เครื่องดื่ม ไปจนถึงสินค้าและบริการต่าง ๆ ซึ่งแต่ละแฟรนไชส์ก็มีจุดเด่นและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เราลองมาดูกันว่า ก่อนจะตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์นั้น มีอะไรที่ควรต้องพิจารณาบ้าง
- เลือกจากความชอบและความถนัดของตัวเอง : ในที่นี้คือ ตัวเองชอบทำหรือมีใจรักในธุรกิจประเภทไหน ถ้าหากชอบของกินหรือเครื่องดื่มต่าง ๆ ก็อาจตัดสินใจเลือกลงทุนแฟรนไชส์ร้านอาหาร กาแฟ หรือชา เพราะถึงแม้จะซื้อแฟรนไชส์มา แต่เราก็ต้องมีความชอบ ความสนใจ หรือความสามารถเกี่ยวกับแฟรนไชส์ประเภทนั้น ๆ ด้วย
- เลือกจากทำเลที่ตั้งร้าน : พิจารณาว่าร้านของเราตั้งอยู่ตรงไหน คนที่สัญจรผ่านแถวนั้นเป็นใครบ้าง คนกลุ่มนี้ล่ะที่จะเป็นลูกค้าหลัก เช่น หากร้านอยู่ใกล้โรงเรียน มหาวิทยาลัย ก็สามารถเลือกขายขนมหรือของกินเล่นที่มีราคาไม่สูงมาก แต่ต้องดูน่ากิน ถ่ายรูปสวย เป็นอาหารที่กินง่าย หรือถ้าทำเลตั้งอยู่ในบริเวณที่มีธุรกิจประเภทนั้นเยอะอยู่แล้วก็ควรลองมองหาทำเลที่อื่นที่ไม่มีคู่แข่งเยอะ
- เลือกจากลักษณะของกลุ่มลูกค้า : ทั้งเรื่องรสนิยมการกิน การจับจ่ายใช้สอย ไลฟ์สไตล์ ฐานะทางการเงิน เป็นปัจจัยว่าลูกค้ากลุ่มไหนจะใช้บริการร้านของเรา เช่น ถ้าต้องการจับกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนทำงานในย่านธุรกิจ ก็สามารถขายสินค้าหรืออาหารที่ดูพรีเมียม มีราคาสูงขึ้นมาหน่อย แต่หากกลุ่มลูกค้าของเราคือชาวบ้านทั่ว ๆ ไป ก็ควรเลือกขายสินค้าที่ราคาไม่แพง เช่น สินค้าทุกอย่าง 20 บาท หรืออาหารที่รับประทานง่าย พกพาไปกินระหว่างทางได้
- ดูงบประมาณในกระเป๋า : แฟรนไชส์แต่ละเจ้าจะลงทุนเริ่มต้นไม่เท่ากัน บางแบรนด์มีงบประมาณแค่หลักพันก็เปิดร้านได้แล้ว แต่บางร้านอาจต้องลงทุนขั้นต่ำเป็นหลักแสนหรือหลักล้าน ตรงนี้ก็ลองพิจารณาจากงบประมาณของเราอีกที ซึ่งใครยังมีงบไม่มาก อาจใช้วิธีซื้อแฟรนไชส์ไซซ์เล็กสุดของร้านนั้น ๆ มาทดลองขายดูก่อน ถ้าดูแล้วไปได้ดีก็ค่อยขยับขยาย
- หาจุดเด่น-จุดด้อยของแบรนด์นั้น : ลองพิจารณาว่าแบรนด์นั้นมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร เช่น เรื่องรสชาติอาหาร คุณภาพของสินค้า การบริการ กระแสตอบรับของลูกค้าที่ใช้บริการในสาขาต่าง ๆ ว่ามีคอมเมนต์ในทิศทางบวกหรือลบ รวมทั้งแบรนด์นั้นมีระบบการจัดการธุรกิจอย่างไร มีนโยบายอย่างไร ธุรกิจมีโอกาสเติบโตได้อีกแค่ไหน จะทำให้เราเข้าใจธุรกิจของเขามากขึ้น
- พิจารณาเรื่องค่าแฟรนไชส์และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ : การซื้อแฟรนไชส์บางร้านอาจต้องเสียค่าแฟรนไชส์ ค่าธรรมเนียมรายปี เปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งจากยอดขาย ฯลฯ แนะนำให้สอบถามข้อมูลจากเจ้าของแฟรนไชส์ให้ชัดเจนว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ถ้าใครไม่อยากเสียเงินส่วนนี้ก็ต้องลองมองหาร้านที่ไม่เก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าว
- พิจารณาบริการหลังการขาย : นอกจากจะฝึกอบรมการทำธุรกิจให้เราแล้ว เจ้าของแบรนด์ต้องสามารถให้คำแนะนำในด้านต่าง ๆ รวมทั้งเรื่องทำการตลาด ฯลฯ พร้อมกับให้คำปรึกษาเมื่อมีปัญหาใด ๆ หลังจากซื้อแฟรนไชส์ไปแล้ว
เมื่อทราบคร่าว ๆ แล้วว่าต้องพิจารณาอะไรบ้างก่อนซื้อแฟรนไชส์ คราวนี้ลองมาดูแฟรนไชส์ที่น่าสนใจลงทุนในปี 2566 กันเลย
แฟรนไชส์น่าลงทุน ปี 2566
1. แฟรนไชส์กาแฟโบราณ
เพราะเมืองไทยอากาศร้อน กาแฟที่เป็นเครื่องดื่มยอดฮิตจึงเป็นสินค้าที่คนควักเงินซื้อได้ง่าย มีหลายราคา หลายระดับ รองรับลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย อย่างกาแฟโบราณที่มีเอกลักษณ์พิเศษไม่เหมือนกาแฟทั่วไปก็กำลังได้รับความนิยม เลือกทำเลดี ๆ ก็ตั้งร้านได้ไม่ยาก ซึ่งน่าสนใจสำหรับผู้ที่มีงบไม่มาก
ตัวอย่างแฟรนไชส์กาแฟโบราณ
- เปิ่น กาแฟโบราณ : แฟรนไชส์กาแฟสดแบบถุงกระดาษที่มีจัดชุดและแพ็กเกจเครื่องดื่มพร้อมขายให้เลือก ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี พร้อมสอนชงถึงที่ ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 9,900 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- เพลินกรุง กาแฟรถโบราณ : แฟรนไชส์ชา กาแฟ ที่มีจุดเด่นตรงที่ไม่ใช้ครีมเทียม จึงเหมาะกับคนรักสุขภาพ ราคาแฟรนไชส์พร้อมอุปกรณ์เปิดร้านเริ่มต้น 59,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- กาแฟโบราณยกล้อ ตลาด 100 ปี : กาแฟโบราณใส่ถุงกระดาษเก็บความเย็น ไม่หักเปอร์เซ็นต์ยอดขาย ไม่มีค่าธรรมเนียมรายเดือน-รายปี ไม่บังคับซื้อวัตถุดิบ สามารถตั้งราคาขายเองได้ ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 9,999 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
2. แฟรนไชส์ชาไข่มุก
ยังคงฮิตติดอันดับทุกปีสำหรับแฟรนไชส์ชานมไข่มุก เพราะเป็นเครื่องดื่มที่ขายง่าย คนชอบกินเยอะ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและวัยรุ่น มีให้เลือกตั้งแต่แฟรนไชส์ที่ใช้งบแค่หลักหมื่นไปจนถึงแฟรนไชส์ระดับพรีเมียม
ตัวอย่างแฟรนไชส์ชาไข่มุก
- Chakuma Tea : แฟรนไชส์ชานมไข่มุกไต้หวัน เป็นแบรนด์ที่ติดตลาดมายาวนาน ได้อุปกรณ์พร้อมขาย ฟรีการตลาด ฟรีออกแบบร้าน ราคาแฟรนไชส์พร้อมอุปกรณ์เปิดร้านเริ่มต้น 39,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- Phoenix Cha : แฟรนไชส์ฟินิกซ์ชา ชานมไข่มุก 19 บาท ได้กำไรต่อแก้ว 50-70% ราคาแฟรนไชส์พร้อมอุปกรณ์เปิดร้านเริ่มต้น 9,999 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- มีความสุข ชานมไข่มุกกระบอก : แฟรนไชส์ชานมไข่มุกที่มีแพ็กเกจจิ้งไม่เหมือนเจ้าไหน เพราะบรรจุมาในกระบอกที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ด้วย ราคาแฟรนไชส์พร้อมตกแต่งร้านเริ่มต้นประมาณ 250,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
3. แฟรนไชส์ไอศกรีม-ไอติมทอด
ไอศกรีม-ไอติมทอดก็ถือเป็นอีกหนึ่งประเภทแฟรนไชส์อาหารที่น่าสนใจในปีนี้ เนื่องจากเป็นของกินเล่นที่เด็กก็ชอบ ผู้ใหญ่ก็กิน เหมาะสำหรับทำขายตามแหล่งท่องเที่ยวและห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะบริเวณใกล้ ๆ สถานศึกษา
ตัวอย่างแฟรนไชส์ไอศกรีม-ไอติมทอด
- ไผ่ทองสเตชั่น : แฟรนไชส์จากแบรนด์ไอศกรีมรถเข็นไผ่ทอง ที่ขายไอศกรีมมานานกว่า 70 ปี มีจุดเด่นอยู่ที่ไอศกรีมกะทิที่ถูกปากคนไทย สามารถลงทุนแฟรนไชส์ได้ในราคาเริ่มต้น 45,500 บาท โดยมีอายุสัญญา 2 ปี (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- ICE Station : แฟรนไชส์ไอศกรีมโยเกิร์ตเกล็ดหิมะ ที่เน้นรสสตรอว์เบอร์รี แต่ก็มีรสอื่น ๆ ให้เลือกอีกเพียบ ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 4,900 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- Happy ไอติมทอด จัมโบ้ : แฟรนไชส์ไอศกรีมทอดที่มีขนาดใหญ่ถึง 4 นิ้ว รูปแบบแฟนซีการ์ตูน เหมาะกับทำขายตามแหล่งท่องเที่ยวและห้างสรรพสินค้า ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 2,999 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
4. แฟรนไชส์วาฟเฟิลฮ่องกง
วาฟเฟิลฮ่องกง อีกหนึ่งขนมที่กำลังได้รับความนิยม เด็ก ๆ ก็ชอบ ผู้ใหญ่ก็กิน เป็นของกินเล่นที่กินแล้วอิ่มอยู่ท้อง มีแฟรนไชส์ให้เลือกตั้งแต่ราคาเริ่มต้นหลักพันถึงหลักหมื่น
ตัวอย่างแฟรนไชส์วาฟเฟิลฮ่องกง
- เพนกวิน Waffle : แฟรนไชส์เพนกวินวาฟเฟิลฮ่องกงที่เปิดแล้วกว่า 900 สาขาทั่วประเทศ ทำง่าย ลงทุนน้อย คืนทุนไว ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 9,900 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- Sheep Waffle : แฟรนไชส์วาฟเฟิลฮ่องกง ลงทุนน้อย คืนทุนไว กำไรดี ขายในราคาแค่หลักสิบ แต่ได้กำไรต่อแผ่น 50% ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 2,990 บาท แต่ถ้าเป็นเซตปกติจะมีราคาเริ่มต้น 5,990 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- Little Egg Waffle Tea&Milk : แฟรนไชส์วาฟเฟิลฮ่องกงสูตรไข่ไก่สดเจ้าแรกของประเทศไทย มีขายทั้งวาฟเฟิลนมสด นมสดนมปั่น ชานมไข่มุก ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 29,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
5. แฟรนไชส์สุกี้
สุกี้เป็นอาหารที่คนนิยมชอบกินมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะเวลานัดสังสรรค์ หรือชวนกันไปกินทั้งครอบครัวและในกลุ่มเพื่อน หากมีงบน้อยอาจเลือกเปิดเป็นเคาน์เตอร์ หรือถ้างบหนา เลือกทำเลดี ๆ แล้วเปิดเป็นร้านบุฟเฟต์ไปเลยก็ไม่เลว
ตัวอย่างแฟรนไชส์สุกี้
- ลงหม้อสุกี้ : เป็นร้านบุฟเฟต์สุกี้ที่มีประสบการณ์ในวงการอาหารมามากกว่า 7 ปี ราคาแฟรนไชส์พร้อมตกแต่งร้านเริ่มต้น 1.3 ล้านบาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- สุกี้นายพัน : แฟรนไชส์สุกี้ที่มีทั้งแบบเคาน์เตอร์และแบบร้านบุฟเฟต์ คืนทุนไว กำไรดี ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 9,900 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- สุกี้กระทะร้อนฟู่เฉิงเยาวราช : แฟรนไชส์สุกี้กระทะร้อนที่มีน้ำจิ้มรสเด็ดที่ไม่เหมือนใคร มีเมนูหลากหลายทั้งของคาวและของกินเล่น ซึ่งทางร้านจะทำการตลาดออนไลน์ให้ด้วย โดยราคาแฟรนไชส์พร้อมอุปกรณ์เปิดร้านเริ่มต้น 150,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
6. แฟรนไชส์ชาบู
คงปฏิเสธไม่ได้ว่ายุคนี้คนนิยมกินชาบูกันเยอะมาก ร้านไหน ๆ ก็มีคนรอคิวแน่น จึงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจแฟรนไชส์อาหารที่น่าสนใจในปีนี้ โดยแฟรนไชส์ที่แนะนำก็มีทั้งแบบเป็นร้านขายชาบูแบบถ้วย ร้านชาบูบุฟเฟต์ หรือร้านชาบูที่สามารถ DIY เปลี่ยนบ้านเป็นร้านเองได้
ตัวอย่างแฟรนไชส์ชาบู
- วานิตะ ชาบูทูโก : มีทั้งชาบูแบบถ้วยและอาหารจานเดียวให้เลือก ไม่มีเก็บรายเดือน ไม่มีค่าแฟรนไชส์ และไม่มีแบ่งเปอร์เซ็นต์ยอดขาย ราคาอุปกรณ์พร้อมเปิดร้านเริ่มต้น 390,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- Shabu Indy : แฟรนไชส์ร้านชาบูบุฟเฟต์ ต้นตำรับชาบูสไตล์ไทย มีทีมงานช่วยบริหารจัดการร้าน แม้ไม่มีประสบการณ์ด้านร้านอาหารเลยก็สามารถเปิดร้านได้ ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 250,000 บาท อายุสัญญา 3 ปี (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- ไดโนชาบู : แฟรนไชส์ชาบูบุฟเฟต์ DIY แห่งแรกที่ให้เราเปลี่ยนบ้านเป็นร้านชาบูได้ง่าย ๆ เปิดร้านได้ทันที พร้อมจัดส่งอาหารสดและอาหารแช่แข็งให้ที่ร้านรวมกว่า 100 รายการ ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 30,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
7. แฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวเรือ
ก๋วยเตี๋ยวเรือก็ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจแฟรนไชส์ที่ทำกำไรได้ไม่ยาก ด้วยรสชาติอร่อยจัดจ้าน ถูกปากคนไทย ราคาขายต่อชามไม่แพง และหลายคนมักจะสั่งเบิ้ลตลอด โดยทั้ง 3 เจ้าดังที่เราแนะนำนี้ ใช้งบเริ่มต้นไม่ถึงแสนหรือแค่แสนกว่า ๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของร้านได้แล้ว
ตัวอย่างแฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวเรือ
- ก๋วยเตี๋ยวเรือปัญจะรส : แฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ดที่มีน้ำปรุงสำเร็จรูปไว้พร้อม สามารถควบคุมคุณภาพของก๋วยเตี๋ยวได้ พร้อมแนะนำการบริหารจัดการ รวมทั้งแหล่งวัตถุดิบและแรงงาน ราคาแฟรนไชส์พร้อมอุปกรณ์เปิดร้านเริ่มต้น 169,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- ก๋วยเตี๋ยวเรือสี่พระยา : แฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรเด็ด เครื่องแน่น มีสอนระบบจัดการร้าน การตลาดออนไลน์ เป็นที่ปรึกษาธุรกิจตลอดอายุสัญญา ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 99,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- ชามไม้ ก๋วยเตี๋ยวเรือ : แฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวเรือที่มีจุดเด่นเป็นชามไม้ มีเมนูมากมาย ทั้งหมูตุ๋น หมูสด และตับนุ่ม ๆ อยากกินติ่มซำและของหวานก็มี ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 95,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
8. แฟรนไชส์อาหารแช่แข็ง
อาหารแช่แข็งนั้นก็ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีกลุ่มลูกค้าหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคนทั่วไป เชฟ ร้านบุฟเฟต์ หรือร้านอาหารต่าง ๆ ก็มักจะซื้อของสดไปตุนไว้ใช้ประกอบการทำอาหารกัน
ตัวอย่างแฟรนไชส์อาหารแช่แข็ง
- TKC FreshShop : แฟรนไชส์ร้านค้าชุมชน มีขายทั้งหมูสด ไก่สด สินค้าแช่แข็ง สินค้าของแห้ง ครบวงจร สไตล์มินิมาร์ท ราคาแฟรนไชส์พร้อมตู้แช่และอุปกรณ์เปิดร้านเริ่มต้น 199,999 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- ศูนย์ค้าส่งอาหารแช่แข็ง-สด เจ้าสมุทรมหาชัย : แฟรนไชส์อาหารแช่แข็งที่มีทั้งแบบหน้าร้านเป็นซูเปอร์มาร์เกต และแบบระบบขายออนไลน์ ใช้เวลาคืนทุน 10-12 เดือน แพ็กเกจเริ่มต้นพร้อมอุปกรณ์เปิดธุรกิจอยู่ที่ 399,999 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- Chic Fresh : แฟรนไชส์อาหารแช่แข็งที่มีให้เลือกมากกว่า 100 รายการ หากลงทุนจะได้รับตู้แช่และอาหารแช่แข็งพร้อมขาย 150 แพ็ก สามารถนำไปขายต่อในราคา 3 แพ็ก 100 บาท ได้สบาย ๆ โดยลงทุนเริ่มต้นประมาณ 25,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
9. แฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ-ร้านสะดวกซัก
ธุรกิจแฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนในเมืองที่เร่งรีบ เหมาะสำหรับเปิดร้านในบริเวณที่มีหอพักหรืออพาร์ตเมนต์เยอะ ๆ รวมทั้งในย่านที่มีสถานศึกษา โดยใช้งบลงทุนเริ่มต้นประมาณ 1 ล้านบาทขึ้นไป
ตัวอย่างแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ-ร้านสะดวกซัก
- TANJAI WASH & DRY : แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก 24 ชั่วโมง ที่มีระบบการบริหารร้านค้า มีทีมงานคอยให้คำแนะนำ วิเคราะห์พื้นที่ ทำเล จุดคุ้มทุนในการลงทุน ซึ่งโดยเฉลี่ยจะใช้เวลาประมาณ 2-6 ปี ถึงจะคุ้มทุน รับประกันเครื่องจักรนาน 3 ปี มีบริการช่างซ่อมหลังการขาย ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 1,340,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- Code Clean : แฟรนไชส์ร้านสะดวกซักอัจฉริยะที่สามารถสั่งการซักอบผ้าผ่านแอปพลิเคชัน และสแกน QR CODE จ่ายเงินได้ มีโปรโมชั่นไม่เก็บค่าแฟรนไชส์ 3 ปี ฟรีค่าตกแต่งร้านพร้อมระบบต่าง ๆ และไม่เก็บค่า GP ตลอดสัญญา ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 1,700,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- Otterti wash & dry : แฟรนไชส์ร้านสะดวกซักที่มีมากกว่า 600 สาขาทั่วไทย มีทีมขายคอยให้คำปรึกษาและบริการหลังการขาย จึงไม่ต้องเหนื่อยทำการตลาดด้วยตัวเอง และมีระบบหลังบ้านที่สามารถเช็กรายได้ออนไลน์โดยไม่ต้องเข้าร้าน ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้นประมาณ 2,000,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
10. แฟรนไชส์ร้านทุกอย่าง 20 บาท
ใคร ๆ ก็ชอบของราคาถูก ทำให้ร้านทุกอย่าง 20 บาท ขายดิบขายดี เจาะตลาดคนได้ทุกกลุ่ม มีทั้งแบรนด์ที่ไม่ต้องซื้อแฟรนไชส์ แบรนด์ที่หาสินค้ามาเติมของเองได้ และแบรนด์ที่มีหลายแพ็กเกจ ให้เลือกทำธุรกิจได้ตามความต้องการ
ตัวอย่างแฟรนไชส์ร้านทุกอย่าง 20 บาท
- ดีจัง ทุกอย่าง 20 : แฟรนไชส์ร้านขายสินค้าทุกอย่าง 20 บาท ฟรีค่าแฟรนไชส์ ไม่มีค่าธรรมเนียมรายเดือน-รายปี ใช้งบลงทุนเริ่มต้น 50,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- ร้านเอโกะ : แฟรนไชส์ร้านเอโกะ ทุกอย่าง 20 บาท : มีการจัดร้านในสไตล์ญุี่ปุ่น ไม่มีค่าแฟรนไชส์ ทั้งรายเดือนและรายปี หาสินค้ามาเติมของเองก็ได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อจากที่ร้าน และสามารถเปลี่ยนสินค้าขายไม่ดีคืนได้ ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 59,900 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- นพรัตน์ 20 : แฟรนไชส์มีให้เลือก 6 แพ็กเกจ ตามขนาดพื้นที่ของร้าน เหมาะกับทั้งผู้ที่ทำธุรกิจทุกอย่าง 20 บาทอยู่แล้ว และผู้ที่ยังเป็นมือใหม่ ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 190,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการซื้อแฟรนไชส์จะช่วยประหยัดเวลา ประหยัดเงิน ช่วยลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ เพราะมีโมเดลต้นแบบเป็นสูตรสำเร็จอยู่แล้ว ไม่ต้องลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง แต่ก็อาจมีข้อจำกัดบางอย่างที่ต้องทำตามเงื่อนไขของแฟรนไชส์นั้น ๆ จึงจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบกันให้ดีก่อนตัดสินใจว่าแฟรนไชส์ใดที่ตอบโจทย์เรามากที่สุด
บทความที่เกี่ยวข้องกับแฟรนไชส์
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : เปิ่น กาแฟโบราณ, เพลินกรุง กาแฟรถโบราณ, กาแฟโบราณยกล้อ ตลาด 100 ปี, Chakuma Tea, Phoenix Cha, มีความสุข ชานมไข่มุกกระบอก, ไผ่ทองสเตชั่น, ICE Station, Happy ไอติมทอด จัมโบ้, เพนกวิน Waffle, Sheep Waffle, Little Egg Waffle Tea&Milk, แฟรนไชส์สุกี้ ลงหม้อสุกี้, สุกี้นายพัน, สุกี้กระทะร้อนฟู่เฉิงเยาวราช, วานิตะ ชาบูทูโก, Shabu Indy, ไดโนชาบู, ก๋วยเตี๋ยวเรือปัญจะรส, ก๋วยเตี๋ยวเรือสี่พระยา, ชามไม้ ก๋วยเตี๋ยวเรือ, TKC FreshShop, ศูนย์ค้าส่งอาหารแช่แข็ง-สด เจ้าสมุทรมหาชัย, Chic Fresh, TANJAI WASH & DRY, Code Clean, Otterti wash & dry, ดีจัง ทุกอย่าง 20, ร้านเอโกะ, นพรัตน์ 20