ประกันสังคมเยียวยาน้ำท่วม มาตราไหนได้เท่าไหร่ เช็กขั้นตอนรับเงินช่วยเหลือ

          ประกันสังคมเยียวยาน้ำท่วมเท่าไหร่ ใครได้รับเงินช่วยเหลือบ้าง มาเช็กสิทธิประกันสังคม ของตัวเอง หากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้
ประกันสังคมเยียวยาน้ําท่วม

          อุทกภัยครั้งใหญ่ในภาคใต้ โดยเฉพาะน้ำท่วมหาดใหญ่ ได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาล ทั้งต่อบ้านเรือน สถานที่ราชการ และภาคธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งหลายแห่งต้องปิดทำการเพื่อรอการฟื้นฟู ทำให้ลูกจ้างจำนวนไม่น้อยต้องหยุดงานโดยไม่ตั้งใจ ขณะที่ประชาชนอีกส่วนหนึ่งต้องสูญเสียชีวิตจากภัยพิบัติในครั้งนี้

          อย่างไรก็ตาม หากใครเป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม และได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม ครั้งนี้ ยังคงสามารถยื่นขอรับเงินชดเชยจากสิทธิประโยชน์ในกรณีต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น มาติดตามรายละเอียดกันว่า ผู้ประกันตนแต่ละมาตราจะได้รับความช่วยเหลืออย่างไรบ้าง

เงินชดเชยกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย

ประกันสังคมว่างงาน

ใครขอรับเงินชดเชยกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยได้บ้าง

          ผู้ขอรับสิทธิต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เท่านั้น เนื่องจากสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานจะครอบคลุมเฉพาะผู้ประกันตนกลุ่มนี้ สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 ปกติจะไม่มีสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน

ได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยเท่าไหร่

          หากผู้ประกันตนมาตรา 33 ไม่สามารถทำงานหรือสถานประกอบการได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ไม่สามารถเปิดทำการได้ จะได้รับเงินช่วยเหลือกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย 50% ของค่าจ้างรายวัน สูงสุดไม่เกิน 180 วัน (6 เดือน) 

          เช่น ถ้าเรามีฐานเงินเดือนตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป ก็จะได้รับเงินชดเชยเดือนละ 7,500 บาท เป็นเวลา 6 เดือน

วิธีลงทะเบียนกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย

 

          เตรียมหลักฐานและเอกสารต่าง ๆ เพื่อยื่นเรื่องขอรับสิทธิประโยชน์ว่างงานสุดวิสัย ดังนี้

     1. แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน สปส.2-01/7 (ดาวน์โหลดได้ ที่นี่)

     2. แบบหนังสือรับรองการขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน เนื่องจากเหตุสุดวิสัยและคำรับรองของนายจ้าง (ดาวน์โหลดได้ ที่นี่)

     3. ภาพถ่ายสถานที่เกิดเหตุของสถานประกอบการ (ถ้ามี)

     4. บัญชีเงินฝากที่ผูกพร้อมเพย์ (PromptPay) ด้วยเลขประจำตัวประชาชน หรือสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ประเภทออมทรัพย์หน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชีที่เป็นชื่อของผู้ประกันตน

 

ยื่นเอกสารได้ที่ไหน

          ผู้ประกันตนที่ประสบเหตุทำให้ว่างงานจากเหตุสุดวิสัย สามารถยื่นคำขอฯ ได้ที่สำนักงานประกันสังคมทุกแห่ง ยกเว้นสำนักงานใหญ่บริเวณกระทรวงสาธารณสุข โดยต้องยื่นคำขอฯ ภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน

เงินชดเชยกรณีเสียชีวิต

ประกันสังคม เงินเสียชีวิต

ใครขอรับเงินชดเชยกรณีเสียชีวิตได้บ้าง

          ทายาทของผู้ประกันตนมาตรา 33, มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่เสียชีวิต

ประกันสังคมให้เงินชดเชยกรณีเสียชีวิตเท่าไหร่

ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39

  • เงินค่าทำศพ จำนวน 50,000 บาท

  • เงินบำเหน็จชราภาพ พร้อมผลตอบแทน

  • เงินสงเคราะห์กรณีตาย สำหรับผู้ประกันตนที่มีการส่งเงินสมทบไม่น้อยกว่า 36 เดือนขึ้นไป

    • ส่งเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 36 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 120 เดือน ได้รับอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง คูณ 4 (เช่น หากมีฐานเงินเดือนตั้งแต่ 15,000 บาท จะได้รับเงินสงเคราะห์ 7,500x4 = 30,000 บาท)

    • ส่งเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 120 เดือนขึ้นไป ได้รับอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง คูณ 12 (เช่น หากมีฐานเงินเดือนตั้งแต่ 15,000 บาท จะได้รับเงินสงเคราะห์ 7,500x12 = 90,000 บาท)

ผู้ประกันตนมาตรา 40

  • ผู้ประกันตน ทางเลือกที่ 1 (จ่ายเดือนละ 70 บาท) ทายาทจะได้รับเงินชดเชย ดังนี้

    • ค่าทำศพ 25,000 บาท 

    • กรณีที่ส่งเงินสมทบมาแล้ว 60 เดือน ก่อนเสียชีวิต ได้รับเงินเพิ่มอีก 8,000 บาท 

  • ผู้ประกันตน ทางเลือกที่ 2 (จ่ายเดือนละ 100 บาท) ทายาทจะได้รับเงินชดเชย ดังนี้

    • ค่าทำศพ 25,000 บาท 

    • กรณีที่ส่งเงินสมทบมาแล้ว 60 เดือน ก่อนเสียชีวิต ได้รับเงินเพิ่มอีก 8,000 บาท 

    • เงินบำเหน็จชราภาพสะสมและผลตอบแทน

  • ผู้ประกันตน ทางเลือกที่ 3 (จ่ายเดือนละ 300 บาท) ทายาทจะได้รับเงินชดเชย ดังนี้

    • ค่าทำศพ 50,000 บาท 

    • เงินบำเหน็จชราภาพสะสมและผลตอบแทน 

    • กรณีที่ส่งเงินสมทบมาแล้ว 180 เดือน ก่อนเสียชีวิต จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเพิ่มอีก 10,000 บาท 

          นอกจากนี้ หากผู้ประกันตนเสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมหาดใหญ่ ยังสามารถขอรับเงินปลงศพผู้เสียชีวิตจากภาครัฐได้รายละ 2 ล้านบาท (รอประกาศเงื่อนไขการรับเงิน)

เอกสารที่ต้องใช้

เอกสารที่ใช้กรณีขอรับค่าทำศพ

  • แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีตาย (สปส. 2-01) (ดาวน์โหลดได้ ที่นี่ )    

  • บัตรประจำตัวประชาชนของผู้จัดการศพ 

  • หลักฐานจากฌาปนสถานหรือมัสยิดที่แสดงว่าเป็นผู้จัดการศพ     

  • สำเนาใบมรณบัตรพร้อมตัวจริง     

  • สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชี (กรณีขอรับเงินทางธนาคาร) ผ่านทางบัญชีธนาคารของผู้จัดการศพ (ใช้ได้ 9 ธนาคาร คือ พร้อมเพย์ที่ลงทะเบียนด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือ ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารทหารไทยธนชาต, ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารซีไอเอ็มบีไทย) 

เอกสารที่ใช้กรณีขอรับเงินสงเคราะห์กรณีตาย

  • แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีตาย (สปส. 2-01) (ดาวน์โหลดได้ ที่นี่ )    

  • บัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ตาย/ผู้มีสิทธิ    

  • สำเนาทะเบียนสมรสของผู้ประกันตนและของบิดามารดาของผู้ประกันตน (ถ้ามี)      

  • สำเนาสูติบัตรของบุตร หรือ สำเนาทะเบียนบ้านของบุตรกรณีไม่มีสูติบัตร      

  • หนังสือระบุให้เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์กรณีตาย (ถ้ามี)

กรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมารับแทน 

ต้องใช้เอกสารเพิ่มเติมดังนี้

  • หนังสือมอบอำนาจ      

  • บัตรประจำตัวประชาชน ฉบับจริงของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ      

  • หนังสือแจ้งผลการพิจารณาจากสำนักงานประกันสังคม

วิธียื่นเรื่องขอรับเงินชดเชยกรณีเสียชีวิต

1. เตรียมเอกสารให้ครบ

2. ผู้จัดการศพ/ผู้มีสิทธิกรอกแบบ สปส. 2-01 พร้อมลงลายมือชื่อ

3. นำเอกสารมายื่นที่ใดที่หนึ่ง ดังนี้

  • สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่

  • สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขา 

  • ยื่นขอรับทางไปรษณีย์ พร้อมส่งหลักฐานให้ครบถ้วน

4. เจ้าหน้าที่ตรวจหลักฐานและพิจารณาอนุมัติ

5. สำนักงานประกันสังคมมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา โดยสั่งจ่ายเงินผ่านช่องทางดังนี้

  • เงินสด/เช็ค (ผู้มีสิทธิมาขอรับด้วยตนเองหรือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมารับแทน)

  • ส่งธนาณัติให้ผู้มีสิทธิ

  • โอนเข้าบัญชีธนาคารตามบัญชีของผู้ขอรับประโยชน์ทดแทน (กรณีขอรับเงินทางธนาคาร) ผ่านทางบัญชีธนาคารของผู้ประกันตน หรือบัญชีพร้อมเพย์ที่ลงทะเบียนด้วยเลขประจำตัวประชาชน

สินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงานระยะที่ 3

ประกันสังคมช่วยน้ำท่วม

ภาพจาก : สำนักงานประกันสังคม

          สำหรับผู้ประกอบการหรือนายจ้างที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมภาคใต้ สามารถขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับสถานประกอบการ เพื่อรักษาการจ้างงานได้ในวงเงินสินเชื่อตั้งแต่ 15 ล้านบาท สูงสุด 50 ล้านบาท (ขึ้นอยู่กับขนาดของธุรกิจ) 

กรณีมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน

  • อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก สูงสุดไม่เกินร้อยละ 2.35 ต่อปี

กรณีไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน

  • อัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกินร้อยละ 4.75 ต่อปี

เงื่อนไข

  • ต้องเป็นสถานประกอบการที่จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือนติดต่อกัน ก่อนเข้าร่วมโครงการ

  • นายจ้างต้องรักษาการจ้างงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ในช่วง 3 ปีแรกของสัญญา

          ทั้งนี้ หากใครมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมภาคใต้ สามารถติดต่อสำนักงานประกันสังคมในพื้นที่ หรือ โทร. สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 9 ฟรี 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ (เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2568)

บทความที่เกี่ยวข้องกับประกันสังคม

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : สำนักงานประกันสังคม (1)(2)(3)ThaiPBS
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ประกันสังคมเยียวยาน้ำท่วม มาตราไหนได้เท่าไหร่ เช็กขั้นตอนรับเงินช่วยเหลือ โพสต์เมื่อ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 18:04:49 5,402 อ่าน
TOP
x close