Bitcoin ETF คืออะไร ในไทยสามารถลงทุนได้ไหม ต้องซื้อยังไง ?

           Bitcoin ETF คืออะไร ต่างจากการเทรดบิตคอยน์ไหม ในประเทศไทยสามารถลงทุนได้หรือยัง แล้วจะซื้อ-ขายได้ด้วยวิธีไหนบ้าง มาหาคำตอบกัน
Bitcoin ETF

           หลังจากเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2567 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสหรัฐอเมริกา (SEC) หรือ ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ ไฟเขียวให้สามารถจัดตั้งกองทุนซื้อ-ขายแลกเปลี่ยน Bitcoin (ETFs) ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ ทำให้หลายคนเกิดความสนใจขึ้นมาว่า Bitcoin ETF คืออะไร สามารถลงทุนได้อย่างไร แล้วในประเทศไทยอนุมัติหรือยัง วันนี้มาทำความเข้าใจข้อมูลเบื้องต้นกันก่อน

ETF คืออะไร

          ก่อนอื่นต้องรู้จักคำว่า ETF กันก่อน คำนี้ย่อมาจาก Exchange Traded Fund เป็นกองทุนรวมดัชนีที่จดทะเบียนซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยเราสามารถซื้อ-ขาย ETF ได้ตลอดทั้งวันเหมือนหุ้นตัวหนึ่งที่เทรดในตลาด

          ทั้งนี้ ETF จะมีนโยบายสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของดัชนี หรือราคาของสินทรัพย์ที่กองทุนใช้อ้างอิง เรียกว่าเป็นกองทุนแบบ Passive โดยจะได้รับผลตอบแทนจากกำไรของส่วนต่างราคาซื้อ-ขาย (Capital Gain) และเงินปันผล (Dividend)

Bitcoin ETF คืออะไร

bitcoin etf คืออะไร

           เมื่อเข้าใจคำว่า ETF แล้วก็คงทราบทันทีว่า Bitcoin ETF นั้นก็คือ กองทุนรวมที่ใช้เหรียญบิตคอยน์เป็นหลักทรัพย์อ้างอิงนั่นเอง โดยกองทุนเหล่านี้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ซึ่ง Bitcoin ETF แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

1. Spot Bitcoin ETF

          คือ ETF ที่ ก.ล.ต.สหรัฐอเมริกาเพิ่งอนุมัติในปี 2567 โดยเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับราคาของเหรียญ Bitcoin อ้างอิงตามมูลค่า ณ เวลานั้น ๆ

          เช่น เมื่อเราสั่งซื้อ Bitcoin ETF ผู้ขายกองทุนก็จะไปซื้อเหรียญ Bitcoin ในตลาดคริปโทมาเก็บไว้ ดังนั้น ผู้ที่ซื้อ Spot Bitcoin ETF ก็เท่ากับถือเหรียญ Bitcoin ในตลาดคริปโทเคอร์เรนซีไว้โดยไม่ต้องถือครองเอง

2. Future Bitcoin ETF

           เป็นการลงทุนในสัญญาซื้อ-ขายล่วงหน้าที่อิงกับราคาของเหรียญบิตคอยน์ เปรียบเสมือนการเดิมพันกับราคาในอนาคตของบิตคอยน์ว่าจะขึ้นหรือลง จึงไม่ใช่การลงทุนซื้อเหรียญบิตคอยน์โดยตรง แต่เป็นการซื้อราคาผ่านสัญญา และต้องวางหลักประกันก่อนซื้อ ซึ่งกองทุนลักษณะนี้ทาง ก.ล.ต.สหรัฐอเมริกาได้อนุมัติให้มีการเทรดมาตั้งแต่ปี 2564

Bitcoin ETF มีตัวไหนบ้าง

          จากข้อมูล ณ วันที่ 12 มกราคม 2567 ทาง ก.ล.ต.สหรัฐฯ ได้อนุมัติกองทุน ETF แล้ว 11 รายการ ได้แก่

  1. ARK 21 Shares Bitcoin Fund (ARKB)

  2. Bitwise Bitcoin ETF (BITB)

  3. Valkyrie Bitcoin Fund (BRRR)

  4. Invesco Galaxy Bitcoin ETF (BTCO)

  5. WisdomTree Bitcoin Fund (BTCW)

  6. Hashdex Bitcoin ETF (DEFI)

  7. Franklin Bitcoin ETF (EZBC)

  8. Fidelity Wise Origin Bitcoin Fund (FBTC)

  9. Grayscale Bitcoin Trust (GBTC)

  10. VanEck Bitcoin Trust (HODL)

  11. BlackRock iShares Bitcoin Trust (IBIT)

ข้อดีของ Bitcoin ETF
ต่างจากเทรดบิตคอยน์อย่างไร

บิทคอยน์ ETF

ภาพจาก : Rokas Tenys/Shutterstock

          การลงทุนใน Bitcoin ETF แตกต่างจากการซื้อเหรียญบิตคอยน์ในกระดานเทรดโดยตรง ดังนี้

  • กองทุนรวม Bitcoin ETF มีการจดทะเบียน และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานรัฐ จึงมีความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยมากกว่าการเทรดบิตคอยน์โดยตรง 

  • ลงทุนได้โดยไม่ต้องเปิดบัญชีกับศูนย์ซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) ให้ยุ่งยากเหมือนการเทรดคริปโทเคอร์เรนซีทั่วไป

  • ซื้อ-ขายบนตลาดหลักทรัพย์ได้ง่ายตามเวลาเปิด-ปิดของตลาดหลักทรัพย์ เช่นเดียวกับการซื้อ-ขายหุ้นปกติ  

  • เปิดโอกาสให้นักลงทุนที่ไม่กล้าลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม เป็นการกระจายความเสี่ยงการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่หลากหลาย

  • ไม่ต้องจัดการเรื่องการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลด้วยตัวเอง

  • ไม่ต้องมีกระเป๋าเงินคริปโท (Wallet) จึงช่วยลดความยุ่งยากในการจัดเก็บรักษาเหรียญผ่านวอลเล็ตด้วยตัวเอง และช่วยลดความกังวลเรื่องการถูกโจรกรรมทางไซเบอร์

  • มีผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) คอยเสนอราคาซื้อ-ขาย (Bid-Offer) ระหว่างวัน จึงได้ราคาที่สอดคล้องกับการขึ้น-ลงของดัชนีอ้างอิงอยู่เสมอ

          ทั้งนี้ การที่นักลงทุนเข้าถึงบิตคอยน์ได้ง่ายขึ้นผ่าน Bitcoin ETF จะช่วยดึงดูดเม็ดเงินและเพิ่มสภาพคล่องการลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซีอย่างมาก ซึ่งย่อมมีผลต่อราคาซื้อ-ขายในกระดานจริงไปโดยปริยาย

ข้อพิจารณาของ Bitcoin ETF

          การลงทุนใน Bitcoin ETF ก็ไม่ต่างจากการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี จึงมีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาก่อนลงทุน เช่น

  • มูลค่ากองทุน Bitcoin ETF อาจเพิ่มขึ้นหรือลดลง ผันผวนได้อย่างรุนแรงตามราคาของ Bitcoin  

  • กองทุน Bitcoin ETF อาจไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ใกล้เคียงหรือเท่ากับผลตอบแทนของดัชนีอ้างอิง

  • มีความผันผวนในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน (กรณีไม่ได้ใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ)

  • ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน เพราะแต่ละกองทุนมีกลยุทธ์และนโยบายในการลงทุนแตกต่างกัน 

  • การลงทุนผ่าน Bitcoin ETF ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการบริหารกองทุนเพิ่มเติม ต่างจากการซื้อ-ขายบิตคอยน์ผ่านศูนย์ซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง

  • สามารถซื้อ-ขาย Bitcoin ETF ได้เฉพาะบางประเทศเท่านั้น

Bitcoin ETF อนุมัติในประเทศไทยหรือยัง ?

Bitcoin ETF ซื้อยังไง

ภาพจาก : Rokas Tenys/Shutterstock

          ปัจจุบันในปี 2567 ยังมีเพียงประเทศแคนาดา สหรัฐอเมริกา ประเทศในละตินอเมริกาและยุโรปบางประเทศ ที่สามารถลงทุน Bitcoin ETF ได้ถูกต้องตามกฎหมาย

          สำหรับในประเทศไทยยังไม่ได้มีการอนุมัติให้จัดตั้งกองทุน ETF ที่อ้างอิงสินทรัพย์ดิจิทัล โดย ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีอยู่ 5 ประเภท คือ

     1. Equity ETF / Index ETF มุ่งสร้างผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีราคาหุ้นในประเทศ เช่น ETF ที่อ้างอิงดัชนี SET50 คือการซื้อหุ้นทั้ง 50 ตัวในสัดส่วนเดียวกับที่อยู่ในดัชนี SET50

     2. Sector ETF มุ่งสร้างผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีราคาหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น อ้างอิงจากหุ้นกลุ่มธนาคาร หุ้นกลุ่มพลังงาน เป็นต้น

     3. Foreign ETF มุ่งสร้างผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีราคาหุ้นต่างประเทศ

     4. Bond ETF มุ่งสร้างผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีราคาตราสารหนี้

     5. Gold ETF มุ่งสร้างผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีราคาทองคำ

คนไทยจะลงทุน Bitcoin ETF ได้อย่างไร ?

          หากเราต้องการลงทุนใน Bitcoin ETF ก็จะต้องเปิดบัญชีในบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศที่อนุมัติการลงทุน Bitcoin ETF แล้ว เช่น แคนาดา สหรัฐอเมริกา

         สำหรับการลงทุน Bitcoin ETF ในประเทศไทยนั้น เดิมทางแอปพลิเคชัน InnovestX และแอปพลิเคชัน Dime! เคยเปิดให้เทรด แต่ภายหลังได้ยกเลิกการเปิดให้นักลงทุนรายย่อยซื้อ Bitcoin ETF แล้วตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567 ที่ระบุว่า Spot Bitcoin ETF เป็นหลักทรัพย์ที่ยังไม่สามารถออกเสนอขายในประเทศไทยได้

           แม้การลงทุนใน Bitcoin ETF ในต่างประเทศจะมีหน่วยงานกำกับดูแล แต่ก็ยังถือเป็นการลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนของราคาสูงมาก ดังนั้น ย่อมมีโอกาสทำกำไรและขาดทุนได้ไม่ต่างกัน จึงควรศึกษาข้อมูลและพิจารณาอย่างรอบด้าน พร้อมประเมินความเสี่ยงของตัวเองก่อนตัดสินใจลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซี

ขอบคุณข้อมูลจาก : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (1), (2), Zipmax, cnnสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Bitcoin ETF คืออะไร ในไทยสามารถลงทุนได้ไหม ต้องซื้อยังไง ? อัปเดตล่าสุด 17 มกราคม 2567 เวลา 15:19:26 43,347 อ่าน
TOP
x close