ภาษีครึ่งปี ใครขายของออนไลน์ เป็นยูทูบเบอร์ ทำธุรกิจส่วนตัว ขายกองทุน LTF-RMF หรือมีรายได้อื่น ๆ นอกจากเงินเดือนในช่วงครึ่งปีแรก ต้องยื่น ภ.ง.ด.94 ด้วยนะ
หลายคนคงจะคุ้นเคยกับการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี (ภ.ง.ด.90 และ ภ.ง.ด.91) ซึ่งจะยื่นในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน ของปีถัดไป เป็นอย่างดี แต่มีใครรู้ไหมว่าสำหรับคนที่มีรายได้จากทางอื่น ๆ นอกเหนือจากเงินเดือนประจำ ยังต้องมีการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี หรือ ภ.ง.ด.94 อีกด้วยนะ คงจะสงสัยแล้วสิว่า แบบนี้เราต้องยื่นภาษีครึ่งปีด้วยหรือเปล่า แล้วใครบ้างที่มีหน้าที่ต้องยื่น วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปคลายข้อสงสัย และทำความรู้จักกับภาษีครึ่งปีกัน
ใครต้องยื่นภาษีครึ่งปีบ้าง
การยื่นภาษีครึ่งปีจะทำได้ก็ต่อเมื่อเรามีรายได้เกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก คือ นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึง 30 มิถุนายน ของปีนั้น ๆ เกินกว่าอัตราที่กำหนดคือ
- กรณีโสด มีรายได้ครึ่งปีมากกว่า 60,000 บาท
- กรณีมีคู่สมรส ต้องมีรายได้รวมกันมากกว่า 120,000 บาท
และที่สำคัญก็คือต้องเป็นรายได้ที่มาจากเงินได้ประเภทที่ 5, 6, 7 และ 8 ตามประมวลรัษฎากร จึงเข้าข่ายต้องยื่นภาษีครึ่งปี
รายได้ประเภทไหนต้องยื่นภาษีครึ่งปี
ค่าเช่า (เงินได้ประเภทที่ 5)
ทั้งนี้ สามารถนำรายได้จากค่าเช่ามาหักค่าใช้จ่ายได้ คือ
- ค่าเช่าบ้าน อาคาร ตึก สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น แพ : หักค่าใช้จ่ายได้ 30% หรือหักตามจริง
- ค่าเช่าที่ดินที่ใช้ในการทำเกษตรกรรม : หักค่าใช้จ่ายได้ 20% หรือหักตามจริง
- ค่าเช่าที่ดินที่ไม่ใช้ในการทำเกษตรกรรม : หักค่าใช้จ่ายได้ 15% หรือหักตามจริง
- ค่าเช่ายานพาหนะ : หักค่าใช้จ่ายได้ 30% หรือหักตามจริง
- ค่าเช่าทรัพย์สินอื่น ๆ : หักค่าใช้จ่ายได้ 10% หรือหักตามจริง
- ค่าเช่าบ้าน อาคาร ตึก สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น แพ : หักค่าใช้จ่ายได้ 30% หรือหักตามจริง
- ค่าเช่าที่ดินที่ใช้ในการทำเกษตรกรรม : หักค่าใช้จ่ายได้ 20% หรือหักตามจริง
- ค่าเช่าที่ดินที่ไม่ใช้ในการทำเกษตรกรรม : หักค่าใช้จ่ายได้ 15% หรือหักตามจริง
- ค่าเช่ายานพาหนะ : หักค่าใช้จ่ายได้ 30% หรือหักตามจริง
- ค่าเช่าทรัพย์สินอื่น ๆ : หักค่าใช้จ่ายได้ 10% หรือหักตามจริง
ค่าวิชาชีพอิสระ (เงินได้ประเภทที่ 6)
อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะว่า "วิชาชีพอิสระ" คือคนที่ทำฟรีแลนซ์ แต่วิชาชีพอิสระ ประกอบด้วย 6 สาขานี้เท่านั้น ได้แก่ แพทย์/พยาบาลที่มีใบประกอบโรคศิลปะ, นักกฎหมาย, วิศวกร, สถาปนิก, นักบัญชี และช่างประณีตศิลป์ โดยเงินได้ที่ต้องยื่นภาษี จะอยู่ในรูปของค่าตอบแทนจากการประกอบวิชาชีพอิสระที่มีจำนวนไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับปริมาณหรือความยากง่าย หรือสรุปง่าย ๆ คือเป็นรายได้อื่น ๆ ที่เกิดจากการใช้ความรู้ในวิชาชีพ และไม่ใช่เงินเดือนประจำนั่นเอง
เหตุผลที่ต้องเป็น 6 วิชาชีพอิสระนี้ เนื่องจากเป็นการจ่ายตามความยากง่ายของผลงานที่รับจ้าง ไม่เหมือนเงินเดือนทั่วไป โดยแต่ละวิชาชีพสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ ดังนี้
- แพทย์ประกอบโรคศิลปะ : หักค่าใช้จ่ายได้ 60% หรือหักตามจริง
- นักกฎหมาย, วิศวกร, สถาปนิก, นักบัญชี และช่างประณีตศิลป์ : หักค่าใช้จ่ายได้ 30% หรือหักตามจริง
- นักกฎหมาย, วิศวกร, สถาปนิก, นักบัญชี และช่างประณีตศิลป์ : หักค่าใช้จ่ายได้ 30% หรือหักตามจริง
ค่ารับเหมาทั้งค่าแรงและค่าของ (เงินได้ประเภทที่ 7)
เงินได้จากการทำธุรกิจและเงินได้อื่น ๆ ที่ไม่เข้าพวก (เงินได้ประเภทที่ 8)
คือ เงินได้ที่มาจากการทำธุรกิจ และเงินได้ที่ไม่เข้ากลุ่มไหนเลยในเงินได้ทั้ง 7 ประเภท เช่น
- เงินที่ได้มาจากการประกอบธุรกิจในนามบุคคลธรรมดา เช่น เปิดร้านขายอาหาร ร้านขายของ ร้านตัดผม หรือขายของออนไลน์ เป็นยูทูบเบอร์ บล็อกเกอร์ สตรีมเมอร์
- รายได้จากการเป็นนักร้อง นักแสดง ดารา
- รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมรดก
- เงินปันผลที่ได้จากกองทุนรวม
- เงินที่ขายกองทุนรวม LTF หรือ RMF เช่น ถ้าขายกองทุน LTF หรือ RMF ไปในช่วงเดือมกราคม-มิถุนายน หากจำนวนเงินที่ได้รับเกินเกณฑ์ที่กำหนดก็ต้องยื่นภาษีด้วยเช่นกัน แม้ว่าการขาย LTF หรือ RMF จะถูกเงื่อนไข
- รายได้จากการเป็นนักร้อง นักแสดง ดารา
- รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมรดก
- เงินปันผลที่ได้จากกองทุนรวม
- เงินที่ขายกองทุนรวม LTF หรือ RMF เช่น ถ้าขายกองทุน LTF หรือ RMF ไปในช่วงเดือมกราคม-มิถุนายน หากจำนวนเงินที่ได้รับเกินเกณฑ์ที่กำหนดก็ต้องยื่นภาษีด้วยเช่นกัน แม้ว่าการขาย LTF หรือ RMF จะถูกเงื่อนไข
โดยสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ดังนี้
- นักแสดงสาธารณะ : เงินได้ไม่เกิน 300,000 บาท หัก 60% แต่ถ้าเงินได้เกิน 300,000 บาท หัก 40% และรวมหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้ไม่เกิน 600,000 บาท
- ร้านอาหาร การทำเกษตรกรรม ขนส่ง การทำอุตสาหกรรม การทำพาณิชย์ ขายของออนไลน์ และรายได้อื่น ๆ : หักค่าใช้จ่ายได้ 60% หรือหักตามจริง
ส่วนใครที่มีเงินได้ที่มาจากทางอื่น ๆ นอกเหนือจากเงินได้ 4 ประเภทที่บอกมานั้น ไม่ว่าจะเป็น เงินเดือน ค่าจ้างทั่วไป ค่าลิขสิทธิ์ ดอกเบี้ยและเงินปันผล แม้จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกก็ตาม สบายใจได้เพราะไม่ต้องมีหน้าที่ไปยื่นภาษีครึ่งปีให้ยุ่งยาก รอยื่นทีเดียวได้ตอนปลายปีเลย
ยื่นภาษีครึ่งปี 2567 ได้ถึงเมื่อไร
โดยปกติแล้ว ภาษีครึ่งปีจะเปิดให้ยื่นวันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 30 กันยายน ของทุกปี แต่หากยื่นผ่านระบบอินเทอร์เน็ต จะขยายระยะเวลาออกไปอีก 8 วัน
ลดหย่อนภาษีครึ่งปีได้หรือไม่
เป็นอีกจุดหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ สำหรับการยื่นภาษี นั่นคือ "ค่าลดหย่อน" เพราะเป็นสิทธิประโยชน์ที่ช่วยทำให้เราเสียภาษีน้อยลง หรืออาจจะไม่ต้องเสียเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นเรามาดูกันดีกว่ามีรายการอะไรบ้างที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปีได้ ซึ่งการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในช่วงครึ่งปี สามารถแบ่งรูปแบบการลดหย่อนภาษีให้เข้าใจง่าย ๆ ได้เป็น 3 กลุ่มตามนี้
1. กลุ่มที่ลดหย่อนได้ครึ่งเดียวของการใช้สิทธิเต็มปี
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ลดหย่อนได้ 30,000 บาท (เต็มปี 60,000 บาท)
- คู่สมรสไม่มีเงินได้ หรือมีเงินได้เฉพาะมาตรา 40 (1)-(4) ลดหย่อนได้ 30,000 บาท (เต็มปี 60,000 บาท)
- คู่สมรสมีเงินได้ มาตรา 40 (5)-(8) ถ้าคำนวณภาษีรวมกัน นำไปหักลดหย่อนส่วนตัวได้ 30,000 บาท และหักลดหย่อนคู่สมรสของผู้มีเงินได้ 30,000 บาท แต่ถ้าแยกกันยื่นภาษี ให้ต่างฝ่ายต่างหักลดหย่อนส่วนตัวฝ่ายละ 30,000 บาท แต่จะหักลดหย่อนส่วนของคู่สมรสอีกไม่ได้
- ค่าเลี้ยงดูบุตร ได้คนละ 15,000 บาท (เต็มปี 30,000 บาท)
- ค่าเลี้ยงดูบิดามารดา ได้คนละ 15,000 บาท (เต็มปี 30,000 บาท)
- ค่าเลี้ยงดูบิดามารดาของคู่สมรสที่ไม่มีเงินได้ ได้คนละ 15,000 บาท (เต็มปี 30,000 บาท)
- ค่าเลี้ยงดูผู้พิการหรือทุพพลภาพ ได้คนละ 30,000 บาท (เต็มปี 60,000 บาท)
2. ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงในช่วงครึ่งปีแรก แต่ยอดลดหย่อนสูงสุดจะน้อยกว่าแบบเต็มปี
กลุ่มนี้จะเป็นการลดหย่อนโดยใช้เบี้ยประกันชีวิต และลดหย่อนจากดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งทั้ง 2 ส่วนสามารถใช้สิทธิได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 95,000 บาท ซึ่งน้อยกว่าแบบเต็มปีที่ลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาท
3. ลดหย่อนได้สูงสุดตามที่จ่ายจริงในช่วงครึ่งปีแรก และยอดลดหย่อนสูงสุดเท่ากับแบบเต็มปี
- ซื้อกองทุนรวม SSF ได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีช่วงครึ่งปีแรก และไม่เกิน 200,000 บาท
- ซื้อกองทุน RMF, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ, กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีช่วงครึ่งปีแรก และไม่เกิน 500,000 บาท
- เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีช่วงครึ่งปีแรก และไม่เกิน 200,000 บาท ซึ่งเมื่อรวมกับเงินลงทุนใน RMF, เงินกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, เงินสะสมกองทุนการออมแห่งชาติ และกองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท
- เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา ได้ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 15,000 บาท
- เงินประกันสังคม ได้ตามที่จ่ายจริง
- เงินบริจาคเพื่อการศึกษา การกีฬา การพัฒนาสังคม ลดหย่อนได้ 2 เท่าของเงินบริจาค แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน
- เงินบริจาคทั่วไป ลดหย่อนตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อ
ยื่นภาษีออนไลน์ ภาษีครึ่งปี 2567 ได้อย่างไร
สามารถยื่นภาษีครึ่งปีผ่านออนไลน์ได้ โดย
- เข้าเว็บไซต์ https://efiling.rd.go.th/rd-cms/ ของกรมสรรพากร
- ล็อกอินเข้าสู่ระบบ หรือสมัครสมาชิกเพื่อเข้าสู่ระบบ
- เลือกยื่นแบบ ภ.ง.ด.94
- กรอกข้อมูลรายได้ รวมทั้งค่าลดหย่อนภาษีต่าง ๆ ที่เรามี
- ตรวจสอบข้อมูลภาษีที่จ่ายไปแล้ว หรือต้องชำระเพิ่ม
- กดบันทึกร่าง
- กดยืนยันการยื่นแบบ
ทั้งนี้ การยื่นภาษีครึ่งปีผ่านออนไลน์จะใช้วิธีเดียวกับการยื่นภาษีประจำปี ซึ่งสามารถศึกษาขั้นตอนการยื่นภาษีออนไลน์ทั้งหมดได้ที่นี่ >> ขั้นตอนยื่นภาษีออนไลน์ ง่าย ๆ มือใหม่ก็ทำได้
ยื่นภาษีครึ่งปีแล้ว ต้องยื่นภาษีปลายปีอีกไหม
แม้ว่าเราจะได้ยื่นภาษีครึ่งปีกันไปแล้ว แต่เมื่อถึงเวลายื่นภาษีประจำปีในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม ก็ยังคงต้องมีหน้าที่ไปยื่นแบบแสดงภาษีเงินได้ส่วนบุคคลประจำปีเหมือนเดิม โดยจะเป็นการสรุปเงินได้ที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี ไม่ใช่ยื่นแค่เงินได้ที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนะ ดูขั้นตอนการยื่นภาษีส่วนบุคคลได้ที่นี่
โดยเราจะต้องนำรายได้ ค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนภาษีของทั้งปีมายื่นในแบบ ภ.ง.ด.90 อีกครั้ง ส่วนภาษีที่จ่ายไปแล้วในช่วงครึ่งปี ก็ให้นำมาแสดงอีกครั้งด้วย กรมสรรพากรจะได้รู้ว่าเราเสียภาษีไปเท่าไรแล้ว เพราะเราสามารถนำภาษีที่เสียไปแล้วมาเป็นเครดิตออกจากภาษีสิ้นปีได้ด้วย
ยกตัวอย่างเช่น เราได้ยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปีไปแล้ว 10,000 บาท พอสิ้นปีมาคำนวณภาษีใหม่ได้จำนวน 15,000 บาท เราก็จ่ายส่วนต่างภาษีที่เพิ่มขึ้นอีก 5,000 บาท นั่นเอง
แต่ถ้าเป็นกรณีที่เราคำนวณภาษีทั้งหมดทั้งปีได้แค่ 5,000 บาท แต่จ่ายตอนครึ่งปีไปแล้ว 10,000 บาท ก็สามารถขอเงิน 5,000 บาท ที่ชำระภาระเกินไว้ได้เหมือนกัน
ภาษีครึ่งปี 2567 ไม่ยื่นได้ไหม
สำหรับใครที่เข้าเกณฑ์ต้องยื่นภาษีครึ่งปี ถ้าถามว่าไม่ขอยื่นได้ไหม ไปยื่นตอนสิ้นปีครั้งเดียวเลยได้หรือเปล่า ต้องบอกตรง ๆ เลยว่า "ไม่ได้" ซึ่งหากกรมสรรพากรตรวจพบว่าไม่ชำระภาษี จะมีบทลงโทษเป็นเงินส่วนเพิ่ม 1.5% ต่อเดือนของภาษีที่ค้างจ่าย (เศษของเดือนให้นับเป็น 1 เดือน) และโทษปรับอีกไม่เกิน 2,000 บาท อีกด้วย
อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 2567
อัตราการเสียภาษีบุคคลธรรมดาปี 2567 หากเรามีเงินได้สุทธิต่อปีไม่เกิน 150,000 บาท จะได้รับการยกเว้นภาษี แต่หากมีเงินได้สุทธิตั้งแต่ 150,001 บาทขึ้นไป จะต้องเสียภาษีตามขั้นบันไดที่อัตรา 5% จนถึง 35% ตามนี้
อ่านเพิ่มเติม ยื่นภาษี 2567
บทความที่เกี่ยวข้องกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ก่อนยื่นมีวิธีคำนวณอย่างไร มาดูกันเลย
- เงินเดือนเท่าไหร่ถึงต้องเสียภาษี เช็กเลย...ถ้ามีรายได้เท่านี้ ต้องเสียภาษีกี่บาท
- 6 วิธีขอคืนภาษี แบบได้รับเงินเร็วทันใจ ไม่ต้องรอนาน
- 10 ขั้นตอนง่าย ๆ ยื่นภาษีออนไลน์ มือใหม่ทำตามได้
- ขายของออนไลน์เสียภาษีอย่างไร ? วิธีคำนวณง่าย ๆ ก่อนยื่นภาษี
- แยกยื่นภาษีสามี-ภรรยา VS รวมยื่น แบบไหนเหมาะกับใคร
- หักภาษี ณ ที่จ่ายไปแล้ว จะต้องยื่นคำนวณภาษีอีกไหม
- ยื่นภาษีผิดทำไงดี ไม่ต้องตกใจไป แค่ยื่นใหม่ก็จบแล้ว !
- ผ่อนภาษี ได้ 3 งวด ทางเลือกง่าย ๆ ของคนจ่ายภาษี
- เงินเดือนเท่าไหร่ถึงต้องเสียภาษี เช็กเลย...ถ้ามีรายได้เท่านี้ ต้องเสียภาษีกี่บาท
- 6 วิธีขอคืนภาษี แบบได้รับเงินเร็วทันใจ ไม่ต้องรอนาน
- 10 ขั้นตอนง่าย ๆ ยื่นภาษีออนไลน์ มือใหม่ทำตามได้
- ขายของออนไลน์เสียภาษีอย่างไร ? วิธีคำนวณง่าย ๆ ก่อนยื่นภาษี
- แยกยื่นภาษีสามี-ภรรยา VS รวมยื่น แบบไหนเหมาะกับใคร
- หักภาษี ณ ที่จ่ายไปแล้ว จะต้องยื่นคำนวณภาษีอีกไหม
- ยื่นภาษีผิดทำไงดี ไม่ต้องตกใจไป แค่ยื่นใหม่ก็จบแล้ว !
- ผ่อนภาษี ได้ 3 งวด ทางเลือกง่าย ๆ ของคนจ่ายภาษี