เบี้ยผู้สูงอายุ 2566-2567 ลงทะเบียนเมื่อไหร่ ใครมีสิทธิ์รับเบี้ยยังชีพคนชรา พร้อมเช็กเงินเข้าวันไหน

          เบี้ยผู้สูงอายุ ลงทะเบียนวันไหน ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรถึงสมัครได้ หรือคนที่มีสิทธิ์อยู่แล้วจะมีเงินผู้สูงอายุเข้าเมื่อไหร่ มาเช็กข้อมูลกันหน่อย

         เบี้ยผู้สูงอายุ หรือเบี้ยยังชีพคนชรา เป็นสวัสดิการของรัฐที่เปิดให้ลงทะเบียนทุกปี อย่างไรก็ตาม การลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพดังกล่าวจะเป็นการลงทะเบียนล่วงหน้าก่อนถึงปีงบประมาณที่จะมีอายุครบ 60 ปี เช่น ลงทะเบียนในปีงบประมาณ 2565 เพื่อรับเบี้ยผู้สูงอายุในปีงบประมาณ 2566

          ประเด็นนี้ทำให้หลายคนสับสนว่า ผู้สูงอายุที่บ้านจะมีสิทธิ์รับเบี้ยคนชราหรือไม่ แล้วต้องไปลงทะเบียนเมื่อไหร่ ที่ไหน เราจึงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ปี 2566-2567 มาบอกให้เคลียร์กันอีกครั้ง

เบี้ยผู้สูงอายุ 2566

เบี้ยผู้สูงอายุ

เบี้ยผู้สูงอายุ 2566 ลงทะเบียนเมื่อไหร่

          สำหรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประจำปีงบประมาณ 2566 (ตุลาคม 2565 - กันยายน 2566) เปิดลงทะเบียนไปแล้วในเดือนตุลาคม 2564 - กันยายน 2565 ปัจจุบันปิดรับลงทะเบียนแล้ว

          ดังนั้นหากใครเกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2506 แต่ยังไม่ได้ลงทะเบียน ก็จะต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์เบี้ยผู้สูงอายุในปีงบประมาณ 2567 แทน

เบี้ยผู้สูงอายุ ปี 2566 เข้าวันไหน

          ตามปฏิทินการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจะตรงกับทุกวันที่ 10 ของเดือน แต่หากเดือนใดวันที่ 10 ตรงกับวันหยุดราชการ จะจ่ายในวันทำการก่อนวันหยุดนั้น ๆ เท่ากับว่าในปี 2566 ผู้สูงอายุจะได้รับเบี้ยยังชีพตามวันที่ต่อไปนี้
  • เดือนตุลาคม 2565 : วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2565

  • เดือนพฤศจิกายน 2565 : วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน 2565

  • เดือนธันวาคม 2565 : วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2565

  • เดือนมกราคม 2566 : วันอังคารที่ 10 มกราคม 2566 

  • เดือนกุมภาพันธ์ 2566 : วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 

  • เดือนมีนาคม 2566 : วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2566 

  • เดือนเมษายน 2566 : วันจันทร์ที่ 8 เมษายน 2566

  • เดือนพฤษภาคม 2566 : วันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2566

  • เดือนมิถุนายน 2566 : วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2566

  • เดือนกรกฎาคม 2566 : วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม 2566

  • เดือนสิงหาคม 2566 : วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม 2566

  • เดือนกันยายน 2566 : วันศุกร์ที่ 8 กันยายน 2566

  • เดือนตุลาคม 2566 : วันอังคารที่ 10 ตุลาคม 2566

  • เดือนพฤศจิกายน 2566 : วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2566

  • เดือนธันวาคม 2566 : วันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม 2566

เบี้ยผู้สูงอายุ 2567

เบี้ยผู้สูงอายุ

          หากผู้สูงอายุคนไหนลงทะเบียนรอบก่อนหน้านี้ไม่ทัน สามารถมาลงทะเบียนเพื่อรับเงินในปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566 - กันยายน 2567) ซึ่งเปิดรับลงทะเบียนรอบใหม่แล้ว ตามรายละเอียดต่อไปนี้

เบี้ยผู้สูงอายุ 2567 ลงทะเบียนเมื่อไหร่

เปิดลงทะเบียน 2 ช่วง คือ

  • ช่วงที่ 1 เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2565

  • ช่วงที่ 2 เดือนมกราคม-กันยายน 2566

เบี้ยผู้สูงอายุ 2567 เงื่อนไขเป็นอย่างไร ใครลงทะเบียนได้บ้าง

          ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2567 จะต้องมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ คือ

     1. มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 คือ ต้องเกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2507 (สำหรับผู้ที่ทราบแค่ปีเกิด แต่ไม่ทราบวันเกิด/เดือนเกิด ให้ถือว่าเกิดวันที่ 1 มกราคม ของปีนั้น ๆ) และได้ยืนยันสิทธิ์ขอรับเงิน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

     2. มีสัญชาติไทย

     3. มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

          นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566 ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศระเบียบกระทรวงมหาดไทย โดยแก้ไขคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์รับเบี้ยผู้สูงอายุ จากเดิม "ต้องไม่เคยได้รับสิทธิประโยชน์เป็นรายเดือนจากหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือ อปท. ไม่ว่าจะเป็นเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ รวมถึงเงินอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกัน เช่น ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐจัดให้เป็นประจำ" เปลี่ยนเป็น...

          "ต้องเป็นผู้ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ ตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด"

          ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่เคยลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไปก่อนหน้านี้แล้วจะไม่มีผลกระทบ โดยคาดว่าหลักเกณฑ์ใหม่ที่จะพิจารณาเรื่องรายได้ของผู้สูงอายุด้วยนั้น จะมีผลบังคับใช้กับการลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตั้งแต่ปีงบประมาณ 2567 เป็นต้นไป 

          อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติยังไม่ได้กำหนดเกณฑ์ว่าต้องมีรายได้เท่าไรถึงได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ จึงต้องรอติดตามความคืบหน้าต่อไป

เบี้ยผู้สูงอายุ 2567 ลงทะเบียนที่ไหน

ลงทะเบียนได้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามภูมิลำเนาของตัวเอง คือ

  • กรุงเทพฯ : สำนักงานเขตที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในวัน-เวลาราชการ

  • ต่างจังหวัด : สำนักงานเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในวัน-เวลาราชการ
          กรณีผู้สูงอายุที่เคยลงทะเบียนมาก่อน แต่ย้ายภูมิลำเนามาใหม่ จะต้องมายืนยันสิทธิ์รับเงินเบี้ยผู้สูงอายุที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตามทะเบียนบ้านใหม่ เช่น เคยลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพที่จังหวัดขอนแก่น ตั้งแต่ปี 2563 แต่ปีนี้เพิ่งย้ายภูมิลำเนามาอยู่ที่กรุงเทพมหานคร จะต้องไปยืนยันสิทธิ์ที่สำนักงานเขตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

ลงทะเบียนเบี้ยผู้สูงอายุ 2567 ใช้เอกสารอะไรบ้าง

     1. บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย

     2. ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน

     3. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร สำหรับกรณีที่ผู้ขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผ่านธนาคาร

          กรณีที่ผู้สูงอายุไม่สามารถมาลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นมายื่นคำขอรับเงินแทนได้ โดยต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้

     1. หนังสือมอบอำนาจ (แบบฟอร์มมอบอำนาจขึ้นอยู่กับการดำเนินการของแต่ละพื้นที่ ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง)

     2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ อย่างละ 1 ฉบับ

     3. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ อย่างละ 1 ฉบับ

          ทั้งนี้ สำเนาทุกฉบับต้องลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง หากผู้สูงอายุไม่สามารถเขียนได้ ให้พิมพ์ลายมือแทน

ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ 2567 ได้เมื่อไหร่

          เมื่อลงทะเบียนแล้วสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป ณ บอร์ดประชาสัมพันธ์ของ อบต. หรือเทศบาลที่ได้ไปลงทะเบียน หรือพื้นที่ที่ อบต. หรือเทศบาลกำหนดไว้

          ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้สูงอายุที่มีสิทธิ์ได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั้งหมดได้ในวันที่ 29 กันยายน 2566

เบี้ยผู้สูงอายุ 2567 ได้เท่าไหร่

เงินผู้สูงอายุที่จะจ่ายให้ทุกเดือนตลอดชีวิตจะขึ้นอยู่กับอายุของผู้สูงอายุ ดังนี้ 

  • อายุ 60-69 ปี ได้รับเงิน 600 บาท/เดือน  

  • อายุ 70-79 ปี ได้รับเงิน 700 บาท/เดือน  

  • อายุ 80-89 ปี ได้รับเงิน 800 บาท/เดือน  

  • อายุ 90 ปีขึ้นไป ได้รับเงิน 1,000 บาท/เดือน

ลงทะเบียนเบี้ยผู้สูงอายุ 2567 แล้วจะได้รับเงินเมื่อไหร่

          อย่างที่บอกไว้ว่าการลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจะเป็นการลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อรับเงินในปีงบประมาณถัดไป ดังนั้น ผู้ที่ลงทะเบียนในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2565 และเดือนมกราคม-กันยายน 2566 จะยังไม่ได้รับเงินในทันที แต่จะได้รับเงินตั้งแต่ปีงบประมาณ 2567 เป็นต้นไป คือช่วงเดือนตุลาคม 2566 - กันยายน 2567

          ส่วนจะได้รับเงินในเดือนไหนนั้นขึ้นอยู่กับวันเกิดของผู้ลงทะเบียน โดยจะจ่ายให้ในเดือนถัดจากวันเกิด 1 เดือน เช่น

  • เกิดวันที่ 2-31 ตุลาคม 2506 จะได้รับเงินครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2566

  • เกิดวันที่ 2-31 ธันวาคม 2506 จะได้รับเงินครั้งแรกในเดือนมกราคม 2567

  • เกิดวันที่ 2-31 มีนาคม 2507 จะได้รับเงินครั้งแรกในเดือนเมษายน 2567

  • เกิดวันที่ 2-30 มิถุนายน 2507 จะได้รับเงินครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2567

    * ยกเว้นคนเกิดวันที่ 1 จะได้รับเงินในเดือนเกิดนั้นเลย เช่น

  • เกิดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2506 จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2566

  • เกิดวันที่ 1 เมษายน 2507 จะได้รับเงินตั้งแต่เดือนเมษายน 2567

  • เกิดวันที่ 1 กันยายน 2507 จะได้รับเงินตั้งแต่เดือนกันยายน 2567

อายุเกิน 60 ปี แต่เพิ่งมาลงทะเบียนครั้งแรก จะได้รับเงินเมื่อไหร่

          หากใครมีอายุเกิน 60 ปีไปแล้ว แต่ไม่เคยมาลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุ สามารถมาลงทะเบียนในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2565 และเดือนมกราคม-กันยายน 2566 ได้เลย เพื่อรับเงินผู้สูงอายุในปีงบประมาณ 2567 โดยจะได้รับเงินครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2566 (ไม่มีการจ่ายย้อนหลัง)

รวมคำถามเบี้ยผู้สูงอายุ

เบี้ยผู้สูงอายุ

เคยลงทะเบียนรับเบี้ยคนชราแล้ว ปีถัดไปต้องไปลงอีกไหม ?

          ถ้าเคยลงทะเบียนแล้วไม่ต้องไปลงทะเบียนใหม่ เพราะ อปท. จะจ่ายเงินช่วยเหลือให้ตลอดชีวิต ยกเว้นว่ามีการย้ายที่อยู่ หรือเจอปัญหารายชื่อตกหล่น ถึงค่อยไปทำการยืนยันสิทธิ์ แก้ไขปรับปรุงข้อมูลให้สมบูรณ์

เบี้ยผู้สูงอายุ ย้ายทะเบียนบ้านต้องทำอย่างไร ?

          สำหรับคนที่เคยได้รับเบี้ยยังชีพมาแล้ว แต่ย้ายที่อยู่ ย้ายภูมิลำเนา จะต้องไปลงทะเบียนใหม่และยืนยันสิทธิ์ในพื้นที่ใหม่ที่เราพักอาศัยตั้งแต่วันที่ย้ายเข้า ซึ่งจะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุในเดือนถัดไปทันที เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์การรับเงิน

ถูกจำคุกจะขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้หรือไม่ ?

          สำหรับผู้ต้องขังหรือจำคุกอยู่ในเรือนจำ ทัณฑสถาน หรือสถานที่คุมขังของกรมราชทัณฑ์ สามารถมอบอำนาจให้ผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้อำนวยการทัณฑสถาน เจ้าหน้าที่ที่ผู้บัญชาการเรือนจำมอบหมาย หรือมอบหมายให้บุคคลอื่นดำเนินการยื่นลงทะเบียนขอรับเบี้ยผู้สูงอายุต่อ อปท. ตามภูมิลำเนาของผู้มีสิทธิ์

มีบัตรคนจนจะลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุได้ไหม ?

           ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุได้ หากมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์การขอรับเบี้ยผู้สูงอายุ

ได้เงินบำนาญชราภาพจากประกันสังคมแล้ว มีสิทธิ์ได้เบี้ยคนชราหรือไม่ ?

          ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่เกษียณแล้ว และได้รับเงินบำนาญชราภาพทุกเดือน ก็มีสิทธิ์ได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุด้วยเช่นกัน

มีรายได้สูงสามารถลงทะเบียนรับเบี้ยคนชราได้ไหม ?

         หากเคยลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไว้แล้วก็สามารถรับเบี้ยผู้สูงอายุได้ หรือจะสละสิทธิ์การรับเบี้ยคนชราก็สามารถทำได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่ได้จำกัดว่าผู้สูงอายุต้องมีรายได้เท่าไรจึงสามารถลงทะเบียนได้

         แต่หลังจากวันที่ 11 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป กระทรวงมหาดไทยได้เพิ่มหลักเกณฑ์การรับเบี้ยผู้สูงอายุมาอีกข้อ คือ ต้องเป็นผู้ที่ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ ตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด ดังนั้นหลังจากนี้ ผู้ที่มีรายได้สูงเกินเกณฑ์ที่กำหนดจะไม่สามารถลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุได้แล้ว

คนที่ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุอยู่แล้ว แต่มีรายได้สูง จะถูกตัดสิทธิ์ตามกฎหมายใหม่หรือไม่ ?

          ตามกฎหมายใหม่ ผู้สูงอายุที่ได้ขึ้นทะเบียนและรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่ก่อนวันที่ 11 สิงหาคม 2566 ยังคงได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นต่อไป ดังนั้นใครที่ได้รับเงินส่วนนี้อยู่แล้วก็ยังคงได้รับเหมือนเดิม ไม่ถูกตัดสิทธิ์แต่อย่างใด

รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ที่ไหนบ้าง ?

         ผู้สูงอายุสามารถเลือกได้ว่าจะรับเงินเบี้ยยังชีพผ่านทางช่องทางใดต่อไปนี้

     1. รับเงินสดด้วยตนเอง

     2. ให้ผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจมารับเงินสดแทน

     3. โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้สูงอายุ 

     4. โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้สูงอายุ

ถ้ามีอายุครบ 70, 80, 90 ปี ระหว่างปีงบประมาณ จะได้ปรับเงินผู้สูงอายุเพิ่มในเดือนไหน

          ตามกฎหมายเดิม หากผู้สูงอายุมีอายุครบ 70, 80 หรือ 90 ปี ในระหว่างปีงบประมาณ จะยังไม่ได้ปรับเบี้ยเพิ่มขึ้นทันที โดยต้องรอการปรับเบี้ยในปีงบประมาณถัดไป

          เช่น ปัจจุบันมีอายุ 69 ปี รับเบี้ยยังชีพ 600 บาท/เดือน แต่จะมีอายุครบ 70 ปี ในเดือนมกราคม 2566 กรณีนี้ผู้สูงอายุจะยังได้รับเงิน 600 บาท ต่อไปจนกว่าจะถึงปีงบประมาณใหม่ เท่ากับว่าจะได้ปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพเป็น 700 บาท/เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 เป็นต้นไป

          แต่ล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม 2566 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบกรณีการปรับอัตราการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได โดยให้จ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ณ วันที่มีอายุครบในเดือนนั้นทันที ไม่ต้องรอให้ครบปีงบประมาณ 

เบี้ยผู้สูงอายุ กรณีเสียชีวิตต้องทำยังไง

          กรณีผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพทุกเดือนเกิดเสียชีวิต ทายาทจะต้องนำใบมรณบัตรไปยื่นแจ้งต่อสำนักงานเขต อบต. หรือเทศบาลตามภูมิลำเนา
           เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติและเงื่อนไขต่าง ๆ ของการลงทะเบียนเบี้ยผู้สูงอายุ แล้วพบว่าตัวเองหรือบุคคลในบ้านมีสิทธิ์ได้รับเบี้ยยังชีพคนชรา สามารถเตรียมเอกสารและเดินทางไปลงทะเบียนได้ตามเวลาและสถานที่ที่กำหนด

บทความที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ

* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 15 สิงหาคม 2566

ขอบคุณข้อมูลจาก : กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, กรมกิจการผู้สูงอายุ (1), (2), รัฐบาลไทย (1), (2), (3), ราชกิจจานุเบกษา 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เบี้ยผู้สูงอายุ 2566-2567 ลงทะเบียนเมื่อไหร่ ใครมีสิทธิ์รับเบี้ยยังชีพคนชรา พร้อมเช็กเงินเข้าวันไหน อัปเดตล่าสุด 15 สิงหาคม 2566 เวลา 14:17:50 166,555 อ่าน
TOP
x close