บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เมษายน 2565 ผู้ถือบัตรคนจนยังได้รับสิทธิอะไรบ้าง มีเงินพิเศษส่วนไหนเข้าบัญชีอีกไหม มาตรวจสอบกัน

วงเงินซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค คนละ 200-300 บาท/เดือน
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ได้รับ 300 บาท/เดือน
- กลุ่มที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท ได้รับ 200 บาท/เดือน
โครงการเพิ่มกำลังซื้อ คนละ 200 บาท/เดือน
ค่ารถโดยสารสาธารณะ
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้) แบ่งเป็น
- ค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า 500 บาท/เดือน (ใช้ชำระค่าโดยสารด้วยระบบ e-Ticket เฉพาะผู้ถือบัตรใน 7 จังหวัด คือ กทม., นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร และนครปฐม)
- ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาท/เดือน
- ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาท/เดือน

ค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาท/เดือน/ครัวเรือน
- กรณีใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน ติดต่อกัน 3 เดือน ให้ใช้สิทธิ์ค่าไฟฟ้าฟรี ตามมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบัน
- กรณีใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน ให้ใช้สิทธิ์ตามมาตรการนี้ในวงเงิน 315 บาท/ครัวเรือน/เดือน
- กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าไฟฟ้าเองทั้งหมด
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เรียบร้อย (ถ้าเคยลงทะเบียนแล้วสามารถใช้สิทธิ์ได้ทันที ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่)
วิธีลงทะเบียน
- ผู้ใช้ไฟฟ้าใน กทม., สมุทรปราการ, นนทบุรี ลงทะเบียนที่การไฟฟ้านครหลวง
- ผู้ใช้ไฟฟ้าในต่างจังหวัด ลงทะเบียนที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาท/เดือน/ครัวเรือน
- กรณีใช้น้ำประปา เกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท โดยส่วนเกินต้องชำระเอง
- กรณีใช้น้ำประปา เกิน 315 บาท ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าประปาเองทั้งหมด
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ครัวเรือนที่ใช้น้ำประปาไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เรียบร้อย (ถ้าเคยลงทะเบียนแล้วสามารถใช้สิทธิ์ได้ทันที ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่)
วิธีลงทะเบียน
- ผู้ใช้ประปาใน กทม., สมุทรปราการ, นนทบุรี ลงทะเบียนที่การประปานครหลวง
- ผู้ใช้ประปาในต่างจังหวัด ลงทะเบียนที่การประปาส่วนภูมิภาค
เงินช่วยเหลือผู้พิการ 200 บาท
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : เป็นผู้พิการที่อายุ 18 ปีขึ้นไป มีบัตรประจำตัวผู้พิการ และมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเงินเบี้ยความพิการ เพิ่มอีก 200 บาท (จากเดิม 800 บาท) รวมเป็น 1,000 บาท/เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 - กันยายน 2565 โดยจะแบ่งจ่ายดังนี้
-
800 บาท : โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเหมือนเดิม ทุกวันที่ 10 ของเดือน
-
เงินเพิ่มเติมอีก 200 บาท จากกองทุนประชารัฐ : จ่ายเข้ากระเป๋าเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเงินจะเข้าบัญชีวันที่ 22 ของทุกเดือน
เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุ 50-100 บาท
- ผู้สูงอายุที่มีรายได้ 0-30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินช่วยเหลือ เดือนละ 100 บาท
- ผู้สูงอายุที่มีรายได้ 30,001-100,000 บาท ได้รับเงินช่วยเหลือ เดือนละ 50 บาท
- ผู้สูงอายุที่มีรายได้ 0-30,000 บาทต่อปี ในวันที่ 23 เมษายน ได้รับเงิน 500 บาท
- ผู้สูงอายุที่มีรายได้ 30,001-100,000 บาท ในวันที่ 23 เมษายน ได้รับเงิน 250 บาท

อย่างไรก็ตาม การลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 มีเงื่อนไขใหม่ในเรื่องรายได้ส่วนตัว และรายได้เฉลี่ยของคนในครอบครัวที่ต้องนำมาคำนวณรวมกัน สามารถตรวจสอบเงื่อนไขและคุณสมบัติว่าเราผ่านเกณฑ์หรือไม่ได้ที่บทความด้านล่างนี้
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 คิดรายได้เฉลี่ยครอบครัวอย่างไร เช็กเงื่อนไขแบบไหนลงทะเบียนได้
* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 21 เมษายน 2565
ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก สถานีข่าวกระทรวงการคลัง : Ministry of Finance News Station, กรมบัญชีกลาง, เฟซบุ๊ก กรมบัญชีกลาง The Comptroller General’s Department