ช้อปดีมีคืน 2563 ก็คือมาตรการช่วยลดหย่อนภาษีเหมือนกับช้อปช่วยชาติในปีก่อน ๆ โดยให้ผู้เสียภาษีเงินได้ฯ นำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการไปใช้ลดหย่อนภาษี ณ ตอนที่ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในช่วงต้นปี 2564 อย่างไรก็ตาม "ช้อปดีมีคืน" ครั้งนี้ มีบางเงื่อนไขที่ต่างจากช้อปช่วยชาติอยู่บ้าง ดังนั้น ใครที่กำลังเตรียมตัวไปช้อปปิ้งที่ไหน มาเช็กให้ชัวร์ก่อน เพื่อจะได้ไม่พลาดสิทธิ์
อ่านเพิ่มเติม : ลดหย่อนภาษี 2564 มีอะไรบ้าง รู้ไว้ก่อนยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
คนที่ได้ประโยชน์จากมาตรการช้อปดีมีคืน 2563 จะต้องเป็นผู้ที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2563 ที่จะยื่นแบบภาษีในต้นปี 2564
ส่วนคนที่ไม่มีรายได้ หรือ มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี หรือ มีรายได้ถึงเกณฑ์เสียภาษีแต่มีค่าลดหย่อนอื่น ๆ ที่ช่วยให้ไม่ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว จะไม่ได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้ เพราะไม่ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว จึงไม่สามารถนำค่าใช้จ่ายจากช้อปดีมีคืนไปหักภาษีได้ จะซื้อช่วงนี้หรือซื้อเมื่อไร ก็ไม่ต่างกัน
ทั้งนี้ หากเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือเป็นผู้ที่ลงทะเบียนคนละครึ่ง จะไม่สามารถใช้สิทธิ์ช้อปดีมีคืนได้อีก
อ่านเพิ่มเติม : 6 วิธี ขอคืนภาษี 2563 แบบได้รับเงินเร็วทันใจ ไม่ต้องรอนาน
คนละครึ่ง VS ช้อปดีมีคืน เลือกใช้สิทธิ์โครงการไหน ได้ประโยชน์กับเรามากที่สุด
จะใช้ช้อปดีมีคืนด้วยได้ไหม ?
1. สินค้าและบริการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม
2. หนังสือ
สามารถซื้อได้ทั้งหนังสือที่เป็นสิ่งพิมพ์ (ทุกประเภท ยกเว้นนิตยสารและหนังสือพิมพ์) รวมทั้ง e-Book เพื่อเป็นการส่งเสริมให้คนไทยรักการอ่านมากขึ้น โดยต้องซื้อจากร้านที่เป็นบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล และสามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป หรือใบเสร็จรับเงินได้
ทั้งนี้หากเป็น e-Book เมื่อซื้อผ่านออนไลน์รูปแบบต่าง ๆ หากมีเอกสารหลักฐานชัดเจนก็นำมาหักลดหย่อนภาษีได้
3. สินค้าโอทอป (OTOP)
1. สุรา เบียร์ และไวน์
2. ยาสูบ
3. น้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
4. รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
5. หนังสือพิมพ์และนิตยสาร และค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
6. บริการจัดนำเที่ยว
7. ที่พักในโรงแรม
- ผัก-ผลไม้สดที่ยังไม่ได้แปรรูป
- เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา
- ทองคำแท่ง
- ค่ารักษาพยาบาล
- ค่าทำศัลยกรรม
จะเห็นว่าเราจะได้รับภาษีคืนเท่าไร ขึ้นอยู่กับฐานภาษีของตัวเอง เช่น
- คนที่มีฐานภาษี 35% หากซื้อสินค้าไป 30,000 บาท เมื่อนำไปคำนวณค่าลดหย่อนตอนยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้ว จะได้ภาษีคืนถึง 10,500 บาทเลยทีเดียว เหมือนกับการซื้อสินค้าแบบมีส่วนลดถึง 35% ซึ่งเป็นอัตราคืนภาษีสูงสุดของนโยบายนี้
- คนที่มีฐานภาษีแค่ 5% หากจ่ายซื้อสินค้าไป 30,000 บาท ก็จะได้ภาษีคืนเพียง 1,500 บาทเท่านั้น หรือได้ส่วนลดจากการซื้อสินค้าแค่ 5%
เท่ากับว่าคนที่มีฐานภาษีสูง ๆ จะได้ประโยชน์จากมาตรการช้อปช่วยชาติคุ้มค่าที่สุด ส่วนผู้ที่เสียภาษีในอัตราน้อย ๆ เช่น คนที่มีเงินเดือน 30,000 บาท เสียภาษีเพียงแค่ 5% อาจต้องพิจารณาด้วยว่า สินค้าที่เราจะซื้อนั้นจำเป็นหรือไม่ เพราะหากต้องซื้อของมูลค่า 30,000 บาทเพื่อแลกกับส่วนลดเพียงแค่ 1,500 บาท อาจไม่คุ้มค่า ยกเว้นว่ามีของที่ต้องการซื้ออยู่แล้ว ก็ถือว่าได้ส่วนลด 5% พอดี
กรณีซื้อสินค้าทั่วไปจะต้องใช้ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ตามมาตรา 86/4 แห่ง ป.รัษฎากร ซึ่งจะต้องมีการระบุข้อความดังนี้
1. คำว่า "ใบกำกับภาษี" ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด
2. ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของร้านค้า
3. ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ซื้อ (เลขประจำตัวผู้เสียภาษี = เลขประจำตัวบัตรประชาชน) โดยประเด็นนี้มีสิ่งที่ต้องรู้ คือ
- ชื่อและที่อยู่ของผู้ซื้อ จำเป็นต้องระบุในใบกำกับภาษี
- เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ซื้อไม่ได้บังคับ หากใบกำกับภาษีนั้นไม่ได้ระบุเลขบัตรประชาชนของผู้ซื้อ ก็ยังสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้
- ที่อยู่ของผู้ซื้อ จะใช้ที่อยู่ตามบัตรประชาชน ตามทะเบียนบ้าน หรือที่อยู่ในปัจจุบันก็ได้
4. หมายเลขของใบกำกับภาษี และหมายเลขลำดับของเล่ม (ถ้ามี)
5. ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าหรือบริการ
6. จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของสินค้าหรือบริการอย่างชัดแจ้ง
7. วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี
8. ข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนด (ถ้ามี) เช่น คำว่า เอกสารออกเป็นชุด สำเนาใบกำกับภาษี ฯลฯ
วิธีขอใบกำกับภาษีก็ไม่ยาก แค่ยื่นบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมใบเสร็จรับเงินให้ผู้ขายสินค้าเท่านั้น ทั้งนี้ใบกำกับภาษีต้องมีชื่อผู้ซื้อสินค้าหรือชำระค่าบริการเพียงคนเดียว ไม่สามารถนำใบกำกับภาษีที่มีผู้ซื้อสินค้าหลายคนมาหักลดหย่อนได้
1. เลขประจำตัวภาษีอากรของผู้ขาย
2. ชื่อหรือยี่ห้อของผู้ขาย
3. เลขลำดับของเล่มและใบเสร็จรับเงิน
4. วัน/เดือน/ปีที่ออก
5. ชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวที่ผู้เสียภาษีอากรของผู้ซื้อ
6. ชนิด ชื่อ จำนวน และราคาสินค้า
7. จำนวนเงิน
มารวมกันได้ไหม ?
สามารถรวมใบกำกับภาษีหลายใบได้ โดยต้องเป็นการซื้อสินค้าหรือค่าบริการระหว่างวันที่ 23 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2563 และรวมกันแล้วมีมูลค่าไม่เกิน 30,000 บาท หากเกิน 30,000 บาท จะใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้เพียง 30,000 บาทเท่านั้น
และไม่เสีย VAT รวมกัน ใช้ได้ไหม ?
เช่น ซื้อสินค้ารวม 1,000 บาท ออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปรวมกันเป็นใบเดียว เป็นสินค้าที่เสีย VAT 700 บาท และไม่เสีย VAT 300 บาท ดังนั้น เวลากรอกตัวเลขยื่นภาษีจะนำไปใช้ลดหย่อนได้เฉพาะมูลค่า 700 บาทเท่านั้น
- กรณีสามีหรือภรรยามีรายได้ฝ่ายเดียว : ฝ่ายที่มีเงินได้ใช้สิทธิ์ได้สูงสุด 30,000 บาท
- กรณีสามีหรือภรรยา ต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ และแยกยื่นภาษี : แต่ละคนใช้สิทธิ์ได้สูงสุดคนละ 30,000 บาท
- กรณีสามีหรือภรรยา ต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ และยื่นภาษีรวมกัน : แต่ละคนใช้สิทธิ์ได้สูงสุดคนละ 30,000 บาท รวมเป็น 60,000 บาท
บทความและข่าวช้อปดีมีคืน
- ช้อปดีมีคืน ซื้อทอง มือถือ เปลี่ยนยาง ประกันรถยนต์ ลดหย่อนภาษีได้ไหม ซื้ออะไรใช้สิทธิ์ได้บ้าง ?
- สมัครคนละครึ่ง แต่เกิดเปลี่ยนใจ อยากใช้ช้อปดีมีคืน ทำได้ไหม ที่นี่มีคำตอบ
- ช้อปดีมีคืน ซื้อของออนไลน์ เอามาลดภาษีได้ - มั่นใจคนละครึ่ง ระบบลงทะเบียนไม่ล่ม
- คนละครึ่ง VS ช้อปดีมีคืน เลือกใช้สิทธิ์โครงการไหน ได้ประโยชน์กับเรามากที่สุด
- ไขข้อสงสัย ช้อปดีมีคืน ใช้ร่วมกับโครงการ คนละครึ่ง - บัตรคนจน ได้ไหม - ซื้ออะไรได้บ้าง ?
- คลัง แจงข้อเท็จจริง โครงการช้อปดีมีคืน ดียังไง หลังเกิดเสียงวิจารณ์เอื้อเฉพาะคนรวย
* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563
ขอบคุณข้อมูลจาก
กรมสรรพากร, กองกฎหมาย กรมสรรพากร, กองกฎหมาย กรมสรรพากร