15 แฟรนไชส์กาแฟร้านดัง อยากเป็นเจ้าของต้องมีเงินลงทุนเท่าไร

          แฟรนไชส์กาแฟของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งเริ่มจากเปิดให้บริการในปั๊มน้ำมัน ปตท. ก่อนที่จะขยายสาขาไปตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยธีมร้านจะเน้นโทนสีเขียว แนวธรรมชาติ ปัจจุบันมีจำหน่ายทั้งกาแฟ ชา นม สมูทตี้ และน้ำผลไม้

• ร้านในอาคาร (Shop) ใช้ทุนรวม 2,349,000-3,709,000 บาท (ไม่รวม VAT)
• ร้านนอกอาคาร (Stand Alone) ใช้ทุนรวม 2,649,000-4,209,000 บาท (ไม่รวม VAT)

• เก็บค่า Royalty Fee 3% ของยอดขายรายเดือน
• เก็บค่า Marketing Fee 3% ของยอดขายรายเดือน
• มีค่าเช่าเครื่อง Point of Sale (POS) 24,000 บาทต่อปี
• อายุสัญญา 6 ปี (รีโนเวทร้านทุก ๆ 3 ปี)

• ร้านขนาด S ค่าโครงสร้างโดยประมาณ 300,000 บาท และค่าชุดธุรกิจ 430,000 บาท (รวม VAT) 
• ร้านขนาด M ค่าโครงสร้างโดยประมาณ 600,000 บาท และค่าชุดธุรกิจ 430,000 บาท (รวม VAT) 
• ร้านขนาด L ค่าโครงสร้างโดยประมาณ 1,200,000 บาท และค่าชุดธุรกิจ 430,000 บาท (รวม VAT) 

• ไม่เสียค่าแฟรนไชส์รายปี
• ไม่เสียค่าการตลาดรายเดือน หรือเปอร์เซ็นต์การขายรายเดือน
• ค่าธรรมเนียมการออกแบบเริ่มต้นที่ 15,000-50,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรูปแบบร้านและขนาดพื้นที่)
• รับสิทธิ์ใช้เครื่องหมายการค้า 3 ปี

• Special size เริ่มต้น 255,000 บาท
• Type S ราคาเริ่มต้น 470,000 บาท
• Type M ราคาเริ่มต้น 655,000 บาท
• Type L ราคาเริ่มต้น 845,000 บาท

• คิดส่วนแบ่งรายได้ 4% ของยอดขายรายเดือน

• ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 200,000 บาท
• เงินค้ำประกันสัญญา 100,000 บาท
• ค่าออกแบบและจัดทำแบบก่อสร้าง 50,000 บาท
• ค่าบริการ Software ระบบ POS รายปี 27,000 บาท
• เงินลงทุนค่าอุปกรณ์การขายและวัตถุดิบครั้งแรก ประมาณ 450,000 บาท
• รวมการก่อสร้างและตกแต่งร้าน ประมาณ 1,000,000-2,000,000 บาท

• ระยะเวลาให้สิทธิ์ 6 ปี
• เก็บค่าส่วนแบ่งรายได้ (Royalty Fee) 6% จากยอดขาย

• ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 480,000 บาท และใช้งบลงทุนเบื้องต้นประมาณ 1,000,000-5,000,000 บาท

• เก็บค่าส่วนแบ่งรายได้ (Royalty Fee) 3% ต่อเดือน

• ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ (แรกเข้า) 300,000 บาท

• ค่าประกันแบรนด์ (จ่ายคืนเมื่อครบสัญญา) 100,000 บาท

• ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าออกแบบ อุปกรณ์ภายในร้าน งานก่อสร้าง ตกแต่ง ติดตั้งระบบ ทำให้มีงบประมาณรวม คือ

  • Coffee Venue 30-100 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุนรวมเริ่มต้น 1,700,000 บาท

  • Stand Alone 60-130 ตารางเมตร ใช้เงินทุนรวมเริ่มต้น 2,300,000 บาท

  • ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%

• อายุสัญญา 5 ปี (รีโนเวทร้านปีที่ 3)
• เก็บค่าส่วนแบ่งรายได้ (Royalty Fee) 5,000-12,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับขนาดของร้าน

• Mini-Coffee House

  • ค่าแฟรนไชส์ 1,000,000 บาท

  • ค่าประกันความเสียหายและหนี้สิน 300,000 บาท

• Full-Service Coffee House

  • ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ 1,200,000 บาท

  • ค่าประกันความเสียหายและหนี้สิน 300,000 บาท

• Coffee Corner / KIOSK & Gelatoni

  • ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ 600,000 บาท

  • ค่าประกันความเสียหายและหนี้สิน 250,000 บาท

• ระยะสัญญา 10 ปี และต่ออายุได้อีกทุก ๆ 5 ปี
• เก็บค่า Royalty Fee 3% จากยอดขายก่อนหักภาษีมูลค่าเพิ่ม
• เก็บค่า Marketing Fee 2% จากยอดขายก่อนหักภาษีมูลค่าเพิ่ม
• กำหนดค่า Royalty Fee และ Marketing Fee รวมกันขั้นต่ำต่อปีสำหรับ Coffee House คือ 250,000 บาท และ Coffee Corner/Gelatoni 150,000 บาท
• มีค่าสำรวจสถานที่ ค่าออกแบบ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติม

• ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ 350,000 บาท
• ค่าหลักประกันสัญญา (คืนเมื่อสิ้นสุด) 100,000 บาท
• ค่าก่อสร้างและอุปกรณ์ต่าง ๆ 500,000-2,500,000 บาท

          รวมงบลงทุนเบื้องต้น

• ร้านภายในอาคาร (Shop) ใช้งบลงทุนรวมประมาณ 1,600,000-2,100,000 บาท
• ร้านภายนอกอาคาร (Stand Alone) ใช้งบลงทุนรวมประมาณ 2,900,000-3,900,000 บาท

• อายุสัญญา 5+5 ปี (รีโนเวททุก 3 ปี)
• ค่าเช่าเครื่อง POS 20,000 บาทต่อปี
• เก็บค่า Royalty 4% ของยอดขายรายเดือน
• เก็บค่า Marketing Fee 2% ของยอดขายรายเดือน

• Kiosk (ขนาดเล็ก)

  • งบประมาณ : 100,000-300,000 บาท

  • ค่าแฟรนไชส์ : 30,000 บาท ต่อ 3 ปี

  • ค่า Royalty : 30,000 บาทต่อปี

  • เงินประกัน : 30,000 บาท

• Coffee Shop (กลาง-ใหญ่)

  • งบประมาณ 300,000-700,000 บาท

  • ค่าแฟรนไชส์ : 50,000 บาท ต่อ 3 ปี

  • ค่า Royalty : 30,000 บาท ต่อ 1 ปี

  • เงินประกัน 30,000 บาท

• Together (ร่วมกัน)

  • งบประมาณ : 300,000-700,000 บาท

  • ค่าแฟรนไชส์ : 60,000 บาท ต่อ 3 ปี

  • ค่า Royalty : 30,000 บาทต่อปี

  • เงินประกัน : 30,000 บาท

• Cloud (พิเศษ) สำหรับคนที่มีหน้าร้านอยู่แล้ว มีธุรกิจหลักอยู่แล้ว

  • งบประมาณ : 4,900 บาทต่อเดือน (สัญญา 1 ปี)

  • ค่าแฟรนไชส์ : 10,000 บาทต่อปี

  • ค่า Royalty : ฟรี

  • เงินประกัน : 30,000 บาท

• ร้านขนาดเล็ก-กลาง เริ่มต้น 13,900 บาท
• ร้านขนาดกลาง เริ่มต้น 40,900 บาท
• ร้านขนาดใหญ่ เริ่มต้น 105,500 บาท

• ผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์/ชุดกาแฟ เรียนชงกาแฟฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
• ฟรีวัตถุดิบและอุปกรณ์เปิดร้านกว่า 65 รายการ อุปกรณ์ทุกอย่างขายขาด
• รับประกันเครื่องฟรี 1 ปี มีเครื่องสำรองระหว่างซ่อม
• ไม่กำหนดยอดหรือบังคับยอดในการซื้อกาแฟ 

• ชุดที่ 1 ราคา 59,000 บาท (เฉพาะแบรนด์ พร้อมอบรม)
• ชุดที่ 2 ราคา 139,000 บาท (พร้อมอุปกรณ์เปิดร้าน)
• ชุดที่ 3 ราคา 289,000 บาท (พร้อมอุปกรณ์เปิดร้าน)
• ชุดที่ 4 ราคา 320,000 บาท (พร้อมอุปกรณ์เปิดร้าน)

• Package Set 1 ราคา 119,000 บาท (เครื่องชง, เครื่องบด, เครื่องปั่นเก็บเสียง, วัตถุดิบ อุปกรณ์ และคอร์สอบรมพร้อมเปิดร้าน)
• Package Set 2 ราคา 139,000 บาท (เครื่องชง, เครื่องบด, เครื่องปั่นเก็บเสียง, วัตถุดิบ อุปกรณ์ และคอร์สอบรมพร้อมเปิดร้าน + เคาน์เตอร์ 1.5 เมตร)
• Package Set 3 ราคา 149,000 บาท (เครื่องชง, เครื่องบด, เครื่องปั่นเก็บเสียง, วัตถุดิบ อุปกรณ์ และคอร์สอบรมพร้อมเปิดร้าน + เคาน์เตอร์ 1.5 เมตร แบบมีหลังคา)
• Package Set 4 ราคา 159,000 บาท (เครื่องชง, เครื่องบด, เครื่องปั่นเก็บเสียง, วัตถุดิบ อุปกรณ์ และคอร์สอบรมพร้อมเปิดร้าน + เคาน์เตอร์ 2.2 เมตร)
• Package Set 5 ราคา 169,000 บาท (เครื่องชง, เครื่องบด, เครื่องปั่นเก็บเสียง, วัตถุดิบ อุปกรณ์ และคอร์สอบรมพร้อมเปิดร้าน + เคาน์เตอร์ 2.2 เมตร แบบมีหลังคา)

• ไม่เก็บค่าแฟรนไชส์แรกเข้า
• ไม่เก็บเปอร์เซ็นต์ยอดขาย
• มีทีมช่างพร้อมบริการซ่อมเครื่องชงกาแฟถึงที่แบบ on-site service

• ค่าแฟรนไชส์แรกเข้าอยู่ที่ประมาณ 500,000 บาท ใช้งบลงทุนรวมประมาณ 2,000,000-5,000,000 บาท

• อายุสัญญา 6 ปี

• MezzoX Drip Cafe ลงทุนน้อย คืนทุนเร็ว ไม่ต้องมีเครื่องกาแฟ เริ่มต้น 350,000 บาท
• Mezzo Coffee ใช้เงินลงทุนแฟรนไชส์ประมาณ 5,000,000 บาท

• แฟรนไชส์อาหารน่าลงทุน 2565 ขายอะไรดี ถูกใจสายกิน ปี 2022
• แนะนำแฟรนไชส์กาแฟ ลงทุนงบหลักพัน ถึงมีเงินน้อยก็เปิดร้านได้
• 10 แฟรนไชส์ชาไข่มุก 19 บาท ปี 2565 ขายง่าย คืนทุนไว พร้อมเปิดร้านได้เลย
• 10 แฟรนไชส์ชาไข่มุก ลงทุนน้อย งบประหยัด เริ่มต้นไม่เกิน 30,000 บาท
• 10 แฟรนไชส์ลูกชิ้นขายดี ราคาถูก มีเงินไม่เกิน 3,000 ก็ลงทุนได้
• มือใหม่อยากทำแฟรนไชส์ เริ่มแบบไหนดีถึงจะรุ่ง