Bank run คืออะไร จะเกิดอะไรขึ้นหากคนผวา แห่ถอนเงินจากธนาคาร ?!

          Bank run คืออะไร ทำไมการแห่ถอนเงินออกจากธนาคารถึงน่ากลัวกว่าที่คิด ไม่ใช่กระทบแค่แบงก์และเศรษฐกิจ แต่คนทั่วไปอย่างเรา ๆ ก็สั่นคลอนไม่ต่างกัน
แห่ถอนเงินธนาคาร

          ข่าวการอายัดบัญชีธนาคาร ของผู้ใช้จำนวนหนึ่ง ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำทุจริตของบัญชีม้าได้สร้างความตื่นตระหนกในสังคมไม่น้อย เพราะเมื่อบัญชีถูกอายัด จนไม่สามารถถอนเงินของตัวเองมาใช้ได้ ต่างส่งผลให้คนที่ได้ยินข่าวต่างแห่ถอนเงินออกมาเก็บไว้เองบ้าง แต่ปัญหาก็คือ บางธนาคารมีเงินสดไม่เพียงพอสำหรับการถอนพร้อมกันทั้งหมด ทำให้หลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงว่า ถ้าสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้อยู่ อาจลุกลามไปสู่ภาวะ Bank run ได้ 

           แล้ว Bank run หมายถึงอะไร ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจริงจะน่ากังวลแค่ไหน มาทำความเข้าใจกัน

Bank run คืออะไร

          Bank run หรือที่เรียกว่า "การแห่ถอนเงิน" คือเหตุการณ์ที่ผู้ฝากเงินจำนวนมากรีบไปถอนเงินออกจากธนาคารพร้อม ๆ กัน เพราะเกิดความไม่มั่นใจว่าธนาคารจะยังมีความมั่นคงหรือสามารถคืนเงินให้ได้ครบถ้วนหรือไม่

Bank run สาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้าง

bank run เกิดจากอะไร

          Bank run อาจเกิดขึ้นได้จากหลายเหตุผล อาทิ

  • ข่าวลือและการตื่นตระหนก :ช่น มีข่าวลือว่าธนาคารอาจล้มละลาย หรือมีปัญหาสภาพคล่อง หรือมีประวัติเสี่ยง แม้จะเป็นเพียงข่าวลือ แต่เมื่อเราเห็นคนจำนวนมากต่อคิวถอนเงิน ภาพเหล่านี้ยิ่งสร้างความกลัว คนที่ไม่ได้ตั้งใจถอนก็รีบไปถอนตาม

  • ไม่มั่นใจในนโยบายการเงิน : อย่างเคสผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำทุจริตถูกอายัดบัญชีเพราะรับเงินมาจากบัญชีม้าโดยไม่รู้ตัว และไม่สามารถปลดล็อกบัญชีได้ง่าย ๆ เลยเกิดเป็นกระแสรีบไปถอนเงินออกมาเก็บไว้กับตัว เพราะกลัวบัญชีจะถูกอายัดไปด้วยในวันใดวันหนึ่ง หากยังไม่ปรับเปลี่ยนมาตรการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ฝากเงิน

  • ผลกระทบจากเศรษฐกิจหรือการเมือง : หากบ้านเมืองอยู่ในสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนทางการเมือง เศรษฐกิจถดถอย ค่าเงินผันผวน หรือมีวิกฤตการเงินเกิดขึ้น ก็นำไปสู่ความกังวลต่าง ๆ ที่ทำให้คนไม่มั่นใจว่าธนาคารจะรอด

  • การล้มของสถาบันการเงินใกล้เคียง : เช่น ในปี 2023 เกิดกรณี Silicon Valley Bank (SVB) ของสหรัฐฯ ล้มละลาย ลามไปถึงการแห่ถอนเงินจากธนาคารอื่น ๆ ในสหรัฐฯ กลายเป็นโดมินโน่เอฟเฟกต์

  • ไม่เข้าใจระบบคุ้มครองเงินฝาก : บางคนเข้าใจผิดว่าถ้าธนาคารล้มหรือมีปัญหา เราจะสูญเสียเงินฝากทั้งหมดทันที แต่จริง ๆ แล้วประเทศไทยมีกฎหมายคุ้มครองเงินฝากอยู่ไม่เกิน 1 ล้านบาท/คน/ธนาคาร หมายความว่า หากธนาคารล้มละลายขึ้นมาจริง ๆ เราจะยังได้เงินคืนแน่นอนในส่วนที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท/คน/ธนาคาร ดังนั้นเราสามารถใช้วิธีกระจายเงินฝากไว้หลาย ๆ ธนาคารในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาทก็ได้ เพื่อเป็นการรับประกันว่าจะได้เงินฝากคืนทั้งหมด

ย้อนเหตุการณ์ Bank run ในอดีต

          เหตุการณ์ Bank run เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในประวัติศาสตร์การเงินทั่วโลก โดยมักเกิดจากความไม่มั่นใจในเสถียรภาพของธนาคาร แล้วลุกลามจนทำให้ธนาคารขาดสภาพคล่อง เรามาลองย้อนดูกรณีสำคัญ ๆ กัน

1. วิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐฯ (Great Depression) ค.ศ. 1929-1933

great depression

          หลังตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพังทลายในปี 1929 ความเชื่อมั่นของประชาชนลดลงอย่างรุนแรง ทำให้ผู้คนแห่ถอนเงินจากธนาคารเพราะกลัวธนาคารจะล้มและต้องสูญเสียเงินเก็บทั้งหมด ส่งผลให้ธนาคารสหรัฐฯ กว่า 9,000 แห่งปิดกิจการ ระหว่างปี 1930-1933 ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) อย่างรุนแรงและยาวนาน ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะออกมาตรการครั้งใหญ่ เช่น การจัดตั้ง FDIC (Federal Deposit Insurance Corporation) ในปี 1933 เพื่อคุ้มครองเงินฝากประชาชน

2. Northern Rock สหราชอาณาจักร ค.ศ. 2007

          Northern Rock เป็นธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อบ้านขนาดใหญ่ในสหราชอาณาจักร และพึ่งพาการกู้ยืมในตลาดการเงินระยะสั้น เมื่อเกิดวิกฤติซับไพรม์ในสหรัฐฯ ทำให้ธนาคารขาดสภาพคล่อง และหลังจากข่าวแพร่ออกไปไม่นาน ประชาชนก็แห่ถอนเงินยาวหน้าสาขา สุดท้ายรัฐบาลอังกฤษต้องเข้ามาช่วยเหลือและทำให้ Northern Rock ถูกแปรสภาพเป็นรัฐวิสาหกิจ

3. Saigon Commercial Bank (SCB) ประเทศเวียดนาม ค.ศ. 2022

          ชาวเวียดนามมากแห่ไปถอนเงินจาก Saigon Commercial Bank พร้อมกันเป็นจำนวนมหาศาล หลังจากมหาเศรษฐีด้านอสังหาริมทรัพย์ถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินจำนวนมากจาก Saigon Commercial Bank ทำให้ผู้ฝากเงินเกิดความตื่นตระหนกและสูญเสียความเชื่อมั่นในธนาคารอย่างรุนแรง ส่งผลให้ธนาคารขาดสภาพคล่องอย่างรวดเร็วและไม่สามารถจ่ายเงินคืนให้ผู้ฝากได้ ก่อนที่ธนาคารกลางเวียดนามต้องเข้าแทรกแซงโดยด่วนด้วยมาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตนี้ลุกลามไปสู่ธนาคารอื่นในระบบ

4 Silicon Valley Bank (SVB) ประเทศสหรัฐอเมริกา ค.ศ. 2023

Silicon Valley Bank

ภาพจาก : Peace-loving/Shutterstock

         สด ๆ ร้อน ๆ ก็คือเหตุการณ์ Silicon Valley Bank (SVB) ซึ่งเป็นธนาคารสำหรับบริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ทอัปขาดทุนมหาศาลจากการขายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อนำเงินมาคืนผู้ฝาก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ทำให้มูลค่าพันธบัตรที่ SVB ลงทุนไว้ลดลงอย่างมาก ข่าวการขาดทุนนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ผู้ฝากเงินรายใหญ่โดยเฉพาะบริษัทสตาร์ทอัปต่างพากันถอนเงิน ส่งผลให้ธนาคารต้องปิดตัวลงภายในเวลาเพียง 2 วัน และยังลุกลามไปในกลุ่มธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลางในสหรัฐอเมริกา เช่น Signature Bank และ First Republic Bank ที่ประสบภาวะ Bank Run จนต้องถูกปิดตัวลงตามมา

จะเกิดอะไรขึ้นหากคนแห่ถอนเงิน

bank run กับผลกระทบทางเศรษฐกิจ

          เคยสงสัยไหมว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่คนแห่ถอนเงินออกจากธนาคารขึ้นมาจริง ๆ จะส่งผลกระทบอย่างไรกับระบบเศรษฐกิจและชาวบ้านอย่างเรา ๆ ด้วยไหม มาไล่เรียงกันทีละประเด็น

1. ธนาคารขาดสภาพคล่องทันที

          ต้องบอกก่อนว่า ธนาคารไม่ได้เก็บเงินสดของผู้ฝากไว้ทั้งหมด แต่จะนำเงินส่วนใหญ่ไปปล่อยกู้หรือนำไปลงทุนต่อเพื่อสร้างผลตอบแทน ดังนั้นเมื่อผู้คนแห่กันไปถอนเงินในปริมาณมหาศาลพร้อมกัน ธนาคารจะขาดแคลนเงินสดและไม่สามารถจ่ายเงินคืนให้ผู้ฝากได้ทันที 

          สถานการณ์นี้จะยิ่งสร้างความตื่นตระหนกในวงกว้างและกระตุ้นให้ผู้คนไปถอนเงินมากขึ้นอีก เพราะต่างคนต่างกลัวว่าจะถอนเงินออกมาไม่ได้ เกิดเป็นโดมิโนเอฟเฟกต์ และหากเงินสดที่มีอยู่ไม่เพียงพอ ธนาคารอาจต้องรีบขายสินทรัพย์ เช่น พันธบัตร หุ้นในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด หรือลดการให้สินเชื่อทันที ซึ่งเม่ือขาดสภาพคล่องอย่างหนักอาจส่งผลถึงขั้นล้มละลายได้

2. ธนาคารเข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อ

          ในสถานการณ์ที่เกิดแบงก์รัน ธนาคารจะประสบกับปัญหาสภาพคล่องอย่างหนัก เพราะมีเงินให้กู้ยืมน้อยลง ทำให้ต้องลดความเสี่ยงและรักษาสถานะทางการเงินของตัวเองให้มั่นคงที่สุด ด้วยเหตุผลดังนี้จึงปล่อยสินเชื่อลดลงไปด้วย ส่งผลให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางเข้าถึงเงินทุนได้ยาก อาจต้องชะลอการลงทุน ชะลอการซื้อวัตถุดิบ สำหรับคนที่ต้องการกู้ซื้อบ้าน ซื้อรถ ขอสินเชื่อส่วนบุคคล สมัครบัตรเครดิต ก็จะถูกปฏิเสธง่ายขึ้น

3. เกิดภาวะว่างงาน

ผลกระทบจาก bank run

          สืบเนื่องมาจากข้อ 2 เมื่อธนาคารเข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อจนส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจที่ไม่สามารถลงทุนขยายกิจการเพิ่มเติมได้ หรือไม่มีเงินสำหรับหมุนเวียน ก็จำเป็นต้องลดขนาด ลดการผลิต ลดต้นทุน ลดจำนวนพนักงาน หรือถึงขั้นปิดกิจการ เป็นเหตุให้มีคนตกงานเพิ่มขึ้น

4. การจับจ่ายในประเทศลดลง

          เมื่อเกิดภาวะ Bank Run ผู้คนไม่ว่าจะถอนเงินออกมาแล้วหรือยังไม่ได้ถอน ก็มักรู้สึกกังวลและเลือกเก็บเงินสดไว้ ไม่กล้าใช้จ่าย ขณะเดียวกันผู้ที่ตกงานจากผลกระทบของวิกฤต ก็มีรายได้ลดลงจนไม่มีกำลังซื้อ ส่งผลให้ธุรกิจต่าง ๆ ตั้งแต่ค้าปลีก ร้านอาหาร ไปจนถึงโรงแรมซบเซาตามไปด้วย และเมื่อรายได้หดหาย ธุรกิจก็จำเป็นต้องลดขนาดกิจการหรือปลดพนักงานเพิ่มเติม

5. ตลาดหุ้นปรับตัวลง

          เมื่อเกิดความกังวลว่าธนาคารอาจล้ม ความไม่เชื่อมั่นนี้มักลามไปถึงตลาดหุ้น โดยนักลงทุนมองว่านี่อาจเป็นสัญญาณของวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังใกล้เข้ามา จึงเร่งขายหุ้นจำนวนมากเพื่อตุนเงินสดไว้ให้สบายใจ ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นร่วงลงอย่างรวดเร็ว

6. เสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession)

          สุดท้ายแล้วเมื่อประชาชนกังวลเรื่องความมั่นคงทางการเงินและการทำงาน ก็มักเลือกประหยัดและลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ส่งผลให้ร้านค้าและธุรกิจต่าง ๆ มียอดขายลดลง ขณะเดียวกัน การกู้เงินจากธนาคารเพื่อขยายกิจการหรือลงทุนใหม่ก็ทำได้ยาก ธุรกิจจึงต้องลดกำลังการผลิต ลดต้นทุน และบางแห่งอาจถึงขั้นปลดพนักงาน เมื่อคนตกงาน รายได้ก็หายไป กำลังซื้อยิ่งลดลง วนลูปเป็นวงจรที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

          หากปล่อยไว้โดยไม่มีมาตรการช่วยเหลือ เศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยเต็มรูปแบบ แน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อคนทั่วไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ รัฐบาลและธนาคารกลางจึงมักเข้ามาแทรกแซงด้วยมาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

วิธีป้องกันการเกิด Bank run

วิธีป้องกัน bank run

          โดยปกติแล้วรัฐบาลและธนาคารกลางของประเทศนั้นจะมีมาตรการเข้ามาจัดการกับสถานการณ์ Bank run เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน เช่น

  • สร้างระบบคุ้มครองเงินฝากที่ชัดเจน : รัฐบาลจะจัดตั้งสถาบันคุ้มครองเงินฝากขึ้นมา เพื่อรับประกันเงินฝากของผู้ฝากในวงเงินที่กำหนด เช่น ในประเทศไทยคุ้มครองไม่เกิน 1 ล้านบาท/คน/ธนาคาร ทำให้ผู้ฝากมั่นใจว่าหากธนาคารล้มละลายก็จะยังได้รับเงินคืนตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อลดการถอนเงินโดยไม่จำเป็น

  • ธนาคารจัดทำแผนบริหารความเสี่ยง : เช่น ธนาคารต้องเก็บเงินสดสำรองเพียงพอสำหรับการถอนในภาวะฉุกเฉิน หรือกระจายการลงทุนให้หลากหลาย ไม่เสี่ยงลงทุนมากเกินไปในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง

  • รัฐบาลและธนาคารกลางเข้ามาแทรกแซง : เช่น การปรับอัตราดอกเบี้ย การอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ หรือการเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐ เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่น กระตุ้นการใช้จ่าย และดึงการลงทุนให้กลับมาอีกครั้ง นอกจากนี้ยังจะเข้าไปช่วยเหลือธนาคารที่ประสบปัญหาด้านสภาพคล่องด้วยการอัดฉีดเงินสดเข้าไปเพื่อป้องกันไม่ให้ธนาคารล้ม ในบางกรณีอาจควบรวมธนาคารที่มีปัญหา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน

  • ประกาศมาตรการสร้างความเชื่อมั่น : ธนาคารกลางหรือรัฐบาลต้องออกแถลงการณ์เพื่อสื่อสารกับประชาชน ป้องกันไม่ให้ข่าวลือผิด ๆ เผยแพร่ต่อไปจนสร้างความตื่นตระหนก พร้อมกับยืนยันถึงความมั่นคงของระบบธนาคาร

  • ให้ความรู้ทางการเงินกับประชาชน : เช่น ประชาสัมพันธ์ให้คนรู้ว่าผู้ฝากจะได้รับความคุ้มครองเงินฝาก หรือแนะนำให้กระจายการลงทุน เพื่อบริหารความเสี่ยง หากประชาชนมีความรู้ก็จะไม่ตื่นตระหนกจนเกิดเหตุการณ์แห่ถอนเงิน
          Bank Run เกิดขึ้นจากความกลัวและความไม่เชื่อมั่นเป็นหลัก โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่ข้อมูลข่าวสารสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วผ่านโซเชียลมีเดีย ข่าวลือเล็ก ๆ จึงสามารถขยายตัวเป็นความตื่นตระหนกในวงกว้างอย่างรวดเร็ว การรับฟังข้อมูลข่าวสารอย่างมีวิจารณญาณและไม่ตื่นตระหนกจะช่วยยับยั้งวงจรของความกลัวที่นำไปสู่การแห่ถอนเงินได้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลและธนาคารกลางก็จำเป็นต้องมีมาตรการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตเช่นกัน

บทความที่เกี่ยวข้องกับธนาคารและเศรษฐกิจ

ขอบคุณข้อมูลจาก : ฐานเศรษฐกิจinvestopedia.com
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Bank run คืออะไร จะเกิดอะไรขึ้นหากคนผวา แห่ถอนเงินจากธนาคาร ?! โพสต์เมื่อ 15 กันยายน 2568 เวลา 18:10:07
TOP
x close