COVID-19 (โควิด 19) ทำตลาดหุ้นไทยดิ่งเหว จนต้องประกาศใช้ Circuit Breaker มารู้จักมาตรการนี้ว่ามีขึ้นเพื่ออะไร
กลายประวัติศาสตร์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อต้องงัดมาตรการ Circuit Breaker ออกมาใช้ในรอบ 11 ปี 4 เดือน หลังตลาดหุ้นไทยร่วงลง 10% ในช่วงบ่ายวันที่ 12 มีนาคม 2563 กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 13 มีนาคม 2563 สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น เพราะถูกแรงเทขายอีกรอบทันทีที่เปิดตลาด จนต้องประกาศใช้ Circuit Breaker 2 วันติดต่อกันเป็นครั้งแรก [อ่านข่าว โคม่า ! หุ้นไทยดิ่งหนัก งัดใช้ Circuit Breaker พักซื้อ-ขายชั่วคราว ในรอบ 11 ปี]
Circuit Breaker คืออะไร
Circuit Breaker คือการที่ตลาดหลักทรัพย์จะหยุดทำการซื้อ-ขายโดยอัตโนมัติเป็นการชั่วคราว เมื่อตลาดหุ้นมีความผันผวนรุนแรง และราคาหลักทรัพย์โดยรวมเปลี่ยนแปลงลดลงมาก โดยหยุดพักเพื่อให้นักลงทุนมีเวลาในการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่มีผลกระทบต่อการลงทุนอย่างครบถ้วน
Circuit Breaker จะทำงานเมื่อไร
Circuit Breaker จะเกิดขึ้นได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ภายใน 1 วัน คือ
- ครั้งที่ 1 เมื่อ SET Index เปลี่ยนแปลงลดลงถึง 10% ของค่าดัชนีปิดในวันทำการก่อนหน้าตลาดหลักทรัพย์ จะพักการซื้อ-ขายหลักทรัพย์ ทั้งหมดเป็นเวลา 30 นาที แล้วกลับมาซื้อ-ขายกันใหม่
- ครั้งที่ 2 เมื่อ SET Index เปลี่ยนแปลงลดลงถึง 20% (ลดลงอีก 10%) ของค่าดัชนีปิดในวันทำการก่อนหน้าตลาดหลักทรัพย์จะพักการซื้อ-ขายหลักทรัพย์ทั้งหมดเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม หากเปิดตลาดครั้งที่ 2 แล้วตลาดหลักทรัพย์จะเปิดให้ทำการซื้อ-ขายต่อไป จนถึงเวลาปิดทำการตามปกติโดยไม่มีการหยุดพักการซื้อ-ขายอีก
หากระยะเวลาในรอบการซื้อ-ขายที่ Circuit Breaker ทำงานนั้นเหลือไม่ถึง 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ก็ให้หยุดพัก การซื้อ-ขายเพียงระยะเวลาที่เหลือในรอบการซื้อ-ขายนั้น แล้วเปิดให้ซื้อ-ขายหลักทรัพย์ได้ตามปกติในรอบการซื้อ-ขายถัดไป
ทั้งนี้ อาจมีบางช่วงเวลาที่หลักทรัพย์ที่มีสินทรัพย์อ้างอิงต่างประเทศ (Cross-border Products) อาจเปิดซื้อ-ขายไม่ตรงกันกับหลักทรัพย์อื่น ๆ เนื่องจากไม่มีช่วงเวลาพักการซื้อขายระหว่างวัน (Non intermission)
Circuit Breaker จะเกิดขึ้นได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ภายใน 1 วัน คือ
- ครั้งที่ 1 เมื่อ SET Index เปลี่ยนแปลงลดลงถึง 10% ของค่าดัชนีปิดในวันทำการก่อนหน้าตลาดหลักทรัพย์ จะพักการซื้อ-ขายหลักทรัพย์ ทั้งหมดเป็นเวลา 30 นาที แล้วกลับมาซื้อ-ขายกันใหม่
- ครั้งที่ 2 เมื่อ SET Index เปลี่ยนแปลงลดลงถึง 20% (ลดลงอีก 10%) ของค่าดัชนีปิดในวันทำการก่อนหน้าตลาดหลักทรัพย์จะพักการซื้อ-ขายหลักทรัพย์ทั้งหมดเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม หากเปิดตลาดครั้งที่ 2 แล้วตลาดหลักทรัพย์จะเปิดให้ทำการซื้อ-ขายต่อไป จนถึงเวลาปิดทำการตามปกติโดยไม่มีการหยุดพักการซื้อ-ขายอีก
หากระยะเวลาในรอบการซื้อ-ขายที่ Circuit Breaker ทำงานนั้นเหลือไม่ถึง 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ก็ให้หยุดพัก การซื้อ-ขายเพียงระยะเวลาที่เหลือในรอบการซื้อ-ขายนั้น แล้วเปิดให้ซื้อ-ขายหลักทรัพย์ได้ตามปกติในรอบการซื้อ-ขายถัดไป
ทั้งนี้ อาจมีบางช่วงเวลาที่หลักทรัพย์ที่มีสินทรัพย์อ้างอิงต่างประเทศ (Cross-border Products) อาจเปิดซื้อ-ขายไม่ตรงกันกับหลักทรัพย์อื่น ๆ เนื่องจากไม่มีช่วงเวลาพักการซื้อขายระหว่างวัน (Non intermission)
ภาพจาก 1000 Words / Shutterstock.com
SET Index ไทย ผ่านจุด Circuit Breaker มาแล้วกี่ครั้ง ?
รู้ไหมว่า ตั้งแต่ที่เปิดตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2518 จนถึงปัจจุบัน ปี 2563 ได้ผ่านการใช้มาตรการ Circuit Breaker มาแล้ว 5 ครั้ง คือ
ครั้งที่ 1 วันที่ 19 ธันวาคม 2549
หลังจากตลาดหุ้นไทยเปิดทำการมา 31 ปี ก็เจอกับ Circuit Breaker ครั้งแรกของตลาด เนื่องจากเมื่อเย็นวันที่ 18 ธันวาคม 2549 ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกมาตรการสำรอง 30% เพื่อป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาท ทำให้นักลงทุนต่างชาติพากันเทขายหุ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ SET Index ร่วงลงถึง 142.63 จุด หรือ -19.52% ภายในวันเดียว ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในประวัติศาสตร์
ครั้งที่ 2 วันที่ 10 ตุลาคม 2551
ตลาดหุ้นไทยถูกถล่มขายอย่างหนักจากวิกฤตเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์ (Hamburger) หรือ วิกฤตซับไพรม์ (Subprime Mortgage Crisis) ที่มีสาเหตุจากภาวะฟองสบู่ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา จนลามเป็นวิกฤตเศรษฐกิจของทั่วโลก ทำให้ดัชนีลดลง 50.08 จุด หรือ -10.09%
ครั้งที่ 3 วันที่ 27 ตุลาคม 2551
ยังเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์ (Hamburger) หรือ วิกฤตซับไพรม์ (Subprime Mortgage Crisis) ซึ่งรอบนี้ทำให้ SET Index ลดลงไปอีก 45.44 จุด หรือ -10.50%
ครั้งที่ 4 วันที่ 12 มีนาคม 2563
ด้วยปัจจัยลบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว บวกกับการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 (โควิด 19) ทั่วโลก และสงครามน้ำมันระหว่างซาอุดีอาระเบีย และรัสเซีย ส่งผลให้ SET Index ที่เปิดตลาดทำการภาคบ่ายร่วง 125.05 จุด หรือ -10% มาอยู่ที่ระดับ 1,124.84 จุด จนต้องปิดทำการเป็นเวลา 30 นาที ก่อนจะเปิดการซื้อ-ขายใหม่ และปิดตลาดตอนเย็นด้วยดัชนี 1,114.91 จุด ลดลงไปถึง 134.98 จุด หรือ -10.80%
รู้ไหมว่า ตั้งแต่ที่เปิดตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2518 จนถึงปัจจุบัน ปี 2563 ได้ผ่านการใช้มาตรการ Circuit Breaker มาแล้ว 5 ครั้ง คือ
ครั้งที่ 1 วันที่ 19 ธันวาคม 2549
หลังจากตลาดหุ้นไทยเปิดทำการมา 31 ปี ก็เจอกับ Circuit Breaker ครั้งแรกของตลาด เนื่องจากเมื่อเย็นวันที่ 18 ธันวาคม 2549 ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกมาตรการสำรอง 30% เพื่อป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาท ทำให้นักลงทุนต่างชาติพากันเทขายหุ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ SET Index ร่วงลงถึง 142.63 จุด หรือ -19.52% ภายในวันเดียว ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในประวัติศาสตร์
ครั้งที่ 2 วันที่ 10 ตุลาคม 2551
ตลาดหุ้นไทยถูกถล่มขายอย่างหนักจากวิกฤตเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์ (Hamburger) หรือ วิกฤตซับไพรม์ (Subprime Mortgage Crisis) ที่มีสาเหตุจากภาวะฟองสบู่ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา จนลามเป็นวิกฤตเศรษฐกิจของทั่วโลก ทำให้ดัชนีลดลง 50.08 จุด หรือ -10.09%
ครั้งที่ 3 วันที่ 27 ตุลาคม 2551
ยังเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์ (Hamburger) หรือ วิกฤตซับไพรม์ (Subprime Mortgage Crisis) ซึ่งรอบนี้ทำให้ SET Index ลดลงไปอีก 45.44 จุด หรือ -10.50%
ครั้งที่ 4 วันที่ 12 มีนาคม 2563
ด้วยปัจจัยลบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว บวกกับการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 (โควิด 19) ทั่วโลก และสงครามน้ำมันระหว่างซาอุดีอาระเบีย และรัสเซีย ส่งผลให้ SET Index ที่เปิดตลาดทำการภาคบ่ายร่วง 125.05 จุด หรือ -10% มาอยู่ที่ระดับ 1,124.84 จุด จนต้องปิดทำการเป็นเวลา 30 นาที ก่อนจะเปิดการซื้อ-ขายใหม่ และปิดตลาดตอนเย็นด้วยดัชนี 1,114.91 จุด ลดลงไปถึง 134.98 จุด หรือ -10.80%
ครั้งที่ 5 วันที่ 13 มีนาคม 2563
ตลาดหุ้นไทยยังคงโดนถล่มขายอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์โรค COVID-19 โดยครั้งนี้ เปิดตลาดเพียงแค่นาทีเดียว SET Index ร่วงมาอยู่ที่ระดับ 1,003.39 จุด ปรับตัวลดลง 111.52 จุด หรือ -10% จนต้องประกาศใช้ Circuit Breaker อีกครั้ง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ตลาดหุ้นไทยประกาศใช้ Circuit Breaker 2 วันติดต่อกัน
ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ยังส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกวิกฤตหนักเช่นกัน โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งดัชนีดาวน์โจนส์ร่วงลงไปกว่า 2,000 จุด จนต้องประกาศใช้ Circuit Breaker อย่างไรก็ตาม หากการระบาดของโรคโควิด 19 ยังไม่คลี่คลาย หรือยังไม่มียาเพื่อมารักษา เราอาจได้เห็นตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องงัดมาตรการ Circuit Breaker ออกมาใช้อีกครั้งแล้วครั้งเล่า
ข้อมูลจาก
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
หลักทรัพย์บัวหลวง
ตลาดหุ้นไทยยังคงโดนถล่มขายอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์โรค COVID-19 โดยครั้งนี้ เปิดตลาดเพียงแค่นาทีเดียว SET Index ร่วงมาอยู่ที่ระดับ 1,003.39 จุด ปรับตัวลดลง 111.52 จุด หรือ -10% จนต้องประกาศใช้ Circuit Breaker อีกครั้ง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ตลาดหุ้นไทยประกาศใช้ Circuit Breaker 2 วันติดต่อกัน
ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ยังส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกวิกฤตหนักเช่นกัน โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งดัชนีดาวน์โจนส์ร่วงลงไปกว่า 2,000 จุด จนต้องประกาศใช้ Circuit Breaker อย่างไรก็ตาม หากการระบาดของโรคโควิด 19 ยังไม่คลี่คลาย หรือยังไม่มียาเพื่อมารักษา เราอาจได้เห็นตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องงัดมาตรการ Circuit Breaker ออกมาใช้อีกครั้งแล้วครั้งเล่า
ข้อมูลจาก
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
หลักทรัพย์บัวหลวง