ประกันลดหย่อนภาษี 2567 ตัวไหนดี ชี้เป้าประกันออมทรัพย์ระยะสั้น ครบ 10 ปีได้เงินคืน

           ประกันลดหย่อนภาษี ได้เท่าไหร่ ถ้าอยากซื้อประกันออมทรัพย์ ปี 2567 ไว้ลดหย่อนภาษี จะเลือกตัวไหนดีที่ได้ทั้งความคุ้มค่าและความคุ้มครอง
ประกันลดหย่อนภาษี 2567

         เทศกาลลดหย่อนภาษี 2567 มาถึงแล้ว ปีนี้เราสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้หลากหลาย ทั้งกองทุนรวม Thai ESG, SSF หรือ RMF, เที่ยวเมืองรอง, ค่าก่อสร้างบ้านใหม่ ฯลฯ แต่ถ้ากลัวว่าการลงทุนในกองทุนรวมจะขาดทุน หรือให้ผลตอบแทนไม่แน่นอน การทำประกันลดหย่อนภาษีก็น่าจะตอบโจทย์กว่า ลองพิจารณากันดูว่า ประกันแต่ละรูปแบบใช้ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่บ้าง

ประกันลดหย่อนภาษี ได้เท่าไหร่

ประกันชีวิต หรือ ประกันออมทรัพย์ ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่

          ประกันชีวิต ประกันออมทรัพย์ สามารถใช้ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันสุขภาพต้องไม่เกิน 100,000 บาท

ประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่

          ประกันสุขภาพของตัวเอง สามารถใช้ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาท และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันสุขภาพต้องไม่เกิน 100,000 บาท

ประกันพ่อแม่ ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่

          ต้องเป็นประกันสุขภาพของบิดา-มารดาเท่านั้นถึงสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท ส่วนประกันชีวิตจะไม่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้

ประกันชีวิตคู่สมรส ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่

           สามี-ภรรยาคนไหนที่ซื้อประกันชีวิตให้คู่สมรสตามกฎหมายที่ไม่มีรายได้ในปีนั้น จะสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ 10,000 บาท

ประกันลูก ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่

           สำหรับประกันลูก ไม่ว่าจะเป็นชีวิต ประกันสุขภาพที่ทำให้บุตร จะไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้เลย

ประกันบำนาญ ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่

          ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ 15% ของรายได้ แต่สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท และวงเงินที่จ่ายเบี้ยประกันบำนาญ เมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือกองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือกองทุนรวม SSF หรือกองทุนรวม RMF แล้ว ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

ประกันออมทรัพย์ ลดหย่อนภาษี

ประกันออมทรัพย์

           ถ้าพูดถึงแบบประกันลดหย่อนภาษีที่ฮิตที่สุดก็คงเป็น "ประกันออมทรัพย์" หรือ "ประกันสะสมทรัพย์" ที่มีรูปแบบผลิตภัณฑ์ไม่ซับซ้อน ครบกำหนดก็ได้รับเงินก้อนนั้นคืนกลับมาใช้จ่ายหรือลงทุนต่อ ส่วนใหญ่ยังมีเงินคืนให้ระหว่างทางด้วย จะคืนมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับข้อกำหนดแต่ละแผน อีกทั้งยังสมัครง่ายผ่านออนไลน์ ไม่ต้องตรวจสุขภาพ เอาเป็นว่าลองมาเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของประกันออมทรัพย์กันดูก่อนตัดสินใจ

ข้อดีของประกันออมทรัพย์

  • สมัครง่าย บางแผนสามารถสมัครผ่านออนไลน์หรือแอปพลิเคชันธนาคารได้เลย โดยไม่ต้องผ่านนายหน้าหรือตัวแทนประกัน

  • ไม่ต้องตอบคําถามสุขภาพ และไม่ตรวจสุขภาพ คนที่มีปัญหาสุขภาพสามารถทำได้

  • ใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุด 100,000 บาท และเมื่อรวมกับประกันสุขภาพต้องไม่เกิน 100,000 บาท  

  • มีแผนประกันให้เลือกหลากหลายรูปแบบให้เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของแต่ละบุคคล

  • ต้องจ่ายเบี้ยเป็นประจำทุกเดือนหรือทุกปี จึงช่วยฝึกให้เราอดทนและมีวินัยในการออมเงินได้อย่างต่อเนื่อง

  • ทราบผลตอบแทนที่แน่นอนว่าจะได้รับเงินคืนเท่าไร ทำให้วางแผนการเงินได้ง่ายขึ้น ต่างจากการลงทุนในกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงกว่าและไม่สามารถระบุผลตอบแทนได้อย่างชัดเจน

  • บางแผนมีเงินคืนให้ระหว่างปี ทำให้มีกระแสเงินสดกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

  • เงินที่สะสมไว้ในประกันออมทรัพย์สามารถนำมาใช้เป็นเงินสำรองฉุกเฉินได้ในยามจำเป็น 

  • ได้รับความคุ้มครองชีวิตระหว่างที่กรมธรรม์ยังมีผลบังคับใช้ หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน เงินประกันจะตกเป็นของผู้รับผลประโยชน์ตามที่เราระบุชื่อไว้

ข้อจำกัดของประกันออมทรัพย์

  • ผลตอบแทนไม่สูงเมื่อเทียบกับการลงทุนแบบอื่น โดยผลตอบแทนภายใน หรือ IRR ส่วนใหญ่ไม่เกิน 2.5% ต่อปี (ยังไม่รวมกรณีลดหย่อนตามฐานภาษีของแต่ละคน) ซึ่งพอ ๆ กับเงินฝากประจำของธนาคาร แต่การทำประกันจะได้รับความคุ้มครองชีวิตและสิทธิลดหย่อนภาษี

  • หากต้องการใช้เพื่อลดหย่อนภาษี ต้องเลือกแผนที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้

  • ให้ความคุ้มครองชีวิตในระยะสั้น ๆ เช่น 10 ปี 15 ปี 25 ปี จึงไม่เหมาะกับการซื้อเป็นสัญญาหลักเพื่อผูกสัญญาเพิ่มเติม เช่น ประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง 

  • ประกันออมทรัพย์ระยะสั้นส่วนใหญ่ไม่สามารถซื้อความคุ้มครองสัญญาเพิ่มเติมได้ 

  • เป็นแบบประกันที่มีความคุ้มครองชีวิตน้อยกว่าประกันชีวิตทั่วไป เช่น หากเราจ่ายเบี้ยประกัน 50,000 บาท อาจได้รับความคุ้มครองชีวิตเพียง 50,000-60,000 บาท แต่ถ้าเป็นประกันชีวิตแบบตลอดชีพ การจ่ายเบี้ยประกัน 50,000 บาท จะได้รับความคุ้มครองชีวิตถึงหลักล้านบาท

  • สภาพคล่องต่ำ แม้จะสามารถเวนคืนเพื่อนำเงินออกมาก่อนกำหนดได้ก็จริง แต่มูลค่าเงินคืนที่ได้นั้นน้อยกว่าเบี้ยที่จ่ายไป พูดง่าย ๆ ว่าถ้าเวนคืนก่อนครบกำหนดมักจะขาดทุน 

  • หากเวนคืนกรมธรรม์ก่อนครบสัญญา หรือจ่ายเบี้ยประกันไม่ครบตามกำหนด ผลตอบแทนที่ได้รับจะลดลง และต้องคืนภาษีย้อนหลังด้วย

วิธีเลือกประกันออมทรัพย์
ลดหย่อนภาษี

ประกันเงินออมลดหย่อนภาษี

          อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ใครสนใจทำประกันออมทรัพย์ ลองมาเช็กกันสักนิดว่าควรพิจารณาเรื่องอะไรบ้าง

  • กำหนดเป้าหมายที่ต้องการใช้เงิน : การทำประกันก็เหมือนได้ออมเงินไปในตัว เราสามารถตั้งเป้าหมายได้ว่าเงินก้อนนี้จะนำไปใช้ทำอะไร เมื่อไหร่ เช่น เก็บไว้จ่ายค่าเทอมให้ลูกในอีก 10 ปีข้างหน้า เช่นนี้ก็ควรเลือกประกันออมทรัพย์ที่จะครบกำหนดใน 10 ปี เป็นต้น

  • ความคุ้มครองชีวิตที่ต้องการ : หากต้องการความคุ้มครองชีวิตสูง ควรเลือกแผนที่มีทุนประกันสูง และแน่นอนว่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายก็ย่อมสูงตามไปด้วย

  • เปรียบเทียบผลตอบแทนของแต่ละแผน : ประกันออมทรัพย์แข่งกันที่ผลตอบแทนเป็นหลัก ถ้าเป็นไปได้ก็ควรเลือกแผนที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด โดยอาจคำนวณจาก IRR (Internal Rate of Return) ซึ่งหากค่า IRR สูง แสดงว่าประกันเล่มนี้ให้ผลตอบแทนที่สูง

  • เปรียบเทียบเบี้ยประกัน : พิจารณาเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายว่าเหมาะสมกับงบประมาณหรือไม่

  • พิจารณาคุณสมบัติของผู้ทำประกัน : แต่ละแผนจะกำหนดอายุผู้ทำประกันไว้แตกต่างกัน โดยประกันออมทรัพย์ส่วนใหญ่มักรับตั้งแต่อายุ 20-55 ปี แต่บางแผนอาจรับถึงอายุ 70 ปีก็มี

  • พิจารณาจำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำ-ขั้นสูงที่ทำได้ : ควรเลือกแผนที่สอดคล้องกับความต้องการ และจำนวนเงินที่เราสามารถซื้อประกันเพื่อใช้ลดหย่อนภาษีได้ 

  • พิจารณาระยะเวลาที่สามารถจ่ายเบี้ยประกันได้ : ถ้าไม่ชอบจ่ายเบี้ยนาน ๆ ให้เป็นภาระก็อาจเลือกแบบประกันที่จ่ายปีเดียว เช่น 10/1 หมายถึงจ่ายเบี้ยปีเดียว ได้รับความคุ้มครอง 10 ปี แต่ถ้าเรายังทำงานอยู่ในระบบภาษีไปอีกนานหลายปีก็อาจเลือกแผนที่จ่ายเบี้ยระยะยาวหน่อย เช่น 10/6, 14/8, 25/15 เป็นต้น จะได้ไม่ต้องทำประกันเล่มใหม่ทุกปี

  • พิจารณาจำนวนเงินคืนระหว่างปี : ประกันออมทรัพย์ยุคนี้ไม่ต้องรอ 10 ปี ถึงได้เงินคืน เพราะส่วนใหญ่จะมีเงินคืนให้ระหว่างที่ยังไม่ครบสัญญา ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละแผน บางเล่มอาจคืนเงินให้เพียง 1-2% ในช่วงปีแรก ๆ แต่บางเล่มก็คืนเงินให้ 10-20% ตั้งแต่ปีแรก ๆ เลย เหมาะกับคนที่ต้องการนำเงินกลับมาหมุนใช้จ่ายหรือนำไปลงทุนต่อ

  • พิจารณาบริษัทประกัน : เนื่องจากประกันสะสมทรัพย์เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองยาวนาน และต้องใช้เวลามากกว่า 10 ปี ถึงจะได้รับเงินต้นคืน จึงควรเลือกบริษัทที่มีความมั่นคง

         เมื่อพอจะทราบหลักการเลือกประกันออมทรัพย์แล้ว คราวนี้มาพิจารณากันว่า ในปี 2567 มีประกันออมทรัพย์ตัวไหนน่าสนใจบ้าง โดยเราคัดมาบางส่วนเท่านั้น

ประกันออมทรัพย์ 10 ปี
ตัวไหนดี ปี 2567

1. ประกันออมทรัพย์ โอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/5 จากไทยสมุทรประกันชีวิต

ประกันออมทรัพย์ ไทยสมุทรประกันชีวิต

ภาพจาก : ไทยสมุทรประกันชีวิต

        ประกันออมทรัพย์ โอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/5 จากไทยสมุทรประกันชีวิต จ่ายเบี้ยสั้น ๆ 5 ปี แต่ได้เงินคืนสูงถึง 20% ตั้งแต่ปีแรกถึงปีที่ 6 และรับเงินคืน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่ปีที่ 7-9 ให้เรามีเงินก้อนไปออมหรือไปลงทุนต่อได้เร็ว ไม่ต้องรอนานหลายปี พร้อมความคุ้มครองชีวิตสูงสุด 510% ของทุนประกัน

ตัวอย่าง เพศชาย อายุ 35 ปี เลือกจำนวนเงินเอาประกันภัย 50,000 บาท

  • จ่ายเบี้ยประกัน 50,000 บาท จำนวน 5 ปี รวม 250,000 บาท

  • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-6 รับเงินคืนปีละ 10,000 บาท, ปีที่ 7-9 รับเงินคืนปีละ 50,000 บาท และในปีสุดท้าย รับเงินคืน 70,000 บาท  

  • รวมรับเงินคืนทั้งหมด 280,000 บาท จากเบี้ยที่จ่ายไป 250,000 บาท ดังนั้น จะได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นมา 30,000 บาท

  • คิดเป็นอัตราผลตอบแทนภายในกรมธรรม์ (IRR) เท่ากับ 2.09% (ยังไม่รวมเงินที่นำไปลดหย่อนภาษี)

ประกันออมทรัพย์ ไทยสมุทรประกันชีวิต

ภาพจาก : ไทยสมุทรประกันชีวิต

รายละเอียดประกันออมทรัพย์ โอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/5

  • อายุรับประกัน : 20-70 ปี

  • จำนวนเงินเอาประกันภัย : ขั้นต่ำ 30,000 บาท 

  • ระยะเวลาเอาประกันภัย : 10 ปี

  • ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย : 5 ปี (ลดหย่อนภาษีได้ 5 ปี ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินปีละ 100,000 บาท)

  • ผลประโยชน์เงินคืน : 

    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-6 รับเงินคืน 20% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 7-9 รับเงินคืน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 10 รับเงินครบกำหนดสัญญา 140% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

  • ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต : 

    • ปีกรมธรรม์ที่ 1 : คุ้มครอง 110% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • ปีกรมธรรม์ที่ 2 : คุ้มครอง 210% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • ปีกรมธรรม์ที่ 3 : คุ้มครอง 310% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • ปีกรมธรรม์ที่ 4 : คุ้มครอง 410% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • ปีกรมธรรม์ที่ 5-6 : คุ้มครอง 510% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • ปีกรมธรรม์ที่ 7 : คุ้มครอง 410% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • ปีกรมธรรม์ที่ 8 : คุ้มครอง 310% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • ปีกรมธรรม์ที่ 9 : คุ้มครอง 210% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • ปีกรมธรรม์ที่ 10 : คุ้มครอง 110% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

ข้อมูลเพิ่มเติม : ไทยสมุทร ประกันชีวิต

2. ประกันออมทรัพย์ แม็กซ์ เท็น โฟร์ 10/4 พลัส จากฟิลลิปประกันชีวิต

ประกันออมทรัพย์ ฟิลลิปประกันชีวิต

ภาพจาก : ฟิลลิปประกันชีวิต

          ประกันออมทรัพย์ จากฟิลลิปประกันชีวิต สำหรับคนที่อยากส่งเบี้ยแค่ 4 ปี และต้องการรับความคุ้มครองชีวิตสูงในปีที่ 4-10 ซึ่งให้ความคุ้มครองถึง 440% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สมัครผ่านออนไลน์ได้ง่าย ๆ ไม่ต้องตรวจสุขภาพ ทำภายในปีนี้ยังได้รับ cashback ตั้งแต่ 1,500-10,000 บาท

ตัวอย่าง เพศชาย อายุ 35 ปี เลือกจำนวนเงินเอาประกันภัย 54,466.23 บาท

  • จ่ายเบี้ยประกัน 50,000 บาท เป็นเวลา 4 ปี รวมเป็นเงิน 200,000 บาท

  • ปีที่ 1-9 รับเงินคืนปีละ 1,633.99 บาท และปีที่ 10 รับเงินคืน 219,498.91 บาท  

  • รวมรับเงินคืนทั้งหมด 234,204.82 บาท จากเบี้ยที่จ่ายไป 200,000 บาท ดังนั้น จะได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นมา 34,204.82 บาท

  • คิดเป็นอัตราผลตอบแทนภายในกรมธรรม์ (IRR) เท่ากับ 1.95% (ยังไม่รวมเงินที่นำไปลดหย่อนภาษี)

ประกันออมทรัพย์ ฟิลลิปประกันชีวิต

ภาพจาก : ฟิลลิปประกันชีวิต

รายละเอียดประกันออมทรัพย์ แม็กซ์ เท็น โฟร์ 10/4 พลัส

  • อายุรับประกัน : 1 วัน - 60 ปี

  • จำนวนเงินเอาประกันภัย : 30,000-10 ล้านบาท

  • ระยะเวลาเอาประกันภัย : 10 ปี

  • ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย : 4 ปี (ลดหย่อนภาษีได้ 4 ปี ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินปีละ 100,000 บาท)

  • ผลประโยชน์เงินคืน : 

    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-9 รับเงินคืน 3% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 10 รับเงินครบกำหนดสัญญา 430% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

  • ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต : 

    • ปีกรมธรรม์ที่ 1 : คุ้มครอง 110% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • ปีกรมธรรม์ที่ 2 : คุ้มครอง 220% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • ปีกรมธรรม์ที่ 3 : คุ้มครอง 330% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • ปีกรมธรรม์ที่ 4-10 : คุ้มครอง 440% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

ข้อมูลเพิ่มเติม : ฟิลลิปประกันชีวิต

3. ประกันออมทรัพย์ TIP Touch Saving 10/1 จากทิพยประกันชีวิต

ประกันออมทรัพย์ ออมสิน

ภาพจาก : ธนาคารออมสิน

          ถ้าชอบประกันออมทรัพย์แบบจ่ายเบี้ยครั้งเดียวจบ แล้วรอรับเงินคืนอีก 10 ปีข้างหน้า ทางธนาคารออมสินก็มีแบบประกันสะสมทรัพย์ TIP Touch Saving 10/1 รับประกันโดยทิพยประกันชีวิต สมัครง่าย ๆ ที่แอปฯ Mymo หรือเว็บไซต์ทิพยประกันชีวิต ทุนประกันขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 20,000 บาทเท่านั้น

ตัวอย่าง เพศชาย อายุ 35 ปี เลือกจำนวนเงินเอาประกันภัย 50,000 บาท

  • จ่ายเบี้ยประกัน 48,850 บาท ครั้งเดียว

  • ปีที่ 1-9 รับเงินคืนปีละ 875 บาท เมื่อถึงปีที่ 10 ครบกำหนด รับเงินคืน 50,875 บาท

  • รวมรับเงินคืนทั้งหมด 58,750 บาท จากเบี้ยที่จ่ายไป 48,850 บาท ดังนั้น จะได้ผลตอบแทน 9,900 บาท

  • คิดเป็นอัตราผลตอบแทนภายในกรมธรรม์ (IRR) เท่ากับ 2.01% (ยังไม่รวมเงินที่นำไปลดหย่อนภาษี)

รายละเอียดประกันออมทรัพย์ TIP Touch Saving 10/1

  • อายุรับประกัน : 20-65 ปี

  • จำนวนเงินเอาประกันภัย : 20,000-300,000 บาท

  • ระยะเวลาเอาประกันภัย : 10 ปี

  • ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย : 1 ปี (ลดหย่อนภาษีได้ 1 ปี ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินปีละ 100,000 บาท)

  • ผลประโยชน์เงินคืน : 

    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-9 รับเงินคืน 1.75% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 10 รับเงินครบกำหนดสัญญา 101.75% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

  • ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต : คุ้มครอง 105% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

ข้อมูลเพิ่มเติม : ธนาคารออมสิน, ทิพยประกันชีวิต 

4. ประกันสะสมทรัพย์ AIA iSave 10/5

ประกันลดหย่อนภาษี aia

ภาพจาก : AIA

        ฝั่งประกันชีวิตค่ายใหญ่อย่าง AIA มีประกันสะสมทรัพย์ที่ให้ส่งเบี้ย 5 ปี คุ้มครอง 10 ปี โดยจะได้รับเงินคืนตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นไป ปีละ 4% ของทุนประกัน และเมื่อครบกำหนดจะได้เงินก้อน 468% ของทุนประกัน

ตัวอย่าง เพศชาย อายุ 35 ปี เลือกจำนวนเงินเอาประกันภัย 57,471.26 บาท

  • จ่ายเบี้ย 50,000 บาท จำนวน 5 ปี รวมเป็นเงิน 250,000 บาท

  • ปีที่ 2-9 รับเงินคืนปีละ 2,298.85 บาท ปีที่ 10 ครบสัญญา รับเงินคืน 268,965.50 บาท

  • รวมรับเงินคืนทั้งหมด 287,356.30 บาท จากเบี้ยที่จ่ายไป 250,000 บาท ดังนั้น จะได้ผลตอบแทน 37,356.30 บาท

  • คิดเป็นอัตราผลตอบแทนภายในกรมธรรม์ (IRR) เท่ากับ 1.83% (ยังไม่รวมเงินที่นำไปลดหย่อนภาษี)

ประกันลดหย่อนภาษี aia

ภาพจาก : AIA

รายละเอียดประกันสะสมทรัพย์ AIA iSave10/5

  • อายุรับประกัน : 20-55 ปี

  • จำนวนเบี้ยประกันภัย : 20,000-50,000 บาท

  • ระยะเวลาเอาประกันภัย : 10 ปี

  • ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย : 5 ปี (ลดหย่อนภาษีได้ 5 ปี ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินปีละ 100,000 บาท)

  • ผลประโยชน์เงินคืน : 

    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 2-9 รับเงินคืน 4% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 10 รับเงินครบกำหนดสัญญา 468% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

  • ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต : 

    • ปีกรมธรรม์ที่ 1 : คุ้มครอง 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • ปีกรมธรรม์ที่ 2 : คุ้มครอง 200% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • ปีกรมธรรม์ที่ 3 : คุ้มครอง 300% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • ปีกรมธรรม์ที่ 4 : คุ้มครอง 400% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • ปีกรมธรรม์ที่ 5-10 : คุ้มครอง 500% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

ข้อมูลเพิ่มเติม : AIA

5. ประกันออมทรัพย์ ดี-ซูพรีม เซฟวิ่ง 10/1 (2.3%) จากอาคเนย์ประกันชีวิต

ประกันลดหย่อนภาษี อาคเนย์

ภาพจาก : อาคเนย์ประกันชีวิต

          อีกหนึ่งแบบประกันชีวิตลดหย่อนภาษีที่จ่ายเบี้ยประกันเพียง 1 ปี ระหว่างทางรอครบกำหนด 10 ปี ก็ยังได้รับเงินคืนสูง 2.3% ต่อปี ซื้อประกันออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยผู้ขอเอาประกันภัยไม่ต้องตรวจสุขภาพ และไม่ต้องแถลงสุขภาพในใบคำขอเอาประกันภัย

ตัวอย่าง เพศชาย อายุ 35 ปี เลือกจำนวนเงินเอาประกันภัย 50,000 บาท

  • จ่ายเบี้ยประกัน 50,000 บาท ครั้งเดียว

  • ปีที่ 1-9 รับเงินคืนปีละ 1,150 บาท และเมื่อครบสัญญาปีที่ 10 รับเงินคืน 51,150 บาท

  • รวมรับเงินคืนทั้งหมด 61,500 บาท จากเบี้ยที่จ่ายไป 50,000 บาท ดังนั้น จะได้ผลตอบแทน 11,500 บาท

  • คิดเป็นอัตราผลตอบแทนภายในกรมธรรม์ (IRR) เท่ากับ 2.31% (ยังไม่รวมเงินที่นำไปลดหย่อนภาษี)

ประกันลดหย่อนภาษี อาคเนย์

ภาพจาก : อาคเนย์ประกันชีวิต

รายละเอียดข้อมูลประกันออมทรัพย์ ดี-ซูพรีม เซฟวิ่ง 10/1 (2.3%)

  • อายุรับประกัน : 20-65 ปี

  • จำนวนเงินเอาประกันภัย : 50,000-1 ล้านบาท

  • ระยะเวลาเอาประกันภัย : 10 ปี

  • ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย : 1 ปี (ลดหย่อนภาษีได้ 1 ปี ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินปีละ 100,000 บาท)

  • ผลประโยชน์เงินคืน : 

    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-9 รับเงินคืน 2.3% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 10 รับเงินครบกำหนดสัญญา 102.3% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

  • ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต : คุ้มครอง 110% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

ข้อมูลเพิ่มเติม : อาคเนย์ประกันชีวิต

6. ประกันออมทรัพย์ Hero 10/3 จากแรบบิท ประกันชีวิต

ประกันลดหย่อนภาษี rabbit

ภาพจาก : แรบบิท ประกันชีวิต

          ประกันออมทรัพย์จากค่ายแรบบิท ประกันชีวิต ในเครือรถไฟฟ้า BTS แผนนี้ชำระเบี้ยสั้น ๆ 3 ปี ได้รับความคุ้มครองชีวิตนาน 10 ปี และในแต่ละปียังจะได้รับเงินคืน 20% ของทุนประกัน ส่วนปีสุดท้ายจะได้เงินคืน 165% ของทุนประกัน

ตัวอย่าง เพศชาย อายุ 35 ปี เลือกจำนวนเงินเอาประกันภัย 50,000 บาท

  • จ่ายเบี้ยปีละ 50,000 บาท เป็นเวลา 3 ปี รวมจ่ายเบี้ยประกัน 150,000 บาท

  • ปีที่ 1-9 รับเงินคืนปีละ 10,000 บาท และเมื่อครบสัญญาปีที่ 10 รับเงินคืน 82,500 บาท

  • รวมรับเงินคืนทั้งหมด 172,500 บาท จากเบี้ยที่จ่ายไป 150,000 บาท ดังนั้น จะได้ผลตอบแทน 22,500 บาท

  • คิดเป็นอัตราผลตอบแทนภายในกรมธรรม์ (IRR) เท่ากับ 2.25% (ยังไม่รวมเงินที่นำไปลดหย่อนภาษี)

ประกันลดหย่อนภาษี rabbit

ภาพจาก : แรบบิท ประกันชีวิต

รายละเอียดข้อมูลประกันออมทรัพย์ Hero 10/3

  • อายุรับประกัน : 20-60 ปี

  • จำนวนเงินเอาประกันภัย : 30,000-100,000 บาท

  • ระยะเวลาเอาประกันภัย : 10 ปี

  • ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย : 3 ปี (ลดหย่อนภาษีได้ 3 ปี ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินปีละ 100,000 บาท)

  • ผลประโยชน์เงินคืน : 

    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-9 รับเงินคืน 20% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 10 รับเงินครบกำหนดสัญญา 165% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

  • ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต : 

    • ปีกรมธรรม์ที่ 1 : คุ้มครอง 101% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • ปีกรมธรรม์ที่ 2 : คุ้มครอง 202% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • ปีกรมธรรม์ที่ 3-10 : คุ้มครอง 303% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

ข้อมูลเพิ่มเติม : แรบบิท ประกันชีวิต

7. ประกันสะสมทรัพย์ บีแอลเอ สมาร์ทเซฟวิ่ง 10/1

ประกันลดหย่อนภาษี กรุงเทพประกันชีวิต

ภาพจาก : กรุงเทพประกันชีวิต

          สำหรับคนที่อยากได้ประกันสะสมทรัพย์แบบจ่ายปีเดียวจบ ไม่เป็นภาระไปทุกปี ทางกรุงเทพประกันชีวิตก็มีแบบประกัน บีแอลเอ สมาร์ทเซฟวิ่ง 10/1 ที่ชำระเบี้ยเพียงครั้งเดียว แต่ได้รับความคุ้มครองไป 10 ปี พร้อมกับมีเงินคืนให้ทุกปี

ตัวอย่าง เพศชาย อายุ 35 ปี เลือกจำนวนเงินเอาประกันภัย 50,000 บาท

  • จ่ายเบี้ย 50,000 บาท ครั้งเดียว

  • ปีที่ 1-9 รับเงินคืนปีละ 875 บาท ปีที่ 10 ครบสัญญา รับเงินคืน 50,875 บาท

  • รวมรับเงินคืนทั้งหมด 58,750 บาท จากเบี้ยที่จ่ายไป 50,000 บาท ดังนั้น จะได้ผลตอบแทน 8,750 บาท

  • คิดเป็นอัตราผลตอบแทนภายในกรมธรรม์ (IRR) เท่ากับ 1.75% (ยังไม่รวมเงินที่นำไปลดหย่อนภาษี)

ประกันลดหย่อนภาษี กรุงเทพประกันชีวิต

ภาพจาก : กรุงเทพประกันชีวิต

รายละเอียดประกันสะสมทรัพย์ บีแอลเอ สมาร์ทเซฟวิ่ง 10/1

  • อายุรับประกัน : 20-75 ปี

  • จำนวนเบี้ยประกันภัย : 50,000-5 ล้านบาท

  • ระยะเวลาเอาประกันภัย : 10 ปี

  • ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย : 1 ปี (ลดหย่อนภาษีได้ 1 ปี ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินปีละ 100,000 บาท)

  • ผลประโยชน์เงินคืน : 

    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-9 รับเงินคืน 1.75% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    • สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 10 รับเงินครบกำหนดสัญญา 101.75% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

  • ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต : คุ้มครอง 110% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

ข้อมูลเพิ่มเติม : กรุงเทพประกันชีวิต

          แม้ประกันออมทรัพย์สามารถสมัครได้ง่าย แต่ก็มีข้อยกเว้นบางประการที่ควรทราบก่อนทำประกัน เช่น ในกรณีที่เราปกปิดข้อเท็จจริง บริษัทสามารถปฏิเสธการจ่ายเงินหรือบอกล้างสัญญาได้ รวมถึงเงื่อนไขอื่น ๆ ซึ่งผู้ทำประกันควรศึกษาให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์สูงสุดของตัวเอง

บทความที่เกี่ยวข้องกับประกันและการลดหย่อนภาษี

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ประกันลดหย่อนภาษี 2567 ตัวไหนดี ชี้เป้าประกันออมทรัพย์ระยะสั้น ครบ 10 ปีได้เงินคืน อัปเดตล่าสุด 4 พฤศจิกายน 2567 เวลา 23:27:03 11,540 อ่าน
TOP
x close