ดอกเบี้ยคงที่
ดอกเบี้ยคงที่ คืออะไร
ดอกเบี้ยคงที่ มีข้อดียังไง
วิธีคิดดอกเบี้ยแบบคงที่
ในการคิดดอกเบี้ยแบบคงที่ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยในแต่ละงวดที่ตายตัวอยู่แล้ว เราจะสามารถคำนวณหาจำนวนดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมดได้ด้วยสูตรดังต่อไปนี้
ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมด = เงินต้น x อัตราดอกเบี้ย x จำนวนปี
สมมติให้เงินต้นเป็น 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 10% และผ่อนเป็นระยะเวลา 2 ปี จะมีจำนวนดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมด = 100,000 x 10% x 2 = 20,000 บาท
หลังจากนั้นถ้าหากต้องการทราบว่าจะต้องผ่อนชำระเดือนละเท่าไร ให้ใช้สูตรดังนี้
เงินผ่อนชำระต่อเดือน = (เงินต้น + ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมด) / จำนวนงวดที่ต้องผ่อนชำระ
เพราะฉะนั้นถ้านำจำนวนดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมดจากด้านบน มาคำนวณหาจำนวนเงินที่ต้องผ่อนชำระต่อเดือน ก็จะได้เท่ากับ (100,000 + 20,000) / 24 = 5,000 บาท
ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก
ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก คืออะไร
ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก (Effective Rate) คือ ดอกเบี้ยที่คำนวณจากเงินต้นที่เหลือในทุก ๆ งวด ทำให้เมื่อมีการผ่อนชำระบางส่วนไปแล้ว ดอกเบี้ยที่ต้องชำระในงวดถัดไปก็จะน้อยลงเรื่อย ๆ ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินต้นที่เหลือ
ทั้งนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกมักใช้กับสินเชื่อบ้านและสินเชื่อส่วนบุคคล แต่ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป ผู้ที่เช่าซื้อรถยนต์-รถจักรยานยนต์ สามารถเลือกใช้ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกได้เช่นกัน จากเดิมที่ต้องใช้ดอกเบี้ยแบบคงที่เท่านั้น
ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก มีข้อดีอะไรบ้าง
วิธีคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก
ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในงวดนั้น = (เงินต้นคงเหลือ x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวันในงวด) / จำนวนวันต่อปี
ยกตัวอย่างเช่น เงินต้นคงเหลือ 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 10% ต่อปี ก็จะมีดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในงวดนั้น = (10,000 x 10% x 30) / 365 = 82 บาท
หลังจากนั้นถ้าหากต้องการทราบว่างวดถัดไปต้องจ่ายดอกเบี้ยเท่าไร ให้คำนวณหาเงินต้นคงเหลือ
สมมติต้องผ่อนชำระเดือนละ 1,000 บาท ให้นำไปหักลบกับดอกเบี้ยที่จ่ายในงวดนั้น ก็จะได้ออกมาเป็นเงินต้นที่ลดลง = 1,000 - 82 = 918 บาท จากนั้นก็นำเงินต้นคงเหลือจากงวดก่อนมาหักลบ ก็จะได้เงินต้นคงเหลือ = 10,000 - 918 = 9,082 บาท ซึ่งสามารถนำไปคำนวณหาดอกเบี้ยต่อได้เลย
เลือกแบบไหนจ่ายดอกเบี้ยถูกกว่า
กรณีอัตราดอกเบี้ยเท่ากัน
กรณีอัตราดอกเบี้ยไม่เท่ากัน
เนื่องจากการคำนวณอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่กับแบบลดต้นลดดอกนั้นแตกต่างกัน จึงไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันชัด ๆ ได้ว่าแบบไหนจ่ายดอกเบี้ยถูกกว่า แต่ก็สามารถใช้วิธีแปลงอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ไปเป็นแบบลดต้นลดดอกอย่างคร่าว ๆ ได้ ด้วยการนำอัตราดอกเบี้ยคงที่ไปคูณ 1.8
สมมติ เรากำลังพิจารณาขอสินเชื่อจาก 2 ธนาคาร โดยธนาคาร A คิดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 5% ส่วนธนาคาร B คิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก 7% ตรงนี้อาจดูเหมือนว่า ธนาคาร A จะคิดดอกเบี้ยถูกกว่า แต่เมื่อนำอัตราดอกเบี้่ยคงที่มาแปลงเป็นแบบลดต้นลดดอกก็จะได้ = 5% x 1.8 = 9% จึงสามารถบอกได้คร่าว ๆ ว่าดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกของธนาคาร B นั้นถูกกว่า
บทความที่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ยและการกู้เงิน
- วิธีคิดดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร ทั้งแบบออมทรัพย์และฝากประจำ คำนวณได้ด้วยตัวเอง
- ดอกเบี้ยบัตรเครดิต คิดยังไง มาดูวิธีคำนวณเมื่อจ่ายขั้นต่ำ
- แอปฯ กู้เงินถูกกฎหมาย ปี 2022 ยืมเงินออนไลน์ไม่เสี่ยงโดนหลอก
- ยืมเงินในแอปฯ ธนาคารไหนดี ปี 2565 รวมสินเชื่อส่วนบุคคลให้กู้เงินออนไลน์ของแต่ละแบงก์
- รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ธนาคารไหนดี รวมสินเชื่อปิดบัตรเครดิต 2565 จ่ายดอกเบี้ยถูกกว่าเดิม
- วิธีคิดเปอร์เซ็นต์ เรื่องง่าย ๆ ที่หลายคนมักปวดหัว