แม้จะเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่แล้ว แต่ในเดือนตุลาคม 2565 ผู้ถือบัตรคนจนใบเดิมก็ยังสามารถใช้สิทธิ์ได้อยู่ อย่างไรก็ตาม มีความช่วยเหลือบางมาตรการที่สิ้นสุดลงตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 เช่น เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุ 50-100 บาท ซึ่งคงต้องรอติดตามข่าวว่าจะมีการต่ออายุมาตรการออกไปอีกหรือไม่
ดังนั้น เท่ากับว่าในส่วนของเดือนตุลาคมนี้ เงินช่วยเหลือเบื้องต้นที่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับ มีดังต่อไปนี้

วงเงินซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค คนละ 200-300 บาท/เดือน
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ได้รับ 300 บาท/เดือน
- กลุ่มที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท ได้รับ 200 บาท/เดือน
โครงการเพิ่มกำลังซื้อ คนละ 200 บาท/เดือน
ค่ารถโดยสารสาธารณะ
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้) แบ่งเป็น
- ค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า 500 บาท/เดือน (ใช้ชำระค่าโดยสารด้วยระบบ e-Ticket เฉพาะผู้ถือบัตรใน 7 จังหวัด คือ กทม., นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร และนครปฐม)
- ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาท/เดือน
- ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาท/เดือน
วงเงินซื้อก๊าซหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรคนจนทั่วไป 100 บาท/3 เดือน
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)
ปรับเพิ่มวงเงินซื้อก๊าซหุงต้ม เป็น 100 บาท/คน/3 เดือน สำหรับการซื้อก๊าซหุงต้มในวันที่ 25 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2565 โดยใช้สำหรับเป็นส่วนลดในการซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการที่ได้รับเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่องรูดบัตร EDC) หากไม่ได้ใช้สิทธิ์จะถูกตัดยอดเงินไป
วงเงินซื้อก๊าซหุงต้มสำหรับร้านค้า หาบเร่ แผงลอย 100 บาท/เดือน
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ผู้ประกอบการร้านค้า หาบเร่ แผงลอยที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)
หมายเหตุ : ครม. มีมติให้ต่ออายุมาตรการช่วยเหลือส่วนลดค่าก๊าซหุงต้มให้แก่ร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหารที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่เกิน 100 บาท/ราย/เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565
ค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาท/เดือน/ครัวเรือน

- กรณีใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน ติดต่อกัน 3 เดือน ให้ใช้สิทธิ์ค่าไฟฟ้าฟรี ตามมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบัน
- กรณีใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน ให้ใช้สิทธิ์ตามมาตรการนี้ในวงเงิน 315 บาท/ครัวเรือน/เดือน
- กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าไฟฟ้าเองทั้งหมด
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เรียบร้อย (ถ้าเคยลงทะเบียนแล้วสามารถใช้สิทธิ์ได้ทันที ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่)
วิธีลงทะเบียน
- ผู้ใช้ไฟฟ้าใน กทม., สมุทรปราการ, นนทบุรี ลงทะเบียนที่การไฟฟ้านครหลวง
- ผู้ใช้ไฟฟ้าในต่างจังหวัด ลงทะเบียนที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาท/เดือน/ครัวเรือน

- กรณีใช้น้ำประปา เกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท โดยส่วนเกินต้องชำระเอง
- กรณีใช้น้ำประปา เกิน 315 บาท ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าประปาเองทั้งหมด
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ครัวเรือนที่ใช้น้ำประปาไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เรียบร้อย (ถ้าเคยลงทะเบียนแล้วสามารถใช้สิทธิ์ได้ทันที ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่)
วิธีลงทะเบียน
- ผู้ใช้ประปาใน กทม., สมุทรปราการ, นนทบุรี ลงทะเบียนที่การประปานครหลวง
- ผู้ใช้ประปาในต่างจังหวัด ลงทะเบียนที่การประปาส่วนภูมิภาค
เงินช่วยเหลือผู้พิการ 200 บาท
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : เป็นผู้พิการที่อายุ 18 ปีขึ้นไป มีบัตรประจำตัวผู้พิการ และมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเงินเบี้ยความพิการ เพิ่มอีก 200 บาท (จากเดิม 800 บาท) รวมเป็น 1,000 บาท/เดือน โดยจะแบ่งจ่ายดังนี้
- 800 บาท : โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเหมือนเดิม ทุกวันที่ 10 ของเดือน
- เงินเพิ่มเติมอีก 200 บาท จากกองทุนประชารัฐ : จ่ายเข้ากระเป๋าเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเงินจะเข้าบัญชีวันที่ 22 ของทุกเดือน

บทความที่เกี่ยวข้องกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐหมดเขตวันไหน ใบเดิมใช้ได้ถึงเมื่อไหร่ มีวันหมดอายุหรือเปล่า ?
- ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน ครอบครัวต้องไปด้วยไหม ถ้าไม่ว่างต้องทำอย่างไร ?
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ลงทะเบียนรอบใหม่ต้องกรอกข้อมูลอะไรบ้าง เช็กแบบฟอร์มกันเลย
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 คิดรายได้เฉลี่ยครอบครัวอย่างไร เช็กเงื่อนไขแบบไหนลงทะเบียนได้
* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 26 ตุลาคม 2565
ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก กระทรวงการคลัง : Ministry of Finance, เฟซบุ๊ก กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน, เฟซบุ๊ก กรมบัญชีกลาง The Comptroller General’s Department, กรมประชาสัมพันธ์, กรุงเทพธุรกิจ