20 คำถาม สิ่งที่ผู้ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาเกษตรกรยังไม่ผ่านควรรู้ พร้อมเผยสถานที่ ขั้นตอนการยื่นอุทธรณ์ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม
หลังจากที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดให้มีการลงทะเบียนเยียวยาเกษตร เพื่อให้เกษตรกรรับเงินเยียวยาจากผลกระทบของ โควิด 19 และทาง ธ.ก.ส. ก็ได้เริ่มจ่ายเงินให้แก่ผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีเกษตรกรอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้รับสิทธิ์เยียวยาเกษตรกร เนื่องจากอาจมีการติดปัญหาต่าง ๆ จนทำให้หลายคนเกิดความสับสนเป็นอย่างมาก
ล่าสุด วันที่ 26 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ชี้แจงเกี่ยวกับข้อสงสัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเงินเยียวยาเกษตรกร ที่เพจเฟซบุ๊ก รัชดา ธนาดิเรก - รองโฆษกรัฐบาล โดยมีทั้งหมด 20 ข้อ ดังต่อไปนี้
ล่าสุด วันที่ 26 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ชี้แจงเกี่ยวกับข้อสงสัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเงินเยียวยาเกษตรกร ที่เพจเฟซบุ๊ก รัชดา ธนาดิเรก - รองโฆษกรัฐบาล โดยมีทั้งหมด 20 ข้อ ดังต่อไปนี้
ภาพจาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
1. ในกรณีมีการอุทธรณ์ จะมีขั้นตอนอย่างไร
ตอบ : หลังจากเกษตรกรเข้ามาติดต่ออุทธรณ์ เจ้าหน้าที่รับเรื่องบันทึกข้อมูลลงในระบบ และจะมีการระบุหน่วยงานเจ้าของเรื่อง พร้อมรายละเอียด จากนั้นระบบจะทำการจำแนกข้อมูล ส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบวิเคราะห์ข้อมูล หากข้อมูลที่อุทธรณ์มาสามารถชี้แจงได้ หน่วยงานที่รับผิดชอบจะส่งข้อมูลให้คณะกรรมการรับเรื่องดำเนินการ จ่ายเงินเยียวยาต่อไป
2. สถานที่สําหรับไปขออุทธรณ์
ตอบ : มี 8 หน่วยงานที่เปิดให้ประชาชนสามารถไปยื่นอุทธรณ์ ได้แก่ 1. สำนักงานเกษตรอำเภอ 2. สำนักงานประมงอำเภอ 3. สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ 4. สำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ หรือศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ต่าง ๆ 5. สำนักงานบริหารอ้อย และน้ำตาลทราย ตามภูมิภาคต่าง ๆ 6. สำนักงานสรรพสามิตจังหวัด 7. การยางแห่งประเทศไทย ตามภูมิภาคต่าง ๆ 8. สำนักงานเกษตร และสหกรณ์จังหวัด
3. การจ่ายเงินเยียวยานี้จ่ายเป็นรายครอบครัวหรือรายบุคคล
ตอบ : เป็นรายบุคคลตามที่ขึ้นทะเบียนไว้กับหน่วยงานที่รับขึ้นทะเบียน เช่น กรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์ เป็นต้น
4. แผนการดําเนินการการเยียวยาเกษตรกร เป็นอย่างไร
ตอบ : รวบรวมรายชื่อเกษตรกรที่เข้าเกณฑ์ "รอบแรก" ตัดยอด ณ วันที่ 30 เมษายน 2563 "รอบ 2" วันที่ 1-15 พฤษภาคม 2563 หากการคัดกรองจากฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดพบว่าไม่มีความซ้ำซ้อนกับสิทธิ์อื่น ๆ รอบแรกจะได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท ก่อนตั้งแต่ 15 พฤษภาคม 2563 รอบ 2 จะได้รับ 5,000 บาท ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม 2563
5. มีความประสงค์ที่จะแก้ไขข้อมูลบัญชีธนาคาร เพื่อรับเงินเยียวยาในกรณีที่ผ่านการพิจารณาต้องทำอย่างไร
ตอบ : สามารถติดต่อไปที่ ธ.ก.ส. สาขาที่สะดวก หรือโทร. สอบถามที่เบอร์ 0-2555-0555
6. หากไม่มีบัญชี ธ.ก.ส. ต้องทำอย่างไร
ตอบ : 1. ตรวจสอบรายละเอียดจาก www.เยียวยาเกษตรกร.com 2. ติดต่อไปที่ ธ.ก.ส. สาขาที่สะดวก หรือโทร. สอบถามที่เบอร์ 0-2555-0555
7. ลูกหลานเกษตรกรที่ถูกปฏิเสธจากโครงการเราไม่ทิ้งกัน เนื่องจากเคยลงทะเบียนว่าเป็นเกษตรกร จะมีสิทธิ์รับเงินเยียวยาเกษตรกรนี้หรือไม่
ตอบ : มีสิทธิ์รับเงินเยียวยาเกษตรกร หากลูกหลานเกษตรกรผู้นั้นได้ขึ้นทะเบียนไว้กับหน่วยงานที่รับขึ้นทะเบียนตามโครงการของกระทรวงเกษตรฯ
8. เกษตรกรยังต้องการหลักฐานอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ตอนรับเงิน หรือเงินจะเข้าบัญชีธนาคารของเกษตรกรโดยอัตโนมัติ
ตอบ : หากมีการแจ้งหมายเลขบัญชีธนาคาร ในเว็บไซต์ เยียวยาเกษตรกร ของ ธ.ก.ส. แล้ว หากได้รับสิทธิ์การเยียวยาเกษตรกร ก็ไม่จำเป็นต้องใช้หลักฐานใด ๆ เพิ่มเติม โดยเงินเยียวยาจะโอนเข้าสู่บัญชีนั้นโดยอัตโนมัติ ส่วนกรณีเกษตรกรเป็นลูกค้า ธ.ก.ส. มีบัญชีแล้ว แต่ไม่ได้เข้าไปยืนยันสิทธิ์ จะต้องสอบถามไปยังธนาคารเพิ่มเติมว่าต้องเข้าไปใส่ข้อมูลอีกหรือไม่
9. กรณีเกษตรกรที่ต้องสละสิทธิ์ อาทิ วุฒิสมาชิก จะต้องดําเนินการอย่างไร
ตอบ : สามารถทําหนังสือแจ้งมายังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และช่องทางการขอสละสิทธิ์ทางเว็บไซต์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่กำลังจะเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้
10. กรณีผู้รับจ้างกรีดยาง จะได้รับเงินเยียวยาหรือไม่
ตอบ : กรณีดังกล่าวจะได้รับเงินในรอบที่ 2 หากผู้รับจ้างกรีดยางผู้นั้นได้ขึ้นทะเบียนไว้กับหน่วยงานของการยางแห่งประเทศไทย (สกย.) โดยสามารถติดต่อสอบถามรายชื่อได้ที่หน่วยงาน สกย. ในพื้นที่
ตอบ : หลังจากเกษตรกรเข้ามาติดต่ออุทธรณ์ เจ้าหน้าที่รับเรื่องบันทึกข้อมูลลงในระบบ และจะมีการระบุหน่วยงานเจ้าของเรื่อง พร้อมรายละเอียด จากนั้นระบบจะทำการจำแนกข้อมูล ส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบวิเคราะห์ข้อมูล หากข้อมูลที่อุทธรณ์มาสามารถชี้แจงได้ หน่วยงานที่รับผิดชอบจะส่งข้อมูลให้คณะกรรมการรับเรื่องดำเนินการ จ่ายเงินเยียวยาต่อไป
2. สถานที่สําหรับไปขออุทธรณ์
ตอบ : มี 8 หน่วยงานที่เปิดให้ประชาชนสามารถไปยื่นอุทธรณ์ ได้แก่ 1. สำนักงานเกษตรอำเภอ 2. สำนักงานประมงอำเภอ 3. สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ 4. สำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ หรือศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ต่าง ๆ 5. สำนักงานบริหารอ้อย และน้ำตาลทราย ตามภูมิภาคต่าง ๆ 6. สำนักงานสรรพสามิตจังหวัด 7. การยางแห่งประเทศไทย ตามภูมิภาคต่าง ๆ 8. สำนักงานเกษตร และสหกรณ์จังหวัด
3. การจ่ายเงินเยียวยานี้จ่ายเป็นรายครอบครัวหรือรายบุคคล
ตอบ : เป็นรายบุคคลตามที่ขึ้นทะเบียนไว้กับหน่วยงานที่รับขึ้นทะเบียน เช่น กรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์ เป็นต้น
4. แผนการดําเนินการการเยียวยาเกษตรกร เป็นอย่างไร
ตอบ : รวบรวมรายชื่อเกษตรกรที่เข้าเกณฑ์ "รอบแรก" ตัดยอด ณ วันที่ 30 เมษายน 2563 "รอบ 2" วันที่ 1-15 พฤษภาคม 2563 หากการคัดกรองจากฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดพบว่าไม่มีความซ้ำซ้อนกับสิทธิ์อื่น ๆ รอบแรกจะได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท ก่อนตั้งแต่ 15 พฤษภาคม 2563 รอบ 2 จะได้รับ 5,000 บาท ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม 2563
5. มีความประสงค์ที่จะแก้ไขข้อมูลบัญชีธนาคาร เพื่อรับเงินเยียวยาในกรณีที่ผ่านการพิจารณาต้องทำอย่างไร
ตอบ : สามารถติดต่อไปที่ ธ.ก.ส. สาขาที่สะดวก หรือโทร. สอบถามที่เบอร์ 0-2555-0555
6. หากไม่มีบัญชี ธ.ก.ส. ต้องทำอย่างไร
ตอบ : 1. ตรวจสอบรายละเอียดจาก www.เยียวยาเกษตรกร.com 2. ติดต่อไปที่ ธ.ก.ส. สาขาที่สะดวก หรือโทร. สอบถามที่เบอร์ 0-2555-0555
7. ลูกหลานเกษตรกรที่ถูกปฏิเสธจากโครงการเราไม่ทิ้งกัน เนื่องจากเคยลงทะเบียนว่าเป็นเกษตรกร จะมีสิทธิ์รับเงินเยียวยาเกษตรกรนี้หรือไม่
ตอบ : มีสิทธิ์รับเงินเยียวยาเกษตรกร หากลูกหลานเกษตรกรผู้นั้นได้ขึ้นทะเบียนไว้กับหน่วยงานที่รับขึ้นทะเบียนตามโครงการของกระทรวงเกษตรฯ
8. เกษตรกรยังต้องการหลักฐานอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ตอนรับเงิน หรือเงินจะเข้าบัญชีธนาคารของเกษตรกรโดยอัตโนมัติ
ตอบ : หากมีการแจ้งหมายเลขบัญชีธนาคาร ในเว็บไซต์ เยียวยาเกษตรกร ของ ธ.ก.ส. แล้ว หากได้รับสิทธิ์การเยียวยาเกษตรกร ก็ไม่จำเป็นต้องใช้หลักฐานใด ๆ เพิ่มเติม โดยเงินเยียวยาจะโอนเข้าสู่บัญชีนั้นโดยอัตโนมัติ ส่วนกรณีเกษตรกรเป็นลูกค้า ธ.ก.ส. มีบัญชีแล้ว แต่ไม่ได้เข้าไปยืนยันสิทธิ์ จะต้องสอบถามไปยังธนาคารเพิ่มเติมว่าต้องเข้าไปใส่ข้อมูลอีกหรือไม่
9. กรณีเกษตรกรที่ต้องสละสิทธิ์ อาทิ วุฒิสมาชิก จะต้องดําเนินการอย่างไร
ตอบ : สามารถทําหนังสือแจ้งมายังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และช่องทางการขอสละสิทธิ์ทางเว็บไซต์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่กำลังจะเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้
10. กรณีผู้รับจ้างกรีดยาง จะได้รับเงินเยียวยาหรือไม่
ตอบ : กรณีดังกล่าวจะได้รับเงินในรอบที่ 2 หากผู้รับจ้างกรีดยางผู้นั้นได้ขึ้นทะเบียนไว้กับหน่วยงานของการยางแห่งประเทศไทย (สกย.) โดยสามารถติดต่อสอบถามรายชื่อได้ที่หน่วยงาน สกย. ในพื้นที่
ภาพจาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
11. ครัวเรือนเกษตรกรมีสมาชิก 5 คน พ่อขึ้นทะเบียนเกษตรกร ลูกมีอาชีพเสริมเป็นหมอนวด รับเงินโครงการเราไม่ทิ้งกันแล้ว หัวหน้าครัวเรือนที่เป็นเกษตรกรจะได้รับเงินเยียวยาหรือไม่
ตอบ : หัวหน้าครัวเรือนจะได้รับสิทธิ์ เนื่องจากโครงการจะให้สิทธิ์เยียวยาแก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับหน่วยงานที่กําหนดไว้
12. กรณีพ่อขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมเกษตร (ด้านพืช) และลูกชายเลี้ยงโค 5 ตัว ไปขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์ จะได้สิทธิ์เยียวยาหรือไม่
ตอบ : กรณีนี้ทั้งพ่อและลูกชายจะได้สิทธิ์เยียวยา แต่ทั้ง 2 คนจะต้องไม่เคยได้รับสิทธิ์เยียวยาในโครงการเราไม่ทิ้งกัน และไม่เป็นผู้ได้รับบํานาญ ไม่เป็นผู้ได้สิทธิประกันสังคม
13. เกษตรกรที่ได้เงินรอบแรกนี้มีหลักเกณฑ์อะไรในการพิจารณา รอบต่อไปใช้หลักเกณฑ์อะไร และจะได้เมื่อไร
ตอบ : หลักเกณฑ์ในการพิจารณาใช้อันเดียวกันคือ ต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานที่กําหนด ต้องไม่ได้รับสิทธิ์เยียวยาในโครงการเราไม่ทิ้งกัน และไม่เป็นผู้ได้รับบํานาญ และไม่เป็นผู้ได้สิทธิประกันสังคม โดยจะได้ในรอบแรกวันที่ 15 พฤษภาคม 2563
14. เกษตรกรที่ได้รับเงินเยียวยานี้แล้ว ยังมีสิทธิ์ได้รับเงินชดเชยอื่น ๆ อีกหรือไม่ เช่น ชดเชยภัยแล้ง ชดเชยรายได้
ตอบ : เกษตรกรยังได้รับสิทธิ์เงินชดเชยอื่นได้ตามเงื่อนไขที่กําหนดเช่นเดิม
15. หัวหน้าครัวเรือนปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ มีสมาชิกในครัวเรือนทํางานราชการ รับจ้าง เป็นพ่อค้าแม่ค้า จะมีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาหรือไม่
ตอบ : หัวหน้าครัวเรือนรายนี้ยังมีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยา แต่ต้องไม่ได้รับสิทธิ์เยียวยาในโครงการ เราไม่ทิ้งกัน และไม่เป็นผู้ได้รับบํานาญ และไม่เป็นผู้ได้สิทธิประกันสังคม
16. กรณีครัวเรือนเกษตรกรมีสมาชิกที่ได้รับเงินในโครงการเราไม่ทิ้งกันแล้ว หัวหน้าครัวเรือนที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรจะได้รับเงินเยียวยาหรือไม่
ตอบ : กรณีนี้หัวหน้าครัวเรือนยังได้รับเงินเยียวยา หากหัวหน้าครัวเรือนไม่ได้รับสิทธิ์เยียวยาในโครงการ เราไม่ทิ้งกัน และไม่เป็นผู้ได้รับบํานาญ และไม่เป็นผู้ได้สิทธิประกันสังคม
17. กรณีกลุ่มที่ไปปรับวันที่ปรับปรุงทะเบียน หรือขึ้นทะเบียนใหม่ ไม่มีเอกสารสิทธิ จะได้รับเงินเยียวยาหรือไม่
ตอบ : สามารถไปติดต่อหน่วยงานที่รับขึ้นทะเบียน หากเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงาน จะได้รับสิทธิ์ทุกคน
18. กรณีโดนตัดสิทธิ์ เราไม่ทิ้งกัน เพราะเป็นหัวหน้าครัวเรือนเกษตรกร และกรณีสมาชิกที่ช่วยทําเกษตร เช็กแล้วไม่มีรายชื่อรับเงินเยียวยาเกษตร จะต้องทําอย่างไร
ตอบ : สามารถอุทธรณ์ตามช่องทางต่าง ๆ ของภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้เลย
19. สถานภาพในทะเบียนเกษตรกร จะสิ้นสุดลงเมื่อใด
ตอบ : 1. เสียชีวิต 2. เป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ 3. แจ้งยกเลิกประกอบการเกษตร 4. แจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จในการขึ้นทะเบียนเกษตรกร 5. ไม่มีการปรับปรุงสถานภาพเลยติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี (เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป และมีผลย้อนหลังสําหรับผู้ไม่มาปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2560)
20. การแจ้งข้อมูลเท็จ มีความผิดหรือไม่
ตอบ : การแจ้งข้อมูลเท็จในทะเบียนเกษตรกร ถือเป็นความผิดทางอาญา ตามมาตรา 137 และมาตรา 267 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก รัชดา ธนาดิเรก - รองโฆษกรัฐบาล
ตอบ : หัวหน้าครัวเรือนจะได้รับสิทธิ์ เนื่องจากโครงการจะให้สิทธิ์เยียวยาแก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับหน่วยงานที่กําหนดไว้
12. กรณีพ่อขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมเกษตร (ด้านพืช) และลูกชายเลี้ยงโค 5 ตัว ไปขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์ จะได้สิทธิ์เยียวยาหรือไม่
ตอบ : กรณีนี้ทั้งพ่อและลูกชายจะได้สิทธิ์เยียวยา แต่ทั้ง 2 คนจะต้องไม่เคยได้รับสิทธิ์เยียวยาในโครงการเราไม่ทิ้งกัน และไม่เป็นผู้ได้รับบํานาญ ไม่เป็นผู้ได้สิทธิประกันสังคม
13. เกษตรกรที่ได้เงินรอบแรกนี้มีหลักเกณฑ์อะไรในการพิจารณา รอบต่อไปใช้หลักเกณฑ์อะไร และจะได้เมื่อไร
ตอบ : หลักเกณฑ์ในการพิจารณาใช้อันเดียวกันคือ ต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานที่กําหนด ต้องไม่ได้รับสิทธิ์เยียวยาในโครงการเราไม่ทิ้งกัน และไม่เป็นผู้ได้รับบํานาญ และไม่เป็นผู้ได้สิทธิประกันสังคม โดยจะได้ในรอบแรกวันที่ 15 พฤษภาคม 2563
14. เกษตรกรที่ได้รับเงินเยียวยานี้แล้ว ยังมีสิทธิ์ได้รับเงินชดเชยอื่น ๆ อีกหรือไม่ เช่น ชดเชยภัยแล้ง ชดเชยรายได้
ตอบ : เกษตรกรยังได้รับสิทธิ์เงินชดเชยอื่นได้ตามเงื่อนไขที่กําหนดเช่นเดิม
15. หัวหน้าครัวเรือนปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ มีสมาชิกในครัวเรือนทํางานราชการ รับจ้าง เป็นพ่อค้าแม่ค้า จะมีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาหรือไม่
ตอบ : หัวหน้าครัวเรือนรายนี้ยังมีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยา แต่ต้องไม่ได้รับสิทธิ์เยียวยาในโครงการ เราไม่ทิ้งกัน และไม่เป็นผู้ได้รับบํานาญ และไม่เป็นผู้ได้สิทธิประกันสังคม
16. กรณีครัวเรือนเกษตรกรมีสมาชิกที่ได้รับเงินในโครงการเราไม่ทิ้งกันแล้ว หัวหน้าครัวเรือนที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรจะได้รับเงินเยียวยาหรือไม่
ตอบ : กรณีนี้หัวหน้าครัวเรือนยังได้รับเงินเยียวยา หากหัวหน้าครัวเรือนไม่ได้รับสิทธิ์เยียวยาในโครงการ เราไม่ทิ้งกัน และไม่เป็นผู้ได้รับบํานาญ และไม่เป็นผู้ได้สิทธิประกันสังคม
17. กรณีกลุ่มที่ไปปรับวันที่ปรับปรุงทะเบียน หรือขึ้นทะเบียนใหม่ ไม่มีเอกสารสิทธิ จะได้รับเงินเยียวยาหรือไม่
ตอบ : สามารถไปติดต่อหน่วยงานที่รับขึ้นทะเบียน หากเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงาน จะได้รับสิทธิ์ทุกคน
18. กรณีโดนตัดสิทธิ์ เราไม่ทิ้งกัน เพราะเป็นหัวหน้าครัวเรือนเกษตรกร และกรณีสมาชิกที่ช่วยทําเกษตร เช็กแล้วไม่มีรายชื่อรับเงินเยียวยาเกษตร จะต้องทําอย่างไร
ตอบ : สามารถอุทธรณ์ตามช่องทางต่าง ๆ ของภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้เลย
19. สถานภาพในทะเบียนเกษตรกร จะสิ้นสุดลงเมื่อใด
ตอบ : 1. เสียชีวิต 2. เป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ 3. แจ้งยกเลิกประกอบการเกษตร 4. แจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จในการขึ้นทะเบียนเกษตรกร 5. ไม่มีการปรับปรุงสถานภาพเลยติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี (เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป และมีผลย้อนหลังสําหรับผู้ไม่มาปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2560)
20. การแจ้งข้อมูลเท็จ มีความผิดหรือไม่
ตอบ : การแจ้งข้อมูลเท็จในทะเบียนเกษตรกร ถือเป็นความผิดทางอาญา ตามมาตรา 137 และมาตรา 267 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก รัชดา ธนาดิเรก - รองโฆษกรัฐบาล