วันที่ 12 ธันวาคม 2560 ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลจัดอันดับ 10 ธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วง ประจำปี 2561 โดยพิจารณาจากเกณฑ์ยอดขาย ต้นทุน กำไรสุทธิ ผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ สภาวะการแข่งขัน และสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจที่มีส่วนสนับสนุนและกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ รวมถึงข้อมูลด้านสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ การนำเข้าส่งออก ดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจต่าง ๆ
โดยพบว่าในปี 2561 ธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและอุปกรณ์ จะมีความโดดเด่นที่สุดจากนโยบายส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานด้านอินเทอร์เน็ตของรัฐบาล และการที่สังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงเป็นสังคมเมืองมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจดาวร่วง ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีจนปรับตัวไม่ทัน รวมถึงปัญหาจากกำลังซื้อ และการเคลื่อนย้ายฐานการผลิต
1. ธุรกิจการให้บริการเทคโนโลยีการสื่อสารและอุปกรณ์
2. ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม
3. ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
4. ธุรกิจเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว
5. ธุรกิจด้านปิโตรเคมีและพลาสติก ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์
6. ธุรกิจโมเดิร์นเทรด
7. ธุรกิจร้านขายยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์
8. ธุรกิจด้านการศึกษา และการท่องเที่ยว
9. ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจเรื่องความเชื่อ
10. ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง และร้านเสริมสวย
10 ธุรกิจดาวร่วง ประจำปี 2561 มีดังนี้
1. ธุรกิจหัตถกรรม
2. ธุรกิจผลิตเมืองแร่
3. สื่อสิ่งพิมพ์ นิตยสาร และวารสาร
4. ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องเล่นซีดี ดีวีดี
5. ธุรกิจให้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน
6. ธุรกิจเคเบิลทีวี
7. ธุรกิจการผลิตสินค้าเกษตร เช่น ปาล์ม ข้าว
8. ธุรกิจร้านขายมือถือมือสอง
9. ธุรกิจร้านค้าแบบดั้งเดิม
10. ธุรกิจร้านอินเทอร์เน็ต
ขณะเดียวกันยังได้ประเมินว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทย ปี 2561 น่าจะขยายตัวอยู่ที่ 4.2% จากภาคการส่งออกที่จะ ขยายตัว 4.3% ภาคการท่องเที่ยว 11% และภาคการเกษตร 4.4% ประกอบกับการลงทุนของภาครัฐที่มีทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนมีฐานรายได้สูงขึ้นตามไปด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก