ใช้คำหยาบคาย เหยียดหยาม
การทวงหนี้โดยพูดจาข่มขู่ ดูถูก หรือใช้ถ้อยคำหยาบคาย เพราะหวังจะให้ลูกหนี้เกิดอาการกลัวจนต้องเร่งหาเงินมาใช้คืนนั้น ถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ซึ่งลูกหนี้สามารถฟ้องหมิ่นประมาทได้ฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา ดังนั้นหากเจ้าหนี้ หรือบริษัทรับติดตามหนี้ ใช้คำพูดจาที่รุนแรงเกินจริง งัดไม้นี้มาสู้ได้เลย
โทรถี่ ๆ รัว ๆ กลัวไม่จ่าย
การติดตามทวงหนี้ที่หมั่นโทรจิกจนลูกหนี้ไม่เป็นอันทำอะไร ก็จัดว่าเป็นการทวงหนี้ที่เกินกว่าเหตุเช่นกัน ดังนั้นหากลูกหนี้ได้รับความเดือดร้อนจากการทวงหนี้ยิก ๆ ก็สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายได้ หรือใช้ไม่อ่อนด้วยการต่อรองยอดหนี้หรือขอผ่อนชำระกันไป
ส่งจดหมายถึงที่ทำงาน
อีกหนึ่งวิธีการทวงหนี้ยอดนิยม คือการส่งจดหมายทวงหนี้ที่ตีตรากึ่ง ๆ ประจานไปยังสถานที่ทำงานของลูกหนี้ เช่น ด่วนที่สุด หรือลงที่อยู่ว่าส่งมาจากสำนักกฎหมายต่าง ๆ พร้อมทั้งข้อความประเภทเตือนครั้งสุดท้ายก่อนฟ้อง เป็นต้น เหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นเพียงข้อความที่ขู่เกินจริง ซึ่งหลายแห่งอาจตั้งใจทำให้ลูกหนี้อับอาย และรีบใช้หนี้เพื่อไม่ให้มีการส่งจดหมายไปที่ทำงานอีก แต่ลูกหนี้เองก็สามารถฟ้องร้องในกรณีนี้ได้เช่นกัน
ข่มขู่สารพัดรูปแบบ
เจ้าหนี้โหด ๆ หลายคน มักใช้วิธีการข่มขู่ทำร้ายร่างกาย หรือบางครั้งถึงขั้นข่มขู่เอาชีวิต จนลูกหนี้แทบไม่อยากออกจากบ้านไปไหนเพราะกลัวจะเกิดอันตราย ซึ่งในความเป็นจริงลูกหนี้เองก็สามารถฟ้องร้องได้ เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย มาตรา 337 กรรโชกทรัพย์ และมาตรา 309 เรื่องเสรีภาพ เป็นต้น
ลามปามไปถึงญาติพี่น้อง
การติดตามทวงหนี้ที่ลามไปถึงบ้านญาติ พ่อแม่ พี่น้อง เจ้าหนี้ไม่สามารถทำได้เช่นกัน เนื่องจากคนเหล่านั้นไม่ได้เป็นลูกหนี้โดยตรง หากมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นลูกหนี้ก็สามารถฟ้องร้องกับเจ้าหนี้ที่ทวงหนี้โหดเกินไปได้ด้วยเช่นกัน
ถึงแม้ลูกหนี้จะมีวิธีจัดการและรับมือกับการติดตามทวงหนี้โหด ๆ ของเจ้าหนี้แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหนี้สินที่ก่อขึ้นจะไม่ต้องใช้คืนนะคะ เพราะนอกจากจะทำให้คุณเสียเครดิตในการทำธุรกรรมต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นความคิดที่ผิด ๆ เพราะการเป็นหนี้ถึงจะมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องใช้คืนให้ครบ อยากให้เจ้าหนี้เห็นใจ ก็ต้องเห็นใจเจ้าหนี้ด้วยจ้า ติดต่อขอผ่อนใช้เท่าที่จ่ายไหวน่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับลูกหนี้ทุกคนค่ะ