ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์
เจ้าของร้านลาบ-หมูกระทะ-ลานเบียร์ หน้าซีดไปตาม ๆ กัน หลังตำรวจเล็งเก็บค่าธรรมเนียมการขออนุญาตเปิดสถานบริการเพิ่ม
วันนี้ (22 เมษายน 2557) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงการแก้ไข พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ. 2509 ว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีข้อเสนอให้เพิ่มโทษของผู้กระทำผิดในกรณีต่าง ๆ ดังนี้
1. กรณีที่ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ถึง 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 120,000-400,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
2. กรณีที่มีการเปิดสถานบริการในระหว่างถูกพักใช้ใบอนุญาตนั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับด้วยเช่นกัน
3. กรณีที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเวลาเปิดปิดของสถานบริการ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000-200,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนสาเหตุที่ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสนอแก้ไขการเพิ่มโทษ เนื่องจากพบว่าปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในช่วงหลังมีส่วนหนึ่งที่เกิดจากกรณีที่ผู้ประกอบการหลายแห่งลักลอบเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงเชื่อว่าหากมีการแก้ไขเพิ่มบทลงโทษ รวมถึงการปรับอัตราค่าธรรมเนียมการขอใบอนุญาตสำหรับสถานบริการที่มีอาหาร สุรา ในสถานที่บริการเปิดโล่ง มีดนตรี หรือมีการแสดงอื่นเพื่อการบันเทิงมีระดับเสียงเกิน 80 เดซิเบล อาทิ ร้านลาบ หมูกระทะ ลานเบียร์ที่มีคาราโอเกะ เป็นต้น จะช่วยลดปัญหาอาชญากรรม และยังเป็นการสร้างรายได้ให้รัฐบาลปีละ 100 ล้านบาทอีกด้วย
สำหรับอัตราค่าธรรมเนียมการขอใบอนุญาตสำหรับสถานบริการใหม่ มีรายละเอียด ดังนี้
1. กรณีสถานบริการที่มีพื้นที่ไม่เกิน 100 ตารางเมตร เก็บค่าธรรมเนียมการขอใบอนุญาต 10,000 บาท
2. กรณีสถานบริการที่มีพื้นที่เกิน 100 ตารางเมตร แต่ไม่ถึง 300 ตารางเมตร เก็บค่าธรรมเนียมการขอใบอนุญาต 30,000 บาท
3. กรณีสถานบริการที่มีพื้นที่เกิน 300 ตารามเมตร เก็บค่าธรรมเนียมการขอใบอนุญาต 50,000 บาท
ขณะที่จะมีการจัดแบ่งพื้นที่โซนนิ่งเพิ่มเติมจากเดิม 3 จุด ให้เป็น 8 จุด รวมเป็น 11 จุด ประกอบด้วย
1. ย่านเพชรบุรี
2. ย่านถนนประเสริฐมนูกิจตัดประดิษฐ์มนูธรรม
3. ย่านลาดกระบัง
4. ย่านสุขุมวิท
5. ย่านราชพฤกษ์
6. ย่านบรมราชชนนี
7. ย่านรัชดาฯ-ท่าพระ
8. ย่านพระราม 2
9. ย่านพัฒน์พงษ์
10. ย่านเพชรบุรีตัดใหม่
11. ย่านรัชดาภิเษกแล้ว
อย่างไรก็ดี ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมพิจารณาร่างกฎหมายนี้อีกครั้ง ในวันที่ 28 เมษายนนี้ ก่อนเสนอกระทรวงมหาดไทย เพื่อเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก