ภาษีสหรัฐอเมริกา ไทยโดนเท่าไหร่ เทียบกับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศในเอเชีย เรายังสามารถแข่งขันทางเศรษฐกิจได้อยู่ไหม ?

ปิดดีลเป็นที่เรียบร้อยแล้วก่อนกำหนดเส้นตายภาษีสหรัฐอเมริกา วันที่ 1 สิงหาคม 2568 หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ใช้มาตรการกำหนดภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ทั่วโลก (Reciprocal Tariff) โดยล่าสุดยอมลดภาษีนำเข้าของไทย จากเดิมที่เคยประกาศไว้ในอัตราสูงถึง 36% เหลือ 19% ซึ่งจะมีผลในอีก 7 วันหลังจากวันลงนามคำสั่ง คือ วันที่ 7 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ อัตราภาษีนำเข้าของประเทศไทยที่ลดลงเหลือ 19% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยังพอสามารถแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ได้ โดยเฉพาะประเทศในอาเซียนและทวีปเอเชีย ซึ่งถูกเก็บอัตราภาษีไล่เลี่ยกัน มาดูกันว่า ประเทศไหนถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเท่าไหร่กันบ้าง (ข้อมูลวันที่ 1 สิงหาคม 2568)
ทั้งนี้ อัตราภาษีนำเข้าของประเทศไทยที่ลดลงเหลือ 19% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยังพอสามารถแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ได้ โดยเฉพาะประเทศในอาเซียนและทวีปเอเชีย ซึ่งถูกเก็บอัตราภาษีไล่เลี่ยกัน มาดูกันว่า ประเทศไหนถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเท่าไหร่กันบ้าง (ข้อมูลวันที่ 1 สิงหาคม 2568)
ประเทศในอาเซียน

- สิงคโปร์ 10% (อัตราภาษีนำเข้าสินค้าขั้นต่ำ : Baseline)
- ไทย 19% (ลดลงจาก 36%)
- กัมพูชา 19% (ลดลงจาก 36%)
- อินโดนีเซีย 19% (ลดลงจาก 32%)
- มาเลเซีย 19% (ลดลงจาก 25%)
- ฟิลิปปินส์ 19% (ลดลงจาก 20%)
- เวียดนาม 20% (ลดลงจาก 46%)
- บรูไน 25%
- พม่า 40%
- ลาว 40%
ประเทศในเอเชีย
- เกาหลีใต้ 15% (ลดลงจาก 30%)
- ญี่ปุ่น 15% (ลดลงจาก 25%)
- อิสราเอล 15%
- จอร์แดน 15%
- ปากีสถาน 19%
- ไต้หวัน 20%
- บังกลาเทศ 20%
- ศรีลังกา 20%
- อินเดีย 25% (ลดลงจาก 26%)
- คาซัคสถาน 25%
- อิรัก 35%
- ซีเรีย 41%
สำหรับประเทศจีน ในขณะนี้ยังอยู่ในช่วงระยะเวลาตกลงลดภาษีชั่วคราว 90 วัน โดยสหรัฐฯ ยอมลดภาษีนำเข้าจากจีนที่อัตรา 145% เหลือ 30% ส่วนประเทศจีนยอมลดภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ จาก 125% เหลือ 10% อย่างไรก็ตาม การผ่อนผันนี้ใกล้จะถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 12 สิงหาคม 2568 แล้ว
บทความที่เกี่ยวข้องกับภาษีสหรัฐอเมริกา
ขอบคุณข้อมูลจาก : ทำเนียบขาว, cnbc.com