เปรียบเทียบสลาก ธอส. - ออมสิน - ธ.ก.ส. อายุ 2 ปี ฝากที่ไหนให้ผลตอบแทนคุ้มสุด ปี 2568

          สลากออมทรัพย์ 2 ปี ชุดไหนถูกใจคนชอบออมเงิน แถมยังได้ลุ้นรางวัลทุกเดือน ชวนมาเปรียบเทียบผลตอบแทนและโอกาสถูกรางวัลให้เห็นกันชัด ๆ ก่อนตัดสินใจ
เปรียบเทียบสลากออมทรัพย์ 2568

          ในโลกของการลงทุน ที่เต็มไปด้วยความผันผวนและปัจจัยมากมายที่ยากจะคาดเดาเช่นนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายคนเลือกออมเงิน กับ "สลากออมทรัพย์" เพื่อรักษาเงินต้น และการันตีผลตอบแทนที่แน่นอน อย่างสลากออมทรัพย์ อายุ 2 ปี ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยม ด้วยระยะเวลาไม่สั้นและไม่ยาวจนเกินไป ทำให้สภาพคล่องไม่ถูกจำกัดมากนัก ซึ่งจากข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2568 มีสลากออมทรัพย์ 2 ปี ให้เลือกอยู่หลายชุดเลยทีเดียว วันนี้เรานำข้อมูลสลากออมทรัพย์ 3 ชุด จาก 3 ธนาคาร มาเปรียบเทียบให้ทุกคนได้พิจารณาทั้งเรื่องผลตอบแทนและโอกาสถูกรางวัล มีชุดไหนบ้างไปดูเลย

เปรียบเทียบสลากออมทรัพย์ 2 ปี

สลากออมทรัพย์ ธอส. 
ชุดพิมานมาศ ปี 2568

สลาก ธอส. พิมานมาศ 2568

ภาพจาก : ธนาคารอาคารสงเคราะห์

          เริ่มกันที่สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพิมานมาศ ปี 2568 จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นสลากอายุ 2 ปี ที่แม้จะมีราคาต่อหน่วย 50,000 บาท แต่อัตราดอกเบี้ยหน้าสลากก็สูงถึง 1.25% ต่อปี เมื่อฝากครบกำหนด 2 ปี จะได้รับเงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ย 51,250 บาทต่อหน่วย ยังไม่รวมเงินรางวัลอื่น ๆ ที่มีโอกาสถูกรางวัลสูงเช่นกัน ซึ่งจะออกรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือน ซื้อแล้วได้ลุ้นเดือนละครั้ง รวม 24 งวด

          นอกจากนี้ยังมีรางวัลเลขท้าย 1 ตัว, 2 ตัว, 3 ตัว และ 4 ตัว เท่ากับว่าถ้าซื้อสลากขั้นต่ำ 500,000 บาท (10 หน่วย) ก็การันตีถูกรางวัลเลขท้าย 1 ตัว รับเงิน 110 บาท ทุกงวดแน่นอน และจะทำให้ผลตอบแทนขั้นต่ำเพิ่มขึ้นเป็น 1.514% ต่อปี หรือหากซื้อสลาก 5 ล้านบาทขึ้นไป จะถูกรางวัลเลขท้าย 1 ตัว และ 2 ตัว ทุกงวด ผลตอบแทนจะกลายเป็น 1.5668% ต่อปี ทันที

สลาก ธอส. พิมานมาศ 2568

เงินรางวัลสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพิมานมาศ ปี 2568

          สลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพิมานมาศ ปี 2568 มีเงินรางวัลดังนี้

  • รางวัลที่ 1 รางวัลละ 3,000,000 บาท จำนวน 1 รางวัล เสี่ยงหมวด (มีทั้งหมด 8 หมวด หมวดละ 1 แสนหน่วย)

  • รางวัลที่ 2 รางวัลละ 30,000 บาท จำนวน 25 รางวัลต่อหมวด (ใช้เลขรางวัลเดียวกันทุกหมวด)

  • รางวัลเลขท้าย 4 ตัว รางวัลละ 10,000 บาท (หมุน 1 ครั้ง)

  • รางวัลเลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 2,000 บาท (หมุน 1 ครั้ง)

  • รางวัลเลขท้าย 2 ตัว รางวัลละ 220 บาท (หมุน 1 ครั้ง)

  • รางวัลเลขท้าย 1 ตัว รางวัลละ 110 บาท (หมุน 1 ครั้ง)

โอกาสถูกรางวัลสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพิมานมาศ ปี 2568

          หากเราซื้อสลาก 1 หน่วย (50,000 บาท) จะมีโอกาสถูกรางวัลที่ 1 อยู่ที่ 1 ต่อ 8 แสน นอกจากนี้ยังมีรางวัลที่ 2 ซึ่งออกรางวัล 25 รางวัลต่อหมวด (1 แสนหน่วย) เท่ากับว่ามีโอกาสถูกรางวัลที่ 2 อยู่ที่ 1 ต่อ 4,000 ซึ่งถือว่าได้ลุ้นทีเดียว และในกรณีที่เราซื้อสลากหลายหน่วยก็จะมีโอกาสถูกรางวัลเพิ่มขึ้นอีก 

          สำหรับรางวัลเลขท้าย 1 ตัว จะถูกรางวัลแน่นอน เมื่อซื้อสลากขั้นต่ำ 5 แสนบาท และหากซื้อสลาก 5 ล้านบาท การันตีถูกรางวัลทั้งเลขท้าย 1 ตัว และเลขท้าย 2 ตัว ได้รับเงิน 1,320 บาท ทุกเดือน

จุดเด่นสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพิมานมาศ ปี 2568

  • ให้ดอกเบี้ยสูง 1.25% ต่อปี และถ้าฝาก 500,000 บาท ดอกเบี้ยจะเพิ่มเป็น 1.514% ต่อปี หรือในกรณีที่ฝาก 5 ล้านบาท จะได้รับผลตอบแทนสูงถึง 1.5668% ต่อปี

  • มีโอกาสถูกรางวัลใหญ่ (รางวัลที่ 1 และรางวัลที่ 2) ง่ายกว่าสลากของธนาคารอื่น

  • มีรางวัลเลขท้าย 1 ตัว, 2 ตัว, 3 ตัว และ 4 ตัว เหมาะกับคนที่ซื้อสลากหลายหน่วยติดกัน ทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนรวมเพิ่มขึ้น 

  • เหมาะกับคนที่ชอบลุ้นรางวัลเลขท้าย เพราะมีรางวัลเลขท้าย 1 ตัวให้ลุ้น แค่ซื้อสลาก 1 หน่วย ก็มีโอกาสถูกถึง 1 ต่อ 10

ข้อพิจารณา

  • ราคาต่อหน่วยสูงกว่าสลากออมทรัพย์ของธนาคารอื่น ๆ จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการออมเงินหลักหมื่นขึ้นไป หรือต้องการซื้อสลากด้วยเงินก้อนใหญ่เพื่อการันตีถูกรางวัลทุกงวด ซึ่งจะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น

ช่องทางซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพิมานมาศ ปี 2568

  • ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ทุกสาขา

  • แอปพลิเคชัน GHB ALL GEN

ข้อมูลเพิ่มเติม : ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 

สลากออมสินพิเศษ 2 ปี 
และสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 2 ปี

สลากออมสิน 2 ปี

ภาพจาก : ธนาคารออมสิน

          สลากออมสินอายุ 2 ปี มีให้เลือกทั้งแบบใบสลาก (สลากออมสินพิเศษ 2 ปี) และแบบดิจิทัล (สลากออมพิเศษดิจิทัล 2 ปี) ที่ซื้อผ่านแอปฯ MyMo ของธนาคารออมสิน ในราคาหน่วยละ 100 บาท ถ้าชอบแบบใบสลาก ซื้อขั้นต่ำได้ที่ 1 หน่วย (100 บาท) แต่ถ้าชอบแบบดิจิทัลจะต้องซื้อขั้นต่ำ 10 หน่วย (1,000 บาท) เมื่อฝากครบกำหนดจะได้รับดอกเบี้ย 0.90 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็น 0.45% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยสำหรับสลากออมสินที่ฝากตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป)

          สำหรับสลากออมสินชุดนี้ออกรางวัลทุกวันที่ 1 ของเดือน รวม 24 ครั้ง ใครอยากการันตีถูกรางวัลเลขท้ายทุกงวดจะต้องฝาก 1 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนขั้นต่ำเพิ่มขึ้นเป็น 1.41% ต่อปี

สลากออมสิน 2 ปี

เงินรางวัลสลากออมสินพิเศษ 2 ปี และสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 2 ปี

  • รางวัลที่ 1 รางวัลละ 30,000,000 บาท จำนวน 1 รางวัล (กำหนดงวดและหมวดอักษร) 

  • รางวัลที่ 2 รางวัลละ 1,000,000 บาท จำนวน 1 รางวัล (กำหนดงวดและหมวดอักษร) 

  • รางวัลที่ 3 รางวัลละ 10,000 บาท (หมุน 5 ครั้ง)

  • รางวัลที่ 4 รางวัลละ 3,000 บาท (หมุน 10 ครั้ง)

  • รางวัลที่ 5 รางวัลละ 1,000 บาท (หมุน 15 ครั้ง)

  • รางวัลเลขท้าย 4 ตัว รางวัลละ 700 บาท (หมุน 1 ครั้ง)

โอกาสถูกรางวัลสลากออมสินพิเศษ 2 ปี และสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 2 ปี

          หากเราซื้อสลาก 1 หน่วย จะมีโอกาสถูกรางวัลที่ 1 และรางวัลที่ 2 อยู่ที่หลักหมื่นล้าน คือราว ๆ 1 ต่อ 10,880 ล้านขึ้นไป เนื่องจากต้องเสี่ยงทั้งงวดและหมวดอักษรที่มีจำนวนมากกว่าธนาคารอื่น ๆ ส่วนรางวัลเลขท้าย 4 ตัว จะมีโอกาสถูกรางวัล 1 ต่อ 10,000 

          * หมายเหตุ : จากข้อมูลการออกรางวัลสลากออมสิน ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2568 มีสลากออมสินพิเศษ 2 ปี และพิเศษดิจิทัล 2 ปี จำนวน 1,088 หมวด หมวดละ 10 ล้านหน่วย

จุดเด่นสลากออมสินพิเศษ 2 ปี และสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 2 ปี

  • ราคาต่อหน่วยถูก เพียงหน่วยละ 100 บาท คนที่มีเงินไม่มากก็สามารถซื้อได้หลายหน่วย หรือซื้อได้เรื่อย ๆ เมื่อต้องการออมเงินหรือลุ้นโชค

  • มูลค่าเงินรางวัลที่ 1 มากถึง 30 ล้านบาท และมูลค่าเงินรางวัลที่ 2 เท่ากับ 1 ล้านบาท ถือว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับสลากชุดอื่น ๆ  

  • มักมีโปรโมชั่นรางวัลพิเศษหลักล้านออกมาเป็นประจำ เพื่อเอาใจคนชอบลุ้นรางวัลใหญ่

  • เป็นสลากออมทรัพย์ชุดเดียวที่ออกรางวัลทุกวันที่ 1 ของเดือน เหมาะกับคนที่ต้องการลุ้นรางวัลนอกเหนือจากวันที่ 16

ข้อพิจารณา

  • อัตราดอกเบี้ยไม่สูงมาก หากไม่ถูกรางวัลใด ๆ เลยจะได้ผลตอบแทนโดยรวมพอ ๆ กับเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป

  • ไม่มีรางวัลเลขท้าย 3 ตัว เหมือนสลากออมสินรุ่นก่อน ๆ ดังนั้น หากต้องการถูกรางวัลทุกงวดจะต้องฝากขั้นต่ำ 1 ล้านบาทขึ้นไป ถึงจะถูกรางวัลเลขท้าย 4 ตัว

  • โอกาสถูกรางวัลค่อนข้างยาก เนื่องจากสลากออมสินไม่จำกัดจำนวนสลากที่เปิดขาย เท่ากับว่าจำนวนหน่วยจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกงวด โดยจากข้อมูลงวดวันที่ 1 มิถุนายน 2568 มีสลากออมสินพิเศษ 2 ปี และพิเศษดิจิทัล 2 ปี รวมกันประมาณ 10,880 ล้านหน่วย

ช่องทางซื้อสลากออมสินพิเศษ 2 ปี และสลากออมสินพิเศษดิจิทัล 2 ปี

  • ธนาคารออมสินทุกสาขา

  • แอปพลิเคชัน MyMo

ข้อมูลเพิ่มเติม : ธนาคารออมสิน

สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส.
ชุดมังกรหยก

สลาก ธ.ก.ส. มังกรหยก

ภาพจาก : ธ.ก.ส.

          สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. มังกรหยก ชุดใหม่ล่าสุดของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เปิดขายหน่วยละ 100 บาท เมื่อฝากครบ 2 ปี ได้รับดอกเบี้ย 0.20% ต่อปี แต่ถ้าฝาก 100,000 บาท จะการันตีถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว ทุกงวด ได้ผลตอบแทนเพิ่มเป็น 0.440% ต่อปี และเมื่อฝาก 1 ล้านบาท จะถูกรางวัลเลขท้าย 4 ตัว และ 3 ตัว ทุกงวด รวม 24 ครั้ง จึงได้ผลตอบแทนขั้นต่ำเป็น 1.16% ต่อปี
สลาก ธ.ก.ส. มังกรหยก

เงินรางวัลสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดมังกรหยก

          สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดมังกรหยก ออกรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือน รวม 24 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษหลักล้านให้ได้ลุ้นกันอีก 8 ครั้ง ตามนี้เลย

  • รางวัลที่ 1 รางวัลละ 10,000,000 บาท จำนวน 1 รางวัล เสี่ยงหมวด (มีทั้งหมด 100 หมวด หมวดละ 10 ล้านหน่วย)

  • รางวัลที่ 1 ต่างหมวด รางวัลละ 10,000 บาท จำนวน 99 รางวัล (เสี่ยงหมวด) 

  • รางวัลที่ 2 รางวัลละ 5,000 บาท (หมุน 3 ครั้ง)

  • รางวัลที่ 3 รางวัลละ 2,500 บาท (หมุน 10 ครั้ง)

  • รางวัลเลขท้าย 4 ตัว รางวัลละ 600 บาท (หมุน 1 ครั้ง)

  • รางวัลเลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 10 บาท (หมุน 2 ครั้ง)

  • รางวัลพิเศษ รางวัลละ 1,000,000 บาท (เสี่ยงหมวด) โดยจะออกรางวัลครั้งละ 2 รางวัล จำนวน 8 ครั้ง (รวมทั้งหมด 16 รางวัล) ในทุกไตรมาส ดังนี้

    • ปี 2568 : เดือนมิถุนายน, กันยายน และธันวาคม

    • ปี 2569 : เดือนมีนาคม, มิถุนายน, กันยายน และธันวาคม

    • ปี 2570 : เดือนมีนาคม

โอกาสถูกรางวัลสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดมังกรหยก

           ในกรณีที่ซื้อสลาก 1 หน่วย ความน่าจะเป็นที่จะถูกรางวัลที่ 1 ตรงหมวด อยู่ที่ 1 ต่อ 1,000 ล้าน เพราะสลากชุดนี้เปิดขายทั้งหมด 1,000 ล้านหน่วย แต่ก็มีรางวัลที่ 1 ต่างหมวด ให้ได้ลุ้นอยู่ที่ 1 ต่อ 10 ล้าน 

           ส่วนคนที่หวังถูกรางวัลเลขท้ายจะต้องซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท เพื่อถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว ทุกงวด และหากซื้อขั้นต่ำ 1 ล้านบาท การันตีถูกรางวัลเลขท้าย 4 ตัว และ 3 ตัว ทุกงวด ได้รับเดือนละ 800 บาท

 

จุดเด่นสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดมังกรหยก

  • มีเงิน 100 บาทก็ฝากได้ สามารถทยอยซื้อ ทยอยออมได้เรื่อย ๆ 

  • มูลค่าเงินรางวัลที่ 1 สูงถึง 10 ล้านบาท

  • มีรางวัลที่ 1 ต่างหมวดให้ได้ลุ้น ในขณะที่สลากชุดอื่นไม่มี

  • มีรางวัลพิเศษอีก 1 ล้านบาท จับรางวัลทุกไตรมาส ครั้งละ 2 รางวัล จำนวน 8 ครั้ง รวม 16 รางวัล

ข้อพิจารณา

  • อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ หากไม่ถูกรางวัลใด ๆ เลยจะได้ผลตอบแทนโดยรวมพอ ๆ กับเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป 

  • โอกาสถูกรางวัลไม่มากนัก เพราะมีจำนวนหน่วยที่เปิดขายมากถึง 1,000 ล้านหน่วย

ช่องทางซื้อสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดมังกรหยก

  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขา

  • แอปพลิเคชัน BAAC Mobile

          จากข้อมูลข้างต้นคงจะเห็นว่าสลากออมทรัพย์แต่ละชุดก็มีจุดขายและความน่าสนใจคนละแบบ ใครเป็นสายออม สายลุ้น คงถูกใจสลากออมทรัพย์ ธอส. ที่ได้ดอกเบี้ยสูงกว่า และมีโอกาสถูกรางวัลง่ายกว่า แต่หากต้องการลุ้นโชคใหญ่เปลี่ยนชีวิตก็น่าจะชอบสลากออมสิน หรือสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ที่มีเงินรางวัลสูงถึงหลักสิบล้านบาท เอาเป็นว่าใครชอบชุดไหนสามารถศึกษาข้อมูลและติดต่อซื้อสลากออมทรัพย์ที่ธนาคาร หรือผ่านแอปพลิเคชันของแต่ละธนาคารได้เลย
           ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามโปรโมชั่นของสลากออมทรัพย์ในอนาคต

บทความที่เกี่ยวข้องกับการออมเงินและลงทุน

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปรียบเทียบสลาก ธอส. - ออมสิน - ธ.ก.ส. อายุ 2 ปี ฝากที่ไหนให้ผลตอบแทนคุ้มสุด ปี 2568 อัปเดตล่าสุด 10 มิถุนายน 2568 เวลา 14:19:59 6,058 อ่าน
TOP
x close