
ในยุคที่มีการแข่งขันสูงเช่นนี้ การเลือกลงทุน ในธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise) อาจตอบโจทย์คนที่อยากมีธุรกิจส่วนตัว แต่ไม่รู้ว่าจะขายอะไรดี เนื่องจากการลงทุนแฟรนไชส์ ไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ มีระบบการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน เปรียบเสมือนเป็นทางลัดในการเปิดธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีแฟรนไชส์หลากหลายประเภทให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นแฟรนไชส์อาหาร แฟรนไชส์เครื่องดื่ม เป็นต้น
ว่าแต่...แฟรนไชส์น่าลงทุน ปี 2568 มีอะไรบ้าง เราได้รวบรวมแนวโน้มธุรกิจและแฟรนไชส์น่าสนใจ 2025 มาไว้ให้พิจารณาเป็นไอเดียแฟรนไชส์น่าลงทุน ปี 2568
1. แฟรนไชส์ชาบูเสียบไม้

-
อิชิ ชาบูเสียบไม้ : แฟรนไชส์ชาบูเสียบไม้ในราคาเริ่มต้นไม้ละ 10 บาท มาพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดและน้ำซุปสูตรต้นตำรับจากญี่ปุ่น สามารถขายได้ทั้งแบบมีหน้าร้านและเดลิเวอรี่ ไม่เก็บเปอร์เซ็นต์ยอดขาย ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 19,900 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
-
โอซาก้าชาบู ชาบูเสียบไม้ : ชาบูเสียบไม้ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นที่น้ำซุปและน้ำจิ้ม 4 แบบ ลงทุนน้อยเริ่มต้นที่ 59,900 บาท พร้อมรับอุปกรณ์ขายครบชุด (ข้อมูลเพิ่มเติม)
-
วานิตะ ชาบูทูโก : ชาบูแบรนด์ดังอีกเจ้าที่เปิดมาตั้งแต่ช่วงโควิด นอกจากมีเมนูชาบูเสียบไม้ให้เลือกแล้วก็ยังมีเมนูข้าว ของกินเล่น เครื่องดื่ม ให้ลิ้มลอง ลงทุนครั้งเดียวจบ พร้อมมีทีมงานช่วยเปิดร้านและอบรม ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 390,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
2. แฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยว-บะหมี่

-
ก๋วยเตี๋ยวโกเด้ง-โฮเด้ง : ก๋วยเตี๋ยวริมทางชื่อติดตลาด ตำนานลูกชิ้นเด้งที่มีให้เลือกทั้งลูกชิ้นเนื้อและลูกชิ้นหมู การันตีความอร่อยด้วยป้าย "เปิบพิสดาร" จึงไม่แปลกที่ร้านนี้จะขายดิบขายดี ลงทุนเริ่มต้นที่ 36,430 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
-
ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกากหมูสูตรโบราณ : ร้านก๋วยเตี๋ยวรสเด็ด ชูวัตถุดิบที่คัดสรรและทำเองทุกขั้นตอน พร้อมกากหมูสูตรพิเศษแบบโบราณที่ไม่มีใครเหมือน ค่าแฟรนไชส์เริ่มต้นที่ 75,000 บาท (ไม่มีอุปกรณ์) แต่ถ้าอยากได้แบบครบชุด มีอุปกรณ์พร้อมขาย ราคาจะอยู่ที่ 299,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
-
เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ INDY : แฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟเจ้าแรกในประเทศไทย เสิร์ฟความอร่อยได้ทั้งแบบก๋วยเตี๋ยวหม้อไฟสูตรเข้มข้น แบบชาม หรือเมนูลวกจิ้ม ยำ กะเพรา ข้าวหน้าต่าง ๆ ทำให้ลูกค้าเลือกได้หลากหลาย ไม่เบื่อ ทางร้านมีให้เลือกแฟรนไชส์อยู่ 4 แพ็กเกจ ลงทุนได้ตั้งแต่ 19,900-999,900 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- ชายสี่หมี่เกี๊ยว : แฟรนไชส์บะหมี่สตรีตฟู้ดที่หลายคนคุ้นเคย เพราะมีสาขามากมาย และเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงจึงง่ายต่อการทำการตลาด สามารถเลือกลงทุนได้หลายรูปแบบ เริ่มต้นที่ 100,000 บาทขึ้นไป (ข้อมูลเพิ่มเติม)
3. แฟรนไชส์ลูกชิ้น

-
แพนด้าลูกชิ้นปลาระเบิด : ลูกชิ้นปลาทอดและลูกชิ้นกุ้งทอดที่ใช้วัตถุดิบเกรดเอ ผนวกกับน้ำจิ้มสูตรเด็ดและแบบมะขามเข้มข้น ราคาลงทุนขั้นต่ำก็แค่หลักพันเท่านั้น เริ่มต้นที่ 4,900 บาท เหมาะกับคนที่อยากทดลองขายดูก่อน แต่ถ้าอยากขยับขยายมากขึ้นก็สามารถลงทุนในแพ็กเกจมาตรฐานที่หลักหมื่นต้น ๆ ได้เช่นกัน (ข้อมูลเพิ่มเติม)
-
แม่ประณาม : ลูกชิ้นเกาหลีภูเขาไฟ การันตีความอร่อยด้วยพริกเกาหลีและน้ำจิ้มภูเขาไฟลาวาที่เผ็ดร้อนถูกปากคนไทย เหมาะกับทำเลใกล้ออฟฟิศ ตลาดนัด หน้าโรงเรียน หรือออกบูธต่าง ๆ มีแพ็กเกจให้เลือกหลายเซต เริ่มต้นที่ 59,999 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- ไจแอ้น ลูกชิ้นระเบิดเถิดเทิง : แบรนด์ลูกชิ้นทอดที่ขายมานานกว่า 15 ปี นอกจากลูกชิ้นปลาก็ยังมีลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลาหมึก ไส้กรอกไก่ ปลาเส้น ฮ่อยจ๊อปู กุ้งเส้น ฯลฯ มีแฟรนไชส์มากกว่า 2,000 สาขา ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป จึงขายง่าย ขายได้ทุกทำเล ด้วยชุดแฟรนไชส์กว่า 20 รูปแบบ หรือจะสั่งตัดเองก็ได้ ราคาเริ่มต้น 3,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
4. แฟรนไชส์เค้กไข่-ขนมไข่

-
E-egg : เค้กไข่ไส้ทะลักแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร เจ้านี้ใช้แป้งเค้กสูตรพิเศษจากไต้หวันที่มีความหอมนุ่ม มีให้เลือกถึง 8 ไส้ ทำก็ง่าย ขายก็ดี กินได้ทุกเพศทุกวัย แถมทางร้านก็มั่นใจว่าสามารถคืนทุนไวใน 3 เดือน เพราะได้กำไรต่อกล่องมากถึง 100% ลงทุนเริ่มต้นที่ 19,900 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
-
The Egg : ดิ เอ้ก ขนมไข่ที่มีรูปลักษณ์ดูสมัยใหม่ แพ็กเกจจิ้งสวย แป้งหอมนุ่ม มีให้เลือกหลายรสชาติ เด็กกินได้ ผู้ใหญ่ก็ชอบ เลยขายได้ยาว ๆ ไม่ต้องกลัวตกยุค ลงทุนเริ่มต้นที่ 39,900 บาท แพ็กเกจนี้มาพร้อมอุปกรณ์และของแถมมากกว่า 50 รายการ (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- เค้กไข่ไต้หวันเบสเบค : เค้กไข่ในตำนานที่เป็นกระแสในโซเชียล ด้วยส่วนประกอบของไข่มากกว่า 90% ทำให้ได้เค้กที่นุ่มฟูเด้งดึ๋ง อร่อยไม่เหมือนใคร รสชาติก็มีหลากหลาย ขายดิบขายดีได้กำไรกว่าครึ่ง ใครอยากลงทุนต้องมีงบประมาณเบื้องต้น 220,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
5. แฟรนไชส์ไก่ทอด-ไก่ย่าง

-
ชิกกี้ชิก : เจ้านี้ไม่ได้ขายดีแค่ไก่ป๊อปในตำนาน แต่ยังมีเมนูให้เลือกทั้งเฟรนช์ฟรายส์ มันหวาน ออเนียนชีสฟรายส์ นักเก็ต หรือเมนูข้าว ซึ่งทางแบรนด์ก็แจ้งว่าจะได้กำไรขั้นต้นเฉลี่ยถึง 58% ใช้เวลาคืนทุนเพียง 4-6 เดือน เลือกลงทุนได้ทั้งแบบโมเดลคีออส เริ่มต้น 65,000 บาท หรือแบบเปิดเป็นร้านค้าล็อกเล็ก ๆ ลงทุนเริ่มต้น 55,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
-
นายหัว ไก่ทอดหาดใหญ่ : ไก่ทอดหาดใหญ่ สูตรต้นตำรับที่หมักเครื่องเทศมาอย่างลงตัว กินแกล้มกับหอมเจียว และข้าวเหนียวร้อน ๆ ใครได้ชิมเป็นต้องติดใจ เน้นลงทุนต่ำ คืนทุนไว ใช้เวลาเฉลี่ย 3 เดือน มีงบเริ่มต้นแค่ 2,490 บาทก็เปิดร้านได้แล้ว (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- ไก่ย่างห้าดาว : แฟรนไชส์เจ้าดังที่ครองตลาดมา 40 ปี จึงเป็นแบรนด์ที่ขายง่าย ใคร ๆ ก็รู้จัก และมีบริษัทช่วยดูแลเรื่องการตลาดให้ มีแฟรนไชส์ให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบคีออส, Glasshouse, Food Court, Open Plan หรือแบบร้านอาหาร เงินลงทุนเริ่มต้นรวมค่าแรกเข้าประมาณ 200,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
6. แฟรนไชส์กาแฟ

-
กาแฟพันธุ์ไทย : แฟรนไชส์กาแฟที่มีมากกว่า 1,400 สาขาทั่วประเทศ ทั้งในปั๊มน้ำมัน PT และนอกปั๊มน้ำมัน นอกจากกาแฟก็ยังมีเมนูเครื่องดื่มสูตรพิเศษให้เลือกอีกเกือบ 20 รายการ สามารถลงทุนได้ 5 รูปแบบ คือ คีออส, Food Trailer, Food Truck, ร้าน Build in และร้าน Stand Alone ใช้งบประมาณเริ่มต้นที่ 1.3 ล้านบาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
-
STAR Coffee : ร้านกาแฟสไตล์มินิมอลคาเฟ่ที่เสิร์ฟกาแฟ ชา และเครื่องดื่มหลายชนิด พร้อมด้วยเบเกอรี่หอมกรุ่น มีระบบแฟรนไชส์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เปิดร้านได้ไม่ยาก ราคาแฟรนไชส์ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ของร้าน โดยเริ่มต้นลงทุนที่ 150,000 บาท สำหรับรูปแบบ Glass House พื้นที่ขนาด 18 ตารางเมตร (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- ยกนิ้ว กาแฟโบราณ : อีกหนึ่งกาแฟถุงกระดาษแบรนด์แรก ๆ ของไทย แล้วพัฒนามาสู่ธุรกิจกาแฟสดที่มีเมนูเครื่องดื่มมากกว่า 100 เมนู ซึ่งจุดเด่นของแบรนด์นี้เขาจะไม่ใช้วัตถุดิบที่มีไขมันทรานส์ผสมในเครื่องดื่ม และใช้เงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 18,900 บาท โดยไม่ต้องเสียค่าการตลาดหรือค่าธรรมเนียมแรกเข้า-รายปี (ข้อมูลเพิ่มเติม)
7. แฟรนไชส์ชาผลไม้

-
WEDRINK : ร้านเครื่องดื่มจากจีนที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก เด่นที่เมนูไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟและชาผลไม้หลากเมนู โดยใช้วัตถุดิบจากไร่ชาและสวนผลไม้ที่ปลูกเอง หากสนใจลงทุนจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการจัดการ 25,000 บาท/ปี ค่าแฟรนไชส์ 50,000 บาท/ปี นอกจากนี้ยังมีค่าฝึกอบรม ค่าประกันร้าน ค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ค่าวัตถุดิบล็อตแรก รวมแล้วประมาณ 705,000 บาท ซึ่งในจำนวนนี้ยังไม่รวมค่าตกแต่งร้าน ค่าเช่า และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (ข้อมูลเพิ่มเติม)
-
ปิงฉุน : ร้านไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟที่ขายชาผลไม้และชานม แม้จะเพิ่งขยายกิจการมาไทยได้ไม่นาน แต่ด้วยราคาเริ่มต้น 15 บาท ก็ดึงดูดให้คนอยากลิ้มลองรสชาติได้ไม่ยาก สามารถเปิดร้านได้โดยใช้งบประมาณ 800,000 บาทขึ้นไป (ยังไม่รวมค่าตกแต่งร้าน) และต้องจ่ายค่าแฟรนไชส์ปีละ 50,000 บาท ค่าธรรมเนียมจัดการปีละ 25,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- Ai-CHA : ร้านชาผลไม้และไอศกรีมจากอินโดนีเซียที่เข้าตีตลาดในไทยได้ราว ๆ 2 ปี พร้อมเปิดแฟรนไชส์ขยายสาขาทั่วประเทศ ซึ่งจะมีค่าแฟรนไชส์ปีละ 60,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทั้งค่าประกัน ค่าออกแบบร้าน ค่าก่อสร้าง ค่าวัตถุดิบ รวมแล้วใช้งบลงทุนอย่างน้อย 1 ล้านบาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
8. แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก-เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ

-
WashXpress : ร้านสะดวกซักที่สามารถซัก อบ จบ ใน 50 นาที ถูกใจคนไม่อยากรอนาน โดยแฟรนไชส์มีหลายขนาดให้เลือก ใช้งบลงทุนเริ่มต้นประมาณ 3.25 ล้านบาท เมื่อเปิดร้านแล้วจะมีช่างมาคอยซ่อมบำรุงเครื่องให้อย่างสม่ำเสมอ (ข้อมูลเพิ่มเติม)
-
TOKI Wash&Dry : แฟรนไชส์ธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่ควบคุมด้วยระบบ Smart iot ทั้งร้าน โดยเชื่อมต่อผ่านระบบคลาวด์ และมีระบบ DriveThru เจ้าแรกในไทย พร้อมซัก อบ รีด ครบวงจร ลงทุนเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท คืนทุนไวใน 3 ปี (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- CleanChain : แฟรนไชส์ร้านสะดวกซักยอดนิยมนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น สามารถซักได้แบบ All in one ซัก-อบในเครื่องเดียว ไม่ต้องเสียเวลาย้ายถัง ลงทุนเริ่มต้น 1.8 ล้านบาท ไม่ต้องเสียค่าแฟรนไชส์และค่าที่ปรึกษาเพิ่มเติม (ข้อมูลเพิ่มเติม)
9. แฟรนไชส์การศึกษา

-
Smart Brain : สถาบันสอนจินตคณิตที่มีสาขากว่า 400 แห่งทั่วประเทศ เน้นหลักสูตรการเรียนรู้ที่ช่วยพัฒนาสมองของเด็ก ๆ ให้มีความเข้าใจ มีสมาธิ มีความจำที่ดีขึ้น ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในโรงเรียนภาคปกติได้ งบลงทุนอยู่ที่ 250,000 บาท โดยเป็นค่าแฟรนไชส์ในสัญญา 5 ปี (ข้อมูลเพิ่มเติม)
-
KUMON : สถาบันกวดวิชาระดับโลกที่เปิดสอนวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย โดยใช้หลักสูตรที่ถูกออกแบบมาให้เด็กเรียนรู้และพัฒนาได้ด้วยตัวเอง ทั้งนี้ หากจะเปิดสถาบันคุมองจะมีค่าธรรมเนียมใบอนุญาต 74,000 บาท และมีค่าใช้จ่ายในการตกแต่งอาคารขั้นต่ำ 700,000 บาทขึ้นไป (ข้อมูลเพิ่มเติม)
- Winner English : สถาบันกวดวิชาภาษาอังกฤษแบบครบวงจร สำหรับระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 - มัธยมศึกษาปีที่ 3 เรียนได้ทั้งแบบออนไซด์และออนไลน์ ครบทักษะ ทั้งแกรมม่า ฟัง พูด อ่าน เขียน และใช้ Gamification ช่วยสร้างแรงจูงใจและการเรียนรู้ ใช้เงินลงทุนเปิดสถาบันเริ่มต้น 50,000 บาท (ข้อมูลเพิ่มเติม)
ข้อดีของการลงทุนแฟรนไชส์
ก่อนตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ อยากให้ลองศึกษาถึงข้อดีและข้อเสียของการลงทุนแฟรนไชส์สักนิด

-
แบรนด์เป็นที่รู้จัก : แบรนด์ส่วนใหญ่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว สามารถทำการตลาดได้ง่าย ไม่ต้องสร้างฐานลูกค้าเอง
-
มีความเสี่ยงต่ำกว่าการเปิดธุรกิจเอง : เพราะธุรกิจแฟรนไชส์ส่วนใหญ่มีระบบที่ผ่านการทดสอบและพัฒนามาแล้ว มีการตั้งกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เราไม่ต้องลองผิดลองถูกเอง จึงช่วยลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจ
-
เริ่มต้นธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว : สามารถทำธุรกิจได้เลยทันทีหลังจากซื้อแฟรนไชส์ เพียงศึกษาจากคู่มือและดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ไปตามระบบ
-
มีการจัดการเป็นระบบ : แฟรนไชส์มีระบบการจัดการและดำเนินงานที่เป็นมาตรฐาน ทั้งระบบงานขาย การเงิน บัญชี รวมถึงเรื่องการจัดหาวัตถุดิบ อุปกรณ์ต่าง ๆ ทำให้ง่ายต่อการบริหารจัดการธุรกิจ
-
ซื้ออุปกรณ์และวัตถุดิบได้ในราคาประหยัด : เราไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปหาแหล่งซื้อวัตถุดิบหรือเตรียมอุปกรณ์เอง เพราะในแพ็กเกจแฟรนไชส์มีมาให้พร้อมที่จะเปิดร้าน และหากต้องการซื้อวัตถุดิบเพิ่มเติมจากบริษัทแฟรนไชส์ก็มักจะได้ในราคาส่ง ซึ่งถูกกว่าไปซื้อเอง
-
ให้การสนับสนุนและฝึกอบรมผู้ลงทุน : เจ้าของแฟรนไชส์จะให้การอบรมขั้นตอนต่าง ๆ รวมทั้งแนะนำเรื่องการจัดหาวัตถุดิบ การตลาด เพื่อช่วยให้เราทำธุรกิจได้แม้เป็นมือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน อีกทั้งยังมีระบบหลังบ้านคอยซัพพอร์ตและให้คำปรึกษาอยู่ตลอดเวลา
- ไม่ต้องเหนื่อยทำการตลาดเอง : เจ้าของแฟรนไชส์จะคอยช่วยประชาสัมพันธ์และโฆษณาร้านอย่างต่อเนื่อง มีแผนการตลาดใหม่ ๆ หรือเปิดตัวสินค้าใหม่ออกมากระตุ้นยอดขายทั้งปี
ข้อเสียของการลงทุนแฟรนไชส์
-
มีค่าใช้จ่ายสูง : การลงทุนแฟรนไชส์เจ้าใหญ่ ๆ มักต้องซื้ออุปกรณ์ใหม่ทั้งหมด และต้องตกแต่งร้านให้เป็นไปตามแบรนด์นั้น ๆ ต้องสั่งวัตถุดิบจากเจ้าของแบรนด์เพื่อควบคุมคุณภาพ ทำให้ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ นอกจากนี้บางแห่งอาจเรียกเก็บค่าแฟรนไชส์รายปี ค่าธรรมเนียมรายปี รวมถึงส่วนแบ่งกำไรต่อปี เป็นต้น
-
มีข้อจำกัดในการบริหารจัดการ : แม้เราจะซื้อแฟรนไชส์มาแล้วก็ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรฐานของเจ้าของแฟรนไชส์ จึงกลายเป็นข้อจำกัดในการบริหารจัดการธุรกิจของตนเอง เช่น ไม่สามารถออกไอเดีย คิดแนวทางใหม่ ๆ หรือทำอะไรที่ผิดไปจากระบบได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละร้านด้วย
-
การแข่งขันสูง : ธุรกิจแฟรนไชส์บางประเภทมีการแข่งขันสูง เช่น แฟรนไชส์ชาไข่มุก แฟรนไชส์กาแฟ เพราะมีร้านให้เลือกหลายแบรนด์ ทั้งแบบแฟรนไชส์ ธุรกิจส่วนตัว จึงอาจทำกำไรไม่ได้ตามเป้า
-
ความเสี่ยงจากชื่อเสียงของแบรนด์ : หากแบรนด์แฟรนไชส์ได้รับความเสียหาย เช่น มีดราม่า ถูกโซเชียลแบน หรือคุณภาพของสินค้าหรือบริการ ณ สาขาใดสาขาหนึ่งมีปัญหา ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อร้านที่เราเปิดอยู่อย่างเลี่ยงไม่ได้
-
มีโอกาสถูกยกเลิกสัญญา : บางแฟรนไชส์ไม่ได้เป็นการขายขาด แต่ให้สิทธิ์ในการใช้ชื่อร้านตามระยะเวลาที่กำหนด เมื่อครบกำหนดแล้วทางบริษัทอาจไม่ต่อสัญญา หรือในกรณีที่เราไม่ปฏิบัติตามสัญญาก็มีสิทธิ์โดนยกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดได้เช่นกัน
การลงทุนแฟรนไชส์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจก็จริง แต่ควรศึกษาข้อมูลและพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ โดยเลือกแบรนด์แฟรนไชส์ที่น่าเชื่อถือ วิเคราะห์ถึงสินค้าและบริการนั้นว่ามีแนวโน้มเติบโตได้อีกในอนาคต และที่สำคัญก็คือ เราควรมีความรู้ในสิ่งที่กำลังจะลงทุน เพื่อให้กิจการแฟรนไชส์เป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ ไม่ล้มเลิกกลางคัน
บทความที่เกี่ยวข้องกับแฟรนไชส์
ขอบคุณข้อมูลจาก : noonuengfoods.com, Wanita Shabu & Cafe วานิตะ คาเฟ่ชาบู, แฟรนไซส์ โอซาก้าชาบู ชาบูเสียบไม้, โกเด้ง godeng-hodeng.com, kakmoonoodle.com, แฟรนไชส์เตี๋ยวตุ๋นหม้อไฟ Indy, chaixi.co.th, ลูกชิ้นปลาระเบิดแฟรนไชส์, แม่ประณาม, giantfishbomb.com, eeggfc.com, theeggthailand.com, bestbakebakery.com, chicky-chic.com, ไก่ทอดหาดใหญ่นายหัว.com, fivestar.in.th, punthaicoffee.com, starcoffee.in.th, yoknew.com, wedrink.top, BingChun Thailand, AiCHA Thailand, washxpressth.com, tokiwash.com, cleanchain.co.th, smartbrain.com, kumonglobal.com, winner-english.com