เริ่มแล้ว โอนเงิน Digital Wallet ให้กับกลุ่มเปราะบาง วันแรก 25 กันยายน 2567 หากใครยังไม่ได้เงิน ต้องทำยังไง ยังมีโอกาสถึงเดือน 22 ธันวาคม 2567
ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นต้นไป ทางรัฐบาลจะเริ่มทยอยโอนดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้แก่กลุ่มเปราะบาง ได้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้ถือบัตรคนพิการ จำนวน 14.5 ล้านคน โดยเข้าบัญชีที่ผูกพร้อมเพย์ เอาไว้
ล่าสุด กระปุกดอทคอม รายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนของวันนี้ (25 กันยายน) เป็นต้นมา รัฐบาลทยอยโอนจ่ายเงิน 10,000 บาท เข้าบัญชีเรียบร้อยแล้ว คนที่ได้เงินในวันนี้คือ คนที่เป็นผู้พิการ 2.1 ล้านราย และกลุ่มที่มีบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 0
ทางรัฐได้เริ่มทยอยโอนเงินดิจิทัล ให้กับผู้ที่ทำการผูกพร้อมเพย์และยืนยันตัวตนแล้ว ผ่านบัญชีธนาคารที่ท่านได้ผูกพร้อมเพย์เอาไว้ ตั้งแต่ตอนช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 25 กันยายน เป็นต้นมา
เงินดิจิทัล 10,000 บาท จะมีการโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชนเอาไว้ หากท่านไม่แน่ใจว่า บัญชีไหนที่ผูกพร้อมเพย์เอาไว้ ท่านสามารถตรวจสอบได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯ กสิกรไทย ดูขั้นตอน ที่นี่
ส่วนคนที่มีเลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลขอื่น มีกำหนดการโอนเงินดังนี้
- วันที่ 26 กันยายน กลุ่มเลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 1-3
- วันที่ 27 กันยายน กลุ่มเลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 4-7
- วันที่ 30 กันยายน กลุ่มเลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 8-9
ขณะเดียวกัน การตรวจสอบสิทธิว่าใครมีโอกาสได้รับเงินบ้าง สามารถตรวจสอบผ่านแอปฯ รัฐจ่าย แต่ถ้าเช็กทางแอปฯ ไม่ได้ ก็ยังมีการเช็กผ่านเว็บไซต์ มีทั้งหมด 5 วิธีด้วยกัน
1. เว็บไซต์ govwelfare
2. เว็บไซต์ govwelfare (เฉพาะคนพิการ)
หากใครยังไม่ได้รับเงิน ก็อาจมีเหตุผลหลายปัจจัยซึ่งแต่ละคนต้องไปตรวจสอบอีกทีว่า สาเหตุมาจากจุดไหน
1. ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน
การโอนเงิน 10,000 บาท สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกเลขบัตรประชาชนเอาไว้ ถ้าหากไม่ได้รับเงิน อาจจะตีความได้ 2 เหตุผลคือ
- ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน ทางแก้ไขคือ ไปทำเรื่องผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน แล้วรอรัฐบาลโอนเงินซ้ำ
- ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชนแล้ว แต่ยังไม่ถึง 3 วันนับจากวันที่ผูก ต้องรอรัฐบาลโอนเงินซ้ำ ตัวอย่าง ถ้าหากมีกำหนดการโอนเงินในวันที่ 25 กันยายน 2567 ก็ต้องทำพร้อมเพย์ก่อนวันที่ 22 กันยายน 2567 เป็นต้น
2. ยังไม่ได้ยืนยันตัวตน e-kyc
หากใครผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติการถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะต้องยืนยันตัวตน e-kyc ณ ธนาคารกรุงไทยเท่านั้น โดยใช้หลักฐานคือ บัตรประจำตัวประชาชน สำหรับผู้ที่มายืนยันตัวตนด้วยตัวเอง
ส่วนกรณีมอบอำนาจจากผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาธนาคารเองได้ จะมีเอกสารที่ใช้ดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียน
- หนังสือมอบอำนาจ สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่ได้รับมอบอำนาจ
- สำเนาบัตรประจำตัวคนพิการหรือใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี)
3. ทำพร้อมเพย์แล้ว ยืนยันตัวตน e-kyc หลังวันที่ 31 สิงหาคม 2567 แต่ยังไม่ได้รับเงิน
กรณีนี้จะต้องรอรับเงินดิจิทัลวอลเล็ตรอบโอนซ้ำเท่านั้น เนื่องจากเงื่อนไขมีอยู่ว่า คนที่จะได้เงินดิจิทัลในงวดเดือนกันยายน จะต้องเป็นคนที่ยืนยันตัวตน e-kyc ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2567
- ครั้งที่ 1 โอนซ้ำวันที่ 22 ตุลาคม 2567
- ครั้งที่ 2 โอนซ้ำวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567
- ครั้งที่ 3 โอนซ้ำวันที่ 22 ธันวาคม 2567
ถ้าหากโอนครบ 3 ครั้งแล้วยังไม่สำเร็จ รัฐบาลจะถือว่าไม่ประสงค์รับเงินดิจิทัล
ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นต้นไป ทางรัฐบาลจะเริ่มทยอยโอนดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้แก่กลุ่มเปราะบาง ได้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้ถือบัตรคนพิการ จำนวน 14.5 ล้านคน โดยเข้าบัญชีที่ผูกพร้อมเพย์ เอาไว้
ล่าสุด กระปุกดอทคอม รายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนของวันนี้ (25 กันยายน) เป็นต้นมา รัฐบาลทยอยโอนจ่ายเงิน 10,000 บาท เข้าบัญชีเรียบร้อยแล้ว คนที่ได้เงินในวันนี้คือ คนที่เป็นผู้พิการ 2.1 ล้านราย และกลุ่มที่มีบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 0
เงินดิจิทัล เข้าบัญชีไหน ตอนไหน
ทางรัฐได้เริ่มทยอยโอนเงินดิจิทัล ให้กับผู้ที่ทำการผูกพร้อมเพย์และยืนยันตัวตนแล้ว ผ่านบัญชีธนาคารที่ท่านได้ผูกพร้อมเพย์เอาไว้ ตั้งแต่ตอนช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 25 กันยายน เป็นต้นมา
เงินดิจิทัล โอนเข้าบัญชีไหน
เงินดิจิทัล 10,000 บาท จะมีการโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชนเอาไว้ หากท่านไม่แน่ใจว่า บัญชีไหนที่ผูกพร้อมเพย์เอาไว้ ท่านสามารถตรวจสอบได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯ กสิกรไทย ดูขั้นตอน ที่นี่
ตารางการโอนเงิน ดิจิทัลวอลเล็ต
ส่วนคนที่มีเลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลขอื่น มีกำหนดการโอนเงินดังนี้
- วันที่ 26 กันยายน กลุ่มเลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 1-3
- วันที่ 27 กันยายน กลุ่มเลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 4-7
- วันที่ 30 กันยายน กลุ่มเลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 8-9
เช็กสิทธิรับเงิน ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
ขณะเดียวกัน การตรวจสอบสิทธิว่าใครมีโอกาสได้รับเงินบ้าง สามารถตรวจสอบผ่านแอปฯ รัฐจ่าย แต่ถ้าเช็กทางแอปฯ ไม่ได้ ก็ยังมีการเช็กผ่านเว็บไซต์ มีทั้งหมด 5 วิธีด้วยกัน
1. เว็บไซต์ govwelfare
2. เว็บไซต์ govwelfare (เฉพาะคนพิการ)
3. โทร. เข้าที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ) โทรศัพท์ : 0 2109 2345 กด 1 กด 5 เวลาทำการ : ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
4. โทร. เข้าที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทรศัพท์ : 0 2109 2345 เวลาทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 น. - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ไม่ได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทำยังไง
หากใครยังไม่ได้รับเงิน ก็อาจมีเหตุผลหลายปัจจัยซึ่งแต่ละคนต้องไปตรวจสอบอีกทีว่า สาเหตุมาจากจุดไหน
1. ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน
การโอนเงิน 10,000 บาท สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกเลขบัตรประชาชนเอาไว้ ถ้าหากไม่ได้รับเงิน อาจจะตีความได้ 2 เหตุผลคือ
- ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน ทางแก้ไขคือ ไปทำเรื่องผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน แล้วรอรัฐบาลโอนเงินซ้ำ
- ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชนแล้ว แต่ยังไม่ถึง 3 วันนับจากวันที่ผูก ต้องรอรัฐบาลโอนเงินซ้ำ ตัวอย่าง ถ้าหากมีกำหนดการโอนเงินในวันที่ 25 กันยายน 2567 ก็ต้องทำพร้อมเพย์ก่อนวันที่ 22 กันยายน 2567 เป็นต้น
2. ยังไม่ได้ยืนยันตัวตน e-kyc
หากใครผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติการถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะต้องยืนยันตัวตน e-kyc ณ ธนาคารกรุงไทยเท่านั้น โดยใช้หลักฐานคือ บัตรประจำตัวประชาชน สำหรับผู้ที่มายืนยันตัวตนด้วยตัวเอง
ส่วนกรณีมอบอำนาจจากผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาธนาคารเองได้ จะมีเอกสารที่ใช้ดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียน
- หนังสือมอบอำนาจ สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่ได้รับมอบอำนาจ
- สำเนาบัตรประจำตัวคนพิการหรือใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี)
3. ทำพร้อมเพย์แล้ว ยืนยันตัวตน e-kyc หลังวันที่ 31 สิงหาคม 2567 แต่ยังไม่ได้รับเงิน
กรณีนี้จะต้องรอรับเงินดิจิทัลวอลเล็ตรอบโอนซ้ำเท่านั้น เนื่องจากเงื่อนไขมีอยู่ว่า คนที่จะได้เงินดิจิทัลในงวดเดือนกันยายน จะต้องเป็นคนที่ยืนยันตัวตน e-kyc ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2567
เงินดิจิทัล โอนเงินอีกที ตอนไหน
- ครั้งที่ 1 โอนซ้ำวันที่ 22 ตุลาคม 2567
- ครั้งที่ 2 โอนซ้ำวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567
- ครั้งที่ 3 โอนซ้ำวันที่ 22 ธันวาคม 2567
ถ้าหากโอนครบ 3 ครั้งแล้วยังไม่สำเร็จ รัฐบาลจะถือว่าไม่ประสงค์รับเงินดิจิทัล