
ใครมีแพลนจะซื้อบ้าน ต่อเติมบ้าน หรือรีไฟแนนซ์ในช่วงต้นปีแบบนี้ และกำลังหาข้อมูลสินเชื่อบ้านจากธนาคารต่าง ๆ อยู่ แนะนำให้พิจารณาสินเชื่อบ้านจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้เลยค่ะ เนื่องจากตอนนี้ ธอส. มีสินเชื่อบ้านแคมเปญใหม่ ประจำเดือนมกราคม 2566 มาให้เลือกถึง 8 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่
- สินเชื่อบ้านอยู่เย็น เป็นสุข ปี 2566
- สินเชื่อบ้าน Happy Life ปี 2566
- สินเชื่อบ้าน Developer ปี 2566
- สินเชื่อบ้าน All Home ปี 2566
- โครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานรัก ปี 2566
- โครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานสุข ปี 2566
- โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2566
- โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2566
บอกเลยว่า สินเชื่อบ้านของ ธอส. รองรับทั้งลูกค้ารายย่อยทั่วไป ลูกค้าสวัสดิการ ข้าราชการ พนักงานภาครัฐ ไม่ว่าจะต้องการซื้อบ้านใหม่ ปลูกสร้างบ้าน ต่อเติมซ่อมแซม ซื้อเฟอร์นิเจอร์ หรือรีไฟแนนซ์ ก็มีครบ เราลองมาศึกษากันว่า สินเชื่อบ้านแคมเปญไหนเหมาะกับใคร และมีโปรโมชันดี ๆ อะไรบ้าง
1. สินเชื่อบ้านอยู่เย็น เป็นสุข ปี 2566

ขอสินเชื่อไปทำอะไรได้บ้าง ?
กรณีกู้ใหม่
- ซื้อที่ดินพร้อมอาคาร/ปลูกสร้างอาคาร/ซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร/ต่อเติม หรือขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร
กรณีกู้เพิ่ม
- เพื่อปลูกสร้าง หรือ ต่อเติม/ขยาย/ซ่อมแซมอาคาร
กรณีกู้เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA)
- จะต้องขอกู้พร้อมกับวัตถุประสงค์หลักของผลิตภัณฑ์นี้เท่านั้น
ใครขอสินเชื่อได้บ้าง ?
สามารถขอสินเชื่อได้ทั้งลูกค้ารายย่อยทั่วไป หรือลูกค้าสวัสดิการไม่มีเงินฝาก ที่ต้องการกู้เพื่อวัตถุประสงค์ข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้
- ซื้อ หรือ ปลูกสร้าง หรือปรับปรุงที่อยู่อาศัยเพื่อให้มีระบบพลังงานทดแทน หรือระบบช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้า หรือซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการจัดสรรที่ธนาคารรับเป็นโครงการที่เข้าเงื่อนไขบ้านประหยัดพลังงาน
- ซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการจัดสรรของ Developer ที่ธนาคารรับเป็นโครงการ และติดตั้ง Solar Roof กำลังไฟตั้งแต่ 2 กิโลวัตต์ขึ้นไป โดยเงื่อนไขของ Solar Roof ต้องระบุอยู่ในชุดสัญญาจะซื้อจะขาย ทั้งกรณีที่เป็นส่วนควบของที่อยู่อาศัย หรือเป็นรายการส่งเสริมการขาย
- ปลูกสร้างที่อยู่อาศัยโดยใช้แบบบ้านรักษ์โลกของธนาคาร
วงเงินสินเชื่อและระยะเวลาผ่อน
- วงเงินให้กู้ตามเกณฑ์หลักประกัน และตามเกณฑ์รายได้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อของธนาคาร
- ผ่อนชำระได้ไม่น้อยกว่า 3 ปี และไม่เกิน 40 ปี
- อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี ยกเว้น กรณีข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ให้ใช้อายุผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปี
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านอยู่เย็น เป็นสุข ปี 2566

2. สินเชื่อบ้าน Happy Life ปี 2566

ขอสินเชื่อไปทำอะไรได้บ้าง ?
กรณีกู้ใหม่
- ซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด
- ปลูกสร้างอาคาร หรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- ต่อเติม หรือขยาย/ซ่อมแซมอาคาร
- รีไฟแนนซ์ที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด จากสถาบันการเงินอื่น
- รีไฟแนนซ์ที่ดินเปล่าจากสถาบันการเงินอื่นพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- รีไฟแนนซ์ที่ดินพร้อมอาคารจากสถาบันการเงินอื่น และปลูกสร้าง หรือต่อเติม/ขยาย/ซ่อมแซมอาคาร
กรณีกู้เพิ่ม
- เพื่อปลูกสร้าง หรือ ต่อเติม/ขยาย/ซ่อมแซมอาคาร
กรณีกู้เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA)
- จะต้องขอกู้พร้อมกับวัตถุประสงค์หลักของผลิตภัณฑ์นี้เท่านั้น
วงเงินสินเชื่อและระยะเวลาผ่อน
สินเชื่อบ้าน Happy Life ปี 2566 ให้วงเงินกู้ตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป (รวมทุกบัญชีภายใต้หลักประกันเดียวกัน) โดยผ่อนชำระได้ไม่น้อยกว่า 3 ปี และนานสูงสุด 40 ปี
ทั้งนี้ อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี ยกเว้น กรณีข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ให้ใช้อายุผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปี
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน Happy Life ปี 2566

3. สินเชื่อบ้าน Developer ปี 2566

ขอสินเชื่อไปทำอะไรได้บ้าง ?
กรณีกู้ใหม่
- เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด
กรณีกู้เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA)
- จะต้องขอกู้พร้อมกับวัตถุประสงค์หลักของผลิตภัณฑ์นี้เท่านั้น
ใครขอสินเชื่อได้บ้าง ?
วงเงินสินเชื่อและระยะเวลาผ่อน
- วงเงินให้กู้ตามเกณฑ์หลักประกัน และตามเกณฑ์รายได้ เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อของธนาคาร
- ระยะเวลากู้ต้องไม่น้อยกว่า 3 ปี และไม่เกิน 40 ปี
- อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี ยกเว้น กรณีข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ให้ใช้อายุผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปี
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน Developer ปี 2566
แบ่งเป็น 2 ประเภท คือสำหรับกลุ่มลูกค้าสวัสดิการ และกลุ่มลูกค้ารายย่อยทั่วไป ดังนี้
สำหรับกลุ่มลูกค้าสวัสดิการ
คิดดอกเบี้ยปีแรก 3.35% ต่อปี (MRR-2.80%) ส่วนอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก จะเท่ากับ 3.85% ต่อปี

สำหรับกลุ่มลูกค้ารายย่อย (Self Welfare)
ในปีแรกคิดดอกเบี้ย 3.45% (MRR-2.70%) ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 3.95% ต่อปีค่ะ

4. สินเชื่อบ้าน All Home ปี 2566

ขอสินเชื่อไปทำอะไรได้บ้าง ?
กรณีกู้ใหม่
- ซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด
- ซื้อที่ดินเปล่าที่เป็นทรัพย์ NPA ของ ธอส.
- ปลูกสร้างอาคาร หรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- ต่อเติม หรือขยาย/ซ่อมแซมอาคาร
- รีไฟแนนซ์ที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด จากสถาบันการเงินอื่น
- รีไฟแนนซ์ที่ดินเปล่าจากสถาบันการเงินอื่นพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- รีไฟแนนซ์ที่ดินพร้อมอาคารจากสถาบันการเงินอื่น และปลูกสร้าง หรือต่อเติม/ขยาย/ซ่อมแซมอาคาร
- ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย
- ซื้ออุปกรณ์ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
กรณีกู้เพิ่ม
- ปลูกสร้าง หรือ ต่อเติม/ขยาย/ซ่อมแซมอาคาร
- ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย
- ซื้ออุปกรณ์ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย
กรณีกู้เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA)
- จะต้องขอกู้พร้อมกับวัตถุประสงค์หลักของผลิตภัณฑ์นี้เท่านั้น
วงเงินสินเชื่อและระยะเวลาผ่อน
- วงเงินให้กู้ตามเกณฑ์หลักประกัน และตามเกณฑ์รายได้ เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อของธนาคาร
- ระยะเวลากู้ต้องไม่น้อยกว่า 3 ปี และไม่เกิน 40 ปี
- อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี ยกเว้น กรณีข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ให้ใช้อายุผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปี
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน All Home ปี 2566
อัตราดอกเบี้ยจะแบ่งเป็นสำหรับกลุ่มลูกค้าสวัสดิการ และกลุ่มลูกค้ารายย่อย คือ
สำหรับกลุ่มลูกค้าสวัสดิการ
อัตราดอกเบี้ยปีแรกอยู่ที่ 3.55% ต่อปี (MRR-2.60%) ส่วนอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก จะเท่ากับ 4.05% ต่อปี

สำหรับกลุ่มลูกค้ารายย่อย (Self Welfare)
กรณีลูกค้ารายย่อย อัตราดอกเบี้ยปีแรกจะอยู่ที่ 3.65% ต่อปี (MRR-2.50%) และเมื่อคิดเฉลี่ย 3 ปี อัตราดอกเบี้ยจะเท่ากับ 4.15% ต่อปี

5. โครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานรัก ปี 2566

ขอสินเชื่อไปทำอะไรได้บ้าง ?
- ซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด
- ปลูกสร้างอาคาร หรือเพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- ต่อเติม หรือขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร
- ซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย พร้อมกับการขอกู้ในวัตถุประสงค์หลัก
- ชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) พร้อมกับการขอกู้ในวัตถุประสงค์หลัก
ใครขอสินเชื่อได้บ้าง ?
วงเงินสินเชื่อและระยะเวลาผ่อน
โครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานรัก ปี 2566 ให้กู้ได้สูงสุดไม่เกิน 3,000,000 บาท/ราย/หลักประกัน และผ่อนชำระได้ไม่น้อยกว่า 3 ปี (ทั้งกรณีกู้ใหม่และกู้เพิ่ม) และนานสูงสุดไม่เกิน 40 ปี
ทั้งนี้ อายุผู้กู้รวมกับจำนวนปีที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี ยกเว้น ข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ให้ใช้อายุผู้กู้ เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปี
อัตราดอกเบี้ยโครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานรัก ปี 2566
สำหรับอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่ขอสินเชื่อ คือ
กรณีซื้อที่ดินพร้อมอาคาร/ปลูกสร้าง/ต่อเติมที่อยู่อาศัย และชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA)
ดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก ผ่อนต่ำเพียงล้านละ 4,200 บาท/เดือน และตั้งแต่ปีที่ 3 เป็นต้นไป จะปรับเป็นดอกเบี้ยลอยตัว ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก อยู่ที่ 4.16% ต่อปี


6. โครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานสุข ปี 2566

ขอสินเชื่อไปทำอะไรได้บ้าง ?
สามารถขอสินเชื่อเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย ได้แก่
- ซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด
- ปลูกสร้างอาคาร หรือเพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- รีไฟแนนซ์ที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุดจากสถาบันการเงินอื่น
- รีไฟแนนซ์ที่ดินเปล่าจากสถาบันการเงินอื่นพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- รีไฟแนนซ์ที่ดินพร้อมอาคารจากสถาบันการเงินอื่น และปลูกสร้างอาคาร หรือต่อเติม หรือขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร
- ต่อเติม หรือขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร
- ซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย พร้อมกับการขอกู้ในวัตถุประสงค์หลัก
- ชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) พร้อมกับการขอกู้ในวัตถุประสงค์หลัก
ใครขอสินเชื่อได้บ้าง ?
วงเงินสินเชื่อและระยะเวลาผ่อน
- ให้กู้ได้สูงสุดไม่เกิน 3,000,000 บาท/ราย/หลักประกัน
- สามารถผ่อนชำระได้ไม่น้อยกว่า 3 ปี และไม่เกิน 40 ปี
- อายุผู้กู้รวมกับจำนวนปีที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี ยกเว้น ข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ให้ใช้อายุของผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปี
อัตราดอกเบี้ยโครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานสุข ปี 2566
สำหรับอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่ขอสินเชื่อเช่นกัน ซึ่งแบ่งเป็น 2 กรณี
กรณีซื้อที่ดินพร้อมอาคาร/ปลูกสร้าง/ต่อเติมที่อยู่อาศัย และชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA)
โครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานสุข ปี 2566 คิดดอกเบี้ยค่อนข้างถูกทีเดียว โดยอัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 3.00% ต่อปี (MRR-3.15%) ซึ่งหากกู้ 1 ล้านบาท จะจ่ายเงินงวดปีแรกแค่เดือนละ 3,900 บาท เท่านั้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก จะอยู่ที่ 3.91% ต่อปี


7. โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2566

ขอสินเชื่อไปทำอะไรได้บ้าง ?
- ซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด
- ปลูกสร้างอาคาร หรือเพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- รีไฟแนนซ์ที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุดจากสถาบันการเงินอื่น
- รีไฟแนนซ์ที่ดินเปล่าจากสถาบันการเงินอื่นพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- รีไฟแนนซ์ที่ดินพร้อมอาคารจากสถาบันการเงินอื่น และปลูกสร้างอาคาร หรือต่อเติม หรือขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร
- ชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) พร้อมกับการขอกู้ในวัตถุประสงค์หลัก
ใครขอสินเชื่อได้บ้าง ?
วงเงินสินเชื่อและระยะเวลาผ่อน
- ให้วงเงินสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 3,000,000 บาท/ราย/หลักประกัน
- ระยะเวลาผ่อนชำระไม่น้อยกว่า 3 ปี และไม่เกิน 40 ปี
- อายุผู้กู้รวมกับจำนวนปีที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี ยกเว้น ข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ให้ใช้อายุของผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปี
อัตราดอกเบี้ยโครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2566

8. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2566

ขอสินเชื่อไปทำอะไรได้บ้าง ?
- ซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด
- ปลูกสร้างอาคาร หรือเพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- รีไฟแนนซ์ที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุดจากสถาบันการเงินอื่น
- รีไฟแนนซ์ที่ดินเปล่าจากสถาบันการเงินอื่นพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- รีไฟแนนซ์ที่ดินพร้อมอาคารจากสถาบันการเงินอื่น และปลูกสร้างอาคาร หรือต่อเติม หรือขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร
- ต่อเติม หรือขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร
- ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย
- ซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย
- ชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) พร้อมกับการขอกู้ในวัตถุประสงค์หลัก
ใครขอสินเชื่อได้บ้าง ?
ผู้ที่จะขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2566 จะต้องเป็นข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงาน/เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ชื่อเรียกอย่างอื่น และลูกจ้างประจำที่เป็นผู้มีสิทธิขอกู้เงินตามคำนิยามในข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยประเภทไม่มีเงินฝาก
โดยส่วนราชการ หรือหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ หรือองค์การมหาชน หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือองค์กรอิสระอื่นในกำกับของรัฐ หรือจัดตั้งโดยกฎหมายเฉพาะ หรือจัดตั้งตามนโยบายรัฐนั้น ได้ลงนามร่วมกับ ธอส.
วงเงินสินเชื่อและระยะเวลาผ่อน
- วงเงินให้กู้ตามเกณฑ์หลักประกัน เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อรายย่อย
- ให้ระยะเวลาผ่อนไม่น้อยกว่า 3 ปี และไม่เกิน 40 ปี
- อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี ยกเว้น ข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี ให้ใช้อายุผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปี
อัตราดอกเบี้ยโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2566
กรณีซื้อที่ดินพร้อมอาคาร/ปลูกสร้าง/ต่อเติมที่อยู่อาศัย/รีไฟแนนซ์ และชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA)
สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ คิดอัตราดอกเบี้ยปีแรกถูกมากเพียง 2.50% ต่อปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท จะผ่อนต่ำแค่ล้านละ 3,600 บาท/เดือน และเมื่อคิดจากอัตราดอกเบี้ย MRR ในปัจจุบัน เท่ากับอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี จะอยู่ที่ 2.83% ต่อปีเองค่ะ


ดูรายละเอียดสินเชื่อบ้าน ธอส. อื่น ๆ คลิก
สนใจขอสินเชื่อกับ ธอส. คลิก หรือที่ ธอส. ทุกสาขา ทั่วประเทศ คลิก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Inbox : m.me/GHBank
G H Bank Call Center โทร. 0-2645-9000
www.ghbank.co.th