ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ คืออะไร
ตามปกติแล้วใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่เราเคยเห็นกันมานานจะเป็นแบบกระดาษ แต่สำหรับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) นั้นจะเป็นข้อมูลใบกำกับภาษี รวมทั้งใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ และใบรับ ที่มาในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ Microsoft Word, Excel หรือ PDF ซึ่งผู้จัดทำเอกสารจะลงลายเซ็นแบบดิจิทัล (Digital Signature) แล้วส่งให้กับผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการผ่านช่องทางออนไลน์อย่างอีเมล หรือ SMS
ส่วนการส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรนั้น ผู้ประกอบการจะต้องส่งเป็นไฟล์ XML เท่านั้น และต้องเก็บใบกำกับภาษีไว้อย่างน้อย 5 ปี
ข้อดีของใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์
เราอาจจะเห็นว่ามีร้านค้าหลายแห่งที่เริ่มเปลี่ยนมาใช้ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์กันแล้ว ด้วยข้อดีดังต่อไปนี้
- จัดการข้อมูลและเอกสารง่ายกว่าแบบกระดาษ
- ประหยัดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์เอกสาร
- ประหยัดเวลาที่ใช้ในการส่งเอกสาร
- ลดการใช้กระดาษ ช่วยลดโลกร้อน
- ไม่ต้องใช้พื้นที่จัดเก็บเอกสารที่เป็นกระดาษ
- รองรับธุรกรรมออนไลน์ต่าง ๆ ในอนาคต
- เหมาะกับการออกใบกำกับภาษีจำนวนมากและเป็นระบบบัญชีขนาดใหญ่
ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์
ต้องมีรายละเอียดอะไรบ้าง
ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ จะต้องเป็นไฟล์รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ได้แก่ .pdf, .doc, .docx, .xls, .xlsx โดยจะต้องมีขนาดภายใน 1 ไฟล์ ไม่เกิน 3MB และข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ในเอกสารจะต้องไม่ใช่รูปภาพ ซึ่งก็คือห้ามใช้การถ่ายภาพหรือแปลงมาจากเอกสารแบบกระดาษ นอกจากนี้ก็จำเป็นต้องมีการลงลายเซ็นดิจิทัล (Digital Signature) หรือประทับรับรองเวลา (Time Stamp) เพื่อให้เอกสารถูกต้องตามกฎหมาย และสามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานสำคัญในทางกฎหมายได้นั่นเอง
ทั้งนี้ ในใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 (1)-(8) ต้องประกอบด้วยรายละเอียดดังนี้
- คำว่า “ใบกำกับภาษี”
- ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการ
- ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อหรือผู้รับบริการ รวมทั้งเลขประจำตัวประชาชนของผู้ซื้อสินค้า-บริการ
- หมายเลขลำดับที่ของใบกำกับภาษี และหมายเลขลำดับของเล่ม (ถ้ามี)
- ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าสินค้า/บริการ
- จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้า-บริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของสินค้า-บริการให้ชัดเจน
- วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี
- ข้อความอื่น ๆ ที่อธิบดีกำหนด
ร้านไหนออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้บ้าง
เช็กก่อนใช้สิทธิ Easy E-Receipt
ทั้งนี้ ผู้ที่ขอใบกำกับภาษีแบบอิเล็กทรอนิกส์ จะสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ 50,000 บาท โดยผู้ประกอบการจะจัดส่งไฟล์ให้ทางอีเมลหรือ SMS และสามารถนำหลายใบมารวมกันเพื่อลดหย่อนภาษีในโครงการ Easy E-Receipt ได้
ร้านค้าที่ต้องการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ต้องทำอย่างไร
ขั้นตอนการยื่นคำขอจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt
- เข้าไปที่เว็บไซต์กรมสรรพากร หรือ etax.rd.go.th โดยกดไปที่เมนู "ลงทะเบียน สำหรับผู้ใช้บริการครั้งแรก" เพื่อยื่นคำขอ บ.อ.01
- ดาวน์โหลดโปรแกรม Ultimate Sign & Viewer Free และติดตั้งลงเครื่องคอมพิวเตอร์
- เชื่อมต่ออุปกรณ์ Token หรือ HSM ที่จัดเก็บใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์กับเครื่องคอมพิวเตอร์
- กรอกเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
- ตรวจสอบข้อมูล ลงลายมือชื่อดิจิทัลใน บ.อ.01 และข้อตกลง ผ่านโปรแกรมลงทะเบียน โดยไม่ต้องนำส่งเอกสารให้กรมสรรพากรพิจารณา
- ตรวจสอบอีเมล และสร้างบัญชีผู้ใช้งาน
- ตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับอนุมัติ บ.อ.01 ได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร
etax.rd.go.th และกดไปที่ เมนูสนับสนุน > คำแนะนำ/คู่มือการใช้งาน
ขั้นตอนการยื่นคำขอจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ระบบ e-Tax Invoice by Email
ระบบนี้เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มขนาดเล็กที่มีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาทต่อปี ที่ออกใบกำกับภาษีจำนวนน้อยและเป็นระบบบัญชีขนาดเล็ก โดยเป็นการจัดทำข้อมูลใบกำกับภาษี ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ ส่งมอบแก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการผ่าน e-mail และข้อมูลดังกล่าวก็จะถูกนำส่งให้กรมสรรพากรโดยอัตโนมัติ
- เข้าเว็บไซต์กรมสรรพากร เพื่อยื่นคำขอ
- กรอกเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรและตรวจสอบข้อมูล
- พิมพ์เอกสาร ก.อ.01 เพื่อลงนาม
- สแกน ก.อ.01 และเอกสารเกี่ยวข้องเพื่ออัปโหลดเอกสาร
- กรมสรรพากรตรวจสอบความถูกต้อง และจัดส่งเอกสารยืนยันทางไปรษณีย์ พร้อมรหัสยืนยัน (Activate Code)
- ยืนยันตัวตนผ่านทางเว็บไซต์ และกำหนดรหัสผ่านภายใน 15 วันทำการ
- แจ้งอีเมลที่ประสงค์จะใช้ในการส่งใบกำกับภาษีและใบรับ
- ตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับอนุมัติ ก.อ.01 ได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร