x close

วิธียื่นภาษีคริปโต 2564 คิดคำนวณอย่างไรเมื่อเทรดได้กำไร-ขาดทุน

          ภาษีคริปโต ใครต้องจ่ายบ้าง จะคิดคำนวณและยื่นภาษี 2564 อย่างไร กรอกข้อมูลตรงไหน ใครไม่รู้ มาอ่านเลย

          ช่วง 2-3 ปีมานี้ สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) เป็นช่องทางการเก็งกำไรที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งแม้ประเทศไทยจะมีกฎหมายออกมาตั้งแต่ปี 2561 ระบุให้ผู้ที่มีกำไรหรือได้รับผลประโยชน์จากคริปโทเคอร์เรนซี หรือโทเคนดิจิทัล ต้องเสียภาษี แต่ในทางปฏิบัติยังไม่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากยังไม่มีหลักเกณฑ์และแนวทางการเสียภาษีที่ชัดเจนออกมา จึงยังไม่ค่อยมีใครได้ยื่นภาษีคริปโต

           กระทั่งในปี 2565 ประเด็นนี้ถูกนำกลับมาพูดถึงอีกครั้ง เมื่อกรมสรรพากรแจ้งให้ผู้ซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัลแล้วได้กำไร ต้องกรอกข้อมูลยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพราะกำไรที่ได้รับถือเป็นเงินได้พึงประเมิน ทำให้หลายคนสงสัยว่าแล้วกรณีไหนต้องเสียภาษีบ้าง และจะคำนวณเพื่อยื่นภาษี 2564 อย่างไร ก่อนอื่นลองมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องภาษีคริปโตกันสักหน่อย

 Cryptocurrency ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง
ภาษีคริปโต

          นักลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดาต้องเสียภาษี 2 ส่วน คือ

1. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
          โดยหักในอัตรา 15% ของกำไรที่ได้ เช่น ขายคริปโตได้กำไร 10,000 บาท จะถูกหัก ณ ที่จ่าย 1,500 บาท ผู้ลงทุนจึงได้รับเงินเพียง 8,500 บาท

2. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 
          เมื่อการลงทุนในคริปโตสร้างผลกำไรหรือเงินปันผลคืนให้เรา ย่อมถือเป็นรายได้ประจำปีที่ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งจะเป็นเงินได้ประเภทใดนั้นขึ้นอยู่กับที่มาของรายได้ เช่น

  • กำไรจากการขาย เทรด หรือการโอนคริปโทเคอร์เรนซี ถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (4) (ฌ)
  • เงินที่ได้จากการขุดเหรียญแล้วนำไปขาย จ่าย โอน หรือแลกเปลี่ยน ถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8)
  • พนักงานได้รับเงินเดือนเป็นคริปโทเคอร์เรนซี ถือเป็นเงินได้ประเภท 40 (1)
  • ผู้รับจ้างได้รับค่าจ้างเป็นคริปโทเคอร์เรนซี ถือเป็นเงินได้จากการรับทำงานให้ ไม่ว่างานนั้นจะเป็นงานประจำหรือชั่วคราว และถือเป็นเงินได้ประเภท 40 (2)
  • เหรียญที่ได้รับแจกมาฟรี ๆ หรือได้รางวัลมา ถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40 (8) 
  • กรณีฝากโทเคนดิจิทัลไว้แล้วได้รับผลประโยชน์ตอบแทน เช่น Yield Farming หรือ Staking ถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40 (4) 
  • หากฝากคริปโทเคอร์เรนซีแล้วได้รับผลประโยชน์ตอบแทน เช่น Yield Farming หรือ Staking ถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40 (8)
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต้องจ่ายเท่าไร
          แม้จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ไปแล้ว แต่ก็ไม่สามารถใช้สิทธิภาษีสุดท้าย (Final Tax) ซึ่งก็คือการเลือกนำมารวมหรือไม่รวมคำนวณการยื่นภาษีเงินได้ฯ เหมือนกับกรณีดอกเบี้ยและเงินปันผลกองทุนรวม เท่ากับว่าต้องเสียภาษี 2 ต่อ คือ ทั้งภาษีหัก ณ ที่จ่าย และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี
เช่น ขายคริปโตได้กำไรมา 50,000 บาท ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% เท่ากับ 7,500 บาท แม้เราจะรับเงินมาเพียง 42,500 บาท แต่ก็ยังต้องนำเงินกำไร 50,000 บาท ไปยื่นภาษีเงินได้ฯ ด้วย (แล้วค่อยไปกรอกว่าหักภาษีไปแล้ว 7,500 บาท)
ภาษีคริปโต

          โดยการคิดคำนวณก็เหมือนกับการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั่วไป คือนำกำไรที่ได้จากคริปโตมารวมกับรายได้ส่วนอื่น ๆ เช่น เงินเดือน โบนัส ค่าจ้าง ค่าเช่า เงินจากการทำธุรกิจ ฯลฯ แล้วยื่นเสียภาษีประจำปีในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน
เช่น ปีนี้ได้รับเงินเดือนรวม 500,000 บาท ได้กำไรจากการเทรดคริปโต 200,000 บาท แสดงว่ามีรายได้รวมทั้งหมด 700,000 บาท เมื่อนำมาหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนภาษี เหลือเงินได้สุทธิเท่าไรก็นำมาจ่ายภาษีตามอัตราก้าวหน้า ดังนี้
ภาษี 2564

          หมายความว่า ถ้าในปีนั้นเรามีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนทั้งหมดแล้ว เหลือเงินได้สุทธิไม่เกิน 150,000 บาท ก็จะไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตรงกันข้าม คนที่เทรดได้กำไรเป็นหลักล้านก็อาจต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 20-35% เลยทีเดียว
ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเมื่อไร
          การยื่นภาษีเงินได้ฯ แบ่งเป็น 2 กลุ่มตามประเภทของเงินได้ ดังนี้

1. ยื่นภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด.94)

     สำหรับเงินได้ตามมาตรา 40 (8) ที่ได้มาในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน ของปีภาษีนั้น และต้องยื่นแบบในเดือนกรกฎาคม-กันยายน ของปีเดียวกัน ประกอบด้วย 
  • เงินได้จากการขุดเหรียญ แล้วนำไปขายได้กำไร
  • ได้รับผลตอบแทนจากการนำคริปโทเคอร์เรนซีไปหาประโยชน์ เช่น การทำ Yield Farming หรือ Staking 
  • ได้รับเหรียญแจกมาให้ฟรี ๆ หรือได้รับเป็นรางวัลส่งเสริมการขาย 

2. ยื่นภาษีประจำปี (ภ.ง.ด.90/91)

          สำหรับเงินได้ตามมาตรา 40 (1), (2), 4), (8) ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากกำไรทั้งปี โดยต้องยื่นแบบในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม ในปีถัดไป

          นั่นหมายความว่า ผู้ที่มีเงินได้ตามมาตรา 40 (8) จะต้องยื่นภาษีปีละ 2 ครั้ง

วิธีคิดภาษีคริปโต เมื่อเทรดได้ทั้งกำไรและขาดทุน

          ในความเป็นจริงคงไม่มีใครเทรดได้กำไรครั้งเดียวแล้วจบ แต่มักจะซื้อ-ขายอยู่หลายครั้ง หลายรอบ มีทั้งที่ได้กำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง แล้วจะคำนวณภาษีอย่างไรดี ?

          ประเด็นนี้ ล่าสุดทางกรมสรรพากรเคลียร์แล้วว่า ให้นักลงทุนสามารถนำส่วนที่ขาดทุนมาหักลบจากส่วนที่เป็นกำไร โดยมีเงื่อนไขคือ

  • ต้องเป็นผลขาดทุนที่เกิดขึ้นในปีเดียวกันกับกำไร เช่น เทรดขาดทุนในปี 2564 สามารถนำมาลบกำไรในปี 2564 ได้ 
  • ต้องเทรดผ่าน Exchange ที่ ก.ล.ต. รับรองเท่านั้น หมายความว่า หากเทรดใน Exchange ต่างประเทศ ไม่สามารถนำส่วนขาดทุนมาหักลบกำไรได้ 

     ทีนี้เราจะไปดูวิธียื่นภาษีคริปโตผ่านออนไลน์กัน แต่หากใครยังมีข้อสงสัยอื่น ๆ ว่าแบบไหนต้องเสียภาษี หรือไม่เสียภาษี เช่น 

  • ถือคริปโตหรือโทเคนไว้เฉย ๆ ยังไม่ได้ขาย จะเสียภาษีไหม ?
  • เทรด Binance ต้องเสียภาษีในไทยไหม ?
  • ขายเหรียญได้กำไร แต่ยังไม่ได้โอนออกจากพอร์ต คิดภาษีด้วยหรือเปล่า ?
  • แล้วจะคิดต้นทุนอย่างไร ?

ลองมาทำความเข้าใจแบบละเอียดได้ที่กระทู้นี้ก่อน >> สรุปภาษีคริปโต เก็บอย่างไร เทรดขาดทุน สายขุด สายฟาร์ม ต้องเสียภาษีไหม

วิธียื่นภาษีคริปโต 2564
         เมื่อเข้าใจคอนเซ็ปต์ของภาษีคริปโตแล้วก็มาดูวิธียื่นภาษีกันบ้าง ซึ่งเราสามารถยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบกระดาษ หรือผ่านระบบออนไลน์ โดยคนที่ยื่นภาษีออนไลน์ 2564 ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ได้เลย

1. เข้าเว็บไซต์ efiling.rd.go.th ของกรมสรรพากร

ภาษีคริปโต

ภาพจาก : กรมสรรพากร

          หลังจากเข้าเว็บไซต์ efiling.rd.go.th ให้เลือก "ยื่นแบบออนไลน์" จากนั้นกรอกข้อมูลและรหัสผ่าน เพื่อเข้าสู่ระบบ
ภาษีคริปโต

ภาพจาก : กรมสรรพากร

          สำหรับคนที่ยังไม่เคยยื่นภาษีออนไลน์มาก่อนเลย ให้สมัครสมาชิกก่อน โดยเลือก "สมัครสมาชิก" แล้วกรอกข้อมูลตามขั้นตอน หรือดูวิธีสมัครสมาชิกได้ ที่นี่ 

2. ยืนยันตัวตน

ภาษีคริปโต

ภาพจาก : กรมสรรพากร

          โดยระบุเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองเพื่อรับรหัส OTP แล้วกด "ขอรหัส OTP" เมื่อได้รับรหัสแล้วให้กรอกตัวเลข แล้วกด "ยืนยัน OTP"

3. เลือกแบบภาษี

ภาษีคริปโต

ภาพจาก : กรมสรรพากร

  • สำหรับการยื่นแบบภาษีเงินได้ประจำปี (ยื่นช่วงเดือนมกราคม-เมษายน) ให้เลือกยื่นแบบ ภ.ง.ด.90/91 โดยกด "ยื่นแบบ"
  • สำหรับคนที่ต้องการยื่นแบบภาษีครึ่งปี (ยื่นช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน) ให้เลือกยื่นแบบ ภ.ง.ด.94

4. ตรวจสอบข้อมูล

ภาษีคริปโต

ภาพจาก : กรมสรรพากร

          ในหน้า "แบบแสดงรายการภาษีเงินได้ ปีภาษี 2564" จะมีข้อมูลที่เรากรอกไว้ในขั้นตอนของการลงทะเบียน สมัครสมาชิกปรากฏอยู่ ให้เราตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง หากพบข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริงให้กด "แก้ไข" เพราะเมื่อกดยืนยันข้อมูลไปแล้วจะไม่สามารถกลับมาแก้ไขได้อีก

  • กรณีมีร้านค้า/กิจการส่วนตัว ให้ระบุชื่อร้านค้า หรือเว็บไซต์ (ถ้าไม่มีไม่ต้องกรอก)
  • เลือก "สถานะ" ซึ่งมีให้เลือกทั้งสถานะโสด/หม้าย/สมรส/หย่า/เสียชีวิต 

5. กรอกเงินได้

          ตรงนี้จะมีให้เลือกกรอกรายได้ตามมาตราต่าง ๆ ซึ่งถ้ามีกำไรจากคริปโตจะต้องไปที่หมวด "รายได้จากการลงทุน" แล้วเลือก "ระบุข้อมูล" ที่หัวข้อ "ดอกเบี้ย เงินปันผลจากบริษัทต่างประเทศ ประโยชน์ใด ๆ จากคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัล เงินเพิ่มทุน เงินลดทุน (มาตรา 40 (4))"
ภาษีคริปโต

ภาพจาก : กรมสรรพากร

          หลังจากกด "ระบุข้อมูล" แล้ว จะต้องนำข้อมูลมากรอกตรงส่วนถัดไป โดยเลือกประเภทธุรกิจเป็น "เงินส่วนแบ่งของกำไรหรือผลประโยชน์อื่นใดในลักษณะเดียวกันที่ได้จากการถือหรือครอบครองโทเคนดิจิทัล"
ภาษีคริปโต

ภาพจาก : กรมสรรพากร

          ส่วนนี้ให้เรากรอก "เงินได้ทั้งหมด" คือ นำกำไรและผลประโยชน์ที่ได้จากคริปโตทุกรายการมารวมมูลค่ากัน แล้วกรอกเป็นตัวเลขรวม ไม่ต้องแยกทีละรายการ 

          เช่น ปีที่ผ่านมาเราซื้อ-ขายไป 10 ครั้ง ก็ให้นำเฉพาะส่วนกำไรทั้งหมดที่ได้จากการซื้อ-ขายมารวมกัน แล้วใส่ตัวเลขลงไป และถ้าเคยถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ไว้แล้ว ก็กรอกตัวเลขลงไปด้วย (ถ้าไม่มีไม่ต้องกรอก) เสร็จเรียบร้อยให้กด "บันทึก"

           หากมีรายได้ตามมาตราอื่น ๆ เช่น ขุดเหรียญแล้วขายได้เงิน หรือได้เหรียญมาฟรี จะเป็นมาตรา 40 (8) ก็ให้กรอกตามประเภทเงินได้ที่ถูกต้อง

6. กรอกค่าลดหย่อน

ภาษีคริปโต

ภาพจาก : กรมสรรพากร

          ให้ใส่ข้อมูลรายการลดหย่อนภาษีที่เรามี ซึ่งจะแบ่งเป็น

  • กลุ่มที่ 1 ค่าลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว
  • กลุ่มที่ 2 ค่าลดหย่อน/ยกเว้น ด้านการออมและการลงทุน
  • กลุ่มที่ 3 ค่าลดหย่อน/ยกเว้น จากสินทรัพย์และมาตรการนโยบายภาครัฐ
  • กลุ่มที่ 4 เงินบริจาค

          อ่านเพิ่มเติม : คู่มือลดหย่อนภาษี 2564 รู้ไว้ก่อนยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
 

7. ตรวจสอบข้อมูล

ภาษีคริปโต

ภาพจาก : กรมสรรพากร

          ระบบจะสรุปข้อมูลเงินได้ทั้งหมดที่หักยกเว้น/หักค่าใช้จ่าย/หักลดหย่อน และคำนวณภาษีที่ต้องจ่ายมาให้เราตรวจสอบข้อมูล 

  • กรณีขึ้นข้อความว่า "รวมทั้งหมดที่ต้องชำระ (ยกเว้นเศษของบาท)" จะหมายถึงเราต้องจ่ายภาษีให้กรมสรรพากรอีกเท่าไร
  • กรณีขึ้นข้อความว่า "ยอดภาษีสุทธิชำระไว้เกิน" แสดงว่าเราจ่ายภาษีไว้เกิน และจะได้รับเงินคืนภาษี ซึ่งตรงนี้เลือกได้เลยว่าต้องการขอคืนภาษีหรือไม่ต้องการ

          เมื่อตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดเรียบร้อยแล้วให้กด "ยืนยันการยื่นแบบ" เท่านี้ก็เสร็จสิ้นการยื่นภาษี 2564 แล้วล่ะ

 

         การยื่นภาษีคริปโตไม่ใช่เรื่องยาก แต่นักลงทุนต้องคำนวณต้นทุนให้ดี และเก็บเอกสารการซื้อ-ขาย หรือหลักฐานต่าง ๆ ที่ใช้ยืนยันการทำธุรกรรมไว้ เผื่อกรณีกรมสรรพากรเรียกตรวจสอบในภายหลัง ส่วนใครที่พร้อมยื่นภาษีคริปโต 2564 แล้ว สามารถยื่นผ่านออนไลน์ได้เลยถึงวันที่ 8 เมษายน 2565

บทความที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซีและภาษี


* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565


ขอบคุณภาพจาก : กรมสรรพากร  
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมสรรพากร (1), (2), (3), ราชกิจจานุเบกษา, THE STANDARD WEALTH  

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วิธียื่นภาษีคริปโต 2564 คิดคำนวณอย่างไรเมื่อเทรดได้กำไร-ขาดทุน อัปเดตล่าสุด 9 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 16:21:59 67,518 อ่าน
TOP