การกู้เงินออนไลน์หรือให้สินเชื่อเงินด่วนแบบผิดกฎหมายกำลังระบาดอย่างหนัก เห็นได้จากแอปพลิเคชันปล่อยเงินกู้ผุดเป็นดอกเห็ด ส่งข้อความ SMS อนุมัติสินเชื่อมาให้ไม่เว้นวัน ทั้งที่ไม่เคยขอสินเชื่อหรือลงทะเบียนที่ไหนมาก่อนด้วยซ้ำ บางคนกำลังร้อนเงินพอดีเลยกรอกข้อมูลขอกู้ไปซะเลย สุดท้ายโดนหว่านล้อมให้โอนค่าธรรมเนียมมาก่อน แล้วถูกเชิดเงินไปดื้อ ๆ
ดังนั้นใครคิดจะยืมเงินออนไลน์ต้องพิจารณาดูให้ดีว่าเจ้าไหนถูกกฎหมายจริง ๆ ไม่ใช่หนี้นอกระบบ ทีนี้เราจะทราบได้อย่างไรล่ะว่าแบบไหนหลอก แบบไหนจริง หรือใครถูกหลอกโอนเงินไปแล้วจะต้องทำอย่างไรต่อดี เรารวบรวมข้อมูลมาแนะนำกันทีละประเด็น
1. ส่ง SMS หรือ LINE มาให้คลิกลิงก์
เป็นรูปแบบที่พบบ่อยสุด ๆ ในช่วงนี้ โดยการแอบอ้างหน่วยงานนั้น หน่วยงานนี้ว่าให้เงินกู้ฉุกเฉินบ้างล่ะ คุณเป็นผู้โชคดีได้เงินจากโครงการของรัฐบ้างล่ะ หรืออยู่ ๆ ดีก็บอกว่ายินดีด้วยพร้อมโอนเงินเข้าบัญชีให้เรียบร้อย เจอแบบนี้เข้าไปหลายคนก็ตกใจ เพราะยังไม่ได้กู้อะไรเลย รีบคลิกลิงก์ที่แนบมาให้เข้าไปดู ทีนี้ก็ตกเป็นเหยื่อทันที
แม้แต่การโทร. หาโดยตรงเพื่อเชิญชวนให้มากู้ก็มี หากผู้ที่ได้รับการติดต่อสนใจ มิจฉาชีพก็จะส่ง SMS มาให้คลิกลิงก์เพื่อดาวน์โหลดแอปฯ หรือให้แอดไลน์คุยกัน
ทั้งนี้หลายหน่วยงาน เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ได้ออกมาเตือนแล้วว่าไม่เคยส่ง SMS เพื่อให้สินเชื่อใด ๆ ทั้งสิ้น ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ
2. สร้างแอปฯ หรือเว็บไซต์ให้ดูน่าเชื่อถือ
3. ใช้คำโฆษณาเกินจริง
- เงินด่วน 10 นาที โอนเข้าบัญชี
- แอปฯ เงินด่วน 30 นาทีรู้ผล
- เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ การันตีได้เงินเร็วทันใจ
- อนุมัติไว ให้วงเงินกู้สูง
- กู้ได้เลยไม่ต้องใช้เอกสาร ใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียวก็อนุมัติได้แล้ว
- อายุไม่ถึง 18 ปีก็กู้ได้
- ไม่ต้องมีหลักประกัน ติดแบล็กลิสต์ก็กู้ได้
- ผ่อนจ่ายได้เป็นรายเดือน
4. ขอเอกสารส่วนตัว
5. อ้างว่าต้องโอนเงินมาก่อน
พอลงทะเบียนขอกู้เงินไปแล้ว มิจฉาชีพจะตอบกลับหรือส่งภาพสัญญากู้ (ปลอม) มาให้ดูว่าอนุมัติวงเงินเรียบร้อย แล้วจะอ้างว่ายังถอนเงินตอนนี้ไม่ได้นะ ลูกค้าต้องโอนค่าดำเนินการ ค่าธรรมเนียม หรือวางเงินประกัน 10-20% ของวงเงินกู้มาก่อน
บางทีก็อ้างว่า เราติดแบล็กลิสต์ หรือกรอกข้อมูลผิด กรอกเลขที่บัญชีผิด ทำผิดขั้นตอนเลยโอนเงินให้ไม่ได้ ต้องจ่ายค่าปลดแบล็กลิสต์ ค่าปลดล็อกบัญชี ค่ายืนยันตัวตน หรือค่าแก้ไขข้อมูล ค่าลัดคิวเพื่อให้ดำเนินการได้เร็วขึ้น หรือบอกให้โอนเงินมัดจำ โอนดอกเบี้ยงวดแรกมาก่อนถึงจะถอนเงินก้อนได้ หากหลงเชื่อโอนไปปุ๊บ อาจมีข้ออ้างอื่น ๆ มาหลอกให้เราโอนเพิ่มไปอีกเรื่อย ๆ สุดท้ายเงินกู้ก็ไม่ได้ แถมยังเสียเงินฟรี ๆ จบด้วยการบล็อกไลน์หายไปเลย
6. ให้วงเงินกู้สูงกว่าที่ขอ
7. โอนเงินกู้ให้ไม่เต็มจำนวน
8. คิดดอกเบี้ยมหาโหด
9. ข่มขู่ให้กลัว
- อย่ากดลิงก์ SMS ที่ชักชวนให้กู้เงิน หรือเสนอเงิน เสนอรางวัลให้เด็ดขาด เพราะการกดลิงก์อาจกลายเป็นการอนุญาตให้แอปฯ เข้าถึงข้อมูลทั้งหมดในโทรศัพท์มือถือได้ รวมทั้งอาจทำให้มัลแวร์เข้าโทรศัพท์มาขโมยข้อมูลส่วนตัว
- อย่าตกปากรับคำว่าจะกู้เงิน โดยที่ยังไม่เห็นเอกสารสัญญากู้และไม่ทราบเงื่อนไขของการให้กู้ชัดเจน และเมื่อได้รับสัญญาแล้วต้องอ่านทำความเข้าใจให้ดี โดยเฉพาะเรื่องอัตราดอกเบี้ย ระยะเวลา และจำนวนเงินที่ต้องจ่ายคืน เพราะอาจมีอะไรตุกติกแอบแฝงอยู่
- ห้ามให้ข้อมูลส่วนตัวโดยไม่จำเป็น เช่น เลขบัตรประชาชน รหัสผ่านต่าง ๆ ถ้ายังไม่มั่นใจว่าเว็บไซต์หรือแอปฯ นั้นเป็นของจริงหรือไม่ เพราะข้อมูลที่เรากรอกไปอาจถูกนำไปสวมรอยก่ออาชญากรรมอื่น ๆ
- ห้ามโอนเงินไปก่อน ถ้าฝ่ายตรงข้ามอ้างว่าจำเป็นต้องโอนเงินมาเพื่อการใด ๆ ก็ตาม ให้สันนิษฐานได้เลยว่าน่าจะถูกหลอก
- ต้องตรวจสอบชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ให้กู้ว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน ได้รับใบอนุญาตหรือมีใบขึ้นทะเบียนให้ประกอบธุรกิจหรือไม่ มีตัวตนอยู่จริงหรือเปล่า เบอร์โทรศัพท์ติดต่อได้จริงไหม
- หลีกเลี่ยงแอปพลิเคชันเงินกู้ที่ไม่มีหน่วยงานภาครัฐกำกับดูแล เพราะอาจเป็นการกู้เงินนอกระบบ หรืออาจถูกเข้าถึงข้อมูลสำคัญในสมาร์ตโฟน
วิธีที่ 1
วิธีที่ 2
วิธีที่ 3
1. เก็บรวบรวมหลักฐานทุกอย่าง
2. แจ้งความ
3. ติดต่อธนาคาร
- แจ้งความดำเนินคดี ณ สถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ
- ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทร. 1599 หรือกรอกข้อมูลที่ต้องการแจ้งผ่านเว็บไซต์ pct.police.go.th
- สายด่วนธนาคารแห่งประเทศไทย โทร. 1213
- กรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร. สายด่วน DSI Call Center 1202
บทความที่เกี่ยวข้องกับการกู้เงินและการหารายได้เสริม
- เปิดโปง กู้เงินออนไลน์ ทำยังไงถึงทำให้คนยอมโอนเงินให้หลักหมื่น-แสน ปั่นหัวแบบนี้เลย
- ทำความรู้จัก เครดิตบูโร คืออะไร เช็กได้ที่ไหน
- 6 วิธีสร้างเครดิตการเงินดี ขอสินเชื่อผ่านง่าย
- เป็นหนี้นอกระบบทำไงดี ? 7 วิธีแก้ปัญหาหนี้ท่วมหัว แบบทำได้จริง !
- 10 วิธีหาเงินประทังชีวิตให้รอดช่วงโควิด 19 เมื่องานไม่มี หนี้ก็ต้องจ่าย
- 20 อาชีพเสริมช่วงโควิด หารายได้เพิ่ม กู้วิกฤตการเงิน
- รวม 20 อาชีพเสริมหลังเลิกงาน เพิ่มรายได้มนุษย์เงินเดือน !
- 50 วิธีหารายได้เสริมช่วงวันหยุด คนทำงานประจำ ตังค์ไม่พอใช้ เร่เข้ามา !
- 60 งานทำที่บ้านก็ดี เป็นอาชีพเสริมก็รวย อาชีพหลักก็ปัง !
ขอบคุณข้อมูลจาก
ธนาคารแห่งประเทศไทย (1), (2)
ศคง. 1213 (1), (2)
เฟซบุ๊ก กองปราบปราม (1), (2), (3), (4)
กรมสอบสวนคดีพิเศษ