เปิดหลักเกณฑ์ปรับปรุงใหม่ จ่ายโบนัสพนักงานของกองสลาก ได้สูงสุด 8 เท่าของเงินเดือน หลังผลการดำเนินงานมีกำไรอู้ฟู่ ใช้เกณฑ์อะไรบ้าง มาดู
ภาพจาก 2p2play / Shutterstock.com
1. กองสลาก เปลี่ยนจากรัฐวิสาหกิจกลุ่ม 5 เป็นรัฐวิสาหกิจกลุ่ม 2
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบการปรับปรุงเกณฑ์การจ่ายโบนัสพนักงานและลูกจ้างของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งจะเชื่อมโยงกับผลการดำเนินงาน ตามระบบผลการประเมินการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ
โดยปรับให้สำนักงานสลากฯ เป็นรัฐวิสาหกิจกลุ่ม 2 ประเภทจัดสรรโบนัสให้พนักงานได้เมื่อมีกำไร จากเดิมถูกจัดให้อยู่กลุ่ม 5 ประเภทที่จ่ายโบนัสให้พนักงานแบบคงที่ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2564 เป็นต้นไป
ภาพจาก i am EM / Shutterstock.com
สำหรับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายโบนัสพนักงานและลูกจ้างของสำนักงานสลากฯ จะเชื่อมโยงกับผลการดำเนินงานตามระบบผลการประเมินการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ ดังนี้
- ผลประเมินระดับ 5 (ดีเยี่ยม) จะได้โบนัส 11% ของกำไร แต่ไม่เกิน 8 เท่าของเงินเดือนหรือค่าจ้าง
- ผลประเมินระดับ 4 (ดีมาก) จะได้โบนัส 10% ของกำไร แต่ไม่เกิน 6 เท่าของเงินเดือนหรือค่าจ้าง
- ผลประเมินระดับ 3 (ดี) จะได้โบนัส 9% ของกำไร แต่ไม่เกิน 5 เท่าของเงินเดือนหรือค่าจ้าง
- ผลประเมินระดับ 2 (พอใช้) จะได้โบนัส 8% ของกำไร แต่ไม่เกิน 4 เท่าของเงินเดือนหรือค่าจ้าง
- ผลประเมินระดับ 1 (ต้องปรับปรุง) จะได้โบนัส 7% ของกำไร แต่ไม่เกิน 2 เท่าของเงินเดือนหรือค่าจ้าง
3. สำนักงานสลากฯ เคยทำกำไรถึง 3,451 ล้านบาท !
จากรายงานกระทรวงการคลัง เผยว่า สำนักงานสลากฯ เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีผลการดำเนินงานด้านการเงินที่ดีมาโดยตลอด เมื่อพิจารณาผลงานย้อนหลังไป 5 ปี (2558 - 2562) มีกำไรสุทธิเฉลี่ยอยู่ที่ 3,451 ล้านบาท
หากนำมาเปรียบเทียบกับระบบเดิมเมื่อปี 2560 - 2562 พนักงานจะได้รับโบนัส 3.75 เท่าของเงินเดือน ซึ่งเป็นระบบแบบคงที่ แต่ถ้าเป็นระบบใหม่ที่ประเมินตามคะแนนของรัฐวิสาหกิจ ในปี 2560 พนักงานจะได้รับโบนัส 5.5 เท่า ส่วนปี 2561 ได้รับ 6 เท่า
ทางสำนักงานสลากฯ คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนของโบนัสพนักงานและลูกจ้าง เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละประมาณ 62.40 ล้านบาท ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นส่วนนี้ก็จะไม่กระทบต่อกำไร หรือการจัดเก็บรายได้ของแผ่นดินแต่อย่างใด
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย