คนถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้เฮ เพราะในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 นอกจากจะได้รับวงเงินซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค ค่ารถโดยสารสาธารณะ ตามปกติแล้ว ล่าสุดยังจะได้รับเงินเยียวยาจากโครงการ “เราชนะ” ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2564 เพิ่มเติมอีก 5,400-5,600 บาท ซึ่งรัฐบาลจะทยอยโอนให้ผู้ถือบัตรคนจนโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องลงทะเบียนใด ๆ
คงอยากทราบแล้วใช่ไหมว่า เงินช่วยเหลือดังกล่าวจะเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐวันไหนบ้าง และเป็นจำนวนเท่าไร เรารวบรวมข้อมูลมาบอกแล้วค่ะ
วงเงินซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค คนละ 700-800 บาท/เดือน
- กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ปกติได้รับ 300 บาท/เดือน เพิ่มมาเป็น 800 บาท/เดือน
- กลุ่มที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท ปกติได้รับ 200 บาท/เดือน เพิ่มมาเป็น 700 บาท/เดือน
ค่ารถโดยสารสาธารณะ
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้) แบ่งเป็น
- ค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า 500 บาท/เดือน (ใช้ชำระค่าโดยสารด้วยระบบ e-Ticket เฉพาะผู้ถือบัตรใน 7 จังหวัด คือ กทม., นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร และนครปฐม)
- ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาท/เดือน
- ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาท/เดือน
วงเงินช่วยเหลือจากโครงการเราชนะ งวดที่ 1
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะมีเงินโอนเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมทุกวันศุกร์ รวม 8 ครั้ง ดังนี้
- กลุ่มที่ปกติได้รับ 800 บาท/เดือน จะได้รับเงินจากเราชนะ งวดละ 675 บาท
- กลุ่มที่ปกติได้รับ 700 บาท/เดือน จะได้รับเงินจากเราชนะ งวดละ 700 บาท
โดยเงินจำนวนนี้ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ ต้องใช้ผ่านร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เราชนะ ร้านธงฟ้าฯ ขนส่งสาธารณะต่าง ๆ ที่ลงทะเบียนกับเราชนะเท่านั้น สามารถใช้ได้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564
วงเงินช่วยเหลือจากโครงการเราชนะ งวดที่ 2
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- กลุ่มที่ปกติได้รับ 800 บาท/เดือน จะได้รับเงินจากเราชนะ งวดละ 675 บาท
- กลุ่มที่ปกติได้รับ 700 บาท/เดือน จะได้รับเงินจากเราชนะ งวดละ 700 บาท
โดยเงินจำนวนนี้ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ ต้องใช้ผ่านร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เราชนะ ร้านธงฟ้าฯ ขนส่งสาธารณะต่าง ๆ ที่ลงทะเบียนกับเราชนะเท่านั้น สามารถใช้ได้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564
ค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 230 บาท/เดือน/ครัวเรือน
- เป็นการต่ออายุจากมาตรการเดิม โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 230 บาท/เดือน/ครัวเรือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 - กันยายน 2564
- กรณีใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน ให้ใช้สิทธิ์ค่าไฟฟ้าฟรีตามมาตรการปัจจุบัน
- กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้สิทธิ์ตามมาตรการนี้ ในวงเงิน 230 บาท/ครัวเรือน/เดือน หากใช้เกินวงเงินที่กำหนด ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าไฟฟ้าทั้งหมด
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เรียบร้อย
- ผู้ใช้ไฟฟ้าใน กทม., สมุทรปราการ, นนทบุรี ลงทะเบียนที่การไฟฟ้านครหลวง
- ผู้ใช้ไฟฟ้าในต่างจังหวัด ลงทะเบียนที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาท/เดือน/ครัวเรือน
- ต่ออายุให้จากมาตรการเดิม โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับเงินช่วยเหลือค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาท/เดือน/ครัวเรือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 - กันยายน 2564
- ทั้งนี้ หากผู้ถือบัตรคนจนใช้น้ำประปาเกินวงเงิน 100 บาท/ครัวเรือน/เดือน จะต้องเป็นผู้จ่ายค่าน้ำประปาเองทั้งหมด
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ครัวเรือนที่ใช้น้ำประปาไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เรียบร้อย
- ผู้ใช้ประปาใน กทม., สมุทรปราการ, นนทบุรี ลงทะเบียนที่การประปานครหลวง
- ผู้ใช้ประปาในต่างจังหวัด ลงทะเบียนที่การประปาส่วนภูมิภาค
วงเงินช่วยเหลือจากโครงการเราชนะ งวดที่ 3
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- กลุ่มที่ปกติได้รับ 800 บาท/เดือน จะได้รับเงินจากเราชนะ งวดละ 675 บาท
- กลุ่มที่ปกติได้รับ 700 บาท/เดือน จะได้รับเงินจากเราชนะ งวดละ 700 บาท
โดยเงินจำนวนนี้ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ ต้องใช้ผ่านร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เราชนะ ร้านธงฟ้าฯ ขนส่งสาธารณะต่าง ๆ ที่ลงทะเบียนกับเราชนะเท่านั้น สามารถใช้ได้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564
วงเงินช่วยเหลือจากโครงการเราชนะ งวดที่ 4
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- กลุ่มที่ปกติได้รับ 800 บาท/เดือน จะได้รับเงินจากเราชนะ งวดละ 675 บาท
- กลุ่มที่ปกติได้รับ 700 บาท/เดือน จะได้รับเงินจากเราชนะ งวดละ 700 บาท
โดยเงินจำนวนนี้ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ ต้องใช้ผ่านร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เราชนะ ร้านธงฟ้าฯ ขนส่งสาธารณะต่าง ๆ ที่ลงทะเบียนกับเราชนะเท่านั้น สามารถใช้ได้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ตามปกติผู้พิการที่ขึ้นทะเบียนจะได้รับการโอนเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท/เดือน เข้าบัญชีธนาคาร อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 เป็นต้นไป ครม. มีมติให้เพิ่มเบี้ยความพิการอีก 200 บาท เป็น 1,000 บาท/เดือน สำหรับผู้พิการที่อายุ 18 ปีขึ้นไป และมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะแบ่งจ่ายดังนี้
- 800 บาท : โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเหมือนเดิม ทุกวันที่ 10 ของเดือน
- เงินเพิ่มเติมอีก 200 บาท จากกองทุนประชารัฐ : จ่ายเข้ากระเป๋าเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งคาดว่าเงินจะเข้าบัญชีประมาณวันที่ 22 ของทุกเดือน อย่างไรก็ตาม วัน-เวลาที่แน่นอน กรมบัญชีกลางจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอีกครั้ง
หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลการจ่ายเงินได้ที่ Call Center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 0 2109 2345 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น. หรือที่กรมบัญชีกลาง โทร. 0 2270 6400 ในวัน-เวลาราชการ
ขอบคุณข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก กรมบัญชีกลาง The Comptroller General’s Department, เฟซบุ๊ก สถานีข่าวกระทรวงการคลัง : Ministry of Finance News Station