x close

เปิดผังอย่างละเอียด โกงคนละครึ่ง จนได้เงิน 220,000 ทำอย่างไร งานนี้โดนรวบยกบ้าน

           เปิดผังทำความเข้าใจ แก๊งโกงคนละครึ่ง ทำงานกันเป็นทีม ผัว-เมีย แม่-ลูก จนได้มีการโอนเงินกว่า 220,000 บาทเข้าบัญชี งานนี้ไม่พ้นโดนมอนิเตอร์ รวบได้ทั้งครอบครัว

คนละครึ่ง
ภาพจาก napat intaroon / Shutterstock.com

          วันที่ 18 ธันวาคม 2563 จากกรณีที่ตำรวจสามารถจับขบวนการทุจริตเงินโครงการ คนละครึ่ง ผู้ต้องหา 4 คน ตั้งตัวเป็นโบรกเกอร์หาลูกค้าป้อนให้ร้านโชห่วยที่ จ.สมุทรสาคร แต่โป๊ะแตกถูกจับได้ เพราะลูกค้าอยู่ไกลถึงเชียงใหม่ โดยคนที่โกงนั้นใช้ความรู้ที่เรียนมาในการหาช่องโหว่นั้น

อ่านเพิ่มเติม จับแก๊งโกงคนละครึ่ง แฉวิธีโกงใหม่ หลอกระบบได้เป็นหมื่น แต่โป๊ะแตก เพราะแบบนี้ !!
 
          วันนี้ กระปุกดอทคอม จะพาไปทำความเข้าใจขั้นตอนการโกงของแก๊งนี้อย่างเป็นล่ำเป็นสัน ที่ทำให้สุดท้ายแล้วระบบก็สามารถจับความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติได้ และโดนจับได้ยกบ้าน ซึ่งอัตราโทษความผิดนั้น สูงถึงจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ 5 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือ 100,000 บาท แต่การกระทำผิด 1 ครั้ง ถือเป็นการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ เมื่อรวมกันหลายกระทง ก็อาจได้รับโทษในอัตราสูงสุดคือ 10-20 ปี หรือมากกว่านั้น


- ตัวละครในขบวนการโกงครั้งนี้


          1. นายจีรพจน์ เจ้าของไลน์ Jeerapot (สามี)
          2. นางกนกภรณ์ เจ้าของเฟซบุ๊ก สาวิตรี รักชีพชอบ (ภรรยา)
          3. นางสมปอง อายุ 61 ปี จาก จ.สมุทรสาคร (แม่)
          4. นายสรัล อายุ 24 ปี จาก จ.สมุทรสาคร (ลูก)
          5. ประชาชนทั่วประเทศ


วิธีการโกง

          1. ทางระบบของธนาคารกรุงไทย จับความผิดปกติของร้านค้าสมปองขายของชำ ที่มีการเข้า-ออกเงินอย่างผิดปกติมาก ร้านค้าเปิดมาแค่ 10 วัน แต่มีลูกค้ามาใช้งานถึง 800 ราย มีผู้ใช้งานผิดปกติกว่า 200 ราย ธนาคารกรุงไทยจึงประสานตำรวจเข้าตรวจสอบ

          2. พบว่าเรื่องนี้เริ่มต้นจากการที่นางกนกภรณ์ได้ตั้งชื่อเฟซบุ๊กขึ้นมาว่า สาวิตรี รักชีพชอบ ประกาศว่าสามารถแลกเงินแอปฯ เป๋าตัง ที่ได้จากรัฐวันละ 150 บาท ให้กลายเป็นเงินสดได้ โดยคนที่มาแลกนั้นจะได้เงินสด 90 บาทโอนเข้าบัญชีแทน นั่นจึงทำให้มีผู้สนใจจากทั่วทุกสารทิศ ทั้งเชียงใหม่ สงขลา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ สุรินทร์ ฯลฯ ติดต่อมา และส่งมอบรหัสล็อกอินเข้าแอปฯ เป๋าตังให้


          3. นายจีรพจน์ได้ใช้ไลน์และเฟซบุ๊ก Messenger พูดคุยกับนายสรัล ลูกของนางสมปอง เจ้าของร้านสมปองขายของชำ ถึงวิธีการดำเนินการ ทั้งการสแกนสิทธิ การส่งสลิปโอนเงินตอบแทน

          4. นางกนกภรณ์ และนายจีรพจน์ ได้ร่วมมือกับร้านสมปองขายของชำ ที่ จ.สมุทรสาคร โดยมีการแบ่งผลประโยชน์กันคือ ทุก ๆ 150 บาท ที่ได้มาจากรัฐ ประชาชนที่เป็นเจ้าของแอปฯ เป๋าตัง จะได้ 90 บาท, นายจีรพจน์และนางกนกภรณ์ได้ 30 บาท, ร้านสมปองขายของชำได้ 30 บาท

          5. ในแต่ละวัน นางกนกภรณ์จะล็อกอินเข้าแอปฯ เป๋าตัง จากล็อกอินที่ได้รับมา แล้วทำการสแกนใช้สิทธิคนละครึ่ง โดยมีแอปฯ ถุงเงิน ของร้านสมปองขายของชำอยู่กับตัว เมื่อได้รับเงินมาจากรัฐ เงินก็จะเข้าบัญชีนางสมปอง


          6. เงินที่ได้รับจากรัฐในแต่ละวันจะไปเข้าบัญชีของนางสมปองและนายสรัล 1 ราย ได้เงิน 150 บาท นางสมปองจะหักไว้ 30 บาท และโอนเงิน 120 บาท ไปที่บัญชีของนายจีรพจน์

          ผลจากการตรวจสอบบัญชีของนางสมปอง พบว่า บัญชีแรกได้รับเงินรวม 840 บาท, บัญชีที่ 2 ได้รับเงินรวม 6,750 บาท, บัญชีของนายสรัล ได้รับเงินรวม 51,840 บาท และบัญชีต้องสงสัยอื่น ๆ อีก 25,085 บาท รวมเป็นเงินกว่า 84,515 บาท

          7. จากนั้นทั้งนางสมปองและนายสรัล จะโอนเงินเข้าบัญชีของนายจีรพจน์ 1 ราย 120 บาท และนายจีรพจน์จะหักเงินไว้ 30 บาท จะโอนเงินไปให้ประชาชนที่ร่วมฉ้อโกง คนละ 90 บาท ในแต่ละวัน เฉพาะช่วงวันที่ 22 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน มีการโอนออกรวมเป็นเงินกว่า 77,409 บาท


          8. ก่อนที่รัฐบาลจะสั่งระงับบัญชีนี้ก็พบว่า ธนาคารกรุงไทยได้โอนเงินไปให้ร้านสมปองขายของชำแล้วกว่า 220,000 บาท

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดผังอย่างละเอียด โกงคนละครึ่ง จนได้เงิน 220,000 ทำอย่างไร งานนี้โดนรวบยกบ้าน อัปเดตล่าสุด 21 ธันวาคม 2563 เวลา 11:36:46 129,953 อ่าน
TOP