ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เผย ครม. มีมติเห็นชอบให้เพิ่มวงเงินกู้ โครงการบ้านล้านหลัง จาก 1 ล้าน เป็น 1.2 ล้านบาท คิดดอกเบี้ย 3 เปอร์เซ็นต์ ผ่อนต่ำสุด 4,500 บาทต่อเดือน เพื่อเพิ่มคุณภาพที่ดีของคนไทย
เมื่อวานนี้ (16 มิถุนายน 2563) นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบปรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไข "โครงการบ้านล้านหลัง" กรณีลูกค้ารายย่อย (Post Finance) โดยปรับเพิ่มราคาซื้อ-ขาย และวงเงินกู้ที่อยู่อาศัยเป็นไม่เกิน 1.2 ล้านบาท จากเดิม 1 ล้านบาท เพื่อให้เหมาะสมกับราคาซื้อ-ขายของอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน และเพิ่มโอกาสให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ระยะเวลาโครงการ
ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2562 - 30 ธันวาคม 2564
จำนวนเงินที่ให้กู้
ราคาขายไม่เกิน 1,200,000 บาท เพิ่มจากก่อนหน้านี้ที่ 1,000,000 บาท โดยกำหนดกรอบวงเงินสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับลูกค้ารายย่อย จำนวน 50,000 ล้านบาท
- กรณีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาท/คน/เดือน ปีที่ 1-5 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.00 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
- ฟรี 4 ค่าธรรมเนียม คือ ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้, ค่าประเมินราคาหลักประกัน, ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม และค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง
- กรณีรายได้เกิน 25,000 บาท/คน/เดือน อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.00 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
ทั้งนี้ หากกู้ 1.2 ล้านบาท จะผ่อนชำระเริ่มต้นเพียงแค่ 4,500 บาท/เดือนเท่านั้น
จำนวนผู้กู้ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ โครงการบ้านล้านหลัง พบว่ามีผู้ติดต่อยื่นคำขอกู้แล้วยอดล่าสุดวันที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา อยู่ที่ 29,813 ราย วงเงิน 21,970 ล้านบาท และทาง ธอส. อนุมัติสินเชื่อให้ลูกค้าไปแล้วทั้งสิ้น 28,278 ราย วงเงินกู้ 20,106 ล้านบาท
ขายบ้านไม่เกิน 1.2 ล้าน ได้รับการยกเว้นภาษีนิติบุคคล 3 ปี
นายฉัตรชัย กล่าวว่า การปรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขนี้เพื่อสอดคล้องกับประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนฯ ที่แก้ไขเพิ่มเติมบัญชีประเภทกิจการที่ให้การส่งเสริมการลงทุน โดยกำหนดให้กิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ได้รับสิทธิประโยชน์เฉพาะการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยมีเงื่อนไขสำคัญ คือ กรณีที่อยู่อาศัยที่ขอรับการส่งเสริม ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ต้องจำหน่ายราคาต่อหน่วยไม่เกิน 1.2 ล้านบาท (รวมค่าที่ดิน) และกรณีที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอื่น ต้องจำหน่ายราคาหน่วยละไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยที่อยู่อาศัยดังกล่าวจะต้องจำหน่ายให้แก่บุคคลธรรมดาเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก สถานีข่าวกระทรวงการคลัง : Ministry of Finance News Station