คลินิกแก้หนี้ ออก 2 มาตรการ ช่วยเหลือสมาชิกที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด 19 ปรับลดดอกเบี้ย 2 เปอร์เซ็นต์ และสามารถเลื่อนผ่อนชำระทั้งต้น-ดอก นาน 6 เดือน
วันที่ 26 มีนาคม 2563 มีรายงานว่า นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 แบงก์ชาติ เปิดเผยว่า คลินิกแก้หนี้ ซึ่งเป็นโครงการแก้หนี้บัตรเครดิต เตรียมออกมาตรการช่วยเหลือประชาชน ที่เข้าร่วมโครงการกรณีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า โดยจะมีมาตรการช่วยเหลือในครั้งนี้ ซึ่งลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้จะได้รับยา 2 ชนิด ได้แก่...
ยาชนิดแรก คือ การผ่อนปรนให้สามารถเลื่อนงวดชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ออกไปเป็นระยะเวลาสูงสุด 6 เดือน (เมษายน - กันยายน 2563) ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนได้รับสิทธินี้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องโทรศัพท์เข้าไปดำเนินการเปลี่ยนแปลงสัญญากับคลินิกแต่อย่างใด
ยาชนิดที่สอง คือ การปรับลดดอกเบี้ยของโครงการลง 2 เปอร์เซ็นต์ เป็นระยะเวลา 6 เดือน เช่นกัน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่าย สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการที่ยังจ่ายชำระหนี้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะช่วยลดภาระการจ่ายดอกเบี้ยลงเหลือเพียง 2-3 เปอร์เซ็นต์ และนอกจากจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยจ่ายของผู้เข้าร่วมโครงการแล้ว การลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ผู้เข้าร่วมโครงการ ที่ยังพอมีศักยภาพในการผ่อนชำระเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เงินที่ผู้เข้าร่วมโครงการจ่ายเข้ามาถูกนำไปตัดชำระเงินต้นได้มากขึ้น
นอกจากนี้ยังผ่อนปรนเงื่อนไขให้สามารถจ่ายชำระเข้ามาเท่าที่ทำได้ เช่น
ครึ่งหนึ่งของค่างวดที่เคยจ่าย เพื่อรักษาสถานะ
ซึ่งในกรณีนี้ยังได้รับสิทธิพิเศษเรื่องการลดดอกเบี้ยด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนที่มีหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สามารถสมัครเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ได้ โดยจะได้รับประโยชน์จากมาตรการเช่นเดียวกับสมาชิกปัจจุบัน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก ธนาคารแห่งประเทศไทย - Bank of Thailand
วันที่ 26 มีนาคม 2563 มีรายงานว่า นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 แบงก์ชาติ เปิดเผยว่า คลินิกแก้หนี้ ซึ่งเป็นโครงการแก้หนี้บัตรเครดิต เตรียมออกมาตรการช่วยเหลือประชาชน ที่เข้าร่วมโครงการกรณีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า โดยจะมีมาตรการช่วยเหลือในครั้งนี้ ซึ่งลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้จะได้รับยา 2 ชนิด ได้แก่...
ยาชนิดแรก คือ การผ่อนปรนให้สามารถเลื่อนงวดชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ออกไปเป็นระยะเวลาสูงสุด 6 เดือน (เมษายน - กันยายน 2563) ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนได้รับสิทธินี้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องโทรศัพท์เข้าไปดำเนินการเปลี่ยนแปลงสัญญากับคลินิกแต่อย่างใด
ยาชนิดที่สอง คือ การปรับลดดอกเบี้ยของโครงการลง 2 เปอร์เซ็นต์ เป็นระยะเวลา 6 เดือน เช่นกัน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่าย สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการที่ยังจ่ายชำระหนี้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะช่วยลดภาระการจ่ายดอกเบี้ยลงเหลือเพียง 2-3 เปอร์เซ็นต์ และนอกจากจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยจ่ายของผู้เข้าร่วมโครงการแล้ว การลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ผู้เข้าร่วมโครงการ ที่ยังพอมีศักยภาพในการผ่อนชำระเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เงินที่ผู้เข้าร่วมโครงการจ่ายเข้ามาถูกนำไปตัดชำระเงินต้นได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนที่มีหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สามารถสมัครเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ได้ โดยจะได้รับประโยชน์จากมาตรการเช่นเดียวกับสมาชิกปัจจุบัน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก ธนาคารแห่งประเทศไทย - Bank of Thailand