กรมการขนส่งทางบก ยังไม่ปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่ อีก 7% ขอรอผลการศึกษาจาก ทีดีอาร์ไอ ภายในสัปดาห์นี้ ชี้ พบแท็กซี่ส่วนมาก สอบตกการให้บริการ เจอผู้โดยสารร้องเรียนสูงขึ้นทุกปี
![แท็กซี่ แท็กซี่]()
วันที่ 29 ตุลาคม 2561 นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวถึงเรื่องการปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่ระยะที่ 2 อีก 7% ว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาผลการศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ถึงความปลอดภัยและคุณภาพการให้บริการแท็กซี่ รวมทั้งโครงสร้างต้นทุนค่าโดยสารที่เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ หลังจากนั้นจะเสนอกระทรวงคมนาคมต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากแท็กซี่ต้องการยกระดับการให้บริการของตนเองก็สามารถเข้าร่วมโครงการ Taxi OK และ Taxi VIP ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพการให้บริการแท็กซี่ทั้งระบบ เพื่อสร้างความมั่นใจในการให้บริการแก่ผู้โดยสาร รวมถึงยังเพิ่มรายได้และช่องทางในการรับผู้โดยสารผ่านแอปฯ Taxi OK โดยไม่ต้องหักส่วนแบ่งให้กับผู้ให้บริการอีกด้วย

ทั้งนี้ เมื่อเดือนธันวาคม 2557 กรมการขนส่งทางบก ได้ปรับขึ้นค่าแท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร ระยะที่ 1 ไปแล้วที่อัตรา 8% ส่วนการปรับค่าโดยสารระยะที่ 2 จะติดตามผลประเมินความพึงพอใจผู้ใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน "DLT Check in" ซึ่งปัจจุบันพบว่าได้คะแนนน้อยกว่า 70% พร้อมทั้งมีสถิติร้องเรียนรถแท็กซี่ผ่านสายด่วน 1584 ในปีงบประมาณ 2561 ถึง 48,223 เรื่อง สูงกว่าปีก่อน 12% และสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ภาพจาก ferdyboy / Shutterstock.com
สำหรับเรื่องที่ได้รับการร้องเรียน 5 อันดับแรก คือ ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร, กิริยาไม่สุภาพ, ขับรถประมาท, ไม่กดมิเตอร์ และไม่ส่งผู้โดยสารตามที่ตกลง เพราะฉะนั้น กรมการขนส่งทางบก จึงระงับการปรับอัตราค่าโดยสารไว้ จนกว่าจะปรับปรุงคุณภาพการให้บริการให้ได้รับการยอมรับจากประชาชน และต้องนำประเด็นเหล่านี้มาประกอบการพิจารณาเพิ่มเติมด้วย
อย่างไรก็ตาม หากแท็กซี่ต้องการยกระดับการให้บริการของตนเองก็สามารถเข้าร่วมโครงการ Taxi OK และ Taxi VIP ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพการให้บริการแท็กซี่ทั้งระบบ เพื่อสร้างความมั่นใจในการให้บริการแก่ผู้โดยสาร รวมถึงยังเพิ่มรายได้และช่องทางในการรับผู้โดยสารผ่านแอปฯ Taxi OK โดยไม่ต้องหักส่วนแบ่งให้กับผู้ให้บริการอีกด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก