รู้จัก "อีลอน มัสก์" นักธุรกิจอัจฉริยะ เจ้าของนวัตกรรมเปลี่ยนโลก

          อีลอน มัสก์ นักธุรกิจผู้สร้างนวัตกรรมระดับโลก เบื้องหลังความสำเร็จ PayPal-Tesla-SpaceX เจ้าของฉายา Iron Man ในชีวิตจริง 
อีลอน มัสก์
 ภาพจาก PETER PARKS / AFP

         เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลกกับข่าวการช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ไม่เว้นแม้แต่นักธุรกิจชื่อดังอย่าง "อีลอน มัสก์" ที่กล่าวผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า เขายินดีที่จะให้ความช่วยเหลือเด็ก ๆ เช่นกัน ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ของบริษัท โดยพร้อมส่งอุปกรณ์แบตเตอรี่และเครื่องสูบน้ำมาให้ (อ่านข่าว อีลอน มัสก์ พร้อมให้ความช่วยเหลือทีมหมูป่าฯ)

         ก่อนที่ภายหลัง อีลอน มัสก์ จะระบุว่าได้ส่งทีมวิศวกรของบริษัท เทสลา สเปซเอ็กซ์ และบอริงคอมพะนี เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อดูว่าจะช่วยเหลือรัฐบาลไทยได้อย่างไรบ้าง

อีลอน มัสก์ 

อีลอน มัสก์


อีลอน มัสก์
ภาพจาก @elonmusk

          ก่อนที่ภายหลัง อีลอน มัสก์ จะได้ประดิษฐ์แคปซูลยางดำน้ำขึ้นมาจริง ๆ ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง


          แน่นอนว่าจากเหตุการณ์นี้ คงมีหลายคนอยากรู้จักชายคนนี้มากขึ้นทีเดียวว่าเขานั้นเป็นใคร ทำธุรกิจอะไร และบริษัทของเขามีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการขุดเจาะมากขนาดไหน ขอบอกก่อนเลยว่าโปรไฟล์ไม่ธรรมดาจริง ๆ

ประวัติ อีลอน มัสก์

          อีลอน มัสก์ (Elon Musk) นักธุรกิจชาวอเมริกัน ที่มีพ่อเป็นชาวแอฟริกาใต้ และแม่เป็นลูกครึ่งแคนาดา-อเมริกัน โดยเขาเกิดในประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อปี 2514 ใช้ชีวิตวัยเด็กขลุกตัวอยู่กับคอมพิวเตอร์และเรียนรู้การเขียนโปรแกรมด้วยตัวเอง จนสามารถเขียนโค้ดวิดีโอเกมขายได้ตั้งแต่อายุ 12 ปี ซึ่งแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้ อีลอน มัสก์ สนใจเรื่องเทคโนโลยี ก็มาจากการที่มีคุณพ่อทำงานเป็นวิศวกรนั่นเอง  

          นอกจากนี้ เขายังเป็นหนอนหนังสือตัวยง ใช้เวลาอ่านหนังสือถึงวันละ 10 ชั่วโมง อ่านทุกอย่างที่ขวางหน้า ซึ่งการอ่านหนังสือนี่แหละที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของ อีลอน มัสก์ หลังจากที่เขาได้อ่านหนังสือ "The Hitchhiker’s Guide to the Galaxy" ที่เล่าเรื่องราวของการท่องอวกาศ จนจุดประกายให้ อีลอน มัสก์ ตั้งใจเลยว่าจะใช้ชีวิตเพื่อปกป้องมวลมนุษยชาติ ทำให้เขาตัดสินใจเรียนระดับปริญญาตรีในสาขาฟิสิกส์และเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ก่อนจะศึกษาต่อถึงระดับปริญญาเอกในสาขาฟิสิกส์ประยุกต์ ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด แต่ก็ต้องตัดสินใจเลิกเรียนกลางคันในปี 2538 เพื่อออกมาสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง
 
อีลอน มัสก์
ภาพจาก PETER PARKS / AFP

ธุรกิจเปลี่ยนโลกของอีลอน มัสก์
 
          อีลอน มัสก์ เริ่มต้นทำธุรกิจครั้งแรกในชื่อ Zip2 Corporation ซึ่งเป็นเว็บไซต์จัดหาข้อมูลออนไลน์ ก่อนที่ในปี 2542 จะโดน Compaq Computer ขอซื้อไปด้วยมูลค่ากว่า 307 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 9,800 ล้านบาท โดยเขาได้รับเงินส่วนแบ่งจากการถือหุ้นในครั้งนั้นถึง 22 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 704 ล้านบาท ทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีด้วยวัยเพียง 28 ปี และด้วยเงินก้อนนี้แหละที่ทำให้ อีลอน มัสก์ นำมาต่อยอดสร้างนวัตกรรมที่สร้างความฮือฮาอีก ดังเช่น

- ผู้ให้กำเนิด Paypal

อีลอน มัสก์

          Paypal คือ ธุรกิจสร้างชื่อให้ อีลอน มัสก์ โด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งก่อนจะเป็น Paypal ที่เรารู้จักกันแบบทุกวันนี้ ชายวัย 28 ปีในตอนนั้น (ปี 2542) ได้ก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า X.com ด้วยแนวคิดเป็นธนาคารออนไลน์ ก่อนที่จะปรับมาให้บริการโอนเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ตและเปลี่ยนชื่อเป็น Paypal แบบในปัจจุบัน

          จนในปี 2545 อีลอน มัสก์ จึงตัดสินใจขาย Paypal ให้กับ eBay ด้วยมูลค่าสูงถึง 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 48,000 ล้านบาท ซึ่งจากดีลครั้งนี้ ทำให้เขาได้เงินก้อนไปนอนกอดกว่า 165 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 5,200 ล้านบาท จากการถือหุ้น 11.7% ใน PayPal เรียกว่าทำกำไรงาม ๆ เลยทีเดียว เพราะเขาใช้เงินเพียง 10 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 320 ล้านบาทเท่านั้นในการก่อตั้งบริษัทขึ้นมา

- ก่อตั้ง SpaceX สานฝันอยากพามนุษย์ไปดาวอังคาร

อีลอน มัสก์
ภาพจาก ANGELA WEISS / AFP

          อีลอน มัสก์ มีความฝันที่ไม่ธรรมดา เพราะเขาอยากเห็นมนุษย์สามารถไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคารได้ นั่นทำให้เขาทุ่มเทเวลาจำนวนมากกับการศึกษาเทคโนโลยีจรวด จนในปี 2545 เขาจึงนำเงินที่ได้จากการขาย Paypal มาพัฒนาโปรเจกต์ที่เรียกเสียงฮือฮาไปทั้งโลกอย่าง SpaceX เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีจรวด ด้วยหวังว่าจะพาคนทั่วไปเดินทางท่องอวกาศได้ในราคาประหยัด (Economy Class)

อีลอน มัสก์
ภาพจาก @SpaceX

          แม้ว่าปัจจุบันแผนส่งคนไปดาวอังคารของ SpaceX จะยังไม่ประสบความสำเร็จ และอยู่ระหว่างพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ ก็ตาม แต่ SpaceX ก็ถือเป็นบริษัทเอกชนรายแรกของโลกที่สามารถจัดส่งยานอวกาศบินไป-กลับ ระหว่างโลกและสถานีบนอวกาศได้สำเร็จ ซึ่งก็น่าจะทำให้ความฝันของ อีลอน มัสก์ ที่เคยพูดว่า "ชีวิตนี้ผมอยากจะสิ้นใจบนดาวอังคาร แต่ไม่เอาแบบยานตกนะ" ค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ โดยวางแผนว่าจะส่งจรวดไปดาวอังคารให้ได้ในปี 2565 (ค.ศ. 2022)

- Tesla อนาคตใหม่ธุรกิจรถยนต์

อีลอน มัสก์
ภาพจาก @Tesla

          ความฝันที่จะเปลี่ยนแปลงโลกของ อีลอน มัสก์ ยังไม่หยุดแค่นั้น โดยในปี 2547 เขาก็ได้ร่วมลงทุนใน Tesla บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Car จนสร้างแรงกระเพื่อมในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะเขามีเป้าหมายที่จะทำให้ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าเข้าถึงตลาดคนทั่วไปได้จริง ๆ โดยพัฒนาเทคโนโลยีให้มีราคาใกล้เคียงกับรถที่ใช้น้ำมัน  

          Tesla เริ่มขายรถรุ่นแรกในปี 2551 คือ Tesla Roadster โดยเจาะตลาดกลุ่มรถสปอร์ต ทำให้มีราคาสูงถึง 109,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 3.4 ล้านบาท แต่หลังจากนั้นอีก 4 ปีถัดมา จึงได้ปล่อยตัว Tesla Model S ที่มีราคาเริ่มต้น 69,200 เหรียญสหรัฐ หรือราว 2.2 ล้านบาท เพื่อเน้นเข้าถึงคนทั่วไปมากขึ้น ทำให้ Tesla Model S เป็นต้นแบบของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ของ Tesla ที่พยายามทำให้มีราคาถูกลงเรื่อย ๆ จนปัจจุบัน Tesla กลายเป็นบริษัทรถยนต์ชั้นนำในสหรัฐฯ ด้วยมูลค่าตลาดที่สูงกว่า 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐไปแล้ว

- ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์

อีลอน มัสก์
ภาพจาก @solarcityNZ

          ไม่เพียงแค่ SpaceX และ Tesla เท่านั้นที่ อีลอน มัสก์ พยายามจะสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้กับโลก ในปี 2549 เขายังร่วมลงทุนกับรุ่นพี่รุ่นน้องก่อตั้งบริษัทพลังงานแสงอาทิตย์ "Solar City" โดยดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิต และติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์สำหรับใช้ในบ้าน เพื่อลดการใช้พลังงานจากฟอสซิล เช่น น้ำมัน หรือก๊าซธรรมชาติ ที่กำลังจะหมดโลก

          ปัจจุบัน Solar City พัฒนาจากสตาร์ตอัปเล็ก ๆ ที่มีเงินทุนเริ่มต้นเพียง 10 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 320 ล้านบาท จนกลายเป็นผู้ให้บริการพลังงานไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ในสหรัฐฯ ได้สำเร็จ

- Hyperloop การเดินทางแบบใหม่ ที่อาจมาแทนเครื่องบิน

อีลอน มัสก์
ภาพจาก hyperloop-one

          เป็นโครงการสุดล้ำที่ อีลอน มัสก์ คิดขึ้นมา โดยเป็นการเดินทางด้วยห้องโดยสารที่อยู่ในอุโมงค์สุญญากาศที่มีความเร็วถึง 1,200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร็วกว่าเครื่องบินที่วิ่งได้ประมาณ 800 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้จะดูเหมือนว่าแนวคิดนี้เป็นเรื่องเพ้อฝัน และไม่น่าเกิดขึ้นจริงได้ เพราะค่าก่อสร้างที่ค่อนข้างแพง แต่ใครจะเชื่อว่าตอนนี้แนวคิด Hyperloop ของเขาเกิดขึ้นแล้วเมื่อช่วงต้นปี 2561 โดยได้รับอนุญาตจากรัฐวอชิงตัน ให้เริ่มขุดเจาะพื้นที่ในเมือง เพื่อเตรียมก่อสร้างโครงการขนส่งความเร็วสูง Hyperloop ไปที่นิวยอร์ก ซึ่งก็เชื่อกันว่าหากโครงการ Hyperloop เชื่อมระหว่างวอชิงตันและนิวยอร์กแล้วเสร็จ จะช่วยย่นเวลาการเดินทางให้เหลือเพียง 29 นาทีเท่านั้น

- The Boring Company บริษัทขุดเจาะที่ดีที่สุดในโลก

อีลอน มัสก์
ภาพจาก Boringcompany

          อย่างที่รู้กันคือตอนนี้ อีลอน มัสก์ กำลังขลุกอยู่กับโครงการ Hyperloop ซึ่งต้องขุดอุโมงค์ใต้ดินสำหรับเส้นทาง Hyperloop โดยบริษัทที่ทำหน้าที่นี้ก็คือ The Boring Company ที่ก่อตั้งในปี 2559 โดย อีลอน มัสก์ อีกนั่นแหละ จากการที่เขาเบื่อกับปัญหารถติดในเมือง จึงคิดที่จะสร้างเครื่องขุดอุโมงค์เพื่อแก้ปัญหานั่นเอง

          โดย The Boring Company เป็นบริษัทด้านวิศวกรรมธรณีเทคนิค (Geotechnical Engineering) ดำเนินธุรกิจหลักด้านการสำรวจใต้ชั้นดินขั้นสูง ด้วยเทคโนโลยีเรดาร์ที่สามารถทะลุทะลวงพื้นดินได้ จึงสามารถลดต้นทุนและย่นระยะเวลาในการขุดได้ดีขึ้น ซึ่งว่ากันว่าเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการขุดเจาะและระบบไฟฟ้าที่ดีที่สุดในโลก ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมถึงมีคนไปขอความช่วยเหลือจาก อีลอน มัสก์ ให้ช่วยเหลือเด็ก ๆ ออกจากถ้ำหลวง และตอนนี้เขาก็ตกลงจะส่งทีมวิศวกรจาก SpaceX และ The Boring Company เดินทางมาที่ไทยแล้ว รวมถึงพร้อมจะส่งเครื่องขุดและอุปกรณ์ช่วยเหลืออื่น ๆ ของบริษัทมาให้ใช้งานอีกด้วย

 

อีลอน มัสก์ กับชีวิตส่วนตัวที่น่าสนใจ

- ชีวิตครอบครัว

อีลอน มัสก์
 ภาพจาก JIM WATSON / AFP

          แม้หน้าที่การงานของ อีลอน มัสก์ จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่เรื่องชีวิตรักและครอบครัวกลับไม่สวยหรูสักเท่าไร เพราะเลิกรากับภรรยาหลายต่อหลายครั้ง โดยเขาแต่งงานครั้งแรกในปี 2543 กับ จัสติน วิลสัน นักเขียนชาวแคนาดา และมีลูกชายด้วยกันในอีก 2 ปีถัดมา ทว่า ลูกชายกลับเสียชีวิตอย่างกะทันหันเมื่ออายุได้ 10 สัปดาห์เท่านั้น แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็มีลูกชายด้วยกันอีก 5 คน จากการทำเด็กหลอดแก้ว ก่อนที่ในปี 2551 จะหย่าร้างกันไป

          ปี 2553 อีลอน มัสก์ แต่งงานครั้งที่ 2 กับ ทาร์ลูลาห์ ไรลีย์ นักแสดงสาวชาวอังกฤษ แต่อีก 2 ปีให้หลังก็หย่าขาดกัน ก่อนจะกลับมาแต่งงานกันใหม่ในปี 2556 แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถประคองความรักกันต่อไปได้ ไรลีย์ ยื่นขอหย่าขาดจากสามีในปี 2559
 
- Iron Man ในชีวิตจริง

 
          หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า อีลอน มัสก์ มีฉายาว่า "the real life Iron Man" นั่นก็เพราะเขาเป็นต้นแบบของคาแรกเตอร์ โทนี่ สตาร์ค ในภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เรื่อง Iron Man นั่นเอง ซึ่ง จอน แฟฟโรว์ ผู้กำกับ Iron Man เปิดเผยว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจจากบุคลิกของ อีลอน มัสก์ ที่มีความอัจฉริยะ ความเป็นนักคิด และพยายามประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ ๆ มาเปลี่ยนโลก จึงหยิบมาเป็นคาแรกเตอร์ให้กับ Iron Man ฉบับภาพยนตร์

          โดยก่อนสร้าง Iron Man ภาคแรก โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ผู้รับบท Iron Man ในเรื่อง ถึงขนาดต้องลงทุนไปใช้ชีวิตกับ อีลอน มัสก์ เพื่อศึกษาและซึมซับบุคลิกของนักธุรกิจคนนี้กันเลยทีเดียว และอีกอย่างที่หลายคนก็น่าจะไม่รู้ คือ อีลอน มัสก์ เคยเข้าฉากจริง ๆ ในภาพยนตร์เรื่อง Iron Man 2 ด้วยนะ ใครอยากเห็นก็ลองไปไล่ดูกันได้เลย 
 
- ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีหมื่นล้าน

อีลอน มัสก์
ภาพจาก Brendan Smialowski / AFP

          นอกจากจะประสบความสำเร็จด้านการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ แล้ว ในเรื่องการทำธุรกิจและความร่ำรวยของเขาก็โดดเด่นไม่แพ้ใคร ซึ่งปัจจุบัน อีลอน มัสก์ มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6 แสนล้านบาท และถูกจัดให้เป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดอันดับ 54 ของโลก ประจำปี 2561 จากการจัดอันดับของ Forbes


          ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ กับชายคนนี้ นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก ซึ่งเขาก็ได้แสดงให้ทุกคนเห็นแล้วว่าความฝันทุกอย่างสามารถเป็นจริงขึ้นได้ หากเริ่มต้นลงมือทำ


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รู้จัก "อีลอน มัสก์" นักธุรกิจอัจฉริยะ เจ้าของนวัตกรรมเปลี่ยนโลก อัปเดตล่าสุด 10 ตุลาคม 2564 เวลา 11:21:41 113,270 อ่าน
TOP
x close