x close

BNK48 ฟีเว่อร์ ดันธุรกิจปัง ! แบบไม่ต้องเสี่ยงทาย

          ปรากฏการณ์ "BNK48" ธุรกิจเพลงแนวใหม่ ที่สร้างกระแสฟีเว่อร์ไปทั่ววงการ อะไรคือเบื้องหลังความสำเร็จของไอดอลกลุ่มนี้  
bnk48

          นาทีนี้คงมีน้อยคนที่ไม่รู้จัก BNK48 ศิลปินไอดอลเจ้าของเพลงฮิตติดหู "คุกกี้เสี่ยงทาย" ที่ร้องตามกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่งเพียงแค่ปีเดียวที่วงเปิดตัว ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ความนิยมต่าง ๆ มากมาย และก็ไม่ใช่แค่วงการเพลงเท่านั้นที่กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แต่รวมไปถึงธุรกิจอื่น ๆ ด้วย ที่ได้รับความสดใสจากกระแสนี้แบบไม่เคยมีมาก่อน กระปุกดอทคอม จึงจะพาไปดูกันว่าช่วงที่ผ่านมาสาว ๆ กลุ่มนี้ได้สร้างแรงกระเพื่อมอะไรให้กับธุรกิจไทยกันบ้าง


กวาดพรีเซ็นเตอร์สินค้าทุกวงการ

          ถ้าเปิดดูตามสื่อโฆษณาตอนนี้ คงสังเกตได้ชัดเลยว่า BNK48 เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าแบรนด์ต่าง ๆ กันมากมายจนจำแทบไม่ได้ เพราะเยอะมากจริง ๆ ซึ่งหากย้อนไปเมื่อต้นปี 2561 ทางวงเคยตั้งเป้าหมายว่าจะต้องเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 10 แบรนด์ ตอนนั้นหลายคนคงมีคำถามในใจว่าจะเป็นไปได้หรือกับเป้าที่สูงแบบนี้ แต่วันนี้คงพิสูจน์ให้เห็นแล้วล่ะว่า คำพูดนั้นไม่ใช่แค่ฝันลอย ๆ เพราะขณะนี้ BNK48 กวาดพรีเซ็นเตอร์สินค้าไปมากกว่า 10 แบรนด์เป็นที่เรียบร้อย

bnk48

          สำหรับแบรนด์ที่ดึง BNK48 เซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็มีทั้ง True Move H, FUJIFILM, A.P. Honda, Yayoi, ช้างศึก (ฟุตบอลทีมชาติไทย), Jele Beautie, Toppo, Lactasoy, Neolution E-Sport, เกมมือถือ Dragon Nest M และล่าสุดอย่างร้านเครื่องเขียนสมใจ ซึ่งผ่านมาแค่ครึ่งปีเท่านั้นงานยังชุกขนาดนี้ คงต้องมาลุ้นกันในครึ่งปีหลังว่าสาว ๆ BNK48 จะโผล่ไปแปะอยู่บนสินค้าตัวไหนอีกบ้าง 


ยอดขายซีดีทะลุแสนแผ่น สวนกระแสธุรกิจเพลงซบเซา 

bnk48

          ในยุคที่ธุรกิจเพลงบ้านเรากำลังซบเซา ศิลปินจำนวนมากเลิกทำเพลงออกมาเป็นอัลบั้ม จากการที่คนหันไปนิยมฟังเพลงผ่าน Music Streaming หรือ Youtube มากกว่าแผ่นซีดี แต่ไม่น่าเชื่อว่า BNK48 จะสวนกระแสธุรกิจเพลงได้แบบไม่มีใครคาดคิด ด้วยยอดขายซีดีที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นในทุกซิงเกิลที่วางจำหน่าย

          เริ่มตั้งแต่ซิงเกิลชุดแรก "อยากจะได้พบเธอ" ที่ทำยอดขาย 13,000 แผ่น ตามมาด้วยซิงเกิล 2 เพลงแจ้งเกิดของวงอย่าง "คุกกี้เสี่ยงทาย" มียอดขายเกิน 30,000 แผ่น จนมาถึงซิงเกิล 3 "วันแรก" ที่สร้างปรากฏการณ์ยอดขายถล่มทลายกว่า 170,000 แผ่น ซึ่งถ้าคิดง่าย ๆ จะเห็นว่าวงสร้างรายได้จากการขายซีดีไปแล้วเกือบ 75 ล้านบาท (ราคาซีดีแผ่นละ 350 บาท) นับว่าเยอะมากในยุคนี้ แถมนี่ยังไม่รวมยอดขายซีดีชุดพิเศษอย่าง "River" ที่เปิดพรีออร์เดอร์ได้ไม่กี่อาทิตย์ ก็มียอดจองล่วงหน้ามากกว่า 30,000 แผ่นแล้ว  


สินค้าที่ระลึกขายดีราวแจกฟรี

bnk48
          อีกสิ่งที่ทำให้ BNK48 น่าจับตามองในแง่ของธุรกิจก็คือกลยุทธ์การขายสินค้าที่ระลึกของวง ที่เน้นขายแบบ "กาชา" หรือสุ่มว่าจะได้สินค้าที่เป็นของสมาชิกคนไหนในวงนั่นเอง และสินค้าบางชิ้นก็เป็นแบบ Limited ทำให้สินค้าที่ระลึกต่าง ๆ ของ BNK48 กลายเป็นของสะสมที่มีมูลค่าสูงมากในกลุ่มแฟนคลับ เพราะกว่าจะสุ่มได้สมาชิกที่ตัวเองชื่นชอบนั้นยากแสนเข็ญเหลือเกิน ทำให้ไม่ว่า BNK48 จะนำสินค้าอะไรออกมาขาย ก็ได้รับการตอบรับที่ดี คนรอต่อแถวซื้อข้ามวันข้ามคืนยังกะแจกฟรีกันเลยล่ะ  

          โดยสินค้าที่ระลึกของ BNK48 ที่มีให้เลือกสั่งซื้อก็มีทั้งภาพถ่าย Photoset, เข็มกลัด, พวงกุญแจ, เสื้อยืด, แท่งไฟ, โปสเตอร์ เป็นต้น ซึ่งสินค้าบางตัว เช่น Photoset ต้องสุ่มว่าเราจะได้รูปของสมาชิกคนไหน ทำให้เกิดการนำสินค้ามาแลกเปลี่ยนกันในตลาดมือสองมากมาย และราคาจะขึ้นอยู่กับความนิยมของสมาชิกคนนั้น ๆ ทั้งนี้ รูปถ่ายที่มีลายเซ็นของเมมเบอร์ที่ได้รับความนิยมสูงของวงอย่าง "มิวสิค แพรวา สุธรรมพงษ์" เคยมีราคาพุ่งไปถึง 500,000 บาทกันมาแล้ว    


วัฒนธรรมไอดอลญี่ปุ่น เพิ่มมูลค่าศิลปิน 

          อย่างที่รู้กันคือ BNK48 เป็นวงแฟรนไชส์ของวงไอดอลญี่ปุ่น AKB48 ซึ่งมีกฎข้อห้ามมากมาย ทั้งห้ามถ่ายรูปกับแฟน ๆ, ห้ามแตะเนื้อต้องตัว, ห้ามแจกลายเซ็น, ห้ามทำศัลยกรรม หรือกฎสำคัญอย่างการห้ามมีแฟน ซึ่งหลายคนคงมีคำถามว่าทำไมถึงต้องมีข้อห้ามอะไรมากมายขนาดนี้ คำตอบก็คือกฎต่าง ๆ นี่แหละ ทำให้ BNK48 สามารถนำมาสร้างอีเว้นท์เปลี่ยนเป็นรายได้มหาศาลแบบไม่เคยมีมาก่อนในไทย

bnk48

bnk48

          ทั้ง "งานจับมือ" ที่แฟนคลับต้องซื้อบัตรจับมือแลกกับการได้จับมือพูดคุยกับสมาชิกในวงเป็นเวลา 8 วินาที หรือ "งาน 2 shot" ที่เป็นการซื้อบัตรเพื่อจะได้เข้าไปถ่ายรูปคู่กับสมาชิกที่เราชื่นชอบ รวมทั้งกฎการห้ามแจกลายเซ็น ที่ทำให้รูปของสมาชิกในวงที่มีลายเซ็นกลายเป็นของหายาก จนบริษัทสามารถนำออกมาขายในรูปแบบ "Founder Member" ที่มีราคาสูงถึง 20,000 บาท และบางรูปของสมาชิกที่ได้รับความนิยมในวงก็ถูกนำไปประมูลกันเป็นหลักแสน   


จับมือกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจรายใหญ่


          ช่วงนี้จะเห็นว่า BNK48 เริ่มมีกลยุทธ์สำคัญในการขยายตลาดให้เข้าถึงคนในวงกว้างมากขึ้น ด้วยการหันมาจับมือกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจต่าง ๆ รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงาน เพราะต้องยอมรับว่าสิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหามาโดยตลอดของ BNK48 คือ เรื่อง Crisis Management หรือการบริหารจัดการที่ยังไม่ดีพอ ทั้งความล่าช้าในการจัดส่งสินค้า หรือการสื่อสารกับแฟนคลับมักเกิดข้อผิดพลาดอยู่บ่อย ๆ 

bnk48

          แต่บริษัทก็ได้ตัดสินใจอุดช่องโหว่นี้ ด้วยการจับมือกับพาร์ทเนอร์รายใหญ่ที่มีประสบการณ์ให้เข้ามาช่วยดูแล ทั้งการขายหุ้นบางส่วนให้ PlanB ผู้ให้บริการสื่อโฆษณาครบวงจร ที่จะเป็นการช่วยให้ BNK48 เข้าถึงสื่อกระแสหลักได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม รวมถึงการจับมือกับ Shopee แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ ให้เข้ามาช่วยดูแลเรื่องการขายและจัดส่งสินค้าที่ระลึกให้ดียิ่งขึ้น และล่าสุดบริษัทก็ได้ร่วมทุนกับ Workpoint เพื่อต่อยอดธุรกิจผลิตรายการ งานอีเว้นท์ และคอนเสิร์ต (อ่านข่าว Workpoint จับมือ BNK48 ตั้งบริษัทใหม่)


          ทั้งหมดนี้คงเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าความนิยมของ BNK48 ในเวลานี้ไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ แต่ล้วนมาจากโมเดลธุรกิจที่คิดมาแล้วเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม เราก็คงต้องจับตามองกันต่อไปว่า ความสำเร็จของธุรกิจนี้จะยั่งยืนขนาดไหน หรือเป็นเพียงกระแสแบบไฟลามทุ่งที่ค่อย ๆ พัดหายไป ก็คงต้องให้ "คุกกี้ทำนายกัน" 
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
BNK48 ฟีเว่อร์ ดันธุรกิจปัง ! แบบไม่ต้องเสี่ยงทาย อัปเดตล่าสุด 13 มิถุนายน 2561 เวลา 18:22:39 12,763 อ่าน
TOP