Big C แจง "รถมินิบิ๊กซี" วิ่งขายของตามหมู่บ้าน เป็นแค่การทดลองตลาด ยังไม่มีแผนทำจริงจัง ยืนยันไม่คิดแย่งลูกค้ารายย่อย เพราะสินค้าเป็นคนละกลุ่มกัน
กลายเป็นที่พูดถึงเป็นวงกว้างไปแล้วกับกรณีที่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) จัดสินค้าใส่รถในชื่อว่า "รถมินิบิ๊กซี" วิ่งจำหน่ายสินค้าตามหมู่บ้าน (อ่านข่าว ฮือฮา ! Big C ส่ง "รถมินิบิ๊กซี" วิ่งขายของตามหมู่บ้าน) ทำให้เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2561 นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เบื้องต้นได้สอบถามไปทางบิ๊กซีแล้ว ซึ่งได้คำตอบว่าเป็นเพียงแนวคิดการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ของบริษัท และอยู่ในช่วงทดลองเท่านั้น ยังไม่ได้วางแผนทำอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ดี ทางกรมการค้าภายในจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลระบบค้าปลีกให้เกิดความเป็นธรรม ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ โดยการกำกับดูแลผู้ประกอบการนั้น จะอยู่ในกติกาของกฎหมาย 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 และ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560
ด้านนายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ระบุว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ห้างรายใหญ่จะต้องหาช่องทางการค้าที่เพิ่มขึ้น แต่การดำเนินการแบบนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อร้านค้ารายย่อยแน่นอน เพราะต้องยอมรับว่าร้านค้ารายย่อย ไม่สามารถแข่งขันได้อยู่แล้ว เนื่องจากเสียเปรียบเรื่องเงินทุน และเครือข่ายธุรกิจ ซึ่งคงต้องถามกลับไปที่ภาครัฐว่า จะแก้ปัญหานี้อย่างไร เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย และช่วยให้ร้านค้ารายย่อยอยู่รอดได้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เบสท์ มิวสิค
ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ ที่มองว่าเป็นการแย่งอาชีพของผู้ประกอบการรายย่อย บริษัทขอชี้แจงว่า ทั้งลักษณะรถและสินค้าที่จำหน่ายในรถมินิบิ๊กซี มีความแตกต่างกับรถวิ่งขายของทั่วไป ซึ่งเป็นการเจาะลูกค้าคนละกลุ่มกันอยู่แล้ว นอกจากนี้ ก็ไม่ได้มีแค่บิ๊กซีเท่านั้น ที่มีรถขายของรูปแบบนี้ แต่บริษัทหรือหน่วยงานอื่น ๆ ก็มีเหมือนกัน เช่น รถธงฟ้าประชารัฐของรัฐบาล
นอกจากนี้ มีรายงานจากผู้สื่อข่าว Workpoint ว่า ไม่เฉพาะบิ๊กซีเท่านั้นที่มีบริการรูปแบบนี้ แต่ห้างยักษ์ใหญ่อย่างเทสโก้โลตัส ก็ไม่น้อยหน้า มีบริการส่งสินค้าถึงบ้านในรูปแบบที่คล้าย ๆ กัน หากมีการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ที่กำหนดราคาซื้อขั้นต่ำ โดยใช้โปรโมชั่นเข้ามาจูงใจ เช่น จัดส่งฟรี หรือส่งภายใน 1 ชั่วโมง
ภาพจาก Workpoint
ด้านกลุ่มร้านค้าโชห่วยในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ก็แสดงความกังวลไม่ต่างกันว่า การรุกธุรกิจของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ส่งผลกระทบต่อยอดขายของหลาย ๆ ร้าน จึงต้องงัดกลยุทธ์มากมายออกมาดึงดูดลูกค้า ทั้งเปิดขาย 24 ชั่วโมง แบ่งขาย หรือส่งสินค้าถึงบ้าน จึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาดูแลการทำธุรกิจในส่วนนี้ด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก