x close

สำรวจ 10 ประเทศ เข้าสู่สังคมไร้เงินสด อนาคตใหม่วงการเงิน

สังคมไร้เงินสด

          สังคมไร้เงินสด มีโอกาสเป็นจริงได้ขนาดไหน มาดูกันว่ามีประเทศไหนบ้างที่ประสบความสำเร็จจากการเข้าสู่สังคมไร้เงินสด แล้วไทยพร้อมแค่ไหนที่จะเดินไปถึงจุดนั้น  
 
          "สังคมไร้เงินสด" หรือ Cashless Society กลายเป็นเทรนด์ที่หลายประเทศทั่วโลกพยายามจะทำให้สำเร็จให้ได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกรรมการเงินในประเทศ ให้มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากกว่าเดิม ซึ่งปัจจุบันก็มีหลายประเทศทั่วโลกแล้ว ที่กำลังเดินหน้าไปสู่สังคมไร้เงินสด
 
          ดังที่จะเห็นได้จากพฤติกรรมของประชาชนในแต่ละประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป หันมาชำระเงินด้วยระบบออนไลน์ หรือบัตรมากขึ้น จนเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน วันนี้ กระปุกดอทคอม จึงจะพาไปดูกันว่าตัวอย่างของประเทศที่ประสบความสำเร็จ ในการก้าวเข้าสู่ "สังคมไร้เงินสด" มีที่ไหนบ้าง แล้วประเทศเหล่านั้น ประสบความสำเร็จได้อย่างไร
 

1. สวีเดน

          สวีเดนถือว่าเป็นประเทศแรก ๆ ของโลกที่เข้าสู่ "สังคมไร้เงินสด" ได้สำเร็จ ซึ่งปัจจุบันประเทศสวีเดนมีปริมาณเงินสดที่หมุนเวียนในระบบไม่ถึง 3% ด้วยซ้ำ เพราะคนในสวีเดนนิยมจับจ่ายผ่าน  Mobile Banking และบัตรเดบิตเป็นหลัก โดยพบว่าคนสวีเดนมีบัตรเดบิตสูงถึง 96%
 
          นั่นก็เพราะว่า ตามร้านค้า ร้านอาหาร รถสาธารณะ สามารถรับชำระเงินผ่านบัตรเดบิตได้แทบทั้งหมด แม้กระทั่งการบริจาคเงินในโบสถ์ก็ยังบริจาคผ่านบัตรเดบิตได้เช่นกัน และรู้ไหมว่า เจ้าของร้านค้าต่าง ๆ ก็สามารถปฏิเสธไม่รับเงินสดจากลูกค้าได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย

2. เบลเยียม

          เบลเยียมเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการใช้จ่ายแบบไร้เงินสดสูงถึง 93% โดยคนเบลเยียมกว่า 86% นิยมใช้บัตรเดบิตในการชำระเงิน ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้สังคมไร้เงินสดในเบลเยียมก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ก็เพราะรัฐบาลและสถาบันการเงินให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง โดยได้กำหนดวงเงินสำหรับจ่ายด้วยเงินสดไม่เกิน 3,000 ยูโร รวมทั้งธนาคารกลางเบลเยียมที่สนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้แอปพลิเคชันทางมือถือเพื่อชำระเงิน ทำให้คนส่วนใหญ่นิยมชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลกันมากขึ้นนั่นเอง

สังคมไร้เงินสด

3. จีน 

          จีน กลายเป็นประเทศที่มีการเติบโตของการใช้จ่ายผ่านระบบดิจิทัลสูงมาก เราจะพบว่าคนจีนราว ๆ 60% ใช้จ่ายผ่าน Mobile Payment  เป็นหลัก ซึ่งในปี 2559 คนจีนทำธุรกรรมการเงินผ่าน  Mobile Payment เป็นมูลค่าถึง 5.5 ล้านล้านดอลลาร์ แถมเพียงแค่ช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการทำธุรกรรมผ่าน Mobile Payment ในจีน ก็มากกว่า 2.76 ล้านล้านดอลลาร์ ไปแล้ว ซึ่งคนจีนนิยมชำระเงินผ่าน 2 แอปพลิเคชันหลัก ได้แก่ Alipay และ Wechat pay

          จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมมูลค่าการทำธุรกรรมผ่าน Mobile Payment ในจีนถึงสูงขนาดนี้ เพราะเราจะพบว่าคนจีนสามารถจ่ายเงินผ่านมือถือได้ทุกที่ ทุกเวลา ทั้งตลาดสด ร้านอาหารข้างถนน การให้ทิปเด็กเสิร์ฟ ใส่ซองงานแต่งงาน ใส่ซองงานศพ หรือแม้แต่ขอทานในประเทศจีน ก็ยังมีการติด QR Code ที่กระป๋องไว้ให้คนมาสแกนเพื่อบริจาคเงินผ่านมือถือ
 
4. สิงคโปร์


          ปัจจุบันสิงคโปร์มีการใช้งานบัตรเดบิตและชำระเงินผ่านมือถือสูงถึง 80% ของการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แถมรัฐบาลสิงคโปร์ยังออกมาประกาศชัดเจนว่า แผนการพัฒนาประเทศตอนนี้คือ "Smart Nation" ซึ่งได้รวมเรื่องการนำประเทศเข้าสู่สังคมไร้เงินสดไว้ด้วย โดยจะเริ่มจากการปรับระบบรถโดยสารสาธารณะในประเทศให้เป็นแบบไร้เงินสดทั้งหมดภายในปี 2563 รวมถึงพัฒนาระบบการชำระเงินผ่านออนไลน์ ที่เรียกว่า "PayNow" ที่สามารถโอนเงินด้วยหมายเลขโทรศัพท์และบัตรประชาชนได้เพื่อนำร่องให้สิงคโปร์กลายเป็นสังคมไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต
 
5. ฝรั่งเศส


          ปัจจุบันฝรั่งเศสมีสัดส่วนการชำระเงินที่ไม่ใช้เงินสดสูงถึง 92% ซึ่งมาจากการที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการเงิน และส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้คนใช้เงินสดน้อยลง อย่าง การพัฒนาระบบชำระเงินผ่านมือถือแบบไร้สัมผัส หรือระบบ M-Pos ที่เป็นที่รูดบัตรแบบพกพา เพื่อให้ทุกคนที่มีสมาร์ทโฟนสามารถชำระเงินได้ทุกที่ ทุกเวลา เลยทีเดียว และฝรั่งเศสก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการกำหนดวงเงินสำหรับจ่ายด้วยเงินสดได้ไม่เกิน 3,000 ยูโร เพื่อกระตุ้นให้คนลดการใช้เงินสดนั่นเอง

สังคมไร้เงินสด
 
6. สหราชอาณาจักร

          เราจะพบว่าคนในสหราชอาณาจักรส่วนใหญ่ มักจะใช้เงินสดเพื่อซื้อสินค้าที่มีมูลค่าต่ำ ๆ เท่านั้น และหันไปใช้ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักแทน และบอกไว้เลยว่า ถ้าใครจะไปขึ้นรถเมล์ที่นั่นแล้วคิดจะจ่ายเงินด้วยเหรียญละก็ คุณคิดผิดแล้ว เพราะรถเมล์ที่นั่นไม่รับชำระด้วยเงินสดแล้ว แต่ใช้บัตรจ่ายค่าโดยสารผ่านเครื่องแทน ซึ่งในสหราชอาณาจักรมีจุดสำหรับชำระเงินออนไลน์ด้วยเครื่อง POS มากกว่า 1.3 ล้านเครื่อง แถมยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งคนส่วนใหญ่กว่า 60% ยังนิยมชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนอีกด้วย

7. แคนาดา


          แคนาดาเป็นประเทศที่ใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถลดการใช้เงินสดของคนในประเทศได้ โดยประชากรกว่า 90% ไม่ใช้เงินสดในการจับจ่ายซื้อของกันแล้ว เพราะภาครัฐส่งเสริมให้คนหันมาชำระเงินผ่านบัตรเดบิตกันมากขึ้น ทำให้ในปัจจุบันนี้ ชาวแคนาดา 88% มีบัตรเดบิตใช้ แต่นอกจากจะใช้บัตรเดบิตแล้ว ปัจจุบันชาวแคนาดายังนิยมชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนมากขึ้นด้วย ทั้งระบบ NFC และ M-Pos ที่กำลังเติบโตเป็นอย่างมาก
 
8. เกาหลีใต้


          เกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งประเทศในเอเชียที่ต้องการมุ่งไปสู่การเป็นสังคมไร้เงินสดให้ได้ โดยแบงก์ชาติเกาหลีใต้ก็ออกมาประกาศว่าภายในปี 2563 จะต้องลดการใช้เหรียญในประเทศให้หมดไป ขณะเดียวกันรัฐบาลยังมีมาตรการด้านภาษีเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนชำระเงินผ่านบัตร มากกว่าใช้เงินสดอีกด้วย ทำให้ปัจจุบันเกาหลีใต้ มีสัดส่วนการใช้จ่ายที่ไม่ใช้เงินสดกว่า 70% แล้ว
 
สังคมไร้เงินสด

9. เคนยา

          เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าสังคมไร้เงินสดพัฒนาไปไกลมาก โดยประชากรเคนยากว่า 15 ล้านคน หรือ 1 ใน 3 ของประเทศนิยมชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เพียงแค่การใช้เพื่อซื้อของเท่านั้น แต่ชาวเคนยายังจ่ายค่าเทอม รวมถึงรับเงินเดือนผ่านแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนอีกด้วย
 

10. เดนมาร์ก

          ประชากรกว่า 1 ใน 3 ของเดนมาร์ก นิยมชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนกันเป็นเรื่องปกติ ทั้งในร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ปั๊มน้ำมันหรือการทำธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งรู้ไหมว่า ร้านค้าต่าง ๆ ในเดนมาร์กสามารถปฏิเสธที่จะไม่รับเงินสดได้อย่างถูกกฎหมายอีกด้วย และแม้ว่ามาตรการดังกล่าวจะยังไม่ครอบคลุมไปถึงสถานพยาบาล ไปรษณีย์ หรือหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ก็ตาม แต่รัฐบาลเดนมาร์กก็ออกมายืนยันว่าภายในปี 2573 ประเทศเดนมาร์กจะยกเลิกการใช้ธนบัตรทั้งหมด ซึ่งหากทำได้จริงเดนมาร์กก็อาจจะเป็นประเทศแรกของโลกที่ไร้เงินสดอย่างสมบูรณ์แบบ
 
 
          นอกจากประเทศที่กล่าวมาแล้ว ไทยเราก็มีแนวคิดจะเข้าสู่ "สังคมไร้เงินสด" เช่นกัน ดังเห็นได้จากโครงการใช้จ่ายผ่านระบบ National e- Payment ของรัฐบาล ที่ส่งเสริมให้เกิดการใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น แม้ปัจจุบันอาจจะยังไม่ค่อยได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายนัก แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้น ที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเดินหน้าไปสู่สังคมไร้เงินสด เหมือนอย่างประเทศอื่น ๆ ได้


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Businessinsider
Businesstoday
Worldatlas
CNBC
South China Morning Post
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สำรวจ 10 ประเทศ เข้าสู่สังคมไร้เงินสด อนาคตใหม่วงการเงิน อัปเดตล่าสุด 26 กันยายน 2560 เวลา 14:49:39 35,781 อ่าน
TOP