ถ้าไม่รีบร้อนใช้เงิน การรอขาย LTF ที่ครบกำหนดในเดือนธันวาคมมีโอกาสได้รับกำไรมากกว่า แต่หากกังวลใจ แนะนำให้ทยอยขายแบบถัวเฉลี่ย
![กองทุนรวม LTF กองทุนรวม LTF]()
เราคงเคยได้ยินกันอยู่บ่อย
ๆ ว่า LTF ที่ครบกำหนดนั้นสามารถขายได้ตั้งแต่ต้นปี
ซึ่งนอกจากจะเป็นการล็อกผลกำไรแล้ว
ยังสามารถนำเงินก้อนนั้นไปลงทุนใหม่เพื่อให้ได้สิทธิลดหย่อนภาษีอีกด้วย
แต่ในความเป็นจริงแล้ว รู้หรือไม่ว่า การขายกองทุน LTF ซึ่งเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นตั้งแต่เดือนมกราคมนั้นอาจทำให้พลาดโอกาสในการทำกำไรไปอย่างน่าเสียดาย โดย K-Expert ได้ไปศึกษามาแล้วพบว่า การถือกองทุนรวมและรอขายตอนสิ้นปีนั้นมีโอกาสที่จะได้รับกำไรมากกว่า
![กองทุนรวม LTF กองทุนรวม LTF]()
ตารางข้างต้นเป็นตารางเปรียบเทียบผลตอบแทนจากการขาย LTF โดยช่องสีเขียวแสดงถึงเดือนที่ขาย LTF แล้วให้ผลตอบแทนสูงที่สุด ขณะที่ช่องสีแดงแสดงถึงเดือนที่ขาย LTF แล้วให้ผลตอบแทนน้อยที่สุดในปีนั้น
นับตั้งแต่ปี 2004 จนถึงปี 2012 หากทำการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ (Dollar Cost
Averaging : DCA) ในแต่ละเดือน และทำการขายในปีที่ครบกำหนด
เราจะพบว่าการขาย LTF ที่ครบกำหนดในช่วงสิ้นเดือนธันวาคมมีโอกาสได้รับผลกำไรมากที่สุดเมื่อเทียบกับเดือนอื่น ๆ โดยโอกาสนั้นคิดเป็น 33% จากจำนวน 9 ครั้ง และการขายในเดือนมกราคมนั้นได้รับผลตอบแทนน้อยที่สุด คิดเป็น 44% เลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะได้รับผลตอบแทนน้อย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดผลขาดทุน เพราะผลขาดทุนที่เห็นในช่วงปี 2008 เกิดขึ้นเนื่องมาจากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ หรือที่เรียกว่า วิกฤติสินเชื่อซับไพรม์ (subprime mortgage crisis) หากเรายังไม่ขายหน่วยลงทุนในช่วงปี 2008 เชื่อว่าปัจจุบันคงได้รับกำไรไปไม่น้อยเลยทีเดียว
![กองทุนรวม LTF กองทุนรวม LTF]()
ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วหน่วยลงทุนที่ครบกำหนดในปีนี้ ควรถือไว้รอขายในเดือนธันวาคมใช่หรือไม่ ? หากคำนวณจากสถิติย้อนหลังที่ผ่านมาคงต้องบอกว่า "ถูกต้องนะครับ ควรขายหน่วยลงทุนที่ครบกำหนดในเดือนธันวาคม" แต่ในความเป็นจริงแล้วผลลัพธ์อาจจะไม่เป็นไปอย่างที่เราคาดการณ์ไว้เสมอไป
ยกตัวอย่างเช่น หากมีการทำนายว่าเครื่องบินจะตกและทุกคนก็เชื่อเช่นนั้น เราก็คงจะยกเลิกเที่ยวบิน ผลที่เกิดขึ้นคือ เครื่องบินนั้นไม่มีผู้โดยสาร ไม่มีการบิน ไม่มีเครื่องบินตก คำทำนายก็จะกลายเป็นไม่แม่นยำขึ้นมาทันที เช่นเดียวกับเหตุการณ์ January Effect ที่ดัชนีหุ้นมักจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนมกราคม แต่หลังจากที่นักลงทุนส่วนใหญ่เข้าใจเหตุการณ์นี้ก็จะเข้าไปเก็งกำไรโดยการซื้อหุ้นในเดือนธันวาคม และรอขายในเดือนมกราคมปีถัดไป ส่งผลให้ดัชนีหุ้นในเดือนธันวาคมปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากแรงซื้อ และปรับตัวลดลงในเดือนมกราคมจากแรงขาย เหตุการณ์ January Effect จึงไม่ได้เกิดให้เราเห็นอีกต่อไป
กรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน เป็นไปได้ว่าเดือนธันวาคมปีนี้ ดัชนีหุ้นอาจจะไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างที่ผ่านมา และที่สำคัญต้นทุนของหน่วยลงทุน LTF ก็ถือได้ว่าอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับในอดีต การรอขายในเดือนธันวาคมอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนข้อมูลที่แสดงก็เป็นไปได้
![กองทุนรวม LTF กองทุนรวม LTF]()
ดังนั้น
หากเราอยากจะหาจังหวะเพื่อรอขาย LTF
ให้ได้กำไรมากที่สุดก็ควรรอขายในเดือนธันวาคม แต่หากกังวล
ไม่กล้าที่จะรอจนถึงสิ้นปีหรือมีความจำเป็นต้องขายเพื่อนำเงินออกมาลงทุนใหม่
K-Expert แนะนำให้ทยอยขายหน่วยลงทุนซึ่งน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
K-Expert Action
· ทยอยลงทุนกองทุน LTF อย่างสม่ำเสมอทุกเดือน เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนด้านราคา
· เช็กรายละเอียดเงื่อนไขการถือครองหน่วยลงทุน ก่อนตัดสินใจขายกองทุน LTF
ขอขอบคุณข้อมูลจาก



เราจะพบว่าการขาย LTF ที่ครบกำหนดในช่วงสิ้นเดือนธันวาคมมีโอกาสได้รับผลกำไรมากที่สุดเมื่อเทียบกับเดือนอื่น ๆ โดยโอกาสนั้นคิดเป็น 33% จากจำนวน 9 ครั้ง และการขายในเดือนมกราคมนั้นได้รับผลตอบแทนน้อยที่สุด คิดเป็น 44% เลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะได้รับผลตอบแทนน้อย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดผลขาดทุน เพราะผลขาดทุนที่เห็นในช่วงปี 2008 เกิดขึ้นเนื่องมาจากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ หรือที่เรียกว่า วิกฤติสินเชื่อซับไพรม์ (subprime mortgage crisis) หากเรายังไม่ขายหน่วยลงทุนในช่วงปี 2008 เชื่อว่าปัจจุบันคงได้รับกำไรไปไม่น้อยเลยทีเดียว

ยกตัวอย่างเช่น หากมีการทำนายว่าเครื่องบินจะตกและทุกคนก็เชื่อเช่นนั้น เราก็คงจะยกเลิกเที่ยวบิน ผลที่เกิดขึ้นคือ เครื่องบินนั้นไม่มีผู้โดยสาร ไม่มีการบิน ไม่มีเครื่องบินตก คำทำนายก็จะกลายเป็นไม่แม่นยำขึ้นมาทันที เช่นเดียวกับเหตุการณ์ January Effect ที่ดัชนีหุ้นมักจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนมกราคม แต่หลังจากที่นักลงทุนส่วนใหญ่เข้าใจเหตุการณ์นี้ก็จะเข้าไปเก็งกำไรโดยการซื้อหุ้นในเดือนธันวาคม และรอขายในเดือนมกราคมปีถัดไป ส่งผลให้ดัชนีหุ้นในเดือนธันวาคมปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากแรงซื้อ และปรับตัวลดลงในเดือนมกราคมจากแรงขาย เหตุการณ์ January Effect จึงไม่ได้เกิดให้เราเห็นอีกต่อไป
กรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน เป็นไปได้ว่าเดือนธันวาคมปีนี้ ดัชนีหุ้นอาจจะไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างที่ผ่านมา และที่สำคัญต้นทุนของหน่วยลงทุน LTF ก็ถือได้ว่าอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับในอดีต การรอขายในเดือนธันวาคมอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนข้อมูลที่แสดงก็เป็นไปได้

K-Expert Action
· ทยอยลงทุนกองทุน LTF อย่างสม่ำเสมอทุกเดือน เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนด้านราคา
· เช็กรายละเอียดเงื่อนไขการถือครองหน่วยลงทุน ก่อนตัดสินใจขายกองทุน LTF
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
