x close

เธอเดินมาถึงจุดนี้ได้ยังไง ! วิธีเก็บเงินหลักแสน ด้วยน้ำพักน้ำแรงล้วน ๆ



          วิธีเก็บเงินให้ได้หลักแสน จากประสบการณ์ตรงของหญิงสาววัยเพียง 21 ปี เธอเดินมาถึงจุดนี้ได้ยังไง ต้องตามไปดู
   

          เก็บเงินไม่ค่อยอยู่ เชื่อว่าหลายคนที่หาเงินด้วยตัวเองได้มักจะนึกถึงคำนี้ขึ้นมาบ่อย ๆ แถมยังใช้ชีวิตอยู่กับการเก็บเงินไม่ค่อยได้มาโดยตลอด แต่หากว่าได้ลองอ่านประสบการณ์ของคุณสมาชิกหมายเลข 2416567 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม คนนี้แล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะมีแรงบันดาลใจในการเก็บเงินกันมากขึ้นก็ได้ เพราะขนาดเธออายุแค่เพียง 21 ปี แต่สามารถพาตัวเองมายืนในจุดที่มีเงินเก็บหลักแสนได้ น่าทึ่งไหมล่ะคะ

          อายุ 21 กับเงินเก็บหลักแสนที่แลกมาด้วยน้ำพักน้ำแรงล้วน ๆ โดยคุณสมาชิกหมายเลข 2416567 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

          สวัสดีทุกคนค่ะ ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่าเจ้าของกระทู้ไม่ได้มีเจตนามาอวยตัวเองหรืออวดความสำเร็จตามเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ เพราะนั่นไม่ใช่ประโยชน์ค่ะ แต่จะดีใจมากหากกระทู้นี้ไปสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครก็ตามที่กำลังต่อสู้กับทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองและครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น หรือมีผู้รู้ท่านใดมาช่วยชี้แนะแนวทางให้ไปได้ไกลและไวยิ่งกว่านี้ ก็จะขอบพระคุณมาก ^^
   
          อยากมาเล่าให้ฟัง…สิ้นปีนี้เจ้าของกระทู้จะอายุครบ 22 ปีค่ะ เรียนจบ ปวส.การออกแบบ ตอนอายุ 19 ปี ระหว่างที่เรียนก็หาเงินเรียนเองตลอด เป็นเด็กเสิร์ฟอาหารตามร้านริมทะเลบ้าง ตื่นเช้าเสาร์-อาทิตย์ นั่งรถเมล์ 2 ต่อไปทำงานอย่างหนัก เช้ายันค่ำ กับค่าแรงวันละ 200 บาท ถ้าช่วงปิดเทอมก็เข้าโรงงานอาหาร หาเงินซื้อโน้ตบุ๊กไว้เรียนการเขียนแบบ พร้อมทั้งมีการกู้ กยศ. ไว้เรียนต่อด้วย 
   

          พอจบ ปวส. กำลังจะเข้าเรียนต่อที่ มพจ. (มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ) เป็นความฝันของเด็กตาดำ ๆ ที่อยากเรียนแต่ไม่มีโอกาส อยากเป็นวิศวกรสาว พอดีตอนนั้นคุณพ่อโรคหัวใจกำเริบ ค่ารักษาพยาบาลเป็นหลักแสน ไม่ได้มีสวัสดิการมาช่วยเหมือนข้าราชการ โชคดีที่พี่สาวพอมีกำลังเงินซับพอร์ตตรงนี้ได้ ก็เลยตัดสินใจยังไม่เรียนต่อ ออกมาตั้งใจทำงานก่อน
   
          ตอนทำงานใหม่ ๆ ก็ยืมเงินพี่สาวมา 2 หมื่นเป็นค่าเช่าห้อง ค่าจิปาถะและต้องพยายามรีบคืนเพราะตัวพี่สาวมีภาระทางครอบครัวตัวเองค่อนข้างเยอะ ตอนนั้นได้งานที่บริษัทหนึ่งซึ่งเป็นที่เดียวกับที่ทำตอนนี้ ด้วยความที่เป็นเด็กจบใหม่ วุฒิไม่สูงจึงสตาร์ทแค่ 10,000 บาทถ้วน ปรับประจำปีต่ำมาก แต่มีห้องพักติดแอร์ อาหารกลางวัน น้ำดื่มซับพอร์ตตลอด บวกกับไม่ต้องเสียค่าเดินทางทำงาน และค่าน้ำ ค่าไฟ…ก็พออยู่ได้ เป็นงานที่ค่อนข้างหนักและกดดันพอสมควรสวนทางกับเงินเดือน แต่ จขกท. ก็อดทนมาจนวันนี้ค่ะ
   
          แรก ๆ ก็ใช้เงินไม่ค่อยเป็น อยากได้อะไรก็ซื้อ อยากกินอะไรก็กินหมด จนมีวันหนึ่งเหนื่อยกับระบบงานมาก…มาตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมถึงต้องจากพ่อแม่ที่เราอยากดูแลมาทำงานรับใช้ความฝันของคนอื่น นี่เรา…กำลังทำอะไรอยู่ ผ่านมาทั้งรอยยิ้ม น้ำตา เสียงหัวเราะ ท้อแท้หมดแรงสารพัด ด้วยความที่ลำบากมาเยอะต้องไปประจำตาม site งานต่างจังหวัดตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา รู้ว่าความไม่มีมันเป็นยังไง ก็เริ่มเก็บเงิน    


   
          ปัจจุบัน จขกท. ให้เงินพ่อแม่ตามกำลัง คนละ 2,000 บาท รวม 2 คนก็ 4,000 บาท เพื่อเลี้ยงหัวใจท่าน ให้ท่านเป็นค่าหมอ ค่ายา ค่าอาหาร…ในตอนนี้เงินสุทธิที่ได้แต่ละเดือนประมาณ 17,000 บาทค่ะ ที่เก็บเงินได้หลักแสนในตอนนี้ เพราะได้รู้จักกับการเก็งกำไรทองคำเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งต้องใช้เงินเกือบหลักแสนซื้อทอง 5 บาทจึงจะพอได้ส่วนต่างบ้าง
   
          ตอนนั้นเงินไม่ถึงแสนก็ทำบัตรกดเงินสด กดมาสมทบ (ซึ่งไม่ใช่วิธีที่ดีนัก เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง) ต่อมาก็เปิดพอร์ตทองคำออนไลน์เป็นของตัวเองในงาน Money Expo สามารถซื้อขายได้โดยไม่ต้องไปเยาวราชอีกต่อไป 555 เพราะการมีเป้าหมายที่โตขึ้นเนี่ยแหละที่ทำให้สามารถเก็บเงินได้เป็นก้อน
   
          ในวันที่เปิดพอร์ตทองคำ จขกท. ก็เปิดพอร์ตหุ้นด้วยและก็เริ่มศึกษาเรื่องการออมในหุ้น ยุคนี้เป็นยุคอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยงคนทั้งโลกเข้าหากัน เชื่อมโยงธุรกิจให้คล่องตัว ข่าวสารรวดเร็วและหาง่ายกว่าสมัยก่อนมาก คนที่ใช้ตรงนี้เป็นจะได้เปรียบและ จขกท. ศึกษาแล้วเกิดความสนุก เข้าใจในคน กิจการ การเมืองได้ดีขึ้น ๆ ก็ยิ่งชอบ
   

          วันแรกที่เข้าตลาดหุ้นก็เป็นแค่แมงเม่าปีกอ่อนตัวน้อย มีเงินเท่าไร ใส่ไปหมด และวันรุ่งขึ้นก็เกิดระเบิดที่ศาลพระพรหม เซ็นทรัลเวิลด์ ทำให้พอร์ตติดลบ 10% (น้ำตาจะไหล) จากบทเรียนและการเป็นคนชอบสังเกตในสิ่งที่รักทำให้วันนั้น จขกท. ไม่เสียใจมากและได้กลายมาเป็นนักลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีและหุ้นเติบโต พอร์ต 6 หลัก และมีพอร์ตทองที่วางแผนจะให้เป็นการลงทุนอย่างที่สอง (แม้ไม่มากมายอะไร แต่ภูมิใจค่ะ) ศึกษางบการเงินในบริษัทที่เราเป็นผู้ถือหุ้น ลงทุนอย่างสบายใจ ไม่ทุกข์ ไม่เผาตัวเองด้วยความโลภ เป็นมนุษย์เงินเดือนตัวน้อยที่รู้ว่าเป้าหมายของชีวิตอยู่ตรงจุดไหน และกำลังทำเพื่อใครที่ไม่ใช่แค่ตนเอง
 
…#ธรรมในใจเป็นสิ่งสำคัญมาก ^^ ...
 
          เลือกใช้ของดี ของที่ชอบจริง ๆ แต่ไม่ใช่มีนิสัยฟุ่มเฟือย
          หมั่นทำบุญ สละออกเสียบ้าง ไม่ใช่ต้องเป็นผู้ได้รับเสมอ
          เก็บก่อนใช้อย่างไม่ทรมานตนเอง รู้ตน รู้กาล รู้ประมาณ
          ให้เงินที่หามาด้วยความเหนื่อยยาก รับใช้และทำงานหนักแทนเรา
          ท่องเที่ยวให้รางวัลชีวิตกับตนเองบ้าง คน ไม่ใช่เครื่องจักร
          การลงทุนไม่ใช่แค่การลงเงิน ทุนคือข้อได้เปรียบ การลงทุนในความรู้ ในการพัฒนาตนเอง และอีกสารพัด
          มีลูกอย่าสอนให้เขาสบายจนเคยตัว ฉลาดเลี้ยงและฉลาดรัก จขกท. มีวันนี้ได้เพราะเคยลำบาก
          หยุดทุกอย่าง สำรวจจุดที่ยืน สิ่งที่ทำและฟังเสียงหัวใจตนเองสักวันละ 5 นาที
          สุดท้าย เรา..เป็นเจ้านายของเงิน อย่าปล่อยให้เงินมาชี้นิ้วเป็นนายเรา
   
          เพราะความรักต่อเพื่อนมนุษย์คือการแบ่งปันสิ่งดี ๆ ขอให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีและมีความสุข

          (เป็นกำลังใจให้กับนักสู้ทุกคนและยินดีน้อมรับทุกคำแนะนำ สวัสดีค่ะ)

          เป้าหมายมีไว้พุ่งชน ขอแค่เราไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและความลำบากใด ๆ จุดที่เราเคยฝันไว้ว่าจะมีเงินเก็บเป็นหลักแสนหลักล้านก็น่าจะไม่ยากเกินความตั้งใจหรอกเนอะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณสมาชิกหมายเลข 2416567 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เธอเดินมาถึงจุดนี้ได้ยังไง ! วิธีเก็บเงินหลักแสน ด้วยน้ำพักน้ำแรงล้วน ๆ อัปเดตล่าสุด 11 พฤศจิกายน 2558 เวลา 13:56:32 35,427 อ่าน
TOP