มติ กบง. ไฟเขียวตรึงราคาขายปลีกก๊าซ LPG เดือนพฤศจิกายนที่ 22.29 บาทต่อกิโลกรัม ช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน ดีเดย์ 5 พฤศจิกายนนี้ พร้อมยืดระยะเวลามาตรการส่วนลดก๊าซ NGV สำหรับรถโดยสารสาธารณะ ออกไปอีก 1 ปี
วานนี้ (4 พฤศจิกายน 2558) พล.อ. อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า ที่ประชุม กบง. มีมติตรึงราคาขายปลีกก๊าซ LPG ประจำเดือนพฤศจิกายน ที่ 22.29 บาทต่อกิโลกรัม แม้สถานการณ์ราคาก๊าซ LPG ตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 49 เหรียญสหรัฐต่อตัน ทำให้ราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก หรือ ราคากลาง (LPG Pool) ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 440 เหรียญสหรัฐต่อตัน จากเดือนก่อนที่ 417 เหรียญสหรัฐต่อตัน โดยที่ประชุมได้ปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ 0.6130 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมที่เก็บเข้ากองทุนน้ำมันฯ 0.0827 บาทต่อกิโลกรัม มาอุดหนุนราคาได้เล็กน้อยในระยะสั้น เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไป ทั้งนี้จากการปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าว ทำให้กองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของก๊าซ LPG มีรายจ่าย 305 ล้านบาทต่อเดือน อย่างไรก็ตามสถานะกองทุนน้ำมันล่าสุดเป็นบวกกว่า 43,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 35,000 ล้านบาท และกองทุนแอลพีจีกว่า 8,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณามาตรการส่วนลดราคาก๊าซเอ็นจีวี สำหรับรถโดยสารสาธารณะ โดยมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาให้ส่วนลดราคาก๊าซเอ็นจีวี สำหรับรถโดยสารสาธารณะออกไปอีก 1 ปี หรือจะสิ้นสุดในเดือนธันวาคม 2559 ขณะที่โครงการบัตรเครดิตพลังงานเอ็นจีวี มีมติให้ระยะเวลาของโครงการสิ้นสุดตามเดิมในเดือนธันวาคมนี้ เนื่องจากมีจำนวนผู้ใช้ไม่มากนัก และปัจจุบันมียอดเครดิตค้างชำระอยู่ที่ 800,000 บาทต่อเดือน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 20 ล้านบาท โดย กบง. ได้มอบให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เร่งศึกษาต้นทุนเอ็นจีวีสำหรับรถโดยสารสาธารณะที่แท้จริง จากปัจจุบันราคาอยู่ที่ 13.50 บาทต่อกิโลกรัม แต่รัฐบาลให้ควบคุมราคาขายไว้ที่ 10 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ ปตท. สามารถแบกรับภาระได้เพียง 2 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น
ขณะที่การจัดตั้ง พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุด อยู่ระหว่างการจัดทำร่างเพื่อเสนอกระทรวงพลังงาน และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตามลำดับ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในต้นปีหน้า ดังนั้นในอนาคต หากกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว อาจเปลี่ยนแปลงให้กองทุนเป็นผู้รับภาระ เรื่องอุดหนุนราคาเอ็นจีวี แทน ปตท.
ข้อมูลจากสำนักข่าว INN