วิธีประหยัดเงินและค่าใช้จ่ายสำหรับช้อปเสื้อผ้า แม้จะเป็นแฟชั่นนิสต้าก็ยังหาวิธีประหยัดค่าช้อปปิ้งได้ ซึ่งถ้าอยากเก็บเงินได้ก็ต้องลองดูสักตั้ง
1. ซื้อเสื้อผ้าราคาถูกบ้างก็เก๋ดี
ถ้าไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในแวดวงไฮโซ ก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องเปลืองเงินไปกับเสื้อผ้าแบรนด์เนมเลยสักนิด เพราะคนรอบข้างของคุณคงไม่มานั่งจับผิดหรอกมั้งว่าคุณใช้ของมียี่ห้อหรือเปล่า และที่สำคัญเดี๋ยวนี้แฟชั่นก็ขยายวงกว้างมากขึ้น เสื้อผ้าราคาหลักร้อยที่วางขายทั่วไปก็มีความเก๋ไม่หยอก แค่เพียงมีหัวคิดสร้างสรรค์จับนั่นแต่งนี่เข้าหน่อย รับรองความแซ่บจะไม่มีตกหล่น
2. ซื้อเสื้อผ้านอกฤดูกาล
หน้าร้อนใครจะเพี้ยนมาซื้อเสื้อกันหนาว ดังนั้นเหล่าช็อปที่มีเสื้อผ้านอกฤดูเหล่านี้ก็จะมีของค้างสต็อกที่จำเป็นต้องนำออกมาลดราคา และหากคุณสำรวจเสื้อผ้าในตู้แล้วเห็นว่าเสื้อผ้าหน้าหนาวแทบไม่มีใส่ บวกกับมีความกระหายในการช้อปปิ้งเป็นอย่างมาก แนะนำให้ไปช้อปเสื้อผ้านอกฤดูกาลให้ฉ่ำปอดไปเลย นี่แหละโอกาสได้ของถูกและดี
3. หักห้ามใจกับการช้อปปิ้งออนไลน์
ไม่เถียงหรอกว่าการช้อปปิ้งออนไลน์อยู่บ้านมันสะดวกสบายแค่ไหน ทว่าความสะดวกสบายนี่แหละที่ทำให้เราเพลินกับการช้อปปิ้งจนเงินแทบเกลี้ยงบัญชี ที่สำคัญการช้อปปิ้งออนไลน์ยังเสี่ยงกับการได้ของไม่ถูกสเปค หรือซื้อเสื้อผ้ามาแล้วใส่ไม่ได้ รวมทั้งยังต้องเสียค่าจัดส่งให้กับบางร้านอีกต่างหาก เห็นไหมว่าเป็นการช้อปที่ไม่คุ้มค่าอย่างแรง
4. พยายามอยู่ให้ไกลจากแหล่งช้อปปิ้ง
ด้วยสัญชาตญาณของนักช้อป แม้เงินที่ติดกระเป๋าจะเหลือน้อยเต็มทน แต่พอเห็นเสื้อผ้าหรือของถูกใจเงินก็ปลิวออกมาจากกระเป๋าง่าย ๆ ได้หน้าตาเฉย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของเงินในกระเป๋า เราควรอยู่ให้ห่างจากแหล่งช้อปปิ้งทั้งหลายกันดีกว่าเนอะ
5. โครงการแลกเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่กับเพื่อนก็น่าลอง
ถ้าเพื่อนกับเรามีขนาดตัวไซส์ใกล้ ๆ กัน แบบนี้ลองแลกเสื้อผ้ากันใส่ไปเลยสวย ๆ แต่มีเงื่อนไขว่าคงต้องเป็นเพื่อนที่สนิทมาก ๆ และทั้งคู่ควรต้องเป็นคนที่รักความสะอาดพอสมควรด้วยนะ จะได้สวยหล่ออย่างหมดห่วง
6. เสื้อผ้ามือสอง ไม่ลองไม่รู้
เสื้อผ้ามือสองไม่ได้แค่มีความชิคเท่านั้น แต่ถ้าลองเลือกดี ๆ บอกเลยว่าอาจส้มหล่นไปเจอของมียี่ห้อในสภาพโอเคเข้าก็ได้ และที่เด็ดคือราคาเสื้อผ้ามือสองจะน่ารักกรุบกริบมาก เรียกว่าสวยหล่อชิค ๆ ไม่กระดิกเงินในกระเป๋าเท่าไร
7. ขายของเก่ามาช้อปของใหม่
รู้ค่ะว่าเสื้อผ้าที่มีอยู่ในตู้มันต้องมีชุดที่เราเบื่อบ้าง ใส่ไม่ได้แล้วบ้าง เอาท์ไปแล้วบ้าง ซึ่งเสื้อผ้าเหล่านี้จะทิ้งไปก็คงทำใจลำบาก ถ้าอย่างนั้นลองหอบไปวางขายราคาไม่เกิน 100 บาท เพื่อเก็บเงินมาช้อปเสื้อผ้าใหม่กันดีกว่า วิธีนี้เจ๊ากันดี
8. อย่าหลงไปกับของเซล
เสื้อผ้าอาจลดราคาก็จริง มีโปรโมชั่นที่น่าสนใจก็ใช่ แต่อย่าลืมนะว่าของเหล่านั้นมันแค่มีราคาถูก ไม่ใช่ของที่แจกกันฟรี ๆ และถ้าเรามัวแต่ช้อปแบบไม่ลืมหูลืมตา ทั้งที่จริง ๆ แล้วเสื้อผ้าแบบนี้ก็มีอยู่เต็มตู้ไปหมด เห็นทีงานนี้เงินจะช็อตเอาง่าย ๆ นะคะ โดยเฉพาะคนที่แพ้ของลดราคาทั้งหลาย รีบเดินห่างจากกระบะเซลด่วน !
9. มิกซ์ แอนด์ แมตช์
เสื้อผ้าเก่า ๆ ที่เก็บยัดไว้ในตู้ หากเราลองมาปรับแต่งสักนิด หรือจับคู่กับเสื้อผ้าอีกชิ้นให้ดูเก๋ ๆ แค่นี้ก็เหมือนได้ชุดใหม่ไว้ใส่ไปไหนมาไหนแบบไม่เสียสตางค์สักบาทแล้วนะจ๊ะ
10. จับของเก่ามาพลิกแพลงให้เป็นของใหม่
สำหรับเสื้อผ้าบางชิ้นที่ใส่ไม่ได้แล้ว หรือเป็นของที่ตกเทรนด์มาหลายปีถ้ามีไอเดียสร้างสรรค์สักหน่อย จับมาปัก ถัก ตัด เย็บความชิคเพิ่มเข้าไป เราอาจจะได้เสื้อผ้า DIY ที่มีแค่หนึ่งเดียวในโลก เริดยิ่งกว่าซื้อของลิมิเต็ด อิดิชั่นซะอีก
11. เลือกซื้อเสื้อผ้าที่ถูกใจจริง ๆ เท่านั้น
แน่นอนว่าเราคงต้องช้อปเสื้อผ้าในวันใดวันหนึ่งแน่ ๆ แต่การช้อปปิ้งเสื้อผ้าต่อไปนี้ของเราควรจะต้องเสียเงินไปกับของที่โดนใจที่สุดเท่านั้น เสื้อผ้าตัวไหนที่แค่เห็นว่าน่ารักดี แต่ยังไม่ใช่ของที่อยากได้แบบสุด ๆ ก็เมินเสียเถอะ แค่นี้ก็เซฟเงินได้เยอะแล้ว
12. หาแหล่งช้อปปิ้งราคาถูก
ถ้าคุณมีเวลาในการช้อปปิ้งจริง ๆ อยากให้ลองสำรวจราคาเสื้อผ้าจากหลาย ๆ แหล่งดูก่อน หรืออาจจะลองสืบราคาเสื้อผ้าจากหลาย ๆ ร้านในละแวกใกล้เคียงกันก็ได้ เผื่อเราจะแจ็กพอตเจอร้านที่ไม่ฟันกำไรเยอะ ขายเสื้อผ้าในราคาที่ถูกกว่าใครยังไงล่ะ อ๊ะ ! แต่ก็อย่าชะล่าใจจนช้อปเสื้อผ้าเกินความจำเป็นนะจ๊ะ
13. ช้อปด้วยเงินสด
ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้งอะไรก็ตาม เราควรเลือกจ่ายด้วยเงินสดจะดีที่สุด เพราะการใช้เงินสดจะทำให้เรายั้งตัวเองไว้อยู่ว่าควรควักจ่ายอะไรไปอีกมากแค่ไหน จุดไหนควรจะต้องรัดเข็มขัดได้แล้ว เหมือนเป็นการสร้างวินัยการใช้จ่ายทางอ้อม
14. พยายามซ่อมแซมเสื้อผ้าที่มีอยู่
หลายครั้งที่เราต้องตัดใจทิ้งเสื้อผ้าบางชุดไปเพียงเพราะมันเกิดชำรุดเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ทั้งที่จริงแล้วถ้าเราใส่ใจเสื้อผ้าอีกสักนิด จับมาซ่อมแซมหรือส่งร้านปรับแก้ให้ อย่างน้อยเราจะได้มีเสื้อผ้าชุดโปรดใส่ต่อไป หรือหากต้องส่งร้านตัดเย็บเสื้อผ้า ค่าซ่อมผ้าก็คงถูกกว่าราคาซื้อใหม่อยู่ดี
15. ทะนุถนอมเสื้อผ้าดี ๆ
ไม่ว่าจะเป็นการซักรีด หรือการเก็บเสื้อผ้าทุกชุด ควรต้องให้ความสำคัญพอสมควร เนื่องจากหากเราไม่ทะนุถนอมเสื้อผ้าที่มีอยู่ ใส่เสื้อผ้าไปไม่นานเท่าไรก็คงขาดคงพังกันบ้างไม่มากก็น้อย ดังนั้นเพื่อการใช้งานเสื้อผ้าอย่างยาวนาน เราก็ควรดูแลเสื้อผ้าทุกชุดให้ดี ๆ นะคะ
นอกจากวิธีเหล่านี้แล้ว ใครที่ส่งเสื้อผ้าไปซัก อบ รีดที่ร้าน ลองเปลี่ยนมาซักรีดเสื้อผ้าด้วยตัวเองดีกว่าค่ะ ช่วยประหยัดและนับเป็นวิธีออกกำลังกายที่ดีอย่างหนึ่งเลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
การช้อปปิ้งเป็นความฟินอย่างหนึ่งของใครหลาย
ๆ คน โดยเฉพาะเหล่าแฟชั่นนิสต้าที่แค่ใส่เสื้อผ้าซ้ำกันก็แทบจะทนไม่ไหว
ต้องมีชุดใหม่มาสนองนี้ดตลอด ๆ
แต่ไลฟ์สไตล์ช้อปแหลกแบบนี้เชื่อเลยว่าน่าจะพาให้กระเป๋าคุณ ๆ
พรุนเป็นรูแน่ ๆ ถ้าอย่างนั้นเรามาลองหาวิธีช้อปเสื้อผ้าแบบประหยัด
แต่ยังคงความเป็นแฟชั่นนิสต้าได้ครบทุกกระเบียดนิ้วกันดีกว่า
ถ้าไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในแวดวงไฮโซ ก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องเปลืองเงินไปกับเสื้อผ้าแบรนด์เนมเลยสักนิด เพราะคนรอบข้างของคุณคงไม่มานั่งจับผิดหรอกมั้งว่าคุณใช้ของมียี่ห้อหรือเปล่า และที่สำคัญเดี๋ยวนี้แฟชั่นก็ขยายวงกว้างมากขึ้น เสื้อผ้าราคาหลักร้อยที่วางขายทั่วไปก็มีความเก๋ไม่หยอก แค่เพียงมีหัวคิดสร้างสรรค์จับนั่นแต่งนี่เข้าหน่อย รับรองความแซ่บจะไม่มีตกหล่น
2. ซื้อเสื้อผ้านอกฤดูกาล
หน้าร้อนใครจะเพี้ยนมาซื้อเสื้อกันหนาว ดังนั้นเหล่าช็อปที่มีเสื้อผ้านอกฤดูเหล่านี้ก็จะมีของค้างสต็อกที่จำเป็นต้องนำออกมาลดราคา และหากคุณสำรวจเสื้อผ้าในตู้แล้วเห็นว่าเสื้อผ้าหน้าหนาวแทบไม่มีใส่ บวกกับมีความกระหายในการช้อปปิ้งเป็นอย่างมาก แนะนำให้ไปช้อปเสื้อผ้านอกฤดูกาลให้ฉ่ำปอดไปเลย นี่แหละโอกาสได้ของถูกและดี
3. หักห้ามใจกับการช้อปปิ้งออนไลน์
ไม่เถียงหรอกว่าการช้อปปิ้งออนไลน์อยู่บ้านมันสะดวกสบายแค่ไหน ทว่าความสะดวกสบายนี่แหละที่ทำให้เราเพลินกับการช้อปปิ้งจนเงินแทบเกลี้ยงบัญชี ที่สำคัญการช้อปปิ้งออนไลน์ยังเสี่ยงกับการได้ของไม่ถูกสเปค หรือซื้อเสื้อผ้ามาแล้วใส่ไม่ได้ รวมทั้งยังต้องเสียค่าจัดส่งให้กับบางร้านอีกต่างหาก เห็นไหมว่าเป็นการช้อปที่ไม่คุ้มค่าอย่างแรง
4. พยายามอยู่ให้ไกลจากแหล่งช้อปปิ้ง
ด้วยสัญชาตญาณของนักช้อป แม้เงินที่ติดกระเป๋าจะเหลือน้อยเต็มทน แต่พอเห็นเสื้อผ้าหรือของถูกใจเงินก็ปลิวออกมาจากกระเป๋าง่าย ๆ ได้หน้าตาเฉย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของเงินในกระเป๋า เราควรอยู่ให้ห่างจากแหล่งช้อปปิ้งทั้งหลายกันดีกว่าเนอะ
5. โครงการแลกเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่กับเพื่อนก็น่าลอง
ถ้าเพื่อนกับเรามีขนาดตัวไซส์ใกล้ ๆ กัน แบบนี้ลองแลกเสื้อผ้ากันใส่ไปเลยสวย ๆ แต่มีเงื่อนไขว่าคงต้องเป็นเพื่อนที่สนิทมาก ๆ และทั้งคู่ควรต้องเป็นคนที่รักความสะอาดพอสมควรด้วยนะ จะได้สวยหล่ออย่างหมดห่วง
6. เสื้อผ้ามือสอง ไม่ลองไม่รู้
เสื้อผ้ามือสองไม่ได้แค่มีความชิคเท่านั้น แต่ถ้าลองเลือกดี ๆ บอกเลยว่าอาจส้มหล่นไปเจอของมียี่ห้อในสภาพโอเคเข้าก็ได้ และที่เด็ดคือราคาเสื้อผ้ามือสองจะน่ารักกรุบกริบมาก เรียกว่าสวยหล่อชิค ๆ ไม่กระดิกเงินในกระเป๋าเท่าไร
7. ขายของเก่ามาช้อปของใหม่
รู้ค่ะว่าเสื้อผ้าที่มีอยู่ในตู้มันต้องมีชุดที่เราเบื่อบ้าง ใส่ไม่ได้แล้วบ้าง เอาท์ไปแล้วบ้าง ซึ่งเสื้อผ้าเหล่านี้จะทิ้งไปก็คงทำใจลำบาก ถ้าอย่างนั้นลองหอบไปวางขายราคาไม่เกิน 100 บาท เพื่อเก็บเงินมาช้อปเสื้อผ้าใหม่กันดีกว่า วิธีนี้เจ๊ากันดี
เสื้อผ้าอาจลดราคาก็จริง มีโปรโมชั่นที่น่าสนใจก็ใช่ แต่อย่าลืมนะว่าของเหล่านั้นมันแค่มีราคาถูก ไม่ใช่ของที่แจกกันฟรี ๆ และถ้าเรามัวแต่ช้อปแบบไม่ลืมหูลืมตา ทั้งที่จริง ๆ แล้วเสื้อผ้าแบบนี้ก็มีอยู่เต็มตู้ไปหมด เห็นทีงานนี้เงินจะช็อตเอาง่าย ๆ นะคะ โดยเฉพาะคนที่แพ้ของลดราคาทั้งหลาย รีบเดินห่างจากกระบะเซลด่วน !
9. มิกซ์ แอนด์ แมตช์
เสื้อผ้าเก่า ๆ ที่เก็บยัดไว้ในตู้ หากเราลองมาปรับแต่งสักนิด หรือจับคู่กับเสื้อผ้าอีกชิ้นให้ดูเก๋ ๆ แค่นี้ก็เหมือนได้ชุดใหม่ไว้ใส่ไปไหนมาไหนแบบไม่เสียสตางค์สักบาทแล้วนะจ๊ะ
10. จับของเก่ามาพลิกแพลงให้เป็นของใหม่
สำหรับเสื้อผ้าบางชิ้นที่ใส่ไม่ได้แล้ว หรือเป็นของที่ตกเทรนด์มาหลายปีถ้ามีไอเดียสร้างสรรค์สักหน่อย จับมาปัก ถัก ตัด เย็บความชิคเพิ่มเข้าไป เราอาจจะได้เสื้อผ้า DIY ที่มีแค่หนึ่งเดียวในโลก เริดยิ่งกว่าซื้อของลิมิเต็ด อิดิชั่นซะอีก
11. เลือกซื้อเสื้อผ้าที่ถูกใจจริง ๆ เท่านั้น
แน่นอนว่าเราคงต้องช้อปเสื้อผ้าในวันใดวันหนึ่งแน่ ๆ แต่การช้อปปิ้งเสื้อผ้าต่อไปนี้ของเราควรจะต้องเสียเงินไปกับของที่โดนใจที่สุดเท่านั้น เสื้อผ้าตัวไหนที่แค่เห็นว่าน่ารักดี แต่ยังไม่ใช่ของที่อยากได้แบบสุด ๆ ก็เมินเสียเถอะ แค่นี้ก็เซฟเงินได้เยอะแล้ว
12. หาแหล่งช้อปปิ้งราคาถูก
ถ้าคุณมีเวลาในการช้อปปิ้งจริง ๆ อยากให้ลองสำรวจราคาเสื้อผ้าจากหลาย ๆ แหล่งดูก่อน หรืออาจจะลองสืบราคาเสื้อผ้าจากหลาย ๆ ร้านในละแวกใกล้เคียงกันก็ได้ เผื่อเราจะแจ็กพอตเจอร้านที่ไม่ฟันกำไรเยอะ ขายเสื้อผ้าในราคาที่ถูกกว่าใครยังไงล่ะ อ๊ะ ! แต่ก็อย่าชะล่าใจจนช้อปเสื้อผ้าเกินความจำเป็นนะจ๊ะ
13. ช้อปด้วยเงินสด
ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้งอะไรก็ตาม เราควรเลือกจ่ายด้วยเงินสดจะดีที่สุด เพราะการใช้เงินสดจะทำให้เรายั้งตัวเองไว้อยู่ว่าควรควักจ่ายอะไรไปอีกมากแค่ไหน จุดไหนควรจะต้องรัดเข็มขัดได้แล้ว เหมือนเป็นการสร้างวินัยการใช้จ่ายทางอ้อม
14. พยายามซ่อมแซมเสื้อผ้าที่มีอยู่
หลายครั้งที่เราต้องตัดใจทิ้งเสื้อผ้าบางชุดไปเพียงเพราะมันเกิดชำรุดเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ทั้งที่จริงแล้วถ้าเราใส่ใจเสื้อผ้าอีกสักนิด จับมาซ่อมแซมหรือส่งร้านปรับแก้ให้ อย่างน้อยเราจะได้มีเสื้อผ้าชุดโปรดใส่ต่อไป หรือหากต้องส่งร้านตัดเย็บเสื้อผ้า ค่าซ่อมผ้าก็คงถูกกว่าราคาซื้อใหม่อยู่ดี
15. ทะนุถนอมเสื้อผ้าดี ๆ
ไม่ว่าจะเป็นการซักรีด หรือการเก็บเสื้อผ้าทุกชุด ควรต้องให้ความสำคัญพอสมควร เนื่องจากหากเราไม่ทะนุถนอมเสื้อผ้าที่มีอยู่ ใส่เสื้อผ้าไปไม่นานเท่าไรก็คงขาดคงพังกันบ้างไม่มากก็น้อย ดังนั้นเพื่อการใช้งานเสื้อผ้าอย่างยาวนาน เราก็ควรดูแลเสื้อผ้าทุกชุดให้ดี ๆ นะคะ
นอกจากวิธีเหล่านี้แล้ว ใครที่ส่งเสื้อผ้าไปซัก อบ รีดที่ร้าน ลองเปลี่ยนมาซักรีดเสื้อผ้าด้วยตัวเองดีกว่าค่ะ ช่วยประหยัดและนับเป็นวิธีออกกำลังกายที่ดีอย่างหนึ่งเลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก