
การขับขี่รถยนต์อย่างประหยัด อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ไม่อยากให้รถยนต์สูบทั้งน้ำมันสูบทั้งเงินในกระเป๋าของคุณละก็ ต้องใช้วิธีเหล่านี้ !
ค่าน้ำมัน หรือค่าเชื้อเพลงอื่น ๆ ที่เราต้องเติมให้กับรถยนต์ส่วนตัวนั้นถือเป็นค่าใช้จ่ายที่มากพอดูสำหรับหลาย ๆ คน คนที่ใช้รถบางส่วนต้องจ่ายเงินเพื่อเติมน้ำมันมากกว่าค่าใช้จ่ายของตัวเองในแต่ละเดือนโดยที่จริง ๆ แล้วเราสามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ แค่เพียงรู้เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น อย่างเช่นวิธีที่กระปุกดอทคอมจะพาทุกคนไปเรียนรู้วิธีประหยัดค่าเชื้อเพลิงจากเว็บไซต์ wikiHow เพื่อให้เราสามารถใช้รถกันได้อย่างสบายใจแบบที่ไม่ต้องกลัวรถจะสูบเงินในกระเป๋าคุณไปจนหมด

หัวเทียนโดยทั่วไปนั้นมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 160,000 กิโลเมตร ซึ่งถ้าหากรอจนกว่าจะครบอายุการใช้งานนั่นอาจจะทำให้คุณต้องเปลืองน้ำมันในการสตาร์ทรถไปเยอะเลยทีเดียวล่ะ ฉะนั้นถ้าไม่อยากลดค่าน้ำมันที่จ่ายไป เมื่ออายุการใช้งานหัวเทียนอยู่ที่ประมาณ 121,000 กิโลเมตรแล้ว ก็ควรจะเปลี่ยนหัวเทียนเลยจะดีกว่า ราคาค่าหัวเทียนก็ไม่ได้แพงเลยเมื่อเทียบกับปริมาณน้ำมันที่สามารถประหยัดได้ แถมคุณยังสามารถเปลี่ยนเองได้อีกด้วย แต่ถ้าคุณเปลี่ยนไม่เป็น ลองศึกษาจากคู่มือรถยนต์ดู รับรองได้เลยว่าง่ายสุด ๆ

หากคุณและเพื่อนจำเป็นจะต้องไปยังจุดหมายที่อยู่บนเส้นทางเดียวกัน ลองเปลี่ยนจากการต่างคนต่างขับรถไปเป็นอาศัยเดินทางไปด้วยกันสิ นอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมันได้ ยังทำให้คุณมีเพื่อนเดินทางไปด้วย แต่ก็ใช่ว่าคุณจะต้องอาศัยรถคนอื่นไปตลอดนะ สลับกันบ้าง เป็นรถคุณ และรถของเพื่อน รับรองว่าวิธีนี้ดีสุด ๆ

ทุกครั้งที่น้ำมันใกล้จะหมด หลายคนมักจะรีบแวะปั๊มที่ใกล้ที่สุดเพื่อเติมน้ำมัน ซึ่งบางทีปั๊มที่เราแวะนั้นราคาอาจจะสูงกว่าปั๊มอื่น ๆ ทำให้คุณเสียเงินส่วนต่างไปโดยไม่จำเป็น ฉะนั้นหากไม่ฉุกเฉินจริง ๆ คุณควรจะลองขับหาปั๊มน้ำมันที่ราคาถูกกว่าและไว้ใจได้ดีกว่า อาจจะต้องขับไกลอีกนิดแต่คุ้มค่ากว่ากันเยอะ


การตรวจเช็กสภาพรถยนต์อยู่อย่างสม่ำเสมอ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยประหยัดค่าเชื้อเพลงได้ เพราะรถที่มีการทำงานที่เต็มประสิทธิภาพ จะมีการใช้เชื้อเพลงที่น้อยเมื่อเทียบกับรถที่มีปัญหา ดังนั้นหากมีเวลาบ้างควรนำรถไปตรวจสภาพจะดีกว่า หรือจะตรวจด้วยตัวเองก็ได้ โดยส่วนที่ต้องตรวจเช็กอยู่อย่างสม่ำเสมอก็คือ แบตเตอรี่ ระดับน้ำมันเครื่อง ผ้าเบรก ลมยาง และช่วงล่างรถยนต์ หากพบความผิดปกติก็ควรรีบแก้ไขก่อนนั่นจะเป็นสาเหตุให้รถกินน้ำมันมากขึ้น


อยากจะบอกว่า ก็จะสามารถช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้เช่นกัน ซึ่งเคล็ดลับในการเติมน้ำมันแล้วได้ผลอย่างคุ้มค่าก็ได้แก่





ในคู่มือรถยนต์ที่ติดมากับรถยนต์ทุกคันจะมีข้อมูลระดับลมยางที่เหมาะสมกับรถรุ่นนั้น ๆ อยู่ด้วย และถ้าเราเติมให้ได้ตามมาตรฐานอยู่อย่างสม่ำเสมอ ก็จะทำให้รถไม่กินน้ำมันมากเกินไป ไหน ๆ ก็ต้องเติมน้ำมันบ่อย ๆ แล้ว ลองแวะไปเช็กลมยางแล้วเติมให้ได้ตรงตามในคู่มือจะดีกว่า

หากคุณมีความจำเป็นต้องลงจากรถไปทำธุระ ควรจะดับเครื่องไปเลยดีกว่า อย่างสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้เลย เพราะการที่คุณสตาร์ทรถทิ้งเอาไว้เพราะคิดว่าคุณไปแค่เพียงแปบเดียวนั้นจะทำให้คุณเปลืองน้ำมันมากขึ้น ยิ่งถ้าหากคุณเปิดแอร์ทิ้งไว้ด้วยละก็ บอกเลยว่ายิ่งทำให้เปลืองน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิมอีกล่ะ


เพื่อลดการสิ้นเปลืองน้ำมันและเวลาในการเดินทาง ก่อนออกเดินทางทุกครั้งควรวางแผนก่อนเสมอ ยิ่งถ้าหากคุณไม่คุ้นเคยกับเส้นทางที่กำลังจะไปก็ควรหาข้อมูลให้ดีเสียก่อน จะได้ไม่หลงทางและต้องขับรถวนไปวนมาหลายรอบ นอกจากนี้ยังควรเช็กสภาพการจราจรอีกด้วย เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปเจอรถติดให้หงุดหงิดใจ

ทุกครั้งที่คุณออกตัวรถ ควรจะค่อย ๆ ออกตัวอย่างช้า ๆ เพราะการเหยียบคันเร่งแรง ๆ ทันทีที่รถออกตัวจะเป็นกระชากและทำให้เปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ แถมยังไม่เป็นผลดีกับรถยนต์ของคุณอีกด้วย แม้ว่าจะรีบแค่ไหน แต่ค่อย ๆ ไปจะดีกว่านะ

การจอดรถในที่ร่ม ๆ สามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้ เพราะน้ำมันจะลดการระเหยลง ต่างจากการจอดรถกลางแดดที่ความร้อนจะทำให้น้ำมันระเหยออกไปเร็วขึ้น อีกทั้งยังทำให้รถของคุณร้อนขึ้น เมื่อกลับมาสตาร์ทเครื่องอีกครั้ง เครื่องปรับอากาศในรถก็ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้รถเย็น เปลืองน้ำมันเข้าไปอีก ไม่คุ้มเลยล่ะ
ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เราจะประหยัดค่าเชื้อเพลงรถยนต์ ซึ่งถ้าหากเราสามารถทำได้ นอกจากจะช่วยให้ค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันลดลงได้แล้ว ก็ยังช่วยให้รถยนต์มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น ไม่ต้องเสียเงินซ่อมบ่อย ที่สำคัญสามารถช่วยลดปริมาณมลพิษในอากาศได้อีกด้วย ประโยชน์ดี ๆ สามเด้งแบบนี้ ต้องลองทำตามแล้วนะ