วันวาเลนไทน์ คาดเงินสะพัด 1.4 พันล้าน คนเมินกุหลาบ หันบอกรักผ่านแอพ


วันวาเลนไทน์ คาดเงินสะพัด 1.4 พันล้าน คนเมินกุหลาบ หันบอกรักผ่านแอพ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

            วันวาเลนไทน์ 2557 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดจะมีเงินสะพัดกว่า 1,400 ล้านบาท หรือ ขยายตัว 7.7 เปอร์เซ็นต์ โดยคนกรุงเทพฯ สนใจซื้อดอกกุหลาบน้อยลง และหันมาบอกรักผ่านโซเชียลมีเดียกันมากขึ้น

            เมื่อวานนี้ (7 กุมภาพันธ์ 2557) เวลา 18:00 น. ศูนย์วิจัยกสิกรไทย แจ้งว่า จากการสำรวจคนกรุงเทพมหานครที่มีอายุระหว่าง 15-35 ปี เกี่ยวกับการจับจ่ายใช้สอยในช่วงวาเลนไทน์พบว่า น่าจะมีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้านบาท หรือ ขยายตัว 7.7 เปอร์เซ็นต์ หากเทียบกับปี 2556

            โดยตัวเลขดังกล่าวชี้ว่า ผู้บริโภคมีค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงวาเลนไทน์ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1,310 บาทต่อคน ขณะที่ปี 2556 ที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 1,280 บาทต่อคน เนื่องจากปัจจัยทางด้านการเมืองไม่ค่อยมีผลกระทบต่อการเข้าร่วมกิจกรรมมากนัก ประกอบกับวันวาเลนไทน์ปีนี้ตรงกับวันมาฆบูชาทำให้กิจกรรมที่ทำมีความหลากหลายมากขึ้น

            ทั้งนี้ ผู้ตอบสัดส่วน 84 เปอร์เซ็นต์ เผยว่า สนใจทำกิจกรรมพิเศษร่วมกับบุคคลอันเป็นที่รัก โดยเน้นทำกิจกรรมนอกบ้าน ดังนี้

            การออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน คิดเป็นสัดส่วน 62.7 เปอร์เซ็นต์

            การทำบุญตักบาตร คิดเป็นสัดส่วน 40.5 เปอร์เซ็นต์

            ดูหนัง-ฟังเพลงนอกบ้าน คิดเป็นสัดส่วน 34.8 เปอร์เซ็นต์

            ชอปปิ้งเดินเล่น คิดเป็นสัดส่วน 31 เปอร์เซ็นต์

            ทำกิจกรรมอยู่บ้าน เนื่องจากยังกังวลเรื่องสถานการณ์การชุมนุม คิดเป็นสัดส่วน 25.3 เปอร์เซ็นต์

            สำหรับของขวัญที่เป็นที่นิยมในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ปี 2557 คนกรุงเทพฯ กว่า 66.0 เปอร์เซ็นต์ ไม่เลือกซื้อดอกไม้ เพราะเน้นการซื้อสินค้าจากประโยชน์ใช้สอยและความคุ้มค่าเป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคในวัยทำงานที่มีอายุระหว่าง 25-35 ปี

            อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวเผยอีกว่า หากผู้ตอบแบบสอบสนใจในการเลือกซื้อดอกไม้ ส่วนใหญ่จะซื้อดอกเดี่ยวมากกว่าจัดเป็นช่อ โดยดอกกุหลาบแดงยังคงได้รับความนิยมมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 49.2 เปอร์เซ็นต์ ส่วนราคาดอกกุหลาบจะใกล้เคียงกับปี 2556 คือ ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนช่วงวาเลนไทน์ ราคากุหลาบจะค่อย ๆ ขยับขึ้นจนถึงคืนวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ ที่ราคาจะพุ่งสูงกว่าช่วงปกติประมาณ 2-3 เท่า

            ซึ่งสรุปได้ว่า ในปีนี้ดอกกุหลาบจะได้รับความสนใจจากคนกรุงเทพฯ ลดลง และถูกทดแทนด้วยของขวัญประเภทอื่น ๆ เช่น อาทิ ช็อกโกแลต ตุ๊กตา และสินค้าในกลุ่มแฟชั่น ขณะที่คนรุ่นใหม่นิยมบอกรักผ่านโซเชียลมีเดีย อาทิ แอพพลิเคชั่น LINE หรือ WhatsApp เนื่องจากมีความสะดวก รวดเร็ว และใช้งานเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วันวาเลนไทน์ คาดเงินสะพัด 1.4 พันล้าน คนเมินกุหลาบ หันบอกรักผ่านแอพ อัปเดตล่าสุด 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 11:02:45
TOP
x close