บัตรเดบิตใช้อย่างไร หลายคนอาจจะสงสัยว่าแบบไหนถึงเรียกว่าใช้เป็น วันนี้เรามีคำตอบเกี่ยวกับบัตรเดบิตมาฝากค่ะ
ถ้าพูดถึงบัตรเดบิต หลายคนคงจะรู้จักกันดีเพราะมีติดกระเป๋ากันแทบทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไรก็ตามที่เราต้องการเงินสดก็จะคิดถึงบัตรใบนี้เป็นอันดับแรก เพราะช่วยให้เรากดเงินจากตู้เอทีเอ็มได้ทันทีที่ต้องการ แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากการเบิก-ถอนเงินสดแล้ว บัตรเดบิตยังมีประโยชน์กับเราอีกมากมาย ช่วยให้ชีวิตเราสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ในทางกลับกันหากใช้บัตรเดบิตไม่เป็น ก็จะส่งผลเสียกับเราได้เช่นกัน ดังนั้น K-Expert จึงมีคำแนะนำการใช้บัตรเดบิตอย่างถูกวิธีมาฝากค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้น ลองมาดูกันค่ะ
ใช้บัตรเดบิตทั้งทีต้องเกิดประโยชน์เต็มที่
จ่ายค่าสินค้าหรือบริการแทนเงินสดได้ เราสามารถใช้บัตรเดบิตจ่ายค่าสินค้าหรือบริการแทนเงินสดได้เหมือนกับบัตรเครดิตทั่วไป ณ ร้านค้าทั่วโลกที่รับบัตรประเภทนี้ ซึ่งจะช่วยให้เราไม่ต้องพกเงินสดไปชอปปิ้งมาก ๆ และเสี่ยงกับการทำเงินหายค่ะ
เติมเงินโทรศัพท์มือถือได้ทุกระบบ สำหรับใครที่ใช้โทรศัพท์แบบเติมเงินจะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นมาก เพราะไม่ต้องเสียเวลาไปซื้อบัตรเติมเงินในร้านสะดวกซื้อ เพียงไปที่ตู้เอทีเอ็มก็สามารถเติมเงินได้ทันที รวดเร็วทันใจ
รับส่วนลดจากร้านค้า และโรงภาพยนตร์ เราจะได้รับส่วนลดจากร้านค้า และโรงภาพยนตร์ เมื่อใช้บัตรเดบิตที่ร่วมรายการในการชำระเงิน ถือเป็นสิทธิพิเศษที่เราได้รับจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต เช่น ดูหนังในราคาเพียง 100 บาท ทุกเรื่อง ทุกรอบ นอกจากจะสะดวกแล้ว ยังช่วยเราประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้อีกด้วยค่ะ
ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุ สำหรับบัตรเดบิตบางประเภทได้ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุ พร้อมเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตลอด 24 ชั่วโมงทั่วโลก ซึ่งจะช่วยให้เรารู้สึกอุ่นใจในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนมาไหน จะใกล้หรือไกลก็ตาม
ระมัดระวังอย่างไรเมื่อใช้บัตรเดบิต
ตัดเงินทันทีที่ใช้ แม้บัตรเดบิตจะช่วยให้เราไม่ต้องพกเงินสดมาก ๆ เวลาไปซื้อของ แต่เมื่อใช้บัตรจ่ายค่าสินค้าหรือบริการไปแล้ว เงินในบัญชีของเราจะถูกตัดออกไปทันที ฉะนั้นต้องระวังให้ดี อย่าช้อปเพลิน และพยายามไม่ฝากเงินในบัญชีมากเกินไป
วิธีป้องกันคือ แนะนำให้ปรับวงเงินถอน โอน หรือวงเงินในการซื้อสินค้าต่อวันตามความต้องการใช้เงินของเรา ซึ่งจะไม่เกินวงเงินสูงสุดของบัตรค่ะ พร้อมกับใช้บริการรับข้อมูลทางโทรศัพท์มือถือเพื่อให้รู้ถึงรายละเอียดการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตทันที และให้ตรวจสอบการใช้จ่ายผ่านบัตรด้วยการพิมพ์ Statement ย้อนหลัง 3 เดือนที่ตู้เอทีเอ็ม เพื่อความมั่นใจ
มีค่าธรรมเนียมรายปี
บัตรเดบิตมีค่าธรรมเนียมบัตร ทั้งค่าธรรมเนียมแรกเข้า การทำบัตรทดแทน รวมถึงค่าธรรมเนียมรายปี ที่เราจะต้องจ่ายโดยถูกตัดบัญชีไปในแต่ละปี ซึ่งค่าธรรมเนียมก็จะแตกต่างกันไปตามประเภทบัตรเดบิต ตั้งแต่ 100 บาท ไปจนถึงหลายร้อยบาท โดยเฉพาะบัตรเดบิตที่ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุจะมีค่าธรรมเนียมรายปีค่อนข้างสูง ดังนั้นอย่าลืมเตรียมค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เอาไว้ด้วยค่ะ
นอกจากนี้แนะนำให้เก็บรักษาบัตรเดบิตเอาไว้ให้ดี เพราะสามารถใช้กดเงินจากตู้เอทีเอ็มก็ได้ แถมยังใช้รูดซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ได้ด้วยหากในบัญชีมีเงินเพียงพอ แต่หากเกิดทำบัตรหายจริงๆ ก็ให้รีบโทรแจ้งอายัดบัตรโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันการถูก คนอื่นนำบัตรไปใช้ และไม่ให้เงินหายไปจากบัญชีค่ะ
อยากให้ลองตรวจดูบัตรเดบิตในกระเป๋าของเราอีกทีว่าเป็นบัตรเดบิตประเภทไหน สามารถใช้ประโยชน์อะไรจากบัตรได้บ้าง และมีรายละเอียด เงื่อนไขในการใช้บัตรอย่างไร รวมถึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้บัตรเดบิตของเรา โดยเพิ่มความระมัดระวังในการใช้บัตรมากขึ้น
Tips
* ศึกษาข้อมูล รายละเอียดและเงื่อนไขของบัตรเดบิตที่ใช้ให้เข้าใจ
* เก็บรักษาบัตรเดบิตให้ดี และไม่จดรหัสบัตรเดบิตไว้ที่บัตรหรือในกระเป๋าสตางค์ เพื่อความปลอดภัย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก