เที่ยวนิวยอร์ก 1 เดือน ด้วยงบ 1 แสนบาท ถูกมาก เพราะบางคนไป 5-6 วันค่าใช้จ่ายเป็นแสน แต่วันนี้เรามีตัวอย่างสรุปเรื่องการกิน การอยู่ วิธีประหยัด ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการใช้ชีวิตที่นิวยอร์คมาฝาก
สำหรับคนชอบเที่ยวที่อยากจะวางแผนใช้วันหยุดยาวไปตะลอนเที่ยวไกล ๆ ในต่างแดนดูบ้าง แต่ติดอยู่ที่งบประมาณซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด วันนี้เราขอเอาใจคุณด้วยทริปท่องเที่ยวแบบ On Budget ข้อมูลนี้ได้รับอนุญาติเผยแพร่จากคุณสมาชิกหมายเลข 719935 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้รวบรวมทริคการกินและเที่ยว ในเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา แบบประหยัดสุด ๆ ด้วยงบเงิน 1 แสนบาท แต่สามารถใช้จ่ายได้นานถึง 1 เดือนเลยทีเดียว และวันนี้กระปุกดอทคอมได้รับอนุญาตให้นำข้อมูลดังกล่าวมาเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ในการวางแผนการเงินเที่ยวในต่างแดน...ว่าแต่เขาจะมีวิธีบริหารเงินอย่างไรบ้าง ต้องลองไปติดตามกันจ้า
กระทู้นี้มอบให้แก่คนชอบเที่ยวแบบ ON BUDGET ครับ เน้นความงก ความประหยัดและส่วนลด อยากไปนิวยอร์ก เห็นค่าทัวร์ 5-7 วัน เหยียบแสนแล้วน้ำตาแทบไหลครับ งานนี้ต้องไปเองครับ โดยผมจะขอเล่าเรื่องที่เที่ยวต่าง ๆไปก่อนแล้วจะสรุปเรื่องการกิน การอยู่ วิธีประหยัด ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มีอะไรบ้างให้นะครับ
สวัสดีครับ กระทู้รีวิวกระทู้แรกในชีวิตเลยครับ ลังเลอยู่นาน แอบอ่านเขาไปเรื่อย แต่เห็นคนอื่นมารีวิวไปญี่ปุ่น ไปเกาหลีเหนือ แล้วอยากเล่ามั่งครับ ช่วงปีใหม่อยู่บ้านเหงา ๆ ด้วย อันนี้ขอรีวิวย้อนหลังหน่อยนะครับ
ช่วงเวลาที่เดินทางคือ 1-29 เมษายน 2556 เมษายน ช่วงเริ่มต้นสปริง ถือว่าเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของนิวยอร์กครับ
เริ่มเรื่องมาจากหลังจากเรียนจบปุ๊บทำงานมาได้กับบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่มาได้หกเดือน รู้สึกหมดพลังและพอกันที หลังจากได้งานใหม่แล้วมีช่วงเวลาว่างอยู่ระหว่างนั้นก็เลยตัดสินใจไปตามฝัน กับเมืองที่ควรได้ไปสักครั้งในชีวิตฮะ
แต่ที่นี้ไหน ๆ ก็เสียค่าตั๋วเครื่องบินแล้วทั้งที จะไปแป๊บ ๆ มันทำไม ด้วยความช่วยเหลือจากการสอบถามเพื่อนในต่างแดน ตัดสินใจเทเงินที่เก็บมาตลอดผนวกเข้ากับเงินเดือนสุดท้ายแบบเต็มเดือนไปทั้งหมดบัญชี (เหลืออยู่ 830 บาท) ไปกับทริปนี้
วีซ่า
เรื่องของการขอวีซ่าคงไม่ต้องพูดไรมากนะครับ มีคนรีวิวไว้เยอะแยะมากมายแล้ว แต่บอกอย่างหนึ่งเลยว่าถ้าเรามั่นใจและจริงใจ ได้แน่ครับ (เด็กจบใหม่ เงินเดือน 15,000 ทำงานได้ครึ่งปี ไปคนเดียว)
เราบินด้วยสายการบิน KOREAN AIR โดยใช้เวลาทั้งหมด 23 ชั่วโมงนิด ๆ ทรานซิส 30 นาทีครับ ไม่รู้จะอยู่เกาหลีนาน ๆ ทำไม ไม่มีเงินช้อปครับ โดยใครที่สามารถ ผมคิดว่า ANA ถูกที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาแล้วนะครับ
ที่พัก
ด้วยความโชคดีได้เพื่อนช่วยเหลือ จึงเสาะหาที่พักเป็นบ้านของคนไทย ซึ่งคนไทยในนิวยอร์กมีอยู่มากมายมหาศาลครับ มีทั้งเว็บบอร์ด เฟซบุ๊ก ลักษณะของที่พักจะเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์แบ่งเช่า ชั้นหนึ่งครอบครัวหนึ่ง แล้วเราไปแบ่งเช่าห้องที่อยู่ในชั้นนั้นอีกทีหนึ่งครับ ซับซ้อนหลายต่อมาก ห้องเช่าแบบนี้มีจำนวนมากครับ แต่อาจจะหายากหน่อยที่จะปล่อยเช่าระยะสั้นครับ เนื่องจากห้องไม่ได้สวยงามจึงไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลยครับ ลักษณะคือเปิดประตูเข้าไปมีเตียงเต็มห้องละครับ แล้วก็มีตู้แขวนโค้ทกับชั้นวางของและทีวี
โดยย่านที่ผมอยู่เรียกว่า Elmhurst อยู่ในฝั่ง Queens ครับ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น New Chinatown of New York ครับ มีแต่คนจีนหัวดำทั้งแผ่นดินครับ ไปทางไหนมีแต่จีน ๆ ๆ ๆ แต่ข้อดีจริง ๆ ของการอยู่ฝั่ง Queens คือของกินถูกกว่าใน Manhattan เยอะมากเป็นเท่าตัว และเดินทางเข้าเมืองสะดวกสบาย
จากภาพคือโซนที่มีวงแดง ๆ ครับ ซึ่งจะใช้เวลานั่งรถไฟประมาณครึ่งชั่วโมงเข้าเมืองไปยัง Midtown ครับ สภาพแวดล้อมโซนนี้ลักษณะจะเป็นย่านทาวน์เฮ้าส์ เหมือนหมู่บ้านจัดสรรกลาย ๆ ครับ ไม่น่ากลัว
มาว่าด้วยเรื่องของการเดินทางในนิวยอร์กกันครับ ด้วยความงกและความจนหลังจากลงที่สนามบิน JFK ซึ่งมีเทอร์มินัลมากมาย ก็นั่ง Airtrain ออกมาที่สถานี JAMAICA STATION เพื่อซื้อบัตร Metro Card สีเหลือง ๆ ตามรูปเลยครับ ซึ่งบัตรใบนี้จะราคา 112 USD และใช้งานได้ไม่จำกัดตลอดระยะเวลา 30 วันครับ เรียกว่าคุ้มสุด ๆ
ระหว่างการซื้อตั๋วใบนี้ก็เป็นประสบการณ์แรกเลยครับกับ New Yorker เพราะด้วยความช้า ความงง จึงโดนพี่คนข้างหลังแกด่าเอาครับ เรียกว่ามาถึงปุ๊บ ยังไม่ทันคุยกับใคร โดนด่าละครับ
สำหรับความซับซ้อนมหาศาลของ Subway นิวยอร์กในตำนาน ต้องบอกว่า โชคดีที่สมัยนี้เรามีผู้ช่วยครับ นั่นก็คือ App Iphone อันนี้ครับ NYC Subway
App นี้จะช่วยเราเลือกขึ้นรถไฟที่ถูกสาย บอกด้วยว่าวันไหนเปิดวันไหนปิดตรงไหนบ้าง และสามารถตั้งสถานีต้นทาง ปลายทาง แล้วให้มันคำนวนให้ได้ครับ หรือง่าย ๆ เราก้อเอานิ้วไล่ตามเส้นสายรถไฟในแผนที่ก็ได้ครับ
ต่อมาเรื่องของโทรศัพท์ครับ อยู่นานขนาดนี้ไม่มีโทรศัพท์คงไม่ไหว ผมเลือกซื้อซิมจาก T-Mobile ครับ เพราะถูกที่สุด (และห่วยที่สุด) ใส่กับ Iphone4s ของผม Package ของ T-Mobile จะเป็นค่า Sim 12USD มั้งครับถ้าจำไม่ผิด และค่ารายเดือน 60 USD ใช่แล้วครับ 60 !!!! แพงมหาศาลมากครับ แต่ !!!! เหลือเชื่อคือเขารวมทุกอย่างไว้หมดแล้วครับ ทั้งค่าโทร ค่า message และ internet ไม่จำกัดในราคานี้
ทีนี้มาถึงเรื่องสำคัญแล้วครับก็คือเรื่องของการเที่ยว เราจะเที่ยวรอบนิวยอร์ก เข้าสถานที่สำคัญครบหมดเนี่ย มันต้องซื้อตั๋วกี่ที จ่ายเงินกี่รอบ แพงขนาดไหนกันนะ คำตอบของเราก็คือนี่ครับ
(นี่ไม่ใช่รูปผมนะครับ เอามาจากเน็ต) NEW YORK CITY PASS ลักษณะจะเป็นสมุดคูปองฉีก ๆ อย่างดีเลยครับ คูปองจะแยกเป็นแผ่น ๆ แผ่นละที่ โดยในการใช้คูปองนี้เราก็ไม่ต้องเข้าคิวซื้อบัตรต่าง ๆ ครับ แค่เอาคูปองนี่เดินเข้าไปแลกเป็นตั๋วของที่นั้น ๆ ได้เลย โดยภายในเล่มจะสองส่วนก็คือคูปองแบบสถานที่ที่ฟิกซ์มาให้แล้ว กับแบบ Choice คือมีให้เลือกได้ว่าจะไปที่ใดที่หนึ่ง นี่คือสิ่งที่เราจะได้จาก NEW YORK CITY PASS ครับ
ถามว่าเยอะขนาดนี้ครบขนาดนี้ ไม่อยากจะเชื่อว่ามันราคาแค่ 106
USD เท่านั้นครับ คุ้มสุด ๆ เลยฮะ ต้องซื้อนะครับ
ในการซื้อนั้นเราสามารถไปซื้อได้เลยที่สถานที่ท่องเที่ยวใดที่หนึ่งตามลิสต์ในนั้นเลยครับ
แค่นี้คุณก็ได้ครบหมดเหมือนซื้อ Package ทัวร์ ยกทั้งนิวยอร์กละครับ
เมื่ออาบน้ำท่า จัดการชีวิตเสร็จ ก็ได้เวลาสำรวจนิวยอร์กกันแล้วครับ มาถึงวันแรกเช้าตรู่ลุยเลยครับ ลงรถไฟที่สถานี elmhurst แล้วมุ่งหน้าสู่ย่าน Midtown กลางเมือง Manhattan ที่สถานี Herald Square ครับ
สภาพรถไฟในนิวยอร์กก็คงไม่ต้องพูดถึงกันมากนะครับ MRT บ้านเรานี่สวรรค์เลยจริง ๆ สถานีมืดมิด สกปรก วังเวง และยาววววววมาก แต่โชคดีที่สถานีนี้มีคนอยู่ค่อนข้างเยอะพอสมควร
มาถึง Herald Sq. ขึ้นมาปุ๊บ นี่คือ New York First Sight ของผมครับ
สะพรึงมากครับ ในใจคิดว่า โอ้ย มาถึงแล้วโว้ยยยยยยย อีกใจหนึ่งก็รู้สึกว่ามันไม่เห็นจะสูงเลย 5555
ช่วงที่ผมมาถึงเป็นช่วง เริ่มต้นของ Spring ครับ ต้นไม้บางต้นเริ่มเปลี่ยนสี มีดอก มีใบแล้ว ในขณะที่หลาย ๆ ต้นยังร่วงโกร๋นไร้ใบอยู่ ผมอยู่ยาวตลอดทั้งเดือนเมษายนเลยได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของต้นใบ ใบไม้ ดอกไม้ ตลอดทั้งเมืองครับ
ไม่ต้องงงนะครับ รูปมีหลายแบบ เป็นรูปจากกล้องมั่ง ไอโฟนมั่ง อินตาแกรมของผมเองมั่งครับ ในภาพคือ Herald Sq. หน้าห้าง Macy\'s Department Store ที่เคยใหญ่ที่สุดในโลกครับ
ขอเข้าเรื่องที่เที่ยวเลยละกัน ที่แรกที่ผมตัดสินใจเริ่มไปเพื่อซื้อ NEW YORK PASS ก็คือ AMERICAN MUSUEM OF NATURAL HISTORY NEW YORK สถานที่สุดดังจากเรื่อง Night at the Museum การเดินทางก็ง่ายมากใช้ subway สาย B หรือ C มาขึ้นที่สถานี ถนน 81 Musuem of natural history นั่นเองฮะ ตัวมิวเซียมเองอยู่ติดกับ Central Park เลยครับ ถือเป็นแวบแรกที่ได้เห็น Central Park เหมือนกัน ซึ่งตอนนี้ต้นเดือนเมษาฯ แห้งเหี่ยว ทะมึนมาก
นี่คือด้านหน้าครับ จะมีรถเข็นขาย hotdog แบบนิวยอร์กจ๋าาา ซึ่งแพงมากครับ พอ ๆ กับข้าวตามร้านเลยครับ อย่าไปกินมันครับ 555
ทีนี้พอเข้ามาข้างในฝันสลายสองเด้งเลยครับ ข้อที่หนึ่ง คิดว่ามาวันธรรมดาตอนเช้า ๆ งี้คนจะน้อย ไม่เลยครับ มหาศาลมากครับ คนที่นี่เข้ามิวเซียมเยอะมาก เพราะฉะนั้นเผื่อเวลาเข้าคิวด้วยทุกครั้งครับ และข้อต่อมา มันไม่มี T-rex แบบในหนังครับ โดยผมได้เจอกับเจ้าตัวคอยาว ทีนี้พาชมมิวเซียมแบบคร่าว ๆ นะครับ ไม่เจอข้างหน้าไม่เป็นไรครับ เพราะนี่คือโซนไดโนเสาร์
ตรงนี้เราก็จะได้พบไดโนเสาร์นานาพันธุ์มากมายครับ ใครที่ชอบไดโนเสาร์ต้องปลื้มครับ ต่อมาที่โซนสัตว์
โดยรวมผมเฉยๆกับที่นี่มากครับ เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่น่าจะเป็นเหมือนกันเพราะสำหรับฝรั่งเขาจะตื่นตาตื่นใจกับนิทรรศการสัตว์สตัฟฟ์ต่าง ๆ จากทั่วโลกมากครับ ซึ่งก็ต้องบอกว่าทำได้ดี สวยงามมาก แต่ไปซาฟารีเวิร์ลง่ายกว่าไหมมมม (สำหรับคนรักสัตว์ นิวยอร์กผมได้ไปบร็องซ์ซูด้วยครับ ถือเป็นสวนสัตว์ที่ใหญ่อันดับต้น ๆ และตั้งอยู่ในถิ่น Bronx อันน่ากลัว เดี๋ยวจะมาเล่าครับ) แต่ยังมีดีอยู่ครับ เพราะ NEW YORK PASS ของเรารวมการเข้าชม Space Show ที่ Rose Center for Earth and Space ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ครับ ซึ่งตึกนี้จะเน้นไปที่เรื่องอวกาศครับ ตอนแรกเข้าไปในห้องลักษณะเป็นโดม ถ่ายรูปไม่ได้ คิดว่าคงเหมือนท้องฟ้าจำลอง แต่มันไม่ใช่เลยครับ มันอลังการมากกกกกกกกกกก ครับ เหมือนเราลอยหมุนติ้วไปในอวกาศ (เหมือนหนังเรื่อง Gravity) เพราะฉะนั้นมาแล้วห้ามพลาดครับ ไม่ใช่เด็ก ๆ
ออกจากมิวเซียมมาอากาศกำลังหนาวเหน็บได้ใจเลยครับตอนนั้น คิดถึงแล้วก็อยากไป เย็นนี้ของเราไม่เสียเปล่าครับ เพราะเราจะไปกันที่ TOP OF THE ROCK (ROCKEFELLER CENTER) จุดชมวิวใหม่ล่าสุดของนิวยอร์ก จุดชมวิวที่นี่จะให้อีกอารมณ์จากเอ็มไพร์สเตทครับ เพราะจากที่นี่เราจะมองเห็นตัวตึกเอ็มไพร์เอง และเห็นเซ็นทรัลปาร์ค
ROCKEFELLER CENTER เป็นคอมเพล็กซ์ของตึกออฟฟิศขนาดใหญ่ อารมณ์ Sun Tower บ้านเราไรงี้ครับ ช่วงที่ไปต้นเมษาถือว่าเป็นปลายหนาวต้นสปริงค์ ได้เห็นลานไอซ์สเกตในตำนาน หนังหลาย ๆ เรื่องก็ถ่ายที่นี่ ดูโรแมนติกมาก ๆ ครับ ซึ่งอาทิตย์ถัดไปก็ไม่มีแล้วครับ
ทีนี้พอเข้ามาในตัวตึกแล้วเราต้องลงไปชั้นใต้ดิน เพื่อเข้าสู่จุดแลกตั๋วครับการขึ้น TOP OF THE ROCK จะจำกัดคนแล้วแบ่งเป็นรอบๆครับ ผมเองรอรอบถัดไปประมาณ 20 นาที ก็เดินเล่นอยู่ใต้ตึกก่อนครับ จะเป็นพลาซ่า และร้านอาหารเหมือนใต้ออฟฟิศทั่วไปครับ แต่ไม่กินครับ งก 5555
พอได้เวลาก็มาขึ้นลิฟต์ความเร็วสูงพุ่งไปสู่ยอดตึกครับ ตัวลิฟต์เพดานจะเป็นกระจกให้เรามองเห็นในปล่องลิฟต์ขณะกำลังพุ่งขึ้นไปครับ ไม่ต้องรอแล้ว มาดูวิวจาก TOTR กันเลยครับ สะพรึงงงงงมากครับ น้ำตาแทบไหลครับ รู้สึกว่า THIS IS NEW YORK จริง ๆ ครับไม่ได้โม้
วันนี้ดึกแล้ว คงหลับกันหมดละ เดี๋ยวมาต่อพรุ่งนี้นะค้าบ หมดที่แรกไปมาแวะดูบรรยากาศตามท้องถนนมั่ง
สี่แยกหน้า Avenue of America Bryant Park
อีกรูปหนึ่ง ตึก Flat Iron ในตำนาน ที่ 27st Medison Sq. Garden ที่โปรดของผมในนิวยอร์กเลยครับ ชีวิตส่วนใหญ่ของผมในนิวยอร์กหมดไปกับการนั่งแอบดูนิวยอร์กเกอร์ในสวนนี่ล่ะครับ เดี๋ยวจะรวมสวนมาเป็นเซตให้นะครับ
มาแล้วคร้าบ มาต่อเลย เดี๋ยวคืนนี้ออกไปเที่ยวกันหมดซะก่อน ผมเชื่อว่านิวยอร์กเป็นเมืองที่ต้องมาเอง (ต้องเดินเอง สัมผัสเอง หรือเมืองไหน ๆ ก็เป็นงี้ทั้งนั้น) มาเป็นคณะทัวร์ขึ้นรถบัสเฮ้ว ๆ คงไม่ได้รู้จักนิวยอร์กจริง ๆ รอบนี้ผมจะพาไปเที่ยวตลาดนัดครับ
ที่จริงแล้วในนิวยอร์กมีตลาดนัดอยู่หลายที่ แต่ละที่ก็ต่างกันเช่นของ Antique หรือว่า ตลาดนัด Local Designer ซึ่งของแพงมาก ๆ ๆ แต่ที่จะพาไปกันวันนี้คือ Hell\'s Kitchen Flea Market ซึ่ง Hell\'s Kitchen เป็นชื่อของฝั่ง Midwest of Manhattan ที่ตั้งของตลาดเป็นอารมณ์ซอยตันใต้ทางด่วน อยู่ใกล้สถานี Port Authority (ท่ารถบัสขนส่งนิวยอร์ก)
ตลาดประมานวังหลังบ้านเรานี่ละครับ ขายของมือสองมั่งของทำเองมั่ง ของเก่าในบ้านขนมาขาย หนังสือเก่า ๆ แปลก ๆ
ในตลาดนี้มีเสื้อแจ็คเก็ตกันหนาวสวย ๆ ถูก ๆ ขายเพียบเลยครับ ราคาถือว่าไม่แพง แต่ก็ไม่ได้ถูกกว่าของใหม่เซลตามห้างมากครับ 30-60 USD ใครที่ชอบหาอะไรแปลก ๆ ไม่ซ้ำใครมาลองดู ของแถมอีกอย่างหนึ่งคือที่แถว ๆ ปากซอยทางเข้าตลาดจะมีร้านพิซซ่าบาทเดียว (1 Dollar Pizza) ที่อร่อยใช้ได้เลย หนึ่งในของถูกของนิวยอร์กที่เป็นที่พึ่งให้นักเที่ยวประหยัดแบบเรา ๆ ได้สบาย
ต่อเลยครับ ถัดจากตลาดนัดมา วันนี้จะไปเที่ยวสวนสาธารณะใหม่ล่าสุดของนิวยอร์ก นั่นก็คือ High Line ซึ่งสร้างขึ้นบนทางรถไฟยกระดับสายเก่าของนิวยอร์ก นึกภาพประมาณบีทีเอสแล้วมีคนขึ้นไปปลูกต้นไม้ไว้นั่นแหละครับ
HighLine อยู่ในย่าน Meatpacking ริมแม่น้ำฮัดสัน ค่อนมาทางใต้ของแมนแฮตตัน วิธีเดินทางมาก่อนนั่งรถไฟมาขึ้นที่สถานี 14St-8Ave (สถานีถนน 14 ตัดกับถนน 8) ภาพแรกที่เห็นตอนที่ขึ้นมาจากซับเวย์คือคนครับ คน คน คน คน เยอะมากก ยาวเหยียด ลักษณะของ highline เป็นทางผอม ๆ เลื้อยไปตามช่องว่างระหว่างตึก และแถวคนยาวเหยียดครับ คนมาเยอะมาก ๆ ทั้งนักท่องเที่ยวทั้งนิวยอร์กเกอร์ ช่วงที่ผมมาถึงเนื่องจากยังหนาวอยู่ เพราะฉะนั้น High line ก็แห่งเหี่ยวมาก
ช่วงที่มาที่นิวยอร์กกำลังมี Inside out project ครับ คือมีรถตู้มาให้คนเข้าไปถ่ายรูปแล้วรูปของคุณก็จะถูกเขาปริ้นท์มาปิดเป้นงานศิลปะตามที่ต่าง ๆ ในเมือง เห็นว่าที่ไทยก็เคยมีเหมือนกันครับแต่ค่อนข้างเงียบ ๆ ที่นี่แปะตามที่สำคัญ ๆ ทั่วเมืองเลยครับ
ลงมาจาก Highline ใน MeatPacking ก็เจอสิ่งนี้ครับ Uniqlo Pop Up Store มี Photo Booth ให้เข้าไปถ่ายด้วย บนหลังคารถมีดีเจมาเปิดเพลงมีเด็ก ๆ วัยรุ่น ฮิปสเตอร์ ลุงป้าน้าอา มายืนเต้นกันกลางแดดเบา ๆ
เที่ยวต่อเลยครับ ตอนนี้มาดูบรรยากาศในสถานีรถไฟใต้ดินของนิวยอร์กมั่งนะครับ
เกือบทุกสถานีใหญ่ ๆ จะมีวงดนตรีมาเล่นอยู่ครับ บางสถานีก็มีหลายวงเลย ทั้งวงแจ๊ซ วงร็อค ใครจะโชว์ฝีมืออะไรว่าไป แถมมีซีดีขายด้วย ความสนุกอย่างหนึ่งของที่นี่คือ ถ้าวงไหนเล่นดี ก็ขายซีดีได้จริงแล้วคนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็แวะเต้น แวะเล่นด้วย NYC only จริง ๆ ครับ
สถานีรถไฟใต้ดินในนิวยอร์กจำนวนมากจะเป็นทางแคบ ๆ ยาว ๆ สกปรกแบบนี้ และไม่มียามครับ รถไฟบางขบวนก็ไม่จอด พุ่งผ่านไปเร็วมากและอันตรายมาก ทุกคนเวลาไปรอรถไฟควรรออยู่ห่าง ๆ จากขอบและไม่รออยู่ในจุดอับเช่นซอกแคบ ๆ นะครับ ช่วงที่ผมไปมีข่าวออกว่ามีคนบ้าพุ่งเข้าไปผลักคนให้รถไฟชนครับ
วันนี้เราไปลงเรือกันครับ กับคูปองอีกใบจาก CITY PASS ซึ่งให้เลือกระหว่างไปเอลลิส เทพี กับล่องเรือรอบแมนแฮตตัน ช่วงที่ผมไปนิวยอร์กยังไม่ฟื้นตัวดีจากที่โดนพายุเฮอร์ริเคนครับ เกาะเอลลิส และเทพีเสรีภาพ ปิดครับ เลยไม่ได้ขึ้นไปเที่ยว จึงตัดสินใจใช้คูปองเลือก Circle line Cruise คุ้มมาก ๆ ครับ โดยมีให้เลือกทั้งหมด 3 Option ครับ
1. Semi - Circle line
2. Habour light
ทั้งสองแบบนี้ใช้เวลาสองชั่วโมงครับ เหมาะสำหรับคนว่าง ๆ แบบเราต่างกันที่แบบแรกเป็นกลางวันและแบบหลังเป็นแสงสีกลางคืนครับ เราเลือกแบบแรกครับ เพราะอยากชมเมืองแบบชัด ๆ และกลางวันก็หนาวมากแล้วครับ
3. Liberty Cruise ***ไม่มีจอดแวะให้ขึ้นเกาะนะครับ อันนี้สำหรับคนเวลาน้อยกว่าครับ จะใช้เวลาทั้งหมด 75 นาที และวนชม Lower Manhattan กับ Liberty เท่านั้นครับ
เรือเองก็มีเป็นรอบ ๆ นะครับ ต้องไปถึงก่อนเวลาถ้าพลาดรอบไปรออีกนานจนหง่อมเลยครับ และที่สำคัญไม่ได้มีถึงเย็นครับ
เรือก็จะเป็นเรือเฟอรี่ขนาดใหญ่ชั้นล่างเป็นห้องกระจก มีร้านขายกาแฟร้อน ๆ บนเรือด้วยครับ ส่วนชั้นบนเป็นดาดฟ้าเป็นโล่งรับลม (หนาวจนหน้าชา ตัวสั่น) เห็นวิวเต็มที่ อยากถ่ายรูปต้องอยู่บนนี้ละครับ บรรยากาศบนเรือ คนเต็มเลยครับ
ออกจากท่ามาเจอสนามไดรฟ์กอล์ฟริมแม่น้ำ กับท่าเรือเก่า (PIER) ท่าเรือเก่ามีอยู่เยอะมากรอบ ๆ แมนแฮตตัน ตอนนี้กลายเป็นโกดังเป็นตลาด เป็นร้านอาหารบ้าง
เรือค่อย ๆ วนมารอบ ๆ อีกด้าน
เทพี ครับ เงียบเหงาแห้งแล้งมากเพราะปิดซ่อมอยู่ครับ (ตอนนี้เปิดแล้วนะครับ เทพีปิดอยู่นานเกือบปีครับ)
รูปนี้เรืออยุ่ตรงถนน 42 พอดีเป๊ะ เส้นนี้มุ่งหน้าผ่านแกรนด์เซ็นทรัล มองเห็นทั้งเอมไพร์และตึกไครส์เลอร์ ตรงกลาง
โรงงาน Domino Sugar ร้าง ริมฝั่งบรู๊คลิน (ติด top สถานที่น่ากลัวที่สุดในโลกด้วย สวยดีเนอะ)
สะพานแมนแฮตตันใกล้ ๆ
สะพานบรู๊คลิน รอยซ่อมปะ เพียบ ไม่รู้คนสมัยก่อนสร้างได้ยังไง
ใกล้ท่าจอดเรือของเรามีสิ่งนี้จอดอยู่ด้วยไม่รู้ว่าคือเรืออะไร น่าจะขึ้นไปเที่ยวได้
ฮาโหล มาต่อแล้วครับ เผื่อมีใครอยู่บ้านว่าง ๆ รอไปฉลองคืนนี้มาอ่านคร้าบ
จะอัพไปเรื่อย ๆ จนเย็นละกันเนอะ ตอนนี้ก็ได้เวลาไปเที่ยวอีกหนึ่ง LAND MARK สำคัญ ของนิวยอร์กครับ
911 Memorial อนุสรณ์รำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 911 ที่ World trade center โดยอนุสรณ์แห่งนี้จะสร้างขึ้นเป็นสระน้ำตกขนาดยักษ์ขนาดเท่าฐานของตึกเก่าที่เคยตั้งอยู่ตรงนั้นทั้งสองตึกครับ
การเดินทาง
เราขึ้นซับเวย์สาย 2.3 มาที่สถานี Fulton St. อยู่เกือบตอนใต้สุดของเกาะ ก่อนเข้าไปถึงมีโบสถ์เก่าอยู่ แอบแวะเข้าไปครับ วังเวงเบา ๆ
เนื่องจากตัวตึก WTC ใหม่ หรือ Freedom Tower ยังสร้างไม่เสร็จ บริเวณนั้นจึงเต็มไปด้วย site งานก่อสร้างครับ ระหว่างการเดินเข้าไปใน site จะต้องเดินตามคอกกั้นมีเจ้าหน้าที่ควบคุมตลอดพร้อมทั้ง ต้องมีการตรวจกระเป๋าเข้าเครื่องสแกนระดับเดียวกับสนามบินด้วยครับ
การเข้าไปนี่เสียเงินนะครับ โดยจะให้บริจาคเท่าไรก็ได้ ผมก็ให้ไปนิดหนึ่งอ่ะครับ แต่ถ้าเกิดคุณให้เงินถึงเรทของเขาก็ได้รับของที่ระลึกด้วยนะครับ ไม่แน่ใจว่า 5 หรือ 10 USD
เข้ามาถึงจะเป็นพลาซ่าขนาดใหญ่มีที่นั่งเยอะแยะ คนมานั่งกันเพียบ มีเสียงน้ำตกคลอตลอดเวลา
เพิ่มเติมนะครับสำหรับขาช้อป ถ้ามา 911 แล้วให้เตรียมเงินกับเผื่อเวลามาได้เลยครับ เพราะ 911 อยู่ติดกับ ห้าง Century21 ห้าง outlet เซลตลอดปีในตำนานของ NYC เข้ามาจะพบกับข้าวของเครื่องใช้ เครื่องสำอาง (เครื่องสำอางที่นี่ยังไม่ถูกที่สุดนะครับ) และกระเป๋า American brand มากมายมหาศาลที่แขวนกันเป็นราว ๆ ๆ ๆ ตลาดนัดเลยครับ สำหรับเสื้อผ้าก็มีให้เลือกเยอะมาก โดยเฉพาะพวก เสื้อกันหนาวต่าง ๆ ที่นี่จะถูกเป็นพิเศษ แต่คนตัวใหญ่ได้เปรียบนะครับ เพราะ size asia เล็ก ๆ ค่อนข้างหายาก (ภาพจาก google)
เดี๋ยวพาไปที่นี่ต่อ คุ้น ๆ ไหมคับ
บางทีผมไปหลายครั้งหลายวันจะรวมรูปมาให้ดูทีเดียวเลยนะครับ ใกล้ ๆ กันก็คือตึกไครส์เลอร์ อันโด่งดังครับ เข้ามาดูข้างใน สถานีรถไฟ Grand Central
ตรงกลางลานก็คือนาฬิกาทอง สัญลักษณ์ของที่นี่ เลข 100 ที่เห็นอยู่คือช่วงที่ไปกำลังครบรอบ 100 ปี Grand Central พอดีครับ มีการจัดนิทรรศการที่ Transit Museum เกี่ยวกับการรถไฟต่าง ๆ ในนิวยอร์ก เข้าฟรีครับ
แผงขายตั๋ว
ทางเดินรอบๆห้องโถงหลักลงไปขึ้นรถไฟใต้ดินและร้านอาหาร ในชั้นใต้ดินของที่นี่มีร้านอาหารใหญ่โตอยู่ร้านนึง ดูท่าจะร้านดัง(และแพง จึงไม่ได้กินครับ)
วันนี้จะพาทุกท่านขึ้นเหนือออกจากแมนแฮตตันไปถิ่นแว๊นของนิวยอร์กนั่นก็คือ THE BRONX ครับ ที่เป็นเขตแดนนอกตารางของบริษัททัวร์ทั่วไทยก็ว่าได้
THE BRONX คือย่านที่ถูกพูดถึงบ่อยในหนังว่าเป็นย่านคนจน เขตอิทธิพล แก๊งสเตอร์ข้างถนน ซึ่งจริง ๆ แล้ว ก็คือเขตชานเมืองของนิวยอร์ก เปรียบเทียบง่าย ๆ ก็เหมือน ฝั่งธน บางแค อะไรประมาณนี้ก็ว่าได้ครับ แถบนี่ไม่ใช่ถิ่นธุรกิจแทบจะไม่มีตึกสูง แม้แต่รถไฟใต้ดินก็ขึ้นมาวิ่งบนดินเป็นรถไฟลอยฟ้าครับในโซนนี้ และเป็นย่านอยู่อาศัยที่มีคนแอฟริกัน อเมริกัน อาศัยอยู่มากที่สุด
วันนี้เนื่องจากเป็นวันพุธ และวันพุธสถานที่สาธารณะหลายแห่งไม่เก็บค่าเข้าครับ !!!!!! แต่ !!!!! ให้เราบริจาคเท่าไรก็ได้เท่าที่ความหน้าด้านของเราจะสู้ไหวครับ 555555 อย่างผมจ่ายที่ละ 1 usd, 5 usd
เป้าหมายแรกของเราในวันนี้ตั้งแต่เช้าตรู่ก็คือ NEW YORK BOTANICAL GARDEN ครับ เนื่องจากอเมริกาเป็นประเทศอากาศหนาว จึงมีการรวบรวมพืชพันธุ์ต่าง ๆ จากทั่วโลกมาไว้ที่นี่ครับ และจัดแสดงในเรือนกระจกและกลางแจ้งให้ดูตลอดทั้งปี
ด้วยสไตล์แบ็กแพ็กเกอร์ของเรา อะไร ๆ ก็ต้องไม่เป็นไปตามแผนครับ
มาไม่ทันเวลาเข้าฟรี 55555 เสียตังค์ค่าเข้าไปเลยครับ ที่จริงแล้วความตั้งใจคือจะไปดูซากุระครับ แต่ปรากฏว่ายังไม่ออกครับ เขามีป้ายแปะไว้เลยว่าซากุระยังไม่ออก 55555 แต่โชคดีที่ตอนนั้นมีการจัดแสดงกล้วยไม้แทนครับ ตอนแรกก็คิดว่ากรูไปดูหน้าพารากอนก็ได้วะ แต่ปรากฏว่า เห้ย มันดีมากครับ ข้ามาในสวนจะเจอเรือนกระจกครับ ใหญ่ยาวมากครับ เดินได้เป็นชั่วโมงครับโดมนี้
ด้านนอกก็เป็นสวนสวยงามครับ ถ้าไปช่วงอุ่น ๆ คงสวยมาก นี่หนาวมือหงิกเลยครับ
ออกจาก Botanical Garden นะครับ เดินออกมาเรื่อย ๆ ตามถนน ที่ค่อนข้างวังเวงนิดนึง ของบร็องซ์ เราจะมากันที่ Bronx Zoo ครับ
Bronx Zoo คือสวนสัตว์ขนาดมหึมาที่เป็น สวนสัตว์ในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นบริเวณหุบเขาขนาดใหญ่และมีแม่น้ำไหลผ่าน นอกจากการจัดแสดงสัตว์ในลักษณะของกรงที่มีการจัดการอย่างใหญ่โตสวยงามแล้ว ยังแบ่งสัตว์ออกเป็นโซน ๆ โดยมีภูมิประเทศของสัตว์นั้น ๆ เป็นบริเวณใหญ่มาก ขณะที่คนดูเหมือนเดินเข้าไปแอบดูมันใช้ชีวิตในเวิ้งของมัน ไม่ได้เป็นบ่อแคบ ๆ แล้วมีคนดูรอบด้านเหมือนสวนสัตว์ปิดในไทยทั่วไป และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เดินไกลมาก ขาลากสุด ๆ
เดี๋ยวต่อไปจะพากลับเข้าไปเที่ยวในเมืองต่อ
วันนี้เราจะกลับมาใช้ City Pass กันนะครับ เพราะว่าจะไปที่ MET หรือ
Metropolitan Museum of Art
ที่เขาบอกว่าเป็นแม่ของบรรดามิวเซียมทั้งปวงในนิวยอร์กครับ
สไตล์คนตื่นสายครับ ออกมาเดินเที่ยวนิดหน่อย สาย ๆ ประมาณ 11
โมงก็ไปที่มิวเซียมที่อยู่ในเซ็นทรัลปาร์คฝั่ง Upper Eastside
การเดินทางใช้ซับเวย์สาย 4, 5, 6 สถานี 86st ครับ
ด้วยความขึ้นชื่อเรื่องความมหึมาของมิวเซียมที่นี่ แผนของผมเลยกะว่าจะอยู่ที่นี่ทั้งวันจนเย็นครับ สำหรับบัตร Citypass ของเรา วีไอพีมากครับ ไปถึงแลกได้เลยมาเป้นเข็มกลัดแบบหนีบตรา M อันเล็ก ๆ ครับ โดยจะใช้เข้าออกกี่รอบก็ได้ภายในวันนั้นจนกว่ามิวเซียมจะปิด สะดวกมากครับ เพราะความใหญ่ของมัน เลยต้องออกมากินข้าวแล้วกลับเข้าไปครับ ข้างหน้ามีแต่แบบมีหน้าผมคับ ขอยืมจากเน็ต มันใหญ่จริง ๆ ครับ
ศิลปวัตถุต่าง ๆ ในนี้เยอะมากครับ เป็นล้านชิ้น จริง ๆ โดยครอบคลุม รวมรวบมาจากทุกที่ในโลกแบ่งเป็นยุค เป็นโซนเป็นทวีป แต่สำหรับความล้ำค่า หรือความโบราณคงต้องยอมแพ้ยุโรปอย่างบริติชมิวเซียมเขาครับ เพราะเขามีชิ้นเด็ด ๆ อึ้ง ๆ มากกว่าที่นี่ แต่ที่นี่จะร่วมสมัย มีอะไรที่เราคุ้นหรือเคยเห็นผ่านสื่อ หรือตอนเรียนมากกว่าครับ
หายใจเข้าลึกๆนะครับ วันนี้จะพาไปเที่ยวสถานที่ในฝันของใครหลายคน
CENTRAL PARK หนึ่งในสวนสาธารณะที่สวยและเป็นที่จดจำที่สุดในโลก เสร็จจาก MET ประมาณ 4 โมงก็เดินเข้ามาในปาร์คครับ โดยเริ่มออกเดินจาก MET เรื่อย ๆ ลงมาฝั่ง midtown ที่ columbus circle ที่ค่อนข้างจะครึกครื่นกว่าครึ่งฝั่งบนที่วังเวงนิดหนึ่ง เดินต่อมาเรื่อย ๆ จนมาออกที่ Columbus Circle ตรงนี้จะมีอนุสาวรีย์ระลึกถึงโคลัมบัส และตึก Time Warners ตึกแฝดที่สร้างล้อมวงเวียนนี้ไว้ อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของนิวยอร์ก
มาแล้วค้าบ เผื่อยังมีใครที่นอนดึก รอดูอยู่ ตอนนี้ดูรูปเล็ก ๆ น้อย ๆ จากนิวยอร์กกันก่อนเลย เจ้ากระทิงดุใน ตำนาน ที่ Bowling Green
เดินออกมาอีกนิด ตอนนี้เราจะอยู่ปลายสุดของเกาะแมนแฮตตันเลยครับ ตรงนี้จะมีมิวเซียมอยู่เข้าฟรีด้วย คือ National Museum of American Indian มิวเซียมที่รวบรวมประวัติศาสตร์ ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ของคนอินเดียนแดงเอาไว้ครับ พอดีผมมาไม่ทันฮะ ปิดซะก่อน 5 โมงแล้ว
ถัดมาอีกนิดก็คือ Batterry Park สวนสาธารณะที่ปลายสุดของแมนแฮตตัน ที่นี่จะมีที่นั่งรับลมหันหน้าเข้าสู่ท้องทะเลครับ วันที่มาแดดแรงไปนิดหนึ่ง และจะมีแท่นหิน หันหน้าสู่ทะเล จารึกรายชื่อทหารผู้เสียชีวิตไว้
BROOKLYN ถิ่น HIPSTER ทุกวันนี้เขาว่ากันว่าคือยุครุ่งเรืองของฝั่ง บรู๊คลิน ครับหลังจากที่แมนแฮตตันนั้นวุ่นวาย เต็มไปด้วยคนหลากเชื้อชาติ หลากภาษา ค่าเช่ากูพุ่งไม่หยุด รวมถึงบรรดานักท่องเที่ยวที่มากมายมหาศาล สาเหตุเหล่านี้ส่งผลให้บรรดา ศิลปิน คนเก๋ ๆ คนคูล ๆ เด็กแนว และที่สำคัญคือคนชอบขี่จักรยาน (เกี่ยวมั้ย) พากันอพยพไปตั้งรกรากอยู่ในเขตบรู๊คลิน ส่งผลให้หลาย ๆ ย่านในบรู๊คลินกลายเป็นถิ่นฮิปสเตอร์ มีคาเฟ่ชิล ๆ ร้านขายของ local designer ร้านอาหารสวย ๆ ร้านเสื้อแปลก ๆ แกลอรีงานศิลปะ เกิดขึ้นมากมาย
แต่ก่อนจะข้ามไปบรู๊คลินได้ เราต้องไปที่นี่กันก่อนครับ BROOKLYN BRIDGE ใครที่จะมาเที่ยวสะพานบรู๊คลินเตรียมใจไว้เลยนะครับว่าต้องเดินไกลลลลลมากกก พอควรเลย โดยเราจะออกมาที่สถานี Brooklyn Bridge City ด้วยซับเวย์สาย 4 5 6
Prospect Park เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของนิวยอร์ก บางคนบอกว่าสวยกว่า central park ซะอีก โดยที่ขึ้นชื่อเลยคือแถวต้นซากุระและฝูงหงส์ในทะเลสาบ ผมเลยดั้นด้นตื่นแต่เช้ามาถึงบรูคลินเพื่อมาที่นี่ครับ และนี่คือ PROSPECT Park
วันนี้ก็ได้มาครับ โดยมาที่ย่านระหว่าง Bedford Ave-Grand ผมไม่ได้ถ่ายรูปมาเอง ขอเอารูปจากเน็ตนะครับอันนี้ แต่บรรยากาศก็ดี ชิล และเท่มาก ๆ ครับ
ในย่านนี้ตลอดทั้งสองฝั่งถนนจะเป็นร้านเล็ก ๆ มากมาย ทั้งร้านอาหารเก๋ ๆ คาเฟ่ชิล ๆ ร้านเสื้อ local designer (แต่ราคาไม่ local) และแกลอรีต่าง ๆ เพียบให้เทียบก็อาจจะประมาณย่านร้านอาหารแถวเอกมัยทองหล่อ หรือว่าพระอาทิตย์ก็ได้มั้งครับ อีกเรื่องที่น่าสนใจคือตามกำแพง ตามมุมต่าง ๆ ตลอดทั้งถนน จะมีแต่กราฟิตี้ งานสตรีทอาร์ตสวย ๆ ให้เราได้แวะถ่ายรูปกันได้เลย สำหรับนักท่องเที่ยวอาจจะแอบแปลกประหลาดนิดหนึ่ง เพราะโซนนี้แทบจะมีแต่คนในพื้นที่หรือบรรดาฮิปสเตอร์นิวยอร์กครับ
ป.ล. ใครที่ชอบแฟชั่น คนในย่านนี่แต่งตัวกันจัดเต็มแบบสตรีทแฟชั่นสไตล์นิวยอร์กจริง ๆ ครับ มากมายหลายแนวมาก
ในที่สุดก็มาถึงสักที รูปนี้เป็นอะไรที่ผมรออัพอยู่นานมากครับ Roosevelt Island (สถานี Roosevelt Island Subway สาย F)
Roosevelt Island คือเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่กลางแม่น้ำอีส ระหว่าง ย่านมิดทาวน์แมนแฮตตันและควีนส์ ไม่มีถนนเชื่อมถึง เดินทางด้วยซับเวย์หรือเคเบิลคาร์เท่านั้น ในโปรแกรมทัวร์ใด ๆ แทบจะไม่มีใครมาเที่ยวเกาะนี้หรอกครับ บนเกาะมีคอนโดอยู่บ้าง และมีสถานพักฟื้นพยาบาลของผู้ป่วยอยู่ โดยทางใต้สุดของเกาะมีสวนเล็ก ๆ และมีซากร้างของสถานพยาบาลผู้ป่วย
สถานีรูสเวลล์เป็นสถานที่อยู่ลึกมาก (ซับเวย์ส่วนใหญ่ของนิวยอร์กลงบันไปแค่ประมาณครึ่งชั้นก็ถึงสถานี) และเป็นทรงกลมเป็นคลาสสิคมาก ไม่รู้ทำไม สงสัยเพราะเป็นเกาะกลางน้ำ
โผล่ขึ้นมาจากสถานีครับเดินออกมา มุ่งหน้าทางใต้ของเกาะ เจอสะพานควีนส์บริดจ์
ความสวยงามของ Roosevelt Island มันเกินจะบรรยายจริงครับ 555
Bonus จาก Roosevelt Island ยังไม่หมดแค่นี้ครับ อย่างที่บอกไปแล้วว่า Roosevelt Island ไม่มีถนน การเดินทางมาที่นี่จึงมีอยู่สองทางเท่านั้นคือซับเวย์สาย F ที่วิ่งจากแมนแฮตตันไปควีนส์ และเคเบิลคาร์ ที่ข้ามจากแมนแฮตตันมาที่นี่ เพราะฉะนั้น เดี๋ยวเราไปขึ้นเคเบิลคาร์เข้าเมืองกันครับ ที่เซอร์ไพรส์ไปกว่านั้นคือ ใช้บัตร Metro ขึ้นได้ครับ สบายเล้ยยยยยยยยยย
หลังจากพาไปเที่ยวที่แปลก ๆ กันมาเยอะแล้วนะครับ กลับเข้าแมนแฮตตันมาที่ ๆ ห้ามพลาด ที่ใคร ๆ ก็ต้องไปกันครับ
NEW YORK LIBRARY ตั้งอยู่ที่สถานี Bryant Park 42st (subway B D F M) แถวมิดทาวน์ ด้านหลังสวน Bryant Park ที่ ๆ ผมเองก็ชอบมานั่งกินข้าวอยู่บ่อย ๆ (เรื่องอาหารการกินค่อยว่ากันยาว ๆ เนอะ) บางคนอาจจะคุ้นกับตัวสิงโต จาก the day after tomorrow หรือ sex and the city ที่นี่คือหนึ่งในห้องสมุดที่สวยที่สุดในโลก หรือสวยที่ผมเคยไปนั่นแหละครับ โดยไฮไลท์จะอยู่ที่ Main Reading Room ด้านบนของห้องสมุด และแน่นอนว่าเมื่อเป็นห้องสมุดก็ต้องเข้าฟรี หายห่วง ไปดูข้างในเลยค้าบ
ภาพด้านนอกก่อนครับ (ลืมถ่ายอีกแล้ว ขอยืมจากกูเกิลก่อน)
เข้ามาด้านในเจอห้องโถงหินอ่อน
สิงโตเลโก ไม่รู้ยังมีอยู่มั้ย
และนี่คือออออออ the Main Reading Room คนที่นี่เขามานั่งอ่านหนังสือกับแบบเช้ยเฉย ไม่แยแสความงามใด ๆ คงชินแล้ว ออกจะรำคาญนักท่องเที่ยวด้วยซ้ำ เข้ามาในนี้เราถ่ายรูปได้แต่ก็คุมเสียงครับ
เปลี่ยนอารมณ์ ขอคั่นพาไปดูถนนหนทางนิวยอร์กตอนกลางคืนบ้างครับ ช่วงที่ไปอากาศเย็น พอเริ่มมืดก็หมอกทึบเลยครับ นี่คือ Empire ในสายหมอกครับ
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ มานิวยอร์กแล้ว จะไม่ไปแลนมาร์คสำคัญของนิวยอร์กได้ยังไง ว่าแล้วก็ถึงเวลาใช้คูปองที่เหลือของ NEW YORK CITY PASS เลย จะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจาก EMPIRE STATE ก่อนอื่นขอย้อนไปดูวิวจาก TOP OF THE ROCK จากคราวที่แล้วกันก่อน
EMPIRE STATE ขึ้นมาแล้วววววว ช็อตแรก เห็น Central park อยู่ไกล ๆ และ Top of the Rock ทีมีทรงตึกเป็นขั้นบันได ๆ อยู่ใกล้ ๆ พาร์ค
********COUPON จาก NEW YORK CITYPASS*********** ให้คุณขึ้นเอมไพร์ได้ถึงสองรอบนะครับ คือรอบแรกตอนไหนก็ได้ และรอบที่ 2 หลังสี่ทุ่มของวันนั้นเพื่อมาชมบรรยากาศตอนกลางคืนครับ เพราะฉะนั้นพระอาทิตย์ตกแล้วก็ไปเดินเล่นหาของกินกันได้เลยครับ แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะครับ ว่าเขาเข้ม 4 ทุ่ม คือ 4 ทุ่มจริง มาก่อนนาทีเดียวก็ไม่ได้ครับ โอเค พอได้เวลาสี่ทุ่มเรากลับไปที่เอมไพร์อีกรอบครับ จะพยายามเน้นเนื้อ ๆ ไม่น้ำเยอะนะคร้าบ 55555
Financial District
กลับมาที่ล็อบบี้
โดยสรุปนะครับ สำหรับเอ็มไพร์ทั้งสองรอบ
คือการได้มาเห็นวิวมุมสูงมากกกกกกก มากกกกก ของนิวยอร์ก
โดยจะได้ดูตึกย่านมิดทาวน์ และมองไกลไปถึง Lower Manhattan
แต่ข้อเสียคือจะมองไม่เห็น Central Park รอบดึกก็มื้ดมืดไปหน่อยครับสี่ทุ่ม
ผมเองถ่ายรูปไม่ค่อยเก่งด้วย
ส่วน Top of the Rock ข้อดีคือได้รู้สึกบรรยากาศแบบนิวยอร์กจริง ๆ มากกว่า คือมองเห็นเอมไพร์ ได้ถ่ายรูปกับเอมไพร์ และมองเห็นพาร์ค เป็นรูปสี่เหลี่ยมเลย ซึ่งผมชอบมาก แต่ก็มานะมาถึงนิวยอร์กจะไม่ขึ้นเอมไพร์ได้ไง ในเมื่อเราใช้ city pass ก็ไม่ต้องคิดมากครับ ขึ้นไปเถอะ 555
MOMA Musuem of Modern Art นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง coupon ใน New York City Pass ของเราครับ MOMA น่าจะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในมิวเซียมที่ดังที่สุดในโลก ข้างในมีงานศิลปะสมัยใหม่ ที่พวกเราหลาย ๆ คนเกิดทัน หรือได้เห็นในหนังสือ ในโปสเตอร์ต่าง ๆ เยอะ เปรียบกับฝั่งยุโรป Met อาจจะเหมือน British museum ส่วน MOMA ก็เหมือน Tate Modern ไรแบบนี้ครับ
วิธีการเดินทางมา MOMA ก็ใช้ซับเวย์ของเรามาที่สถานี Rockefeller (สาย B D F V) หรือ 5 Ave-53st. สาย E V ครับ โดยขอบอกว่าที่ MOMA คนเยอะมากกกกกกกกก แน่นมากกก ครับ ลูกเล็กเด็กแดงเพียบ ถ้ามาเช้า ๆ คนอาจจะน้อยหน่อยครับ ไปดูรูปเลยครับ มีอันไหนที่คุ้น ๆ บ้าง
ใครว่านิวยอร์กมีแต่ตึก หลาย ๆ ย่านในนิวยอร์กก็น่ารักและร่มรื่นอย่างกับลอนดอน (ผมมั่วนะ) นอกจากนี้ยังมีสวนสวย ๆ บรรยากาศดี ๆ อีกเพียบ ถ้ามานิวยอร์กแล้ว ต้องลองไปนั่งในพาร์คกับเข้ามั่ง แล้วเราจะรู้ได้อีกเยอะว่าบรรยากาศนิวยอร์กจริง ๆ คนที่นี่เขาเป็นยังไง ส่วนนี้จะขอรวมสถานที่ตามท้องถนนในนิวยอร์กที่น่าไปนอกจากที่เด่น ๆ ดัง ๆ
วันนี้จะไปเที่ยวย่าน Lower Manhattan ที่ Bleeker Street เป็นอีกหนึ่งย่านฮิปของนิวยอร์ก แต่จริง ๆ แล้วน่าจะเรียกว่าเป้นย่านคนรุ่นใหม่ ย่านเด็กวัยรุ่นซะมากกว่า เพราะอยู่ใกล้มหาลัยใหญ่อย่าง NYU (NYU เป็น ม.เอกชน ที่ใหญ่อันดับต้น ๆ ของอเมริกา เปรียบเทียบก็ BU แต่ก็ต้องมีการสอบเข้าเช่นกัน) ในย่านนี้จะมีร้านรวงเล็ก ๆ น่ารัก บรรยากาศสบาย ๆ ร้านคาเฟ่ ไอติม ร้านตึกแถวต่าง ๆ เพียบ ที่สำคัญคือเป็นที่ตั้งของร้าน Marc Jacobs มากมายหลายสาขา เพราะฉะนั้นขาช้อปห้ามพลาดฮะ
NYU ที่ในฝันของหลายคน ลักษณะของ NYU จะเป็นตึกใหญ่ ๆ แบบนี้กระจายอยู่หลาย ๆ ตึกในถนนนี้ครับ ดูเผิน ๆ ก็เหมือนตึกออฟฟิศนี่เอง *** สำหรับขาช้อป American Apparel สาขาใหญ่อยู่ใกล้ ๆ NYU นี่ล่ะครับ เพื่อนฝากซื้อเสื้อตัวอักษรตรึมครับ
แถว ๆ NYU คือ Washington Square Park อีกที่หนึ่งที่ห้ามพลาดในนิวยอร์ก กับ Landmark สำคัญ คือประตูชัย และสีสันพิเศษคือเด็ก ๆ ในย่านนี้ที่จะมาแฮงก์กันอยู่ในสวนครับ มาแล้วได้บรรยากาศนิวยอร์กสุด ๆ บางคนก็ปั่นมา
ประตูชัย
Madison Square Park คือสวนสาธารณะสุดโปรดของผม Madison Square Garden คือ สนามกีฬา ที่จัดคอนเสิร์ต ไม่เกี่ยวกันนะครับ ทำไมผมถึงชอบ Madison Square Park เพราะที่นี่อยู่ในย่านมิดทาวน์ น่าจะเป็นย่านที่ busy และมีอะไรให้เดินเที่ยวเยอะที่สุดแล้ว จากสวนนี้นอกจากที่นั่งสบายแล้วยังมองเห็นแลนมาร์คสำคัญของนิวยอร์กคือ Flat iron และ Empire
สามแยก FLATIRON ด้านซ้ายคือสวน
เทคนิคประหยัดเงินค่าอาหารที่สำคัญมาก ๆ ๆ ๆ ของผม คือการซื้อใส่กล่องมานั่งกินข้างนอก ไม่ต้องเขินไปนะครับ เพราะใคร ๆ เขาก็ทำกัน และนี่คือโต๊ะกินข้าวประจำของผมครับ (ในรูปจะเห็นนกตะปูยักษ์อยู่ ตอนแรก ๆ ที่ผมไปก็ยังไม่มีเลยครับ นี่ก็คือความสนุกอีกอย่างหนึ่งของที่นี่ มีงานศิลปะใหม่ ๆ หมุนเวียนมาตลอด)
คุณภาพชีวิตของเขามันน่าอิจฉาจริง ๆ ครับ การเลี้ยงสัตว์ที่นี่เป็นเรื่องแพงมาก โดยในสวนจะมีโซน dog run ให้คุณพาหมามาปล่อยวิ่ง ได้ตามใจเลยครับ
Madison Square Park
BRYANT PARK อยู่แถวมิดทาวน์ใกล้เอมไพร์และ Rockefeller ไบรอันพาร์ค คือโต๊ะอาหารกลางวันของชาวออฟฟิศในนิวยอร์กครับ ช่วงแรก ๆ ที่ไปยังหนาวอยู่จึงแห้งแล้งเงียบงันมาก
ลักษณะเป็นสนามหญ้ากว้าง ๆ อยู่หลังห้องสมุด พอวันอากาศดีไปปรากฏคนแน่นมากครับ ใคร ๆ ก็ชอบมานั่งกินข้าวกลางวันกันที่นี่ ตอนผมไปมีลานเบียร์เล็ก ๆ ด้วยครับ เนื่องจากผ่านไปตรงนี้บ่อยไม่รู้ว่าถ่ายรูปไปเก็บไว้ไหน จึงขอแจมด้วยภาพจากเน็ตนะครับ
ขออีกสักทีหนึ่งนะครับ Herald Sq. ลานจตุรัสกลาง มิดทาวน์หน้าห้าง Macy\'s ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก (รู้สึกว่าตอนนี้ตกไปล่ะ) นอกจากช้อปแล้ว ลานจัตุรัสเล็ก ๆ อันนี้ก็เหมาะจะเป็นที่นั่งพักเหนื่อยหาไรกินระหว่างช้อปครับ
ไหน ๆ มาถึงนิวยอร์กแล้วก็ต้องไป TIMES SQUARE เพราะงั้นไปดูรูปจากไทม์สแคว์กันครับ
ไม่มีอะไรต้องพูดเยอะอยู่แล้วสำหรับที่นี่นะครับ ทุกคนรู้จักดีอยู่แล้ว อีกหนึ่งที่ในโลกที่เราควรได้ไปยืนกันสักทีครับ เมื่อมาถึงนิวยอร์ก และไทม์สแควร์ อีกอย่างหนึ่งที่เรานึกถึง คือ BROADWAY ละครบรอดเวย์ แต่ละครบอร์ดเวย์เรื่องหนึ่งนี่ราคาไม่ใช่เล่นเลยครับ เรื่องที่เป็นที่รู้จักหน่อยก็ราคาเกือบ 4 พันบาทไทย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องดัง ๆ อย่าง lion king ที่ตั๋วเต็มล่วงหน้าหลายเดือน สำหรับใครที่อยากดูละครบรอดเวย์สักครั้ง มีวิธีประหยัดอยู่ครับ
เจ้าบันไดแดงที่ใคร ๆ มาถ่ายรูปด้วยเนี่ยมันไม่ใช่แค่บันไดเฉย ๆ ครับ แต่ที่จริงแล้วมันคือบูธของ TKTS ซึ่งย่อมาจากอะไรไม่รู้ เอาเป็นว่ามันคือจุดขายตั๋วของละครบรอดเวย์แทบทุกเรื่องในนิวยอร์กครับ โดยถ้าหากคุณมีเรื่องในใจที่อยากดูแน่ ๆ และมีเงินในกระเป๋าก็มาจองตั๋วล่วงหน้าได้ครับ (แต่เรื่องเด็ด ๆ อย่างไลออนคิง ที่อลังการงานสร้างจองล่งหน้ามาตั้งแต่ในเน็ตหลาย ๆ เดือนนะครับ)
แต่ในวันนั้นหรือเย็นวันนั้นก่อนละครจะเริ่ม
(มักจะเริ่มประมาณ 2 ทุ่ม) TKTS จะขายตั๋วที่เหลืออยู่ครึ่งราคาครับ
ผมเองก็งง ๆ เดินถ่ายรูปอยู่ได้ไปดูละครบรอดเวย์กับเขาในราคา 74usd ครับ
โดยซื้อมาตอนทุ่มครึ่งได้ครับ คนโล่งมากตรงนั้น
อาจจะยังแพงอยู่ถ้าเทียบละครเวทีไทย แต่ครั้งหนึ่งในชีวิตอ่ะมาแล้ว
แล้วพอได้ดูบอกเลยว่าไม่เสียดายเลยครับ นักแสดงเขาเก่งจริง ๆ
ร้องได้เต้นได้ สุด ๆ
ยังไงก็ตามส่วนใหญ่ตั๋วเรื่องที่ทุกคนรอคอยแบบ Lion king หรือ wicked, Mary poppin ไม่มีนะครับ อย่างวันที่ผมไปซื้อมีหลาย ๆ เรื่องที่คนไทยรู้จักเช่น Mamma Mia! Chicago และอื่น ๆ ครับ โดยละครแต่ละเรื่องก็จะแสดงในแต่ละโรง ในย่านนั้นครับ สำหรับผมเลือกดู Chicago ครับ
เขาห้ามถ่ายรูปเลยนะครับ แต่ด้วยความเป้นคนนิสัยไม่ดีเลยแอบกดมาได้จึ้กนึง
ชิคาโกเขาจะร้องเล่นเต้นกันแบบสด ๆ ที่เวทีด้านหน้าครับ โดยแบ็คกราวด์จะเป็นวงดนตรีที่เล่นอยู่แบบสด ๆ เช่นกันครับ คิดแล้วก็อยากดูอีกครับ
วันนี้ฝากไว้เท่านี้ก่อนนะคร้าบ ผ่านมาสองตอนใกล้ถึงบทสรุปแล้ว เป็นมือใหม่ พึ่งหัดเที่ยว พึ่งหัดรีวิว เห็นมีคนตามอ่านก็ดีใจมาก ๆ เลยครับ เดี๋ยวจะรีบมาต่อครับ ขอไปเคลียร์งานก่อน 55555
นอกเรื่อง นอกลู่ นอกทาง นอกนิวยอร์ก ไม่ว่ากันนะครับ นอกจากไปช้อปปิ้งที่ outlet แล้ว (แหม่ ถึงประหยัดไงมันก็ต้องไปป่ะ) บินข้ามน้ำข้ามทะเลมา เกือบ 25 ชั่วโมง ถึงรักนิวยอร์กแค่ไหนแต่ก็ต้องขอหนีออกไปเที่ยวข้างนอกบ้างครับ ว่าแล้วผมก็ได้จัดการซื้อทัวร์ชะโงกจีน ซึ่งจะออกเดินทางจากไชน่าทาวน์ ที่จริงหน้าเว็บทุกอย่างดูเป็นมาตรฐานสากลครับ แต่เขา operate โดยคนจีนล้วน ๆ และมีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนจีน แต่ไม่ต้องกลัวไปนะครับ ผมคิดว่าคนที่มาน่าจะเป็นคนจีนในนิวยอร์ก พวกเขาอยู่ของเขาไม่ชลมุนวุ่นวายหรือเสียงดัง
สำหรับรอบที่ผมไปนั้นโชคดีมีคนต่างชาติอื่น ๆ เยอะปะปนกัน เลยเป็นระบบสองภาษาคือจีนและอังกฤษตลอดทริป สำหรับราคาก็แค่ 132 USD แต่ไม่รวมค่าเข้าสถานที่พิเศษต่าง ๆ และไม่มีอาหารให้ครับ (รวม ๆ ก็ตก 200 USD) คร่าว ๆ ก็คือค่ารถทัวร์และค่าโรงแรม 2 คืน ก็โอเคเนอะ ถึงจะเป็นชะโงกทัวร์แต่ก็ได้ไปเที่ยวที่ประหลาด ๆ เหนือความคาดหมายให้ประทับใจอยู่เหมือนกันครับ
Howe Caverns เรื่องเลยว่าร้อยทั้งร้อยทัวร์ไทย ๆ คงไม่พามาที่นี่แน่นอน ตอนมายังไม่รู้เลยว่าคือไร 5555 ถ้าไม่ได้ทัวร์พี่จีนคงไม่ได้มาแน่นอน โดยเขาบอกว่าเป็นถ้ำโบราณ ที่ค้นพบโดยบังเอิญของเอกชนครับ
สรุปแล้วคือคุ้มครับ ถ้าไม่ได้ทัวร์พี่จีนคงไม่รู้จัก และไม่ได้มาที่นี่ และก็คงไม่คิดจะมาแน่ ๆ 5555 ถือว่าเป็น UNSEEN NEW YORK (STATE) ก็ได้มั้งครับ ต่อไปผมขอรวมฮิตแบบเร็ว ๆ นะครับ เที่ยวเชิงวัฒนธรรมก็มีครับ
ไนแองการ่าครับ มาตามสูตรทัวร์ครับ เปียกยังกะอาบน้ำ อย่าลืมเตรียมไรไปเปลี่ยนนะครับ 5555 ขึ้นเรือ Maid of the Myst
วอชิงตัน ดีซีครับ ไปมาครบเลยครับ แต่ชะโงกจริง ๆ ครับ เพิ่งเข้าใจคำนี้ก็ตรงนี้ ครั้งหนึ่ง ครึ่งชั่วโมง อย่างมากก็ชั่วโมงหนึ่ง เราเปื่อย ๆ ในนิวยอร์กมาเป็นเดือน มึนเลย
โดยส่วนตัวเฉย ๆ กับดีซีมาก ๆ ครับ รู้สึกเหมือนมาให้ถึง 5555 คือพอเราเพลินกับคนเยอะ ๆ ความตื่นเต้นความสนุก ความวุ่นวายแบบนิวยอร์ก ออกมาเที่ยวที่นี่มีแต่อนุสาวรีย์ สงัด วังเวงมากครับ 5555 แทบหนีกลับนิวยอร์กไม่ทัน
ฟิลาเดเฟียครับ ไปเหยียบ ๆ ไม่เห็นมีไรเลยง่ะ (ใครเซียนรู้ที่เที่ยวขออภัยนะครับ)
สำหรับคนชอบเที่ยวที่อยากจะวางแผนใช้วันหยุดยาวไปตะลอนเที่ยวไกล ๆ ในต่างแดนดูบ้าง แต่ติดอยู่ที่งบประมาณซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด วันนี้เราขอเอาใจคุณด้วยทริปท่องเที่ยวแบบ On Budget ข้อมูลนี้ได้รับอนุญาติเผยแพร่จากคุณสมาชิกหมายเลข 719935 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้รวบรวมทริคการกินและเที่ยว ในเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา แบบประหยัดสุด ๆ ด้วยงบเงิน 1 แสนบาท แต่สามารถใช้จ่ายได้นานถึง 1 เดือนเลยทีเดียว และวันนี้กระปุกดอทคอมได้รับอนุญาตให้นำข้อมูลดังกล่าวมาเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ในการวางแผนการเงินเที่ยวในต่างแดน...ว่าแต่เขาจะมีวิธีบริหารเงินอย่างไรบ้าง ต้องลองไปติดตามกันจ้า
กระทู้นี้มอบให้แก่คนชอบเที่ยวแบบ ON BUDGET ครับ เน้นความงก ความประหยัดและส่วนลด อยากไปนิวยอร์ก เห็นค่าทัวร์ 5-7 วัน เหยียบแสนแล้วน้ำตาแทบไหลครับ งานนี้ต้องไปเองครับ โดยผมจะขอเล่าเรื่องที่เที่ยวต่าง ๆไปก่อนแล้วจะสรุปเรื่องการกิน การอยู่ วิธีประหยัด ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มีอะไรบ้างให้นะครับ
(อยากรู้ว่ารูปนี้ที่ไหน ตามอ่านดูนะคร้าบ)
สวัสดีครับ กระทู้รีวิวกระทู้แรกในชีวิตเลยครับ ลังเลอยู่นาน แอบอ่านเขาไปเรื่อย แต่เห็นคนอื่นมารีวิวไปญี่ปุ่น ไปเกาหลีเหนือ แล้วอยากเล่ามั่งครับ ช่วงปีใหม่อยู่บ้านเหงา ๆ ด้วย อันนี้ขอรีวิวย้อนหลังหน่อยนะครับ
ช่วงเวลาที่เดินทางคือ 1-29 เมษายน 2556 เมษายน ช่วงเริ่มต้นสปริง ถือว่าเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของนิวยอร์กครับ
เริ่มเรื่องมาจากหลังจากเรียนจบปุ๊บทำงานมาได้กับบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่มาได้หกเดือน รู้สึกหมดพลังและพอกันที หลังจากได้งานใหม่แล้วมีช่วงเวลาว่างอยู่ระหว่างนั้นก็เลยตัดสินใจไปตามฝัน กับเมืองที่ควรได้ไปสักครั้งในชีวิตฮะ
แต่ที่นี้ไหน ๆ ก็เสียค่าตั๋วเครื่องบินแล้วทั้งที จะไปแป๊บ ๆ มันทำไม ด้วยความช่วยเหลือจากการสอบถามเพื่อนในต่างแดน ตัดสินใจเทเงินที่เก็บมาตลอดผนวกเข้ากับเงินเดือนสุดท้ายแบบเต็มเดือนไปทั้งหมดบัญชี (เหลืออยู่ 830 บาท) ไปกับทริปนี้
วีซ่า
เรื่องของการขอวีซ่าคงไม่ต้องพูดไรมากนะครับ มีคนรีวิวไว้เยอะแยะมากมายแล้ว แต่บอกอย่างหนึ่งเลยว่าถ้าเรามั่นใจและจริงใจ ได้แน่ครับ (เด็กจบใหม่ เงินเดือน 15,000 ทำงานได้ครึ่งปี ไปคนเดียว)
การเดินทาง
เราบินด้วยสายการบิน KOREAN AIR โดยใช้เวลาทั้งหมด 23 ชั่วโมงนิด ๆ ทรานซิส 30 นาทีครับ ไม่รู้จะอยู่เกาหลีนาน ๆ ทำไม ไม่มีเงินช้อปครับ โดยใครที่สามารถ ผมคิดว่า ANA ถูกที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาแล้วนะครับ
ที่พัก
ด้วยความโชคดีได้เพื่อนช่วยเหลือ จึงเสาะหาที่พักเป็นบ้านของคนไทย ซึ่งคนไทยในนิวยอร์กมีอยู่มากมายมหาศาลครับ มีทั้งเว็บบอร์ด เฟซบุ๊ก ลักษณะของที่พักจะเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์แบ่งเช่า ชั้นหนึ่งครอบครัวหนึ่ง แล้วเราไปแบ่งเช่าห้องที่อยู่ในชั้นนั้นอีกทีหนึ่งครับ ซับซ้อนหลายต่อมาก ห้องเช่าแบบนี้มีจำนวนมากครับ แต่อาจจะหายากหน่อยที่จะปล่อยเช่าระยะสั้นครับ เนื่องจากห้องไม่ได้สวยงามจึงไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลยครับ ลักษณะคือเปิดประตูเข้าไปมีเตียงเต็มห้องละครับ แล้วก็มีตู้แขวนโค้ทกับชั้นวางของและทีวี
โดยย่านที่ผมอยู่เรียกว่า Elmhurst อยู่ในฝั่ง Queens ครับ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น New Chinatown of New York ครับ มีแต่คนจีนหัวดำทั้งแผ่นดินครับ ไปทางไหนมีแต่จีน ๆ ๆ ๆ แต่ข้อดีจริง ๆ ของการอยู่ฝั่ง Queens คือของกินถูกกว่าใน Manhattan เยอะมากเป็นเท่าตัว และเดินทางเข้าเมืองสะดวกสบาย
จากภาพคือโซนที่มีวงแดง ๆ ครับ ซึ่งจะใช้เวลานั่งรถไฟประมาณครึ่งชั่วโมงเข้าเมืองไปยัง Midtown ครับ สภาพแวดล้อมโซนนี้ลักษณะจะเป็นย่านทาวน์เฮ้าส์ เหมือนหมู่บ้านจัดสรรกลาย ๆ ครับ ไม่น่ากลัว
มาว่าด้วยเรื่องของการเดินทางในนิวยอร์กกันครับ ด้วยความงกและความจนหลังจากลงที่สนามบิน JFK ซึ่งมีเทอร์มินัลมากมาย ก็นั่ง Airtrain ออกมาที่สถานี JAMAICA STATION เพื่อซื้อบัตร Metro Card สีเหลือง ๆ ตามรูปเลยครับ ซึ่งบัตรใบนี้จะราคา 112 USD และใช้งานได้ไม่จำกัดตลอดระยะเวลา 30 วันครับ เรียกว่าคุ้มสุด ๆ
ระหว่างการซื้อตั๋วใบนี้ก็เป็นประสบการณ์แรกเลยครับกับ New Yorker เพราะด้วยความช้า ความงง จึงโดนพี่คนข้างหลังแกด่าเอาครับ เรียกว่ามาถึงปุ๊บ ยังไม่ทันคุยกับใคร โดนด่าละครับ
สำหรับความซับซ้อนมหาศาลของ Subway นิวยอร์กในตำนาน ต้องบอกว่า โชคดีที่สมัยนี้เรามีผู้ช่วยครับ นั่นก็คือ App Iphone อันนี้ครับ NYC Subway
App นี้จะช่วยเราเลือกขึ้นรถไฟที่ถูกสาย บอกด้วยว่าวันไหนเปิดวันไหนปิดตรงไหนบ้าง และสามารถตั้งสถานีต้นทาง ปลายทาง แล้วให้มันคำนวนให้ได้ครับ หรือง่าย ๆ เราก้อเอานิ้วไล่ตามเส้นสายรถไฟในแผนที่ก็ได้ครับ
ต่อมาเรื่องของโทรศัพท์ครับ อยู่นานขนาดนี้ไม่มีโทรศัพท์คงไม่ไหว ผมเลือกซื้อซิมจาก T-Mobile ครับ เพราะถูกที่สุด (และห่วยที่สุด) ใส่กับ Iphone4s ของผม Package ของ T-Mobile จะเป็นค่า Sim 12USD มั้งครับถ้าจำไม่ผิด และค่ารายเดือน 60 USD ใช่แล้วครับ 60 !!!! แพงมหาศาลมากครับ แต่ !!!! เหลือเชื่อคือเขารวมทุกอย่างไว้หมดแล้วครับ ทั้งค่าโทร ค่า message และ internet ไม่จำกัดในราคานี้
ทีนี้มาถึงเรื่องสำคัญแล้วครับก็คือเรื่องของการเที่ยว เราจะเที่ยวรอบนิวยอร์ก เข้าสถานที่สำคัญครบหมดเนี่ย มันต้องซื้อตั๋วกี่ที จ่ายเงินกี่รอบ แพงขนาดไหนกันนะ คำตอบของเราก็คือนี่ครับ
(นี่ไม่ใช่รูปผมนะครับ เอามาจากเน็ต) NEW YORK CITY PASS ลักษณะจะเป็นสมุดคูปองฉีก ๆ อย่างดีเลยครับ คูปองจะแยกเป็นแผ่น ๆ แผ่นละที่ โดยในการใช้คูปองนี้เราก็ไม่ต้องเข้าคิวซื้อบัตรต่าง ๆ ครับ แค่เอาคูปองนี่เดินเข้าไปแลกเป็นตั๋วของที่นั้น ๆ ได้เลย โดยภายในเล่มจะสองส่วนก็คือคูปองแบบสถานที่ที่ฟิกซ์มาให้แล้ว กับแบบ Choice คือมีให้เลือกได้ว่าจะไปที่ใดที่หนึ่ง นี่คือสิ่งที่เราจะได้จาก NEW YORK CITY PASS ครับ
เมื่ออาบน้ำท่า จัดการชีวิตเสร็จ ก็ได้เวลาสำรวจนิวยอร์กกันแล้วครับ มาถึงวันแรกเช้าตรู่ลุยเลยครับ ลงรถไฟที่สถานี elmhurst แล้วมุ่งหน้าสู่ย่าน Midtown กลางเมือง Manhattan ที่สถานี Herald Square ครับ
สภาพรถไฟในนิวยอร์กก็คงไม่ต้องพูดถึงกันมากนะครับ MRT บ้านเรานี่สวรรค์เลยจริง ๆ สถานีมืดมิด สกปรก วังเวง และยาววววววมาก แต่โชคดีที่สถานีนี้มีคนอยู่ค่อนข้างเยอะพอสมควร
มาถึง Herald Sq. ขึ้นมาปุ๊บ นี่คือ New York First Sight ของผมครับ
สะพรึงมากครับ ในใจคิดว่า โอ้ย มาถึงแล้วโว้ยยยยยยย อีกใจหนึ่งก็รู้สึกว่ามันไม่เห็นจะสูงเลย 5555
ช่วงที่ผมมาถึงเป็นช่วง เริ่มต้นของ Spring ครับ ต้นไม้บางต้นเริ่มเปลี่ยนสี มีดอก มีใบแล้ว ในขณะที่หลาย ๆ ต้นยังร่วงโกร๋นไร้ใบอยู่ ผมอยู่ยาวตลอดทั้งเดือนเมษายนเลยได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของต้นใบ ใบไม้ ดอกไม้ ตลอดทั้งเมืองครับ
ไม่ต้องงงนะครับ รูปมีหลายแบบ เป็นรูปจากกล้องมั่ง ไอโฟนมั่ง อินตาแกรมของผมเองมั่งครับ ในภาพคือ Herald Sq. หน้าห้าง Macy\'s Department Store ที่เคยใหญ่ที่สุดในโลกครับ
ขอเข้าเรื่องที่เที่ยวเลยละกัน ที่แรกที่ผมตัดสินใจเริ่มไปเพื่อซื้อ NEW YORK PASS ก็คือ AMERICAN MUSUEM OF NATURAL HISTORY NEW YORK สถานที่สุดดังจากเรื่อง Night at the Museum การเดินทางก็ง่ายมากใช้ subway สาย B หรือ C มาขึ้นที่สถานี ถนน 81 Musuem of natural history นั่นเองฮะ ตัวมิวเซียมเองอยู่ติดกับ Central Park เลยครับ ถือเป็นแวบแรกที่ได้เห็น Central Park เหมือนกัน ซึ่งตอนนี้ต้นเดือนเมษาฯ แห้งเหี่ยว ทะมึนมาก
นี่คือด้านหน้าครับ จะมีรถเข็นขาย hotdog แบบนิวยอร์กจ๋าาา ซึ่งแพงมากครับ พอ ๆ กับข้าวตามร้านเลยครับ อย่าไปกินมันครับ 555
ทีนี้พอเข้ามาข้างในฝันสลายสองเด้งเลยครับ ข้อที่หนึ่ง คิดว่ามาวันธรรมดาตอนเช้า ๆ งี้คนจะน้อย ไม่เลยครับ มหาศาลมากครับ คนที่นี่เข้ามิวเซียมเยอะมาก เพราะฉะนั้นเผื่อเวลาเข้าคิวด้วยทุกครั้งครับ และข้อต่อมา มันไม่มี T-rex แบบในหนังครับ โดยผมได้เจอกับเจ้าตัวคอยาว ทีนี้พาชมมิวเซียมแบบคร่าว ๆ นะครับ ไม่เจอข้างหน้าไม่เป็นไรครับ เพราะนี่คือโซนไดโนเสาร์
ตรงนี้เราก็จะได้พบไดโนเสาร์นานาพันธุ์มากมายครับ ใครที่ชอบไดโนเสาร์ต้องปลื้มครับ ต่อมาที่โซนสัตว์
โดยรวมผมเฉยๆกับที่นี่มากครับ เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่น่าจะเป็นเหมือนกันเพราะสำหรับฝรั่งเขาจะตื่นตาตื่นใจกับนิทรรศการสัตว์สตัฟฟ์ต่าง ๆ จากทั่วโลกมากครับ ซึ่งก็ต้องบอกว่าทำได้ดี สวยงามมาก แต่ไปซาฟารีเวิร์ลง่ายกว่าไหมมมม (สำหรับคนรักสัตว์ นิวยอร์กผมได้ไปบร็องซ์ซูด้วยครับ ถือเป็นสวนสัตว์ที่ใหญ่อันดับต้น ๆ และตั้งอยู่ในถิ่น Bronx อันน่ากลัว เดี๋ยวจะมาเล่าครับ) แต่ยังมีดีอยู่ครับ เพราะ NEW YORK PASS ของเรารวมการเข้าชม Space Show ที่ Rose Center for Earth and Space ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ครับ ซึ่งตึกนี้จะเน้นไปที่เรื่องอวกาศครับ ตอนแรกเข้าไปในห้องลักษณะเป็นโดม ถ่ายรูปไม่ได้ คิดว่าคงเหมือนท้องฟ้าจำลอง แต่มันไม่ใช่เลยครับ มันอลังการมากกกกกกกกกกก ครับ เหมือนเราลอยหมุนติ้วไปในอวกาศ (เหมือนหนังเรื่อง Gravity) เพราะฉะนั้นมาแล้วห้ามพลาดครับ ไม่ใช่เด็ก ๆ
ออกจากมิวเซียมมาอากาศกำลังหนาวเหน็บได้ใจเลยครับตอนนั้น คิดถึงแล้วก็อยากไป เย็นนี้ของเราไม่เสียเปล่าครับ เพราะเราจะไปกันที่ TOP OF THE ROCK (ROCKEFELLER CENTER) จุดชมวิวใหม่ล่าสุดของนิวยอร์ก จุดชมวิวที่นี่จะให้อีกอารมณ์จากเอ็มไพร์สเตทครับ เพราะจากที่นี่เราจะมองเห็นตัวตึกเอ็มไพร์เอง และเห็นเซ็นทรัลปาร์ค
ROCKEFELLER CENTER เป็นคอมเพล็กซ์ของตึกออฟฟิศขนาดใหญ่ อารมณ์ Sun Tower บ้านเราไรงี้ครับ ช่วงที่ไปต้นเมษาถือว่าเป็นปลายหนาวต้นสปริงค์ ได้เห็นลานไอซ์สเกตในตำนาน หนังหลาย ๆ เรื่องก็ถ่ายที่นี่ ดูโรแมนติกมาก ๆ ครับ ซึ่งอาทิตย์ถัดไปก็ไม่มีแล้วครับ
ทีนี้พอเข้ามาในตัวตึกแล้วเราต้องลงไปชั้นใต้ดิน เพื่อเข้าสู่จุดแลกตั๋วครับการขึ้น TOP OF THE ROCK จะจำกัดคนแล้วแบ่งเป็นรอบๆครับ ผมเองรอรอบถัดไปประมาณ 20 นาที ก็เดินเล่นอยู่ใต้ตึกก่อนครับ จะเป็นพลาซ่า และร้านอาหารเหมือนใต้ออฟฟิศทั่วไปครับ แต่ไม่กินครับ งก 5555
พอได้เวลาก็มาขึ้นลิฟต์ความเร็วสูงพุ่งไปสู่ยอดตึกครับ ตัวลิฟต์เพดานจะเป็นกระจกให้เรามองเห็นในปล่องลิฟต์ขณะกำลังพุ่งขึ้นไปครับ ไม่ต้องรอแล้ว มาดูวิวจาก TOTR กันเลยครับ สะพรึงงงงงมากครับ น้ำตาแทบไหลครับ รู้สึกว่า THIS IS NEW YORK จริง ๆ ครับไม่ได้โม้
วันนี้ดึกแล้ว คงหลับกันหมดละ เดี๋ยวมาต่อพรุ่งนี้นะค้าบ หมดที่แรกไปมาแวะดูบรรยากาศตามท้องถนนมั่ง
สี่แยกหน้า Avenue of America Bryant Park
อีกรูปหนึ่ง ตึก Flat Iron ในตำนาน ที่ 27st Medison Sq. Garden ที่โปรดของผมในนิวยอร์กเลยครับ ชีวิตส่วนใหญ่ของผมในนิวยอร์กหมดไปกับการนั่งแอบดูนิวยอร์กเกอร์ในสวนนี่ล่ะครับ เดี๋ยวจะรวมสวนมาเป็นเซตให้นะครับ
มาแล้วคร้าบ มาต่อเลย เดี๋ยวคืนนี้ออกไปเที่ยวกันหมดซะก่อน ผมเชื่อว่านิวยอร์กเป็นเมืองที่ต้องมาเอง (ต้องเดินเอง สัมผัสเอง หรือเมืองไหน ๆ ก็เป็นงี้ทั้งนั้น) มาเป็นคณะทัวร์ขึ้นรถบัสเฮ้ว ๆ คงไม่ได้รู้จักนิวยอร์กจริง ๆ รอบนี้ผมจะพาไปเที่ยวตลาดนัดครับ
ที่จริงแล้วในนิวยอร์กมีตลาดนัดอยู่หลายที่ แต่ละที่ก็ต่างกันเช่นของ Antique หรือว่า ตลาดนัด Local Designer ซึ่งของแพงมาก ๆ ๆ แต่ที่จะพาไปกันวันนี้คือ Hell\'s Kitchen Flea Market ซึ่ง Hell\'s Kitchen เป็นชื่อของฝั่ง Midwest of Manhattan ที่ตั้งของตลาดเป็นอารมณ์ซอยตันใต้ทางด่วน อยู่ใกล้สถานี Port Authority (ท่ารถบัสขนส่งนิวยอร์ก)
ตลาดประมานวังหลังบ้านเรานี่ละครับ ขายของมือสองมั่งของทำเองมั่ง ของเก่าในบ้านขนมาขาย หนังสือเก่า ๆ แปลก ๆ
ในตลาดนี้มีเสื้อแจ็คเก็ตกันหนาวสวย ๆ ถูก ๆ ขายเพียบเลยครับ ราคาถือว่าไม่แพง แต่ก็ไม่ได้ถูกกว่าของใหม่เซลตามห้างมากครับ 30-60 USD ใครที่ชอบหาอะไรแปลก ๆ ไม่ซ้ำใครมาลองดู ของแถมอีกอย่างหนึ่งคือที่แถว ๆ ปากซอยทางเข้าตลาดจะมีร้านพิซซ่าบาทเดียว (1 Dollar Pizza) ที่อร่อยใช้ได้เลย หนึ่งในของถูกของนิวยอร์กที่เป็นที่พึ่งให้นักเที่ยวประหยัดแบบเรา ๆ ได้สบาย
ต่อเลยครับ ถัดจากตลาดนัดมา วันนี้จะไปเที่ยวสวนสาธารณะใหม่ล่าสุดของนิวยอร์ก นั่นก็คือ High Line ซึ่งสร้างขึ้นบนทางรถไฟยกระดับสายเก่าของนิวยอร์ก นึกภาพประมาณบีทีเอสแล้วมีคนขึ้นไปปลูกต้นไม้ไว้นั่นแหละครับ
HighLine อยู่ในย่าน Meatpacking ริมแม่น้ำฮัดสัน ค่อนมาทางใต้ของแมนแฮตตัน วิธีเดินทางมาก่อนนั่งรถไฟมาขึ้นที่สถานี 14St-8Ave (สถานีถนน 14 ตัดกับถนน 8) ภาพแรกที่เห็นตอนที่ขึ้นมาจากซับเวย์คือคนครับ คน คน คน คน เยอะมากก ยาวเหยียด ลักษณะของ highline เป็นทางผอม ๆ เลื้อยไปตามช่องว่างระหว่างตึก และแถวคนยาวเหยียดครับ คนมาเยอะมาก ๆ ทั้งนักท่องเที่ยวทั้งนิวยอร์กเกอร์ ช่วงที่ผมมาถึงเนื่องจากยังหนาวอยู่ เพราะฉะนั้น High line ก็แห่งเหี่ยวมาก
ช่วงที่มาที่นิวยอร์กกำลังมี Inside out project ครับ คือมีรถตู้มาให้คนเข้าไปถ่ายรูปแล้วรูปของคุณก็จะถูกเขาปริ้นท์มาปิดเป้นงานศิลปะตามที่ต่าง ๆ ในเมือง เห็นว่าที่ไทยก็เคยมีเหมือนกันครับแต่ค่อนข้างเงียบ ๆ ที่นี่แปะตามที่สำคัญ ๆ ทั่วเมืองเลยครับ
ลงมาจาก Highline ใน MeatPacking ก็เจอสิ่งนี้ครับ Uniqlo Pop Up Store มี Photo Booth ให้เข้าไปถ่ายด้วย บนหลังคารถมีดีเจมาเปิดเพลงมีเด็ก ๆ วัยรุ่น ฮิปสเตอร์ ลุงป้าน้าอา มายืนเต้นกันกลางแดดเบา ๆ
เที่ยวต่อเลยครับ ตอนนี้มาดูบรรยากาศในสถานีรถไฟใต้ดินของนิวยอร์กมั่งนะครับ
เกือบทุกสถานีใหญ่ ๆ จะมีวงดนตรีมาเล่นอยู่ครับ บางสถานีก็มีหลายวงเลย ทั้งวงแจ๊ซ วงร็อค ใครจะโชว์ฝีมืออะไรว่าไป แถมมีซีดีขายด้วย ความสนุกอย่างหนึ่งของที่นี่คือ ถ้าวงไหนเล่นดี ก็ขายซีดีได้จริงแล้วคนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็แวะเต้น แวะเล่นด้วย NYC only จริง ๆ ครับ
สถานีรถไฟใต้ดินในนิวยอร์กจำนวนมากจะเป็นทางแคบ ๆ ยาว ๆ สกปรกแบบนี้ และไม่มียามครับ รถไฟบางขบวนก็ไม่จอด พุ่งผ่านไปเร็วมากและอันตรายมาก ทุกคนเวลาไปรอรถไฟควรรออยู่ห่าง ๆ จากขอบและไม่รออยู่ในจุดอับเช่นซอกแคบ ๆ นะครับ ช่วงที่ผมไปมีข่าวออกว่ามีคนบ้าพุ่งเข้าไปผลักคนให้รถไฟชนครับ
วันนี้เราไปลงเรือกันครับ กับคูปองอีกใบจาก CITY PASS ซึ่งให้เลือกระหว่างไปเอลลิส เทพี กับล่องเรือรอบแมนแฮตตัน ช่วงที่ผมไปนิวยอร์กยังไม่ฟื้นตัวดีจากที่โดนพายุเฮอร์ริเคนครับ เกาะเอลลิส และเทพีเสรีภาพ ปิดครับ เลยไม่ได้ขึ้นไปเที่ยว จึงตัดสินใจใช้คูปองเลือก Circle line Cruise คุ้มมาก ๆ ครับ โดยมีให้เลือกทั้งหมด 3 Option ครับ
1. Semi - Circle line
2. Habour light
ทั้งสองแบบนี้ใช้เวลาสองชั่วโมงครับ เหมาะสำหรับคนว่าง ๆ แบบเราต่างกันที่แบบแรกเป็นกลางวันและแบบหลังเป็นแสงสีกลางคืนครับ เราเลือกแบบแรกครับ เพราะอยากชมเมืองแบบชัด ๆ และกลางวันก็หนาวมากแล้วครับ
3. Liberty Cruise ***ไม่มีจอดแวะให้ขึ้นเกาะนะครับ อันนี้สำหรับคนเวลาน้อยกว่าครับ จะใช้เวลาทั้งหมด 75 นาที และวนชม Lower Manhattan กับ Liberty เท่านั้นครับ
เรือเองก็มีเป็นรอบ ๆ นะครับ ต้องไปถึงก่อนเวลาถ้าพลาดรอบไปรออีกนานจนหง่อมเลยครับ และที่สำคัญไม่ได้มีถึงเย็นครับ
เรือก็จะเป็นเรือเฟอรี่ขนาดใหญ่ชั้นล่างเป็นห้องกระจก มีร้านขายกาแฟร้อน ๆ บนเรือด้วยครับ ส่วนชั้นบนเป็นดาดฟ้าเป็นโล่งรับลม (หนาวจนหน้าชา ตัวสั่น) เห็นวิวเต็มที่ อยากถ่ายรูปต้องอยู่บนนี้ละครับ บรรยากาศบนเรือ คนเต็มเลยครับ
ออกจากท่ามาเจอสนามไดรฟ์กอล์ฟริมแม่น้ำ กับท่าเรือเก่า (PIER) ท่าเรือเก่ามีอยู่เยอะมากรอบ ๆ แมนแฮตตัน ตอนนี้กลายเป็นโกดังเป็นตลาด เป็นร้านอาหารบ้าง
เรือค่อย ๆ วนมารอบ ๆ อีกด้าน
เทพี ครับ เงียบเหงาแห้งแล้งมากเพราะปิดซ่อมอยู่ครับ (ตอนนี้เปิดแล้วนะครับ เทพีปิดอยู่นานเกือบปีครับ)
รูปนี้เรืออยุ่ตรงถนน 42 พอดีเป๊ะ เส้นนี้มุ่งหน้าผ่านแกรนด์เซ็นทรัล มองเห็นทั้งเอมไพร์และตึกไครส์เลอร์ ตรงกลาง
โรงงาน Domino Sugar ร้าง ริมฝั่งบรู๊คลิน (ติด top สถานที่น่ากลัวที่สุดในโลกด้วย สวยดีเนอะ)
สะพานแมนแฮตตันใกล้ ๆ
สะพานบรู๊คลิน รอยซ่อมปะ เพียบ ไม่รู้คนสมัยก่อนสร้างได้ยังไง
ใกล้ท่าจอดเรือของเรามีสิ่งนี้จอดอยู่ด้วยไม่รู้ว่าคือเรืออะไร น่าจะขึ้นไปเที่ยวได้
ฮาโหล มาต่อแล้วครับ เผื่อมีใครอยู่บ้านว่าง ๆ รอไปฉลองคืนนี้มาอ่านคร้าบ
จะอัพไปเรื่อย ๆ จนเย็นละกันเนอะ ตอนนี้ก็ได้เวลาไปเที่ยวอีกหนึ่ง LAND MARK สำคัญ ของนิวยอร์กครับ
911 Memorial อนุสรณ์รำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 911 ที่ World trade center โดยอนุสรณ์แห่งนี้จะสร้างขึ้นเป็นสระน้ำตกขนาดยักษ์ขนาดเท่าฐานของตึกเก่าที่เคยตั้งอยู่ตรงนั้นทั้งสองตึกครับ
การเดินทาง
เราขึ้นซับเวย์สาย 2.3 มาที่สถานี Fulton St. อยู่เกือบตอนใต้สุดของเกาะ ก่อนเข้าไปถึงมีโบสถ์เก่าอยู่ แอบแวะเข้าไปครับ วังเวงเบา ๆ
เนื่องจากตัวตึก WTC ใหม่ หรือ Freedom Tower ยังสร้างไม่เสร็จ บริเวณนั้นจึงเต็มไปด้วย site งานก่อสร้างครับ ระหว่างการเดินเข้าไปใน site จะต้องเดินตามคอกกั้นมีเจ้าหน้าที่ควบคุมตลอดพร้อมทั้ง ต้องมีการตรวจกระเป๋าเข้าเครื่องสแกนระดับเดียวกับสนามบินด้วยครับ
การเข้าไปนี่เสียเงินนะครับ โดยจะให้บริจาคเท่าไรก็ได้ ผมก็ให้ไปนิดหนึ่งอ่ะครับ แต่ถ้าเกิดคุณให้เงินถึงเรทของเขาก็ได้รับของที่ระลึกด้วยนะครับ ไม่แน่ใจว่า 5 หรือ 10 USD
เข้ามาถึงจะเป็นพลาซ่าขนาดใหญ่มีที่นั่งเยอะแยะ คนมานั่งกันเพียบ มีเสียงน้ำตกคลอตลอดเวลา
เพิ่มเติมนะครับสำหรับขาช้อป ถ้ามา 911 แล้วให้เตรียมเงินกับเผื่อเวลามาได้เลยครับ เพราะ 911 อยู่ติดกับ ห้าง Century21 ห้าง outlet เซลตลอดปีในตำนานของ NYC เข้ามาจะพบกับข้าวของเครื่องใช้ เครื่องสำอาง (เครื่องสำอางที่นี่ยังไม่ถูกที่สุดนะครับ) และกระเป๋า American brand มากมายมหาศาลที่แขวนกันเป็นราว ๆ ๆ ๆ ตลาดนัดเลยครับ สำหรับเสื้อผ้าก็มีให้เลือกเยอะมาก โดยเฉพาะพวก เสื้อกันหนาวต่าง ๆ ที่นี่จะถูกเป็นพิเศษ แต่คนตัวใหญ่ได้เปรียบนะครับ เพราะ size asia เล็ก ๆ ค่อนข้างหายาก (ภาพจาก google)
เดี๋ยวพาไปที่นี่ต่อ คุ้น ๆ ไหมคับ
บางทีผมไปหลายครั้งหลายวันจะรวมรูปมาให้ดูทีเดียวเลยนะครับ ใกล้ ๆ กันก็คือตึกไครส์เลอร์ อันโด่งดังครับ เข้ามาดูข้างใน สถานีรถไฟ Grand Central
ตรงกลางลานก็คือนาฬิกาทอง สัญลักษณ์ของที่นี่ เลข 100 ที่เห็นอยู่คือช่วงที่ไปกำลังครบรอบ 100 ปี Grand Central พอดีครับ มีการจัดนิทรรศการที่ Transit Museum เกี่ยวกับการรถไฟต่าง ๆ ในนิวยอร์ก เข้าฟรีครับ
แผงขายตั๋ว
ทางเดินรอบๆห้องโถงหลักลงไปขึ้นรถไฟใต้ดินและร้านอาหาร ในชั้นใต้ดินของที่นี่มีร้านอาหารใหญ่โตอยู่ร้านนึง ดูท่าจะร้านดัง(และแพง จึงไม่ได้กินครับ)
วันนี้จะพาทุกท่านขึ้นเหนือออกจากแมนแฮตตันไปถิ่นแว๊นของนิวยอร์กนั่นก็คือ THE BRONX ครับ ที่เป็นเขตแดนนอกตารางของบริษัททัวร์ทั่วไทยก็ว่าได้
THE BRONX คือย่านที่ถูกพูดถึงบ่อยในหนังว่าเป็นย่านคนจน เขตอิทธิพล แก๊งสเตอร์ข้างถนน ซึ่งจริง ๆ แล้ว ก็คือเขตชานเมืองของนิวยอร์ก เปรียบเทียบง่าย ๆ ก็เหมือน ฝั่งธน บางแค อะไรประมาณนี้ก็ว่าได้ครับ แถบนี่ไม่ใช่ถิ่นธุรกิจแทบจะไม่มีตึกสูง แม้แต่รถไฟใต้ดินก็ขึ้นมาวิ่งบนดินเป็นรถไฟลอยฟ้าครับในโซนนี้ และเป็นย่านอยู่อาศัยที่มีคนแอฟริกัน อเมริกัน อาศัยอยู่มากที่สุด
วันนี้เนื่องจากเป็นวันพุธ และวันพุธสถานที่สาธารณะหลายแห่งไม่เก็บค่าเข้าครับ !!!!!! แต่ !!!!! ให้เราบริจาคเท่าไรก็ได้เท่าที่ความหน้าด้านของเราจะสู้ไหวครับ 555555 อย่างผมจ่ายที่ละ 1 usd, 5 usd
เป้าหมายแรกของเราในวันนี้ตั้งแต่เช้าตรู่ก็คือ NEW YORK BOTANICAL GARDEN ครับ เนื่องจากอเมริกาเป็นประเทศอากาศหนาว จึงมีการรวบรวมพืชพันธุ์ต่าง ๆ จากทั่วโลกมาไว้ที่นี่ครับ และจัดแสดงในเรือนกระจกและกลางแจ้งให้ดูตลอดทั้งปี
ด้วยสไตล์แบ็กแพ็กเกอร์ของเรา อะไร ๆ ก็ต้องไม่เป็นไปตามแผนครับ
มาไม่ทันเวลาเข้าฟรี 55555 เสียตังค์ค่าเข้าไปเลยครับ ที่จริงแล้วความตั้งใจคือจะไปดูซากุระครับ แต่ปรากฏว่ายังไม่ออกครับ เขามีป้ายแปะไว้เลยว่าซากุระยังไม่ออก 55555 แต่โชคดีที่ตอนนั้นมีการจัดแสดงกล้วยไม้แทนครับ ตอนแรกก็คิดว่ากรูไปดูหน้าพารากอนก็ได้วะ แต่ปรากฏว่า เห้ย มันดีมากครับ ข้ามาในสวนจะเจอเรือนกระจกครับ ใหญ่ยาวมากครับ เดินได้เป็นชั่วโมงครับโดมนี้
ด้านนอกก็เป็นสวนสวยงามครับ ถ้าไปช่วงอุ่น ๆ คงสวยมาก นี่หนาวมือหงิกเลยครับ
ออกจาก Botanical Garden นะครับ เดินออกมาเรื่อย ๆ ตามถนน ที่ค่อนข้างวังเวงนิดนึง ของบร็องซ์ เราจะมากันที่ Bronx Zoo ครับ
Bronx Zoo คือสวนสัตว์ขนาดมหึมาที่เป็น สวนสัตว์ในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นบริเวณหุบเขาขนาดใหญ่และมีแม่น้ำไหลผ่าน นอกจากการจัดแสดงสัตว์ในลักษณะของกรงที่มีการจัดการอย่างใหญ่โตสวยงามแล้ว ยังแบ่งสัตว์ออกเป็นโซน ๆ โดยมีภูมิประเทศของสัตว์นั้น ๆ เป็นบริเวณใหญ่มาก ขณะที่คนดูเหมือนเดินเข้าไปแอบดูมันใช้ชีวิตในเวิ้งของมัน ไม่ได้เป็นบ่อแคบ ๆ แล้วมีคนดูรอบด้านเหมือนสวนสัตว์ปิดในไทยทั่วไป และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เดินไกลมาก ขาลากสุด ๆ
ด้วยความขึ้นชื่อเรื่องความมหึมาของมิวเซียมที่นี่ แผนของผมเลยกะว่าจะอยู่ที่นี่ทั้งวันจนเย็นครับ สำหรับบัตร Citypass ของเรา วีไอพีมากครับ ไปถึงแลกได้เลยมาเป้นเข็มกลัดแบบหนีบตรา M อันเล็ก ๆ ครับ โดยจะใช้เข้าออกกี่รอบก็ได้ภายในวันนั้นจนกว่ามิวเซียมจะปิด สะดวกมากครับ เพราะความใหญ่ของมัน เลยต้องออกมากินข้าวแล้วกลับเข้าไปครับ ข้างหน้ามีแต่แบบมีหน้าผมคับ ขอยืมจากเน็ต มันใหญ่จริง ๆ ครับ
ศิลปวัตถุต่าง ๆ ในนี้เยอะมากครับ เป็นล้านชิ้น จริง ๆ โดยครอบคลุม รวมรวบมาจากทุกที่ในโลกแบ่งเป็นยุค เป็นโซนเป็นทวีป แต่สำหรับความล้ำค่า หรือความโบราณคงต้องยอมแพ้ยุโรปอย่างบริติชมิวเซียมเขาครับ เพราะเขามีชิ้นเด็ด ๆ อึ้ง ๆ มากกว่าที่นี่ แต่ที่นี่จะร่วมสมัย มีอะไรที่เราคุ้นหรือเคยเห็นผ่านสื่อ หรือตอนเรียนมากกว่าครับ
หายใจเข้าลึกๆนะครับ วันนี้จะพาไปเที่ยวสถานที่ในฝันของใครหลายคน
CENTRAL PARK หนึ่งในสวนสาธารณะที่สวยและเป็นที่จดจำที่สุดในโลก เสร็จจาก MET ประมาณ 4 โมงก็เดินเข้ามาในปาร์คครับ โดยเริ่มออกเดินจาก MET เรื่อย ๆ ลงมาฝั่ง midtown ที่ columbus circle ที่ค่อนข้างจะครึกครื่นกว่าครึ่งฝั่งบนที่วังเวงนิดหนึ่ง เดินต่อมาเรื่อย ๆ จนมาออกที่ Columbus Circle ตรงนี้จะมีอนุสาวรีย์ระลึกถึงโคลัมบัส และตึก Time Warners ตึกแฝดที่สร้างล้อมวงเวียนนี้ไว้ อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของนิวยอร์ก
มาแล้วค้าบ เผื่อยังมีใครที่นอนดึก รอดูอยู่ ตอนนี้ดูรูปเล็ก ๆ น้อย ๆ จากนิวยอร์กกันก่อนเลย เจ้ากระทิงดุใน ตำนาน ที่ Bowling Green
เดินออกมาอีกนิด ตอนนี้เราจะอยู่ปลายสุดของเกาะแมนแฮตตันเลยครับ ตรงนี้จะมีมิวเซียมอยู่เข้าฟรีด้วย คือ National Museum of American Indian มิวเซียมที่รวบรวมประวัติศาสตร์ ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ของคนอินเดียนแดงเอาไว้ครับ พอดีผมมาไม่ทันฮะ ปิดซะก่อน 5 โมงแล้ว
ถัดมาอีกนิดก็คือ Batterry Park สวนสาธารณะที่ปลายสุดของแมนแฮตตัน ที่นี่จะมีที่นั่งรับลมหันหน้าเข้าสู่ท้องทะเลครับ วันที่มาแดดแรงไปนิดหนึ่ง และจะมีแท่นหิน หันหน้าสู่ทะเล จารึกรายชื่อทหารผู้เสียชีวิตไว้
BROOKLYN ถิ่น HIPSTER ทุกวันนี้เขาว่ากันว่าคือยุครุ่งเรืองของฝั่ง บรู๊คลิน ครับหลังจากที่แมนแฮตตันนั้นวุ่นวาย เต็มไปด้วยคนหลากเชื้อชาติ หลากภาษา ค่าเช่ากูพุ่งไม่หยุด รวมถึงบรรดานักท่องเที่ยวที่มากมายมหาศาล สาเหตุเหล่านี้ส่งผลให้บรรดา ศิลปิน คนเก๋ ๆ คนคูล ๆ เด็กแนว และที่สำคัญคือคนชอบขี่จักรยาน (เกี่ยวมั้ย) พากันอพยพไปตั้งรกรากอยู่ในเขตบรู๊คลิน ส่งผลให้หลาย ๆ ย่านในบรู๊คลินกลายเป็นถิ่นฮิปสเตอร์ มีคาเฟ่ชิล ๆ ร้านขายของ local designer ร้านอาหารสวย ๆ ร้านเสื้อแปลก ๆ แกลอรีงานศิลปะ เกิดขึ้นมากมาย
แต่ก่อนจะข้ามไปบรู๊คลินได้ เราต้องไปที่นี่กันก่อนครับ BROOKLYN BRIDGE ใครที่จะมาเที่ยวสะพานบรู๊คลินเตรียมใจไว้เลยนะครับว่าต้องเดินไกลลลลลมากกก พอควรเลย โดยเราจะออกมาที่สถานี Brooklyn Bridge City ด้วยซับเวย์สาย 4 5 6
Prospect Park เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของนิวยอร์ก บางคนบอกว่าสวยกว่า central park ซะอีก โดยที่ขึ้นชื่อเลยคือแถวต้นซากุระและฝูงหงส์ในทะเลสาบ ผมเลยดั้นด้นตื่นแต่เช้ามาถึงบรูคลินเพื่อมาที่นี่ครับ และนี่คือ PROSPECT Park
วันนี้ก็ได้มาครับ โดยมาที่ย่านระหว่าง Bedford Ave-Grand ผมไม่ได้ถ่ายรูปมาเอง ขอเอารูปจากเน็ตนะครับอันนี้ แต่บรรยากาศก็ดี ชิล และเท่มาก ๆ ครับ
ในย่านนี้ตลอดทั้งสองฝั่งถนนจะเป็นร้านเล็ก ๆ มากมาย ทั้งร้านอาหารเก๋ ๆ คาเฟ่ชิล ๆ ร้านเสื้อ local designer (แต่ราคาไม่ local) และแกลอรีต่าง ๆ เพียบให้เทียบก็อาจจะประมาณย่านร้านอาหารแถวเอกมัยทองหล่อ หรือว่าพระอาทิตย์ก็ได้มั้งครับ อีกเรื่องที่น่าสนใจคือตามกำแพง ตามมุมต่าง ๆ ตลอดทั้งถนน จะมีแต่กราฟิตี้ งานสตรีทอาร์ตสวย ๆ ให้เราได้แวะถ่ายรูปกันได้เลย สำหรับนักท่องเที่ยวอาจจะแอบแปลกประหลาดนิดหนึ่ง เพราะโซนนี้แทบจะมีแต่คนในพื้นที่หรือบรรดาฮิปสเตอร์นิวยอร์กครับ
ป.ล. ใครที่ชอบแฟชั่น คนในย่านนี่แต่งตัวกันจัดเต็มแบบสตรีทแฟชั่นสไตล์นิวยอร์กจริง ๆ ครับ มากมายหลายแนวมาก
ในที่สุดก็มาถึงสักที รูปนี้เป็นอะไรที่ผมรออัพอยู่นานมากครับ Roosevelt Island (สถานี Roosevelt Island Subway สาย F)
Roosevelt Island คือเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่กลางแม่น้ำอีส ระหว่าง ย่านมิดทาวน์แมนแฮตตันและควีนส์ ไม่มีถนนเชื่อมถึง เดินทางด้วยซับเวย์หรือเคเบิลคาร์เท่านั้น ในโปรแกรมทัวร์ใด ๆ แทบจะไม่มีใครมาเที่ยวเกาะนี้หรอกครับ บนเกาะมีคอนโดอยู่บ้าง และมีสถานพักฟื้นพยาบาลของผู้ป่วยอยู่ โดยทางใต้สุดของเกาะมีสวนเล็ก ๆ และมีซากร้างของสถานพยาบาลผู้ป่วย
สถานีรูสเวลล์เป็นสถานที่อยู่ลึกมาก (ซับเวย์ส่วนใหญ่ของนิวยอร์กลงบันไปแค่ประมาณครึ่งชั้นก็ถึงสถานี) และเป็นทรงกลมเป็นคลาสสิคมาก ไม่รู้ทำไม สงสัยเพราะเป็นเกาะกลางน้ำ
โผล่ขึ้นมาจากสถานีครับเดินออกมา มุ่งหน้าทางใต้ของเกาะ เจอสะพานควีนส์บริดจ์
ความสวยงามของ Roosevelt Island มันเกินจะบรรยายจริงครับ 555
Bonus จาก Roosevelt Island ยังไม่หมดแค่นี้ครับ อย่างที่บอกไปแล้วว่า Roosevelt Island ไม่มีถนน การเดินทางมาที่นี่จึงมีอยู่สองทางเท่านั้นคือซับเวย์สาย F ที่วิ่งจากแมนแฮตตันไปควีนส์ และเคเบิลคาร์ ที่ข้ามจากแมนแฮตตันมาที่นี่ เพราะฉะนั้น เดี๋ยวเราไปขึ้นเคเบิลคาร์เข้าเมืองกันครับ ที่เซอร์ไพรส์ไปกว่านั้นคือ ใช้บัตร Metro ขึ้นได้ครับ สบายเล้ยยยยยยยยยย
หลังจากพาไปเที่ยวที่แปลก ๆ กันมาเยอะแล้วนะครับ กลับเข้าแมนแฮตตันมาที่ ๆ ห้ามพลาด ที่ใคร ๆ ก็ต้องไปกันครับ
NEW YORK LIBRARY ตั้งอยู่ที่สถานี Bryant Park 42st (subway B D F M) แถวมิดทาวน์ ด้านหลังสวน Bryant Park ที่ ๆ ผมเองก็ชอบมานั่งกินข้าวอยู่บ่อย ๆ (เรื่องอาหารการกินค่อยว่ากันยาว ๆ เนอะ) บางคนอาจจะคุ้นกับตัวสิงโต จาก the day after tomorrow หรือ sex and the city ที่นี่คือหนึ่งในห้องสมุดที่สวยที่สุดในโลก หรือสวยที่ผมเคยไปนั่นแหละครับ โดยไฮไลท์จะอยู่ที่ Main Reading Room ด้านบนของห้องสมุด และแน่นอนว่าเมื่อเป็นห้องสมุดก็ต้องเข้าฟรี หายห่วง ไปดูข้างในเลยค้าบ
ภาพด้านนอกก่อนครับ (ลืมถ่ายอีกแล้ว ขอยืมจากกูเกิลก่อน)
เข้ามาด้านในเจอห้องโถงหินอ่อน
สิงโตเลโก ไม่รู้ยังมีอยู่มั้ย
และนี่คือออออออ the Main Reading Room คนที่นี่เขามานั่งอ่านหนังสือกับแบบเช้ยเฉย ไม่แยแสความงามใด ๆ คงชินแล้ว ออกจะรำคาญนักท่องเที่ยวด้วยซ้ำ เข้ามาในนี้เราถ่ายรูปได้แต่ก็คุมเสียงครับ
เปลี่ยนอารมณ์ ขอคั่นพาไปดูถนนหนทางนิวยอร์กตอนกลางคืนบ้างครับ ช่วงที่ไปอากาศเย็น พอเริ่มมืดก็หมอกทึบเลยครับ นี่คือ Empire ในสายหมอกครับ
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ มานิวยอร์กแล้ว จะไม่ไปแลนมาร์คสำคัญของนิวยอร์กได้ยังไง ว่าแล้วก็ถึงเวลาใช้คูปองที่เหลือของ NEW YORK CITY PASS เลย จะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจาก EMPIRE STATE ก่อนอื่นขอย้อนไปดูวิวจาก TOP OF THE ROCK จากคราวที่แล้วกันก่อน
EMPIRE STATE ขึ้นมาแล้วววววว ช็อตแรก เห็น Central park อยู่ไกล ๆ และ Top of the Rock ทีมีทรงตึกเป็นขั้นบันได ๆ อยู่ใกล้ ๆ พาร์ค
********COUPON จาก NEW YORK CITYPASS*********** ให้คุณขึ้นเอมไพร์ได้ถึงสองรอบนะครับ คือรอบแรกตอนไหนก็ได้ และรอบที่ 2 หลังสี่ทุ่มของวันนั้นเพื่อมาชมบรรยากาศตอนกลางคืนครับ เพราะฉะนั้นพระอาทิตย์ตกแล้วก็ไปเดินเล่นหาของกินกันได้เลยครับ แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะครับ ว่าเขาเข้ม 4 ทุ่ม คือ 4 ทุ่มจริง มาก่อนนาทีเดียวก็ไม่ได้ครับ โอเค พอได้เวลาสี่ทุ่มเรากลับไปที่เอมไพร์อีกรอบครับ จะพยายามเน้นเนื้อ ๆ ไม่น้ำเยอะนะคร้าบ 55555
Financial District
กลับมาที่ล็อบบี้
ส่วน Top of the Rock ข้อดีคือได้รู้สึกบรรยากาศแบบนิวยอร์กจริง ๆ มากกว่า คือมองเห็นเอมไพร์ ได้ถ่ายรูปกับเอมไพร์ และมองเห็นพาร์ค เป็นรูปสี่เหลี่ยมเลย ซึ่งผมชอบมาก แต่ก็มานะมาถึงนิวยอร์กจะไม่ขึ้นเอมไพร์ได้ไง ในเมื่อเราใช้ city pass ก็ไม่ต้องคิดมากครับ ขึ้นไปเถอะ 555
MOMA Musuem of Modern Art นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง coupon ใน New York City Pass ของเราครับ MOMA น่าจะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในมิวเซียมที่ดังที่สุดในโลก ข้างในมีงานศิลปะสมัยใหม่ ที่พวกเราหลาย ๆ คนเกิดทัน หรือได้เห็นในหนังสือ ในโปสเตอร์ต่าง ๆ เยอะ เปรียบกับฝั่งยุโรป Met อาจจะเหมือน British museum ส่วน MOMA ก็เหมือน Tate Modern ไรแบบนี้ครับ
วิธีการเดินทางมา MOMA ก็ใช้ซับเวย์ของเรามาที่สถานี Rockefeller (สาย B D F V) หรือ 5 Ave-53st. สาย E V ครับ โดยขอบอกว่าที่ MOMA คนเยอะมากกกกกกกกก แน่นมากกก ครับ ลูกเล็กเด็กแดงเพียบ ถ้ามาเช้า ๆ คนอาจจะน้อยหน่อยครับ ไปดูรูปเลยครับ มีอันไหนที่คุ้น ๆ บ้าง
ใครว่านิวยอร์กมีแต่ตึก หลาย ๆ ย่านในนิวยอร์กก็น่ารักและร่มรื่นอย่างกับลอนดอน (ผมมั่วนะ) นอกจากนี้ยังมีสวนสวย ๆ บรรยากาศดี ๆ อีกเพียบ ถ้ามานิวยอร์กแล้ว ต้องลองไปนั่งในพาร์คกับเข้ามั่ง แล้วเราจะรู้ได้อีกเยอะว่าบรรยากาศนิวยอร์กจริง ๆ คนที่นี่เขาเป็นยังไง ส่วนนี้จะขอรวมสถานที่ตามท้องถนนในนิวยอร์กที่น่าไปนอกจากที่เด่น ๆ ดัง ๆ
วันนี้จะไปเที่ยวย่าน Lower Manhattan ที่ Bleeker Street เป็นอีกหนึ่งย่านฮิปของนิวยอร์ก แต่จริง ๆ แล้วน่าจะเรียกว่าเป้นย่านคนรุ่นใหม่ ย่านเด็กวัยรุ่นซะมากกว่า เพราะอยู่ใกล้มหาลัยใหญ่อย่าง NYU (NYU เป็น ม.เอกชน ที่ใหญ่อันดับต้น ๆ ของอเมริกา เปรียบเทียบก็ BU แต่ก็ต้องมีการสอบเข้าเช่นกัน) ในย่านนี้จะมีร้านรวงเล็ก ๆ น่ารัก บรรยากาศสบาย ๆ ร้านคาเฟ่ ไอติม ร้านตึกแถวต่าง ๆ เพียบ ที่สำคัญคือเป็นที่ตั้งของร้าน Marc Jacobs มากมายหลายสาขา เพราะฉะนั้นขาช้อปห้ามพลาดฮะ
NYU ที่ในฝันของหลายคน ลักษณะของ NYU จะเป็นตึกใหญ่ ๆ แบบนี้กระจายอยู่หลาย ๆ ตึกในถนนนี้ครับ ดูเผิน ๆ ก็เหมือนตึกออฟฟิศนี่เอง *** สำหรับขาช้อป American Apparel สาขาใหญ่อยู่ใกล้ ๆ NYU นี่ล่ะครับ เพื่อนฝากซื้อเสื้อตัวอักษรตรึมครับ
แถว ๆ NYU คือ Washington Square Park อีกที่หนึ่งที่ห้ามพลาดในนิวยอร์ก กับ Landmark สำคัญ คือประตูชัย และสีสันพิเศษคือเด็ก ๆ ในย่านนี้ที่จะมาแฮงก์กันอยู่ในสวนครับ มาแล้วได้บรรยากาศนิวยอร์กสุด ๆ บางคนก็ปั่นมา
ประตูชัย
Madison Square Park คือสวนสาธารณะสุดโปรดของผม Madison Square Garden คือ สนามกีฬา ที่จัดคอนเสิร์ต ไม่เกี่ยวกันนะครับ ทำไมผมถึงชอบ Madison Square Park เพราะที่นี่อยู่ในย่านมิดทาวน์ น่าจะเป็นย่านที่ busy และมีอะไรให้เดินเที่ยวเยอะที่สุดแล้ว จากสวนนี้นอกจากที่นั่งสบายแล้วยังมองเห็นแลนมาร์คสำคัญของนิวยอร์กคือ Flat iron และ Empire
สามแยก FLATIRON ด้านซ้ายคือสวน
เทคนิคประหยัดเงินค่าอาหารที่สำคัญมาก ๆ ๆ ๆ ของผม คือการซื้อใส่กล่องมานั่งกินข้างนอก ไม่ต้องเขินไปนะครับ เพราะใคร ๆ เขาก็ทำกัน และนี่คือโต๊ะกินข้าวประจำของผมครับ (ในรูปจะเห็นนกตะปูยักษ์อยู่ ตอนแรก ๆ ที่ผมไปก็ยังไม่มีเลยครับ นี่ก็คือความสนุกอีกอย่างหนึ่งของที่นี่ มีงานศิลปะใหม่ ๆ หมุนเวียนมาตลอด)
คุณภาพชีวิตของเขามันน่าอิจฉาจริง ๆ ครับ การเลี้ยงสัตว์ที่นี่เป็นเรื่องแพงมาก โดยในสวนจะมีโซน dog run ให้คุณพาหมามาปล่อยวิ่ง ได้ตามใจเลยครับ
Madison Square Park
BRYANT PARK อยู่แถวมิดทาวน์ใกล้เอมไพร์และ Rockefeller ไบรอันพาร์ค คือโต๊ะอาหารกลางวันของชาวออฟฟิศในนิวยอร์กครับ ช่วงแรก ๆ ที่ไปยังหนาวอยู่จึงแห้งแล้งเงียบงันมาก
ลักษณะเป็นสนามหญ้ากว้าง ๆ อยู่หลังห้องสมุด พอวันอากาศดีไปปรากฏคนแน่นมากครับ ใคร ๆ ก็ชอบมานั่งกินข้าวกลางวันกันที่นี่ ตอนผมไปมีลานเบียร์เล็ก ๆ ด้วยครับ เนื่องจากผ่านไปตรงนี้บ่อยไม่รู้ว่าถ่ายรูปไปเก็บไว้ไหน จึงขอแจมด้วยภาพจากเน็ตนะครับ
ขออีกสักทีหนึ่งนะครับ Herald Sq. ลานจตุรัสกลาง มิดทาวน์หน้าห้าง Macy\'s ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก (รู้สึกว่าตอนนี้ตกไปล่ะ) นอกจากช้อปแล้ว ลานจัตุรัสเล็ก ๆ อันนี้ก็เหมาะจะเป็นที่นั่งพักเหนื่อยหาไรกินระหว่างช้อปครับ
ไหน ๆ มาถึงนิวยอร์กแล้วก็ต้องไป TIMES SQUARE เพราะงั้นไปดูรูปจากไทม์สแคว์กันครับ
ไม่มีอะไรต้องพูดเยอะอยู่แล้วสำหรับที่นี่นะครับ ทุกคนรู้จักดีอยู่แล้ว อีกหนึ่งที่ในโลกที่เราควรได้ไปยืนกันสักทีครับ เมื่อมาถึงนิวยอร์ก และไทม์สแควร์ อีกอย่างหนึ่งที่เรานึกถึง คือ BROADWAY ละครบรอดเวย์ แต่ละครบอร์ดเวย์เรื่องหนึ่งนี่ราคาไม่ใช่เล่นเลยครับ เรื่องที่เป็นที่รู้จักหน่อยก็ราคาเกือบ 4 พันบาทไทย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องดัง ๆ อย่าง lion king ที่ตั๋วเต็มล่วงหน้าหลายเดือน สำหรับใครที่อยากดูละครบรอดเวย์สักครั้ง มีวิธีประหยัดอยู่ครับ
เจ้าบันไดแดงที่ใคร ๆ มาถ่ายรูปด้วยเนี่ยมันไม่ใช่แค่บันไดเฉย ๆ ครับ แต่ที่จริงแล้วมันคือบูธของ TKTS ซึ่งย่อมาจากอะไรไม่รู้ เอาเป็นว่ามันคือจุดขายตั๋วของละครบรอดเวย์แทบทุกเรื่องในนิวยอร์กครับ โดยถ้าหากคุณมีเรื่องในใจที่อยากดูแน่ ๆ และมีเงินในกระเป๋าก็มาจองตั๋วล่วงหน้าได้ครับ (แต่เรื่องเด็ด ๆ อย่างไลออนคิง ที่อลังการงานสร้างจองล่งหน้ามาตั้งแต่ในเน็ตหลาย ๆ เดือนนะครับ)
ยังไงก็ตามส่วนใหญ่ตั๋วเรื่องที่ทุกคนรอคอยแบบ Lion king หรือ wicked, Mary poppin ไม่มีนะครับ อย่างวันที่ผมไปซื้อมีหลาย ๆ เรื่องที่คนไทยรู้จักเช่น Mamma Mia! Chicago และอื่น ๆ ครับ โดยละครแต่ละเรื่องก็จะแสดงในแต่ละโรง ในย่านนั้นครับ สำหรับผมเลือกดู Chicago ครับ
เขาห้ามถ่ายรูปเลยนะครับ แต่ด้วยความเป้นคนนิสัยไม่ดีเลยแอบกดมาได้จึ้กนึง
ชิคาโกเขาจะร้องเล่นเต้นกันแบบสด ๆ ที่เวทีด้านหน้าครับ โดยแบ็คกราวด์จะเป็นวงดนตรีที่เล่นอยู่แบบสด ๆ เช่นกันครับ คิดแล้วก็อยากดูอีกครับ
วันนี้ฝากไว้เท่านี้ก่อนนะคร้าบ ผ่านมาสองตอนใกล้ถึงบทสรุปแล้ว เป็นมือใหม่ พึ่งหัดเที่ยว พึ่งหัดรีวิว เห็นมีคนตามอ่านก็ดีใจมาก ๆ เลยครับ เดี๋ยวจะรีบมาต่อครับ ขอไปเคลียร์งานก่อน 55555
นอกเรื่อง นอกลู่ นอกทาง นอกนิวยอร์ก ไม่ว่ากันนะครับ นอกจากไปช้อปปิ้งที่ outlet แล้ว (แหม่ ถึงประหยัดไงมันก็ต้องไปป่ะ) บินข้ามน้ำข้ามทะเลมา เกือบ 25 ชั่วโมง ถึงรักนิวยอร์กแค่ไหนแต่ก็ต้องขอหนีออกไปเที่ยวข้างนอกบ้างครับ ว่าแล้วผมก็ได้จัดการซื้อทัวร์ชะโงกจีน ซึ่งจะออกเดินทางจากไชน่าทาวน์ ที่จริงหน้าเว็บทุกอย่างดูเป็นมาตรฐานสากลครับ แต่เขา operate โดยคนจีนล้วน ๆ และมีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนจีน แต่ไม่ต้องกลัวไปนะครับ ผมคิดว่าคนที่มาน่าจะเป็นคนจีนในนิวยอร์ก พวกเขาอยู่ของเขาไม่ชลมุนวุ่นวายหรือเสียงดัง
สำหรับรอบที่ผมไปนั้นโชคดีมีคนต่างชาติอื่น ๆ เยอะปะปนกัน เลยเป็นระบบสองภาษาคือจีนและอังกฤษตลอดทริป สำหรับราคาก็แค่ 132 USD แต่ไม่รวมค่าเข้าสถานที่พิเศษต่าง ๆ และไม่มีอาหารให้ครับ (รวม ๆ ก็ตก 200 USD) คร่าว ๆ ก็คือค่ารถทัวร์และค่าโรงแรม 2 คืน ก็โอเคเนอะ ถึงจะเป็นชะโงกทัวร์แต่ก็ได้ไปเที่ยวที่ประหลาด ๆ เหนือความคาดหมายให้ประทับใจอยู่เหมือนกันครับ
Howe Caverns เรื่องเลยว่าร้อยทั้งร้อยทัวร์ไทย ๆ คงไม่พามาที่นี่แน่นอน ตอนมายังไม่รู้เลยว่าคือไร 5555 ถ้าไม่ได้ทัวร์พี่จีนคงไม่ได้มาแน่นอน โดยเขาบอกว่าเป็นถ้ำโบราณ ที่ค้นพบโดยบังเอิญของเอกชนครับ
สรุปแล้วคือคุ้มครับ ถ้าไม่ได้ทัวร์พี่จีนคงไม่รู้จัก และไม่ได้มาที่นี่ และก็คงไม่คิดจะมาแน่ ๆ 5555 ถือว่าเป็น UNSEEN NEW YORK (STATE) ก็ได้มั้งครับ ต่อไปผมขอรวมฮิตแบบเร็ว ๆ นะครับ เที่ยวเชิงวัฒนธรรมก็มีครับ
ไนแองการ่าครับ มาตามสูตรทัวร์ครับ เปียกยังกะอาบน้ำ อย่าลืมเตรียมไรไปเปลี่ยนนะครับ 5555 ขึ้นเรือ Maid of the Myst
วอชิงตัน ดีซีครับ ไปมาครบเลยครับ แต่ชะโงกจริง ๆ ครับ เพิ่งเข้าใจคำนี้ก็ตรงนี้ ครั้งหนึ่ง ครึ่งชั่วโมง อย่างมากก็ชั่วโมงหนึ่ง เราเปื่อย ๆ ในนิวยอร์กมาเป็นเดือน มึนเลย
โดยส่วนตัวเฉย ๆ กับดีซีมาก ๆ ครับ รู้สึกเหมือนมาให้ถึง 5555 คือพอเราเพลินกับคนเยอะ ๆ ความตื่นเต้นความสนุก ความวุ่นวายแบบนิวยอร์ก ออกมาเที่ยวที่นี่มีแต่อนุสาวรีย์ สงัด วังเวงมากครับ 5555 แทบหนีกลับนิวยอร์กไม่ทัน
ฟิลาเดเฟียครับ ไปเหยียบ ๆ ไม่เห็นมีไรเลยง่ะ (ใครเซียนรู้ที่เที่ยวขออภัยนะครับ)